บทที่ 893 คุณจะชดใช้ไหวเหรอ
ยู่ฉือจินตกตะลึงกับเสียงส้งอาน
แม้แต่หยูโปที่ยืนอยู่ข้างๆก็ตกตะลึงไปตั้งนานถึงจะตั้งสติได้
ส้งอานโกรธสุดขีดแล้วจริงๆ
เธอเพิ่งพามู่จื่อไปตรวจที่โรงพยาบาลเมื่อเช้า คุณหมอยังย้ำนักย้ำหนาให้ดูแลสุขภาพ ปกป้องลูกในท้องให้ดีๆ แล้วสุดท้าย พวกเขาก็จับตัวมู่จื่อไป คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นคนหยาบกระด้าง ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะทำอะไรเธอบ้าง
ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง ส้งอานร้อนใจจะตายอยู่แล้ว พูดออกมาตรงๆว่า “เธออยู่ที่ไหน รีบพาฉันไปหาเธอเดี๋ยวนี้”
ในเวลานี้เองยู่ฉือจินจึงตั้งสติขึ้นมาได้ เขาถามด้วยความสงสัย “อานอาน หนูหมายถึงใคร”
เขาพอจะมีคำตอบอยู่ในใจ แต่ก็…..รู้สึกตกใจ
ส้งอานเห็นว่าถึงตอนนี้แล้วเขายังเสแสร้งอยู่ โมโหจนเดินเข้าไปคว้าคอเสื้อของยู่ฉือจินไว้ “ไอ้แก่ ยังจะเสแสร้งอีก ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเมื่อตะกี้หรือยังไง เขาตั้งท้องอยู่ แกยังไม่ให้ฉันไปพบเธออีก ถ้าหากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับลูกในท้องของเขา ชาตินี้ฉันจะไม่ให้อภัยแกเลย”
พ่อบ้านหยูที่ยืนอยู่ข้างๆพอจะจับใจความบางอย่างได้ เห็นส้งอานจับคอเสื้อยู่ฉือจินไว้ และสีหน้าท่าทางของเธอก็ไม่ได้ล้อเล่น เลยเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“คุณอานอานปล่อยมือก่อนเถอะครับ พูดกันดีๆก่อน อยู่ๆคุณก็เข้ามาพูดแบบนี้ ทั้งผมกับนายท่านยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น”
ได้ยินดังนั้น ส้งอานก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ “ลุงหยู มาถึงขั้นนี้แล้ว คุณยังจะหลอกฉันอีกเหรอ” พ่อบ้านหยูกล่าว “คุณอานอานครับ ลุงหยู ไม่เคยโกหกหรือหลอกลวงใคร คุณน่าจะรู้จุดนี้ ผมกับนายท่านอยู่แต่บ้านทั้งวัน ไม่ได้ออกไปไหนทั้งนั้น คุณใจเย็นๆก่อนแล้วค่อยพูดกันว่าเกิดอะไรขึ้นดีไหมครับ”
ส้งอาน “…..”
แม้ว่ายู่ฉือจินจะไม่ยอมรับ ส้งอานไม่มีทางเชื่อ แต่ส้งอานก็รู้ดีว่า คนอย่างหยูโปไม่ใช่คนโกหกและบีบบังคับใคร หลายปีมานี้เขาผู้ช่วยที่เก่งที่สุดของยู่ฉือจิน
คิดได้อย่างนี้ ส้งอานก็ปล่อยมือลง พูดเสียงนุ่มลง “คุณไม่ได้เป็นคนส่งคนไปจับมู่จื่อมาเหรอ”
หยูโปลูบจมูกตัวเอง ช่วยยู่ฉือจินพูด “จริงๆก็มี แต่ก็แค่วันนั้นเท่านั้น แต่คุณอานอานกำลังโกรธอยู่ไม่ใช่เหรอ ดังนั้นผมจึงคิดว่าอีกสองสามวันค่อยไปถามดีกว่า”
“ลุงหยูวันนี้ไม่ได้ให้คนไปตามหาฉันเหรอ”
หยูโปส่ายหน้า
ส้งอานส่งสายตาไปทางยู่ฉือจิน “งั้นแกเป็นคนส่งไปเหรอ”
ยู่ฉือจินคิดไม่ถึงว่าลูกสาวของตนจะดุร้ายถึงขนาดนี้ เมื่อกี้เธอทำให้เขาตกใจจริงๆ ตอนนี้ที่เธอคุยกับเขาทำให้เขาตั้งสติขึ้นมาได้ และพูดอย่างจนปัญญา
“ฉันก็อย่างจะสั่งคนไปทำเช่นนั้น แต่เธอยอมที่จะพบพ่อคนนี้ไหมล่ะ”
ส้งอาน “……..”
“หึ พวกแกใช้ได้นี่ แต่ละคนรีบปฏิเสธกันอย่างรวดเร็ว พวกแกรู้ไหมว่าฉันมาได้ยังไง ก็ไอพวกที่พาฉันมาจับตัวมู่จื่อไป ฉันเลยต้องเข้ามาหาแกยังไงล่ะไอ้แก่”
ยู่ฉือจิน “……….”
