บทที่760 กาแฟน้ำลาย
เสียงเย็นชาของชายหนุ่มดังขึ้นมา ทำให้หานมู่จื่อชะงักไป แต่ว่า… ความรู้สึกคุ้นเคยทำให้หานมู่จื่อตัวสั่นเล็กน้อย
เธอกำลังคิดอยู่เลยว่าจะเข้าใกล้เย่โม่เซินยังไงดี จะได้กระตุ้นความทรงจําของเขา ให้เขาจำเรื่องราวทุกอย่างได้สักที
เขาก็เสนอตัวเข้ามาเองเลย
หานมู่จื่อยกยิ้มกริ่ม ก่อนจะตอบกลับ “เข้าใจแล้วค่ะ ดิฉันจะรีบชงเข้าไปให้นะคะ”
อีกฝ่ายไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ แล้ววางสายไปทันที
ความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยก่อนหน้านี้ของหานมู่จื่อ ข้อเท้าบวม ตอนนี้มีกำลังขึ้นมาทันที เธอกลับไปที่โซฟา แล้วใส่รองเท้า ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องเครื่องดื่มทันที
ตอนที่ชงกาแฟ หานมู่จื่ออารมณ์ดีมาก ตัวจึงเบาไปด้วย
นิสัยของเย่โม่เซิน เธอเข้าใจดี ห้าปีก่อนเธอเคยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของเขามาก่อน กาแฟที่เขาดื่มในตอนนั้น เธอเป็นคนชงให้เอง
ถึงแม้ตอนนั้นเขาจะเคยต่อว่าเธอ แต่ต่อมาเขาก็ไม่เอาเรื่องเล็กน้อยพวกนี้มาทำให้เธอลำบากใจอีก
ดังนั้นรสชาติที่เขาชื่นชอบเป็นยังไงเธอรู้ดี
ไม่นาน หานมู่จื่อก็ชงกาแฟเสร็จ หลังจากนั้นเธอก็เดินออกจากห้องทำงานของเลขาไป
ตอนนี้เป็นเวลาพักผ่อนของพนักงาน ทำให้ชั้นนี้เงียบมาก ไม่มีใครอยู่ พี่หลินเองก็ไม่อยู่ หานมู่จื่อยกถ้วยกาแฟเดินไปตามทาง
เธอรู้ว่าห้องของประธานอยู่ด้านในสุดของชั้นนี้ ดังนั้นหานมู่จื่อแค่เดินเข้าไปเรื่อยๆก็พอแล้ว
ในที่สุด เธอก็มาถึงหน้าประตูห้องทำงานของประธานบริษัทสักที
เธอใจเต้นแรงมาก หานมู่จื่อสูดหายใจเข้าลึก เพื่อให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ตัวเองให้ได้
หานมู่จื่อ เธอจะตื่นเต้นไปทำไม ก็แค่เอากาแฟมาให้เองนะ เป็นเรื่องที่ทำเป็นปกติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องตื่นเต้น
หลังจากควบคุมอารมณ์ตัวเองได้แล้ว หานมู่จื่อก็เคาะประตูห้อง
“เข้ามา”
คำพูดห้วนๆดังออกมา ถึงแม้จะเป็นแค่คำเดียว แต่กลับทะลุเข้าไปในหัวใจของหานมู่จื่อ
เธอเปิดประตู ก่อนจะยกถ้วยกาแฟเดินเข้าไป
เธอเดินไปด้วย มองไปรอบๆห้องไปด้วย ดูเหมือนจะเพิ่งตกแต่งใหม่ทั้งหมดเลย ถึงแม้เขาจะความจำเสื่อม แต่สไตล์การจัดห้องและนิสัยของเขายังคงเป็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เน้นสีเข้มมืดเป็นหลัก ทำให้ดูน่าเกรงขามมาก
เอกสารต่างๆในห้องถูกจัดวางไว้อย่างถูกระเบียบ เห็นได้ชัดว่าเจ้าของห้องเป็นคนรักสะอาดมากแค่ไหน
อืม ยังคงเป็นเยโม่เซินคนเดิมจริงๆ
เย่โม่เซินของเธอ
