บทที่1186 เสี่ยวโต้วหยา
ที่จริงทุกคนรู้อยู่แล้วว่า ลูกคนนี้เป็นลูกผู้หญิง
ทว่า วันนี้ที่ได้ยินคุณหมอมาบอกเรื่องน่ายินดีนี้ด้วยตัวเองนั้น ในใจก็อดที่จะมีความสุขไม่ได้อยู่ดี
โดยเฉพาะคุณท่านยู่ฉือ เพราะเขาเหงามาเกือบทั้งชีวิต ตอนนี้มีเหลนสาวเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนแล้ว อย่าให้พูดเลยว่าในใจของเขามีความสุขแค่ไหน
หลังจากที่ได้ยินคุณหมอบอกเรื่องที่น่ายินดีนี้ คุณท่านยู่ฉือก็ปรบมือขึ้นมารัวๆ
“ดี!”
ส้งอานที่อยู่ข้างๆ เมื่อเห็นกิริยาของพ่อตัวเองก็อดไม่ได้ที่จะขึงตาใส่ แล้วพูดขึ้นเสียงเบาว่า “อย่าทำอะไรปุบปับตามใจตัวเองเหมือนเด็กสิคะ พ่อเป็นเด็ก ป.2 เหรอคะ?”
คุณท่านยู่ฉือที่จู่ๆก็โดนดุ ก็ลูบจมูกของตัวเอง เขาทำอะไรผิดเหรอ? เขาก็แค่ดีใจที่หลานสะใภ้คลอดแล้วนิ แค่พูดดีใจและชื่นชมนิดหน่อยก็ไม่ได้เหรอ? ลูกสาวคนนี้ของเขาเข้มงวดและดุเสียจริง!
ทว่า ตอนนี้ความดีใจนั้นมีมากกว่าสิ่งใดในโลก ไม่นานคุณท่านยู่ฉือก็ลืมเรื่องที่ลูกสาวดุเขา
เสียงร้องที่คมชัดของทารกดังออกมาจากห้องคลอด
ส้งอานอดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปาก “ดูท่าแล้วยัยเด็กนี่จะทำให้มู่จื่อวุ่นวายไม่ใช่น้อยเลย”
หลังจากที่คุณหมอได้ยิน ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่หรอกครับ เด็กคนนี้มีดวงตาที่กลมโต รู้สึกมีพลังตั้งแต่แรกเห็น แข็งแรงมาก พวกคุณวางใจได้เลยครับ”
แม้จะว่ากันว่า ในห้องคลอดนั้นแค่คลอดทารกน้อยๆคนหนึ่ง ทว่าหานมู่จื่อนั้นแทบล้มทั้งยืน เธอนอนอยู่ในนั้น แม้แต่แรงที่จะลืมตายังไม่มีเลย
เมื่อเธอนึกถึงบางสิ่ง ริมฝีปากซีดก็เผยรอยยิ้มออกมา
ตอนที่เพิ่งคลอดเด็กออกมา เธอเหนื่อยจนไม่มีแรงพูด คุณหมออุ้มทารกมาตรงหน้า เพื่อให้เธออุ้ม น่าเสียดายที่เธอนั้นไม่มีเรี่ยวแรงเลย แม้แต่แรงที่จะลืมตายังไม่มี
คุณหมอจึงอุ้มทารกไปยืนอยู่ตรงหน้าเย่โม่เซิน ใครจะไปรู้ว่าเย่โม่เซินนั้นจะย่นจมูก แล้วพูดขึ้นเสียงต่ำว่า “ผมจะไปดูภรรยาของผมก่อนครับ”
คุณหมอ:“……”
ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรไป ไม่ว่าอย่างไรทารกนี้ก็เป็นลูกสาวของเขานะ ทำไมถึงแสดงความรังเกียจออกมาได้ชัดเจนมากขนาดนี้เลย? ทว่าเย่โม่เซินไม่สนว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร เขาเข้าไปจับมือของหานมู่จื่อแน่น ก้มตัวลงไปเช็ดหยาดเหงื่อบนหน้าผากของเธอ จากนั้นก็บรรจงจูบลงไปบนหน้าผาก
