บทที่912 คุณย่าเล็ก
เวลาผ่านไปแต่ละวินาที โทรศัพท์มือถือของหานมู่จื่อก็ดังขึ้น เธอเหลือบมองดู คาดไม่ถึงว่าเป็นส้งอานที่โทรหาเธอ
เมื่อเห็นชื่อของส้งอาน สีหน้าของหานมู่จื่อก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เนื่องจากเป็นวันส่งท้ายปีเก่า ดังนั้นส้งอานจึงคิดที่จะทานอาหารข้ามคืนต้อนรับปีใหม่พร้อมกันกับพวกเธอ แต่เธอไปที่บ้านเป็นเวลานานขนาดนั้น เธอกับเย่โม่เซินก็ยังไม่ได้ตามไป
ตอนนี้น่าจะรอจนร้อนใจ ถึงได้โทรหาเธอ
หานมู่จื่อปรับอารมณ์สักพัก ถึงได้รับโทรศัพท์
“มู่จื่อ นี่มันกี่โมงแล้ว? โม่เซินบอกว่าจะไปรับคุณออกจากโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้พวกเธออยู่ที่ไหน?”
หานมู่จื่อเหลือบมองไปรอบๆ แล้วพูดขึ้นอย่างจำใจ “ตอนนี้พวกเราอยู่ที่โรงพยาบาล”
“……นี่ พวกเธอเป็นอะไร? ทำไมแค่ทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลยังช้าขนาดนี้? ออกไปนานแค่ไหนแล้ว ก็ยังทำไม่เสร็จอีก? วันนี้เป็นวันพิเศษ มีคนเยอะมากหรือไง?”
“น้า……หานมู่จื่อเรียกเธอคำหนึ่ง แล้วพูดอธิบาย “เรื่องการออกจากโรงพยาบาล ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ว่า……เราได้กลับมาอีกครั้ง”
น้าส้ง “……”
เมื่อฟังแล้วไม่มีเสียงที่ปลายสาย หานมู่จื่อเม้มริมฝีปากเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองพวกเสี่ยวหมี่โต้ว ที่ยืนอยู่ไม่ไกล แล้วก็หันกลับมา
“แล้วก็ เสี่ยวหมี่โต้วมาแล้ว”
*
ตอนที่ส้งอานมาถึงโรงพยาบาล หมอก็ได้ตรวจสุขภาพเย่โม่เซินเรียบร้อยพอดี
หมอบอกว่าเย่โม่เซินแค่หมดสติไปเท่านั้น ร่างกายไม่มีปัญหาอะไร แต่หานมู่จื่อก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น “ไม่มีปัญหา? แล้วทำไมเขาถึงเป็นลมกะทันหัน? ตอนที่มา ฉันเห็นเขาถึงกับเหงื่อแตกเลย และสีหน้าของเขาก็ผิดปกติมาก”
หมอพยักหน้า สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนั้น
เพราะยังไงผลการตรวจร่างกาย ก็คือร่างกายไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก ส่วนทำไมถึงเป็นลมกะทันหัน ก็ต้องรวมกับสถานการณ์ในขณะนั้นมาพิจารณาแล้ว
เมื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในเวลานั้น หานมู่จื่อกับเสี่ยวเหยียนและเซียวซู่ ก็อยู่ในห้องทั้งหมด
คนที่อยู่นอกห้องกับเย่โม่เซิน มีเพียงเสี่ยวหมี่โต้วเท่านั้น
หานมู่จื่อมองไปที่เสี่ยวหมี่โต้ว แล้วโบกมือให้เขา “เสี่ยวหมี่โต้ว”
เสี่ยวหมี่โต้วรอมาตั้งนานแล้ว หม่ามี๊ไม่ได้เข้ามากอดเขาหน่อยเลย หลังจากมาถึงโรงพยาบาล ก็รออยู่ที่ประตูห้องฉุกเฉินอย่างใจจดใจจ่อ สำหรับการมาถึงของเขา ดูเหมือนว่าจะไม่เซอร์ไพรส์เลย
เดิมทีมีความน้อยใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าหม่ามี๊ได้ฟังคำพูดของหมอ จึงได้นึกถึงเขา เสี่ยวหมี่โต้วก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจมากขึ้น
“เข้ามา” หานมู่จื่อย่อตัวลง ส่งสัญญาณให้เสี่ยวหมี่โต้วเดินเข้ามา
เสี่ยวหมี่โต้วครุ่นคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก็รู้สึกว่าไม่ควรโกรธเคืองดื้อดึงกับหม่ามี๊ ในที่สาธารณะแบบนี้ ถึงเวลานั้นคนที่ขายหน้าก็คือหม่ามี๊และตัวเขาเอง ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ด้านข้างของ หานมู่จื่ออย่างเชื่อฟัง หานมู่จื่อโอบกอดเขาด้วยมือข้างเดียว ยกมือขึ้นหยิกแก้มของเขาเบาๆ เวลาพูดเสียงก็ดูอ่อนโยนลงไม่น้อย
“เสี่ยวหมี่โต้วเด็กดี ก่อนหน้านั้นตอนที่นอกห้อง แดดดี้ของหนูเกิดอะไรขึ้น? ตอนที่ออกไปก็ยังดีๆอยู่ไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงเป็นลมกะทันหัน?”
