บทที่ 633 ผมอยากเป็นพ่อของลูกคุณ
การกระทำกับเสียงทั้งหมดหยุดลงในเวลาเดียวกัน
เห็นหานมู่จื่อที่อยู่ต่อหน้าของเย่หลิ่นหาน เย่โม่เซินจึงหรี่ตาจ้องเธอ: “คุณกำลังปกป้องเขา?”
สายตาที่ลึกล้ำ ราวกับบ่อน้ำแข็งที่อยู่ในฤดูหนาว ทำให้คนที่เห็นอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความหนาวเย็น
เย่หลิ่นหานที่โดนปกป้องอยู่ แม้จะล้มลงไปบนพื้น แต่ได้เห็นหานมู่จื่อขวางอยู่ที่ด้านหน้าของตนเอง กลับยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
สำหรับเย่โม่เซินแล้วรอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความยั่วยุ เย่โม่เซินจึงยิ้มอย่างเย็นชา “ถือเป็นเล่ห์เหลี่ยมที่ดีจริงๆ แกล้งทำเป็นอ่อนแอต่อหน้าผู้หญิง?”
“คุณพอได้แล้วเย่โม่เซิน!” หานมู่จื่อตำหนิเขาออกมาเสียงดัง: “คุณต่อยเขาไปขนาดนั้น แต่เขาไม่ตอบโต้กลับสักครั้ง แล้วคุณยังจะทำให้เขาอับอายอีกเหรอ?”
พูดจบ หานมู่จื่อหายใจเข้าลึกๆ แล้วหมุนตัวไปประคองเย่หลิ่นหานขึ้นมา
ตอนที่เย่หลิ่นหานลุกขึ้น ตั้งใจจับข้อมือขาวๆเล็กๆของหานมู่จื่อเอาไว้ แรงครึ่งหนึ่งจากร่างกายด้านบนก็พึ่งพิงร่างกายของหานมู่จื่อเอาไว้ แล้วค่อยๆลุกขึ้นยืน
ฉากนี้สำหรับเย่โม่เซิน ก็เหมือนกับลูกระเบิด เพียงครู่เดียวก็ทำให้ความเดือดดาลของเขาพุ่งขึ้นจนถึงจุดสูงสุด
เย่โม่เซินก้าวเข้าไปต่อยเย่หลิ่นหานคว่ำลงไปบนพื้นอีกครั้ง หานมู่จื่อเบิกตาโพลง ประคองเขาขึ้นมาไม่ทันอยู่แล้ว ตอนที่หันไปอยากจะโต้เถียงกับเย่โม่เซิน แต่กลับโดนอุ้มขึ้นพาดบ่า
“นี่ คุณทำอะไรน่ะ? ปล่อยฉันลงนะ!” ท้องของหานมู่จื่อพาดอยู่บนบ่าของเย่โม่เซิน ทำให้ค่อนข้างเจ็บ เธอพยายามตบตีไปที่หลังของเย่โม่เซินอย่างเต็มที่
“เงียบ ผู้หญิงของผมไม่อนุญาตให้ไปประคองผู้ชายคนอื่น โดยเฉพาะเย่หลิ่นหานสุภาพบุรุษจอมปลอมที่แสร้งทำตัวเป็นคนดี”
เขาพาดเธอไว้บนบ่า ก้าวเท้าอย่างรวดเร็ว ออกไปจากที่จอดรถทันที
เสียงคนๆหนึ่งที่ค่อยๆห่างออกไป เย่หลิ่นหานที่ได้รับบาดเจ็บยังคงนอนอยู่บนพื้นเย็นๆ เขากำลังมองเพดานที่อยู่เหนือหัว ด้านหลังรู้สึกได้ถึงความเย็นที่แพร่เข้ามา ราวกับตกลงไปในนรกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
พักใหญ่ เขาก็ปรากฏรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง พร้อมกับรอยเลือดที่ดูแล้วน่าสะพรึงกลัว
“เย่โม่เซิน!!!”
เย่หลิ่นหานกัดฟันพูดชื่อนี้ มือกำหมัดแน่น เล็บจิกลงไปในเนื้อ
*
“ปล่อยฉันลง คุณจะพาฉันไปไหน? เย่โม่เซิน!” หานมู่จื่อยังคงตะโกนอยู่ ก็โดนเย่โม่เซินจับยัดเข้าไปในรถ แล้วเขาก็ยื่นตัวตามเข้าไปติดๆ เบียดเข้าไปในรถ
ปึง!