หานมู่จื่อแอบยิ้ม ก่อนจะวางกาแฟไว้ด้านข้าง “ท่านประธานคะ กาแฟของคุณค่ะ”
เธอขยับเข้าไปใกล้ ตอนที่โค้งตัวลง ผมที่มัดเป็นหางม้าของเธอก็ร่วงลงมาข้างหน้า และมีกลิ่นหอมโชยออกมาบางๆ
ตอนที่อีกฝ่ายเดินเข้ามา เย่โม่เซินไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลย เขาก้มหน้าทำงานอยู่ตลอด จนมาถึงตอนนี้ มีกลิ่นของผู้หญิงโชยมา ทำให้เย่โม่เซินรู้สึกถึงความผิดปกติ
เขาขมวดคิ้ว แล้วเงยหน้าขึ้นมอง
เพราะหานมู่จื่อกำลังโค้งตัวเพื่อวางถ้วยกาแฟ จึงชนกับตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมาพอดี ทำให้เธอตกอยู่ในสายตาของเย่โม่เซินทันที
หานมู่จื่อเงยหน้าขึ้น จึงสบตากันพอดี
ระยะห่างมันใกล้กันมาก
หานมู่จื่อมองหน้าเขานิ่ง ไม่เคลื่อนสายตาไปที่อื่น
เธอไม่ใช่กำลังหลงเสน่ห์ แต่… เป็นความรู้สึกเหมือนได้รับของที่สำคัญกลับคืนมา จึงทำให้เธอแอบมองนานขึ้น ขออีกแค่นิดเดียวก็ยังดี
“มองพอหรือยัง”
น้ำเสียงเข้มดังขึ้นมา หานมู่จื่อมองเห็นริมฝีปากของเขากำลังเม้มแน่น แล้วมองมาทางเธอด้วยสายตาดูถูก
เธอได้สติกลับมา ก่อนจะรีบขยับตัวถอยหลัง แล้วส่ายหน้าไปมา
“ขอโทษค่ะ”
เย่โม่เซินยิ้มเยาะ ก่อนจะจ้องมองมาด้วยสายตาดูถูก เหมือนเดาความคิดของเธอได้ “คุณนี่แผนสูงจริงๆ”
สามารถสร้างจุดเด่นจากคนที่มาสัมภาษณ์งานคนอื่นๆ จนได้รับตำแหน่งผู้ช่วยเลขาไป
ที่สำคัญ เลขาของเขายังเป็นเลขาคนเก่าของยู่ฉือจิน คิดจะเข้าสายตาของเธอได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ผู้หญิงแปลกๆคนนี้กลับทำได้
มันก็ไม่แปลก ขนาดเขาเองเธอยังทำให้เขาจำเธอได้ นับประสาอะไรกับคนอื่น
แผนสูงอย่างนั้นเหรอ หานมู่จื่อกระพริบตาปริบๆ กำลังคิดว่าเย่โม่เซินกำลังพูดถึงอะไร
หรือว่าจะพูดถึงเรื่องที่เธอมาที่นี่
ในขณะที่กำลังคิดอยู่ เย่โม่เซินก็ยกกาแฟขึ้นมาจิบเล็กน้อย
“… “
รสชาติกาแฟที่เข้มข้นลื่นไหลไปทั่วปาก รสชาติแบบนี้…
เย่โม่เซินมองไปทางหานมู่จื่อด้วยสายตาอันตราย
“กาแฟถ้วยนี้คุณเป็นคนชงอย่างนั้นเหรอ”
คำพูดของเขาทำให้หานมู่จื่อกลับมาสู่ปัจจุบัน เธอพยักหน้ารับ “อืม”
ก่อนจะรีบถามกลับ “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ”
พอเห็นสายตาที่มองมาที่เธอ และคิ้วที่ขมวดกันเป็นปม เหมือนไม่พอใจในตัวเธอมาก ทำให้หานมู่จื่อเรื่องสงสัยว่าตัวเองจะชงกาแฟได้รสชาติไม่ดี หรือว่าเธอจะตื่นเต้นเกินไป จนเติมน้ำตาลลงไปในกาแฟกันนะ
ไม่ใช่สิ เธอระวังแล้วนี่นา
หานมู่จื่อพยายามสังเกตสีหน้าของเย่โม่เซินอย่างระมัดระวัง ก่อนจะถามออกไปเบาๆ “กาแฟรสชาติแย่มากเหรอคะ”
เน่โม่เซินไม่สนใจเธอ สายตาที่มองเธอดูสับสนมาก ก่อนจะเอ่ยปากพูด “ออกไปซะ”
หานมู่จื่อ “?”