เสี่ยวหมี่โต้วกะพริบตา นึกถึงฉากในตอนนั้น
ในตอนนั้นเย่โม่เซินกอดเขาไว้กะทันหัน เขายังบอกกับแดดดี้ว่า
“ฮึ่มๆ อย่าคิดว่าคุณกอดฉัน ฉันก็จะยกโทษให้คุณง่ายๆ!”
หลังจากที่พูดเสร็จ ดูเหมือนว่าแดดดี้ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ กอดเขาไว้สักพัก แล้วดึงเขาออก จากนั้นมือใหญ่ก็ลูบแก้มของเขาเบาๆ ในแววตามีความอบอุ่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
เสี่ยวหมี่โต้วทำเสียงงอน ตบมือของเขาออก
จากนั้น สีหน้าของแดดดี้ก็เปลี่ยนไป คิ้วก็ขมวดไว้แน่น ดูเหมือนว่าจะเจ็บปวดมาก ตอนแรกเสี่ยวหมี่โต้วคิดว่าเขาแกล้งทำ แต่หลังจากที่เย่โม่เซินล้มลงกับพื้น เสี่ยวหมี่โต้วถึงรู้ว่าเขาเป็นลมหมดสติไปแล้ว
ดังนั้นเสี่ยวหมี่โต้วจึงเล่าสถานการณ์ในที่เกิดเหตุตามความเป็นจริงทุกอย่าง
หมอฟังจนรู้สึกสับสนมึนงง “นี่คือสถานการณ์อะไร? หรือเป็นเพราะปวดหัวกะทันหัน จึงทำให้เป็นลมหมดสติ?”
ปวดหัว?
เมื่อได้ยินคำว่าปวดหัว สมองของหานมู่จื่อก็ประกายทันที เหมือนว่าจับอะไรบางอย่างได้
เมื่อได้เห็นเสี่ยวหมี่โต้ว ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับเขาทุกระเบียบนิ้ว เย่โม่เซินก็ปวดหัวขึ้นมากะทันหัน ปฏิกิริยาแบบนี้หมายความว่าความทรงจำของเขาถูกเสี่ยวหมี่โต้วกระตุ้นใช่หรือเปล่า?
นอกเหนือจากนี้ หานมู่จื่อก็นึกเรื่องอื่นไม่ออกแล้ว
เมื่อนึกถึงเช่นนี้ หานมู่จื่อก็พูดขึ้นในทันใด “คุณหมอ ฉันลืมบอกกับคุณ สามีของฉัน สมองของเขาเคยได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เคยสูญเสียความทรงจำ”
เมื่อได้ยิน สีหน้าของหมอก็ดูแปลกใจเล็กน้อย “สมองเคยได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง สูญเสียความทรงจำ? งั้นเขา……” หมอเหลือบมองเสี่ยวหมี่โต้ว
หานมู่จื่อพูดอธิบายว่า “วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเขา”
หมอก็เข้าใจทันที
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าแปลกใจเลย ที่ทางเราตรวจยังไง ก็ไม่สามารถตรวจหาสาเหตุทางร่างกายของเขาได้ แม้ว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บที่ได้รับในเมื่อก่อน แต่ก็ฟื้นตัวได้ดีมาก เมื่อคุณพูดแบบนี้ นั้นฉันก็คาดเดาว่า คือได้กระตุ้นความทรงจำของผู้ป่วย เมื่อกระตุ้นที่สมอง จะทำให้ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ถ้ามากเกินไป จะทำให้เป็นลมหมดสติได้”
หานมู่จื่อ “……ถ้าอย่างนี้ ความทรงจำของเขา……จะฟื้นคืนมาใช่ไหม?”