ในที่สุดหยูโปก็สังเกตอะไรบางอย่างได้ จึงออกไปเรียกคนข้างนอกเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น คุณอานอานบอกว่าพวกแกจับตัวคนอื่นมาเหรอ”
สีหน้าชายคนนั้นเปลี่ยนไปทันที เขารีบชี้แจง “พ่อบ้านหยู ไม่ใช่จับตัวครับ พวกเราแค่เชิญเขามา นายท่านอยากพบคุณอานอาน พวกเราจึง……”
“ไอ้บัดซบเอ้ย” หยูโปโมโหด่าเสียงดัง “พวกแกเป็นบ้าไปแล้วเหรอ แล้วตอนนี้คนอยู่ที่ไหน”
ชายคนนั้นอยากจะอ้าปากชี้แจง แต่กลับพูดไม่ออก เขาลูบหัวตัวเองด้วยความเซ็ง นายท่านพูดถึงแต่คุณอานอานทุกวันไม่ใช่เหรอ เขาอุตส่าห์คิดแผนพาเธอมาจนได้ ทำไมยังโดนด่าอีกนะ
“ผมจะพาทุกคนไปครับ”
พูดจบเขาก็เดินนำทางไป ส้งอานก็รีบเดินตามไป
หยูโปเดินเข้าไปพยุงยู่ฉือจิน “นายท่าน พวกเราไปด้วยครับ”
ยู่ฉือจินก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนกับตัวเองก็ขึ้นหลังเสือแล้ว จึงเดินตามพวกเขาไปด้วย
สามคนออกมาจากตระกูลยู่ฉือแล้วเดินไปในซอยเล็กๆ ส้งอานเห็นสภาพรอบข้างแบบนี้แล้วอดจะขมวดคิ้วไม่ได้ หนังตาก็กระตุกรุนแรง
หยูโป และยู่ฉือจินเห็นทางข้างหน้าที่แคบลงเรื่อยๆ สีหน้าก็แย่ลง
คนนำทางหยุดลงในที่สุด เตรียมจะหยิบกุญแจออกมาเปิดประตู แต่พบว่าแม่กุญแจถูกๆตัวนั้นโดนงัดและประตูด้านหน้าแค่ปิดไว้เฉยๆเท่านั้น
สีหน้าเขาเปลี่ยนทันที รู้สึกมึนงงกับสิ่งตรงหน้า
“ที่นี่เหรอ”
ส้งอานรวดเร็วกว่าเขามาก เธอเดินเข้าไปผลักประตูออกทันที
พอเดินเข้าไปก็โดนฝุ่นหนาพัดเข้าจมูก ทำให้เธอสำลักจนต้องใช้มือปิดทันที ในห้องมีแสงน้อย แต่แสงที่ลอดมาจากทางหน้าต่างก็ช่วยให้พอจะเห็นในห้องนั้นชัดเจน
เธอมองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นเงาของมู่จื่อ
ส้งอานโมโหขึ้นทันที “คนล่ะ”
ชายคนนั้นได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึกกลัว รีบตอบกลับ “ผม ผมก็ไม่ทราบ ผมพาเธอมาไว้ที่นี่ แล้วล็อคกุญแจไว้ แต่เมื่อกี้พบว่าแม่กุญแจโดนงัดแล้ว หรือว่าเธอจะหนีไปแล้ว….”
ส่วนยู่ฉือจินและหยูโปมองหน้ากันแล้วต่างเดาได้ว่าทำไมส้งอานถึงโกรธขนาดนี้
หยูโปโมโหสุดขีด กัดฟันแล้วถามว่า “แกเป็นบ้าอะไร ทำไมถึงไปจับคนมาโดยพละกาล หากเกิดอะไรขึ้นจะมีปัญญาชดใช้ไหม”
ชายคนนั้นเห็นว่าหยูโปโมโหขนาดนี้ก็หน้าซีดเผือก “พ่อบ้านหยู ผมเห็นว่านายท่านบ่นถึงคุณอานอานทุกวัน ผมเลยจะไปเชิญเธอมา แต่…คุณอานอานไม่ยอม ผมไม่อยากเห็นนายท่านต้องเศร้าแบบนั้น จึง…..”
“แกเลยกล้าตัดสินใจโดยพละกาลไปจับคนมาที่นี่หรือ” เสียงของยู่ฉือจินแข็งกร้าวขึ้น และจ้องมองเขาอย่างเย็นชา
ชายคนนั้นได้ยินดังนั้นรีบคุกเข่าลงข้างๆยู่ฉือจิน
“นายท่านครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมแค่….”
เขาก็แค่คิดแบบคนธรรมดาคนหนึ่ง เห็นว่าส้งอานอยู่กับเขาก็ไม่ได้คิดอะไร แค่จับเธอมาเป็นตัวประกัน ให้ส้งอานยอมมาพบนายท่าน ถือว่าเขาทำสำเร็จแล้ว
แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้ว หากหนีไปได้ก็ถือว่าดีหน่อย แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ
“แกต้องการทำอะไร” หยูโปดุว่า “อย่าบอกว่าเห็นเขานายท่านนั่งหน้าเครียดทั้งวัน เลยอยากจะช่วยท่านแก้ปัญหานะ”
ชายคนนั้นพยักหน้า “เป็นอย่างนั้นจริงๆครับ นายท่านครับ …….ได้ไหมครับ”
“พวกแกทำอะไรกัน”ส้งอานขัดจังหวะอย่างไม่สบอารมณ์ พูดอย่างเยาะเย้ยว่า “คนที่แกจับมาหายไปแล้ว แกยังมีกะจิตกะใจขอความเห็นใจ ฉันจะบอกให้นะ หากเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ฉันจะให้แกชดใช้ร้อยเท่าพันเท่า ดูสิว่าถึงตอนนั้นแกยังจะมีชีวิตรอดมาขอความเห็นใจไหม ”
พลังของส้งอานแข็งแกร่งเกินไป ชายคนนั้นตกใจจนไม่กล้าจะอ้าปากพูด
ส้งอานกลับนิ่งสงบอย่างรวดเร็ว “เขาไม่มีมือถือ ไม่มีเงิน หากหนีไปตอนนี้คงยังไปไหนไม่ไกล พวกเราส่งคนไปตามหาก็ได้แล้ว แต่ถ้าหาก…..