“ขอบคุณนะที่รัก”
หานมู่จื่ออยู่ในอาการที่เหนื่อยล้า ก็รู้สึกอุ่นๆที่หน้าผาก และตามมาด้วยเสียงนุ่มๆของเย่โม่เซินลอยเข้าไปในหูของเธอ
แม้จะเหนื่อย แต่ในตอนนี้นั้น เธอรู้สึกทุกอย่างนั้นคุ้มค่า
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ในใจของหานมู่จื่อก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
แม้จะรู้ว่าทารกเป็นลูกของเธอและเย่โม่เซิน แต่เรื่องที่เย่โม่เซินให้ความสำคัญกับเธอเป็นที่หนึ่งในใจนั้น คุ้มค่าแก่ให้เธอดีใจจริงๆ
และเย่โม่เซินปลอบโยนภรรยาของตัวเองเสร็จ ถึงจะไปอุ้มลูกสาวของตน
มีสามีแบบนี้ เธอยังมีอะไรต้องเสียดายอีก? ความทุกข์และความลำบากที่เคยประสบ ถือว่าเป็นการทุกข์ก่อนแล้วจึงสุข
ไม่นาน หานมู่จื่อก็ย้ายจากห้องคลอดไปยังห้องพักฟื้นปกติ คุณหมดจัดการล้างตัวทุกอย่างให้กับทารกเสร็จสรรพ จากนั้นก็พาเด็กมาหาหานมู่จื่อ ให้เด็กนอนอยู่ข้างๆเธอ
เด็กทารกตัวขาว นอนอยู่ตรงนั้นอย่างน่าเกลียดน่าชัง มือเล็กสองข้างกำแน่นเป็นกำปั้นสีชมพูเล็กๆ กำลังหลับตาอยู่ในห้วงนิทรา
คนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนล้อมเตียงผู้ป่วย ทุกคนนั้นต่างก็พากันจ้องมองไปยังเด็กน้อย
มีเพียงเย่โม่เซินที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งของเตียง และจับมือของหานมู่จื่อไว้แน่น
คุณท่านยู่ฉือนั้นดีใจที่สุดแล้ว เขาจ้องมองไปยังเหลนสาวของตัวเอง ยิ่งมองยิ่งมีความสุข จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปเขี่ยกำปั้นน้อยๆของเหลนสาว มือของคนชราหยาบเล็กน้อย ส่วนผิวของเด็กทารกนั้นบอบบางมาก เขี่ยมือของเด็กน้อยไปครั้งเดียวคุณท่านยู่ฉือก็ไม่กล้าทำเป็นรอบที่สอง เพราะกลัวว่าจะทำให้ผิวของเหลนสาวระคายเคือง
เขาเหมือนจะคิดอะไรออกกะทันหัน จึงหันไปมองเสี่ยวหมี่โต้วที่อยู่ข้างๆอย่างจริงจัง
“เสี่ยวหมี่โต้วเอ๋ย ของที่ทวดให้กับหนูก่อนหน้านี้ หนูยังจำได้ไหม?”
เสี่ยวหมี่โต้วนั้นกำลังนอนดูน้องสาวของตัวเองอยู่บนเตียง เมื่อได้ยินคุณท่านยู่ฉือพูดแบบนี้ แววตาก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ “คุณทวด มีอะไรเหรอครับ?”
“ของเหล่านั้น ต้องแบ่งให้น้องสาวครึ่งหนึ่งนะครับ!”
เสี่ยวหมี่โต้ว:“……”
คุณท่านยู่ฉือ: “หนูดูน้องสาวของหนูสิ น่ารักขนาดนี้ ต่อไปหนูจะต้องปกป้องน้องสาวดีๆนะครับ เข้าใจไหม?”