ถ้าเป็นอย่างนี้ มันก็เป็นความโชคดีในความโชคร้ายไม่ใช่เหรอ?
แต่หมอกลับส่ายหน้าเบาๆ “เรื่อง เราก็ไม่รู้แล้ว เรื่องของการสูญเสียความทรงจำ แม้ว่าจะมีตัวอย่าง แต่ก็ไม่มีวิธีรักษาที่แน่นอน สามารถฟื้นฟูความทรงจำในเมื่อก่อนได้หรือไม่ ก็อย่างต้องรอหลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมาแล้ว ถึงจะรู้ได้”
หลังจากได้ยินคำพูดของหมอ หานมู่จื่อรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
ถ้าถูกกระตุ้นแล้วฟื้นความจำได้โดยตรง ก็ถือว่าดี หากไม่ได้ฟื้น ถ้าอย่างนั้นต่อไปตัวเขาก็ยังคงจะมีปัญหาของความทรงจำ ถ้ายังปวดหัวแล้วเป็นลมไป จะทำยังไง?
เสี่ยวเหยียนดึงแขนเสื้อของหานมู่จื่อเบาๆ แล้วกระซิบพูดว่า “อย่าคิดมากเกินไป เพียงแค่คนไม่เป็นไร สามารถตื่นขึ้นมาได้ก็ดีแล้ว เรื่องของความทรงจำแบบนี้ ได้รับการกระตุ้นในวันนี้ ก็จะต้องค่อยๆตื่นขึ้นมาอย่างแน่นอน บางทีสักวันหนึ่ง คุณชายเย่ก็จำทุกอย่างได้อย่างกะทันหันล่ะ”
เมื่อเป็นถึงเช่นนี้ เธอทำได้เพียงยอมรับเท่านั้น พยักหน้าเบาๆ
และในที่สุดส้งอานก็หาพวกเธอเจอจนได้ วิ่งเข้ามาจากทางเดิน เมื่อเห็นเสี่ยวเหยียน เซียวซู่ และเสี่ยวหมี่โต้วต่างก็อยู่ที่นี่ทั้งหมด เธอตกตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า
“คุณน้าเล็ก” หานมู่จื่อเรียกเธอ
เสี่ยวเหยียนและเซียวซู่ไม่มีความสัมพันธ์หรือรู้สึกกับเธอ ดังนั้นแค่พยักหน้าให้กับเธอเท่านั้น
ส้งอานถาม “โม่เซินเป็นอย่างไรบ้าง? หมอพูดว่ายังไง?”
หานมู่จื่อก็เลยพูดสิ่งที่หมอพูดในเมื่อกี้ ให้ส้งอานฟัง
หลังจากที่ส้งอานฟังจบ ก็พยักหน้า “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
จากนั้นเธอก็เห็นเจ้าตัวเล็กที่ยืนอยู่ด้านข้าง เลยนั่งลงไป “เสี่ยวหมี่โต้ว ทำไมไม่เรียกคุณย่าเล็กล่ะ?”
เสี่ยวหมี่โต้วกะพริบตาที่แวววาวใสกระจ่าง
ในที่สุดก็มีคนสังเกตเห็นเขาแล้ว
“คุณย่าเล็ก ~” เสี่ยวหมี่โต้วเรียกเธออย่างน่าสงสารเอ็นดู
คำนี้ แทบจะเรียกจนเข้าไปในก้นบึ้งหัวใจของส้งอานเลย เธอตอบกลับไป แล้วก็ยื่นมือไปกอดเสี่ยวหมี่โต้วขึ้นมา “เด็กคนนี้ช่างน่ารักจริงๆ เรียกจนฉันใจละลายหมดแล้ว”
“คุณย่าเล็ก~” เสี่ยวหมี่โต้วเห็นว่าเธอชอบ เลยเรียกอีกครั้งอย่างเอาใจ
ส้งอานฟังจนในแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและความรักความเอ็นดู หยิกแก้มที่อ่อนนุ่มของเขา “หนาวขนาดนี้ ไม่อยู่ในประเทศจีนดีๆ วิ่งมาต่างประเทศทำไม?”
เจ้าตัวเล็กตรงหน้า ดูเกือบจะเหมือนกับเย่โม่เซินทุกอย่าง เมื่อเห็นเขา ส้งอานก็เหมือนได้เห็นเย่โม่เซินตอนเด็ก ใจอ่อนไปหมดแล้ว