เธออยากจะถามออกไปมาก ว่ารสชาติกาแฟไม่ดีเลยเหรอ ถ้าไม่ดีเธอจะได้รู้และออกไปจากห้องอย่างไม่แคลงใจ แต่สีหน้าของเขากลับนิ่งเฉย หานมู่จื่อจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก เธอพยักหน้าแล้วเดินออกไปจากห้องทันที
หลังจากที่เธอเดินออกไปแล้ว เย่โม่เซินก็ยกกาแฟขึ้นมาจิบอีกครั้ง
อีกครั้ง และอีกครั้ง
จนกาแฟหมดแก้ว เย่โม่เซินถึงได้หยุด ก่อนจะจ้องมองถ้วยกาแฟนิ่ง คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะชงกาแฟได้ถูกปากเขาถึงขนาดนี้
เหมือนเป็นรสชาติของเขาโดยเฉพาะ
เย่โม่เซินเลียริมฝีปากตัวเอง ก่อนจะเลื่อนถ้วยกาแฟไว้ด้านข้าง
หลังจากที่หานมู่จื่อกลับมาถึงห้องทำงานของเลขา เธอก็อยู่ไม่สุข ไม่รู้ว่าเย่โม่เซินคิดอะไรอยู่ ท่าทางหลังจากที่เขาดื่มกาแฟเข้าไป แล้วยังไล่เธอออกมา กาแฟถ้วยนั้นเธอชงถูกหรือเปล่านะ
พอคิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปที่ห้องเครื่องดื่ม
เธอชงกาแฟถ้วยใหม่ แล้วยกขึ้นจิบ ก่อนจะรู้ว่ารสชาติไม่มีปัญหาอะไร
นี่เป็นรสชาติที่เย่โม่เซินชื่นชอบนี่นา หรือว่าความจำเสื่อมจะทำให้ความชอบในรสชาติเปลี่ยนไปด้วยนะ
แต่ที่หานมู่จื่อกังวลมากที่สุด คือการกระทำที่เผลอทำไปก่อนหน้านี้ ถ้าหากมีโอกาสอีกครั้ง เธอจะต้องชิมกาแฟก่อนจะส่งให้เขาแน่นอนเลย
พอคิดถึงตรงนี้ หานมู่จื่อก็ตัดสินใจกับตัวเอง ก่อนจะถือถ้วยกาแฟเดินกลับไปที่ห้องทำงานเลขา
ไม่นาน ก็หมดช่วงเวลาพักกลางวัน
ตอนที่พี่หลินกลับมาถึงห้องทำงาน ก็ได้รับโทรศัพท์ ให้เธอชงกาแฟไปให้ที่ห้องของประธานบริษัท
หลังจากวางสายไปพี่หลินก็สั่งให้หานมู่จื่อไปทำ “มู่จื่อ เธอชงกาแฟให้ท่านประธานหน่อย”
“ได้ค่ะ” หานมู่จื่อพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินไปที่ห้องเครื่องดื่ม ครั้งนี้เธอรู้งานแล้ว หลังจากชงกาแฟเสร็จเธอแอบชิมรสชาติดูก่อน หลังจากมั่นใจว่าไม่มีปัญหา แล้วเธอก็ยกมาให้พี่หลิน