“ออกรถ!”
เย่โม่เซินสั่งอย่างเย็นชา เซียวซู่จึงรีบออกรถทันที
หลังจากที่รถแล่นไปในทางที่ถูกต้องแล้ว หานมู่จื่อโมโหจนด่าออกมา: “เย่โม่เซิน คุณเป็นบ้าเหรอ? คุณจะพาฉันไปไหน? คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันต้องไปรับลูกชาย?”
ได้ยินลูกชายคำนี้ เย่โม่เซินค่อนข้างวุ่นวายใจ แต่ยังคงถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ: “อยู่โรงเรียนไหน ผมจะให้คนไปรับเขา”
หานมู่จื่อ: “……คุณพูดอย่างนี้คือไม่คิดจะปล่อยฉันลงไป?”
เย่โม่เซินไม่พูด เพียงแค่หยิบมือถือออกมา: “โรงเรียนไหน?”
หานมู่จื่อยิ้มเย็นชา: “ไม่ต้องให้คุณไปรับ ฉันจะลงจากรถ ฉันจะไปรับเอง”
ให้เขาส่งคนไปรับได้อย่างไร? เช่นนั้นไม่เท่ากับเอาเรื่องที่เสี่ยวหมี่โต้วเป็นลูกของเขาไปวางไว้ต่อหน้าเขาเหรอ?
และเธอก็เป็นกังวลเย่หลิ่นหานนิดหน่อยด้วย เมื่อครู่เย่โม่เซินลงมือหนักขนาดนั้น ต่อยเสียจนเขาล้มไปนอนบนพื้นลุกขึ้นไม่ไหวแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรไหม
สรุปแล้ว หานมู่จื่อกังวลมาก แต่หมดหนทางตั้งแต่แรกแล้วก็เลยต้องมากับเย่โม่เซินอย่างนี้
“ลงจากรถไม่ได้” เย่โม่เซินเอ่ยปากอย่างเมินเฉย: “อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่นะ เขาไม่ตายหรอก เพียงแค่แสดงละครต่อหน้าคุณเท่านั้น”
“แสดงละคร?”
หานมู่จื่อเบิกตาโพลง มองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“คุณต่อยเขาไปขนาดนั้น แม้แต่ครั้งเดียวเขาก็ไม่ตอบโต้ แล้วคุณมาบอกว่าเขาแสดงละคร? หรือว่ากำปั้นที่คุณโบกออกไปล้วนแต่เป็นของปลอมอย่างนั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่” เย่โม่เซินปฏิเสธ: “แน่นอนว่าเป็นของจริง ถ้าไม่ใช่ว่าคุณขวางเอาไว้ จะต่อยเขาให้ยับเยินก็เป็นไปได้”
หานมู่จื่อ: “คุณ! คุณมันคนป่าเถื่อน”
เย่โม่เซินเขยิบเข้าไปใกล้ๆทันที หรี่ตาตั้งใจจ้องมองไปที่เธอ: “ตอนนี้คนป่าเถื่อนจะพาคุณไปสนามบิน”
“คุณว่าอะไรนะ?”
ไปสนามบิน??
ไปสนามบินทำอะไร? หานมู่จื่อโดนเย่โม่เซินก่อกวนจนจะประสาทแล้วจริงๆ ตาคนนี้เป็นบ้าเหรอ?
“คุณไม่ได้บอกเหรอ ถ้าผมไม่สามารถให้ความสุขและความไว้วางใจอย่างถึงที่สุดกับคุณได้ ก็ไม่ต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าคุณอีกตลอดไป?” เย่โม่เซินพ่นลมหายใจอุ่นๆมาบนหน้าของเธอ พัดเส้นผมเล็กๆที่หน้าผากของเธอขึ้นมา
“ผมให้เซียวซู่จองตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว บินคืนนี้สองทุ่ม”
หานมู่จื่อ: “……”
มือของเย่โม่เซินจับเธอเอาไว้ บีบจนนิ้วมือของเธอกับตนเองทั้งสิบนิ้วติดกันแน่น
“เครื่องบิน? คุณจะพาฉันไปทำอะไรที่ต่างประเทศ?”
“ไปพบตวนมู่เสว่”
ตวนมู่เสว่?
“ใคร?” หานมู่จื่อถามอย่างระวังตัว
เย่โม่เซินมองเธออยู่: “ผู้หญิงคนนั้นที่แอบเข้ามาในห้องของผม”
“ผมพาคุณไป เผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนั้นโดยตรง อย่างนี้สามารถให้ความมั่นใจอย่างเต็มที่กับคุณได้แล้วใช่ไหม?”
“คุณ……” หานมู่จื่อตกใจจนพูดไม่ออก แม้ว่าเธอจะรู้มาโดยตลอดว่านิสัยของเย่โม่เซินเป็นสไตล์ที่ทำทุกเรื่องอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด แต่ว่า……คิดไม่ถึงไม่นึกว่าเขาจะหุนหันพลันแล่นขนาดนี้
ตอนเที่ยงเพิ่งจะเจอกันชัดๆ และเขาก็ไม่ได้นอนมาสองวันแล้ว ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดอย่างชัดเจน แต่ไม่นึกว่าจะยังซื้อตั๋วเครื่องบิน วางแผนพาเธอไปต่างประเทศ?
ก็เป็นเพราะเธอพูดกับเขาอย่างนั้นเหรอ?
ขณะที่กำลังครุ่นคิด หานมู่จื่อรู้สึกว่าเย่โม่เซินจับมือเธอแน่นมากขึ้น สายตาเขาจ้องมองเธออย่างวางอำนาจ เสียงทุ้มต่ำ
“หลังจากเรื่องนี้ผ่านไป กลับมาคุณต้องพาผมไปหาลูกชายคุณ”
ตาดำของหานมู่จื่อขยายใหญ่ ได้ยินเสียงที่มีความมั่นใจอย่างยิ่งของเขา
“ผมไม่อยากรออีกต่อไปแล้ว”
“มู่จื่อ ผมอยากเป็นผู้ชายที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณ”
“แล้วผมก็ยังอยากเป็นพ่อของลูกคุณด้วย”
……
ตอนที่ถึงสนามบิน แม้จะผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่าแล้ว แต่หานมู่จื่อยังคงไม่มีสติกลับมาเพราะตกใจกับคำพูดของเย่โม่เซิน
รอจนหลังจากเธอได้สติกลับมา จึงนึกขึ้นได้ถึงเรื่องก่อนที่เธอจะสับสนวุ่นวาย ปฏิเสธคำขอที่เย่โม่เซินจะหาคนไปรับเสี่ยวหมี่โต้วทันที และโทรหาเสี่ยวเหยียน ให้เสี่ยวเหยียนไปรับเสี่ยวหมี่ โต้วกลับบ้าน
จากนั้นจึงวางโทรศัพท์
สนามบินยามค่ำคืนสว่างไสวมาก อาคารที่ใหญ่โตเหลือเกินมีผู้คนลากกระเป๋าเดินทางกันทั้งนั้น ยังมีคนที่เข็นรถเข็นกระเป๋าเดินทาง ทุกคนล้วนแต่ดำเนินการจัดการตั๋วเครื่องบินต่างๆนานา
เย่โม่เซินพาเธอเดินไปช่อง VIP ทันที
ตอนที่นั่งลงบนเก้าอี้ หานมู่จื่อมองข้างกายตนเองที่ว่างเปล่า พบว่าตนเองไม่ได้เอาอะไรมาด้วยเลยตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอาง ไม่มีอะไรเลย
เย่โม่เซินก่อกวนเกินไปจริงๆ
แม้จะรู้ว่าเขาสร้างปัญหามาก แต่เพราะเรื่องนี้ใจของหานมู่จื่อยังคงสั่นไหวอยู่ตลอด
เธอไม่คิดว่าเย่โม่เซินจะจองตั๋วเครื่องบินในทันที แล้วลักพาตัวเธอมาที่สนามบิน
เธอ……ต้องไปพบผู้หญิงคนนั้นที่ต่างประเทศกับเขาจริงๆเหรอ?
เป็นแค่คำพูดประโยคหนึ่งเท่านั้นชัดๆ ต้องทำเรื่องให้ใหญ่โตขนาดนี้จริงๆเหรอ?
ไม่มีเหตุผลอย่างชัดเจนไปไหม?
ก็ตอนที่หานมู่จื่อกำลังคิดเพ้อเจ้ออยู่นั้น เย่โม่เซินก็โอบเข้ามาที่เอวของเธอ: “หิวไหม? พาคุณไปกินอะไรนิดหน่อยก่อนดีกว่า?”
หานมู่จื่อได้สติกลับมา มองเย่โม่เซินที่อยู่ข้างกาย “คุณจะพาฉันไปต่างประเทศจริงๆเหรอ?