หานมู่จื่อที่อยู่ข้างๆเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอก็ประหลาดใจเล็กน้อย อายุของเด็กประมาณเสี่ยวหมี่โต้วในตอนนี้นั้นคิดเป็นแล้ว บวกกับสมองของเสี่ยวหมี่โต้วแล้วก็ความคิดนั้นจะยืดหยุ่นมากเป็นพิเศษ ในตอนนี้คุณท่านยู่ฉือพูดสิ่งเหล่านี้กับเขากะทันหัน คนเป็นแม่อย่างเธอ ก็ต้องเอ่ยปากชี้แนะแนวทางเสียแล้ว
“คุณตาคะ ของเหล่านั้นตาเก็บไว้ก่อนเถอะค่ะ ตอนนี้เสี่ยวหมี่โต้วยังเด็ก เขายังไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องนี้หรอกค่ะ”
“เป็นไปได้ยังไง?”คุณท่านยู่ฉือพูดด้วยความไม่สบอารมณ์ว่า “ของให้เขาแล้ว เขาก็ต้องมีสิทธิ์ตัดสินใจแล้วสิ เมื่อก่อนมีแค่เสี่ยวหมี่โต้วคนเดียว ทุกอย่างก็เลยเป็นของเขา ตอนนี้มีน้องสาวเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน คนเป็นพี่ต้องรัก ต้องหวงและปกป้องน้องสาวสิ”
หานมู่จื่อหันไปมองเสี่ยวหมี่โต้วครู่หนึ่ง มีความกังวลเล็กน้อยว่าในใจของเสี่ยวหมี่โต้วอาจมีการเปลี่ยนแปลง เพราะคำพูดเหล่านั้นของคุณท่านยู่ฉือนั้นชัดเจนมาก
ราวกับมีคนกำลังบอกเสี่ยวหมี่โต้วว่า ดูสิ ถ้าไม่มีน้องสาว ทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งความรักของทุกคนนั้นเธอจะได้รับมันคนเดียว ทว่าตอนนี้มีน้องสาวเพิ่มมาหนึ่งคน เธอต้องแบ่งทุกอย่างให้กับน้องครึ่งหนึ่ง
แม้ก่อนหน้านี้เธอจะปลูกฝังแนวคิดให้กับเสี่ยวหมี่โต้วบ้างแล้ว รวมทั้งที่เขาไม่ต่อต้านที่จะมีน้องสาวด้วย แต่มันไม่ได้หมายความว่าจะสามารถนำเรื่องเหล่านี้มาพูดซึ่งๆหน้ากันได้
เหมือนรู้ว่าแม่ของตัวเองนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ เสี่ยวหมี่โต้วจึงเอ่ยปากพูดขึ้น
“คุณทวดวางใจเถอะครับ ผมเป็นพี่ชายนิครับ ต้องรักและปกป้องน้องสาวอยู่แล้ว ผมเต็มใจที่จะทำทุกอย่างครับ”พูดจบ เสี่ยวหมี่โต้วก็ยื่นมือออกไปจับกำปั้นน้อยๆของน้องสาว
มือของเสี่ยวหมี่โต้วไม่ใหญ่ ทว่าเทียบกับทารกแรกเกิดนั้น มันไม่เหมือนกันแล้ว มือของเขาจับได้พอดี เผยให้เห็นมือชมพูเล็กๆอีกครั้ง ดูแล้วมันกลมกลืนเป็นพิเศษเลยล่ะ
เมื่อฟังคำพูดเหล่านี้จบ คุณท่านยู่ฉือก็ดีใจและสบายใจมาก
ที่จริงส้งอานที่อยู่ข้างๆมีความคิดที่จะตีหัวเขาแล้ว ถ้าไม่เห็นว่าเขานั้นเป็นพ่อของเธอ เธอคงลงมือไปแมากจริงๆ
ทันใดนั้นคุณท่านยู่ฉือก็ถามขึ้นอีกว่า
“จริงสิ ตั้งชื่อให้ยัยเหลนหรือยัง?”
หานมู่จื่ออึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วมองไปยังเย่โม่เซิน แววตาของเย่โม่เซินนั้นอบอุ่นมาก “ผมให้คุณตัดสินใจ”
และหานมู่จื่อก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นก็พูดออกมาโดยตรงว่า “คุณตาคะ ชื่อเล่นของลูก ก่อนหน้านี้ได้คิดไว้แล้วค่ะ แต่ชื่อจริงนั้นยังไม่ได้คิด คุณตานั้นมีความรู้มากมาย งั้นคุณตาก็ตั้งให้เหลนสักชื่อสิคะ?”
คำพูดเหล่านี้ทำให้คุณท่านยู่ฉือฟังแล้วรู้สึกมีประโยชน์อย่างยิ่ง เขาลูบเคราของตัวเองด้วยท่าทีที่คาดเดายาก “ในเมื่อเธอเอ่ยปากพูดแบบนี้ ตาก็ต้องรับปากแล้วแหละ ทว่าการตั้งชื่อนั้นสำคัญมาก ตาต้องกลับไปคิดดีๆก่อน ไหน เธอลองบอกชื่อเล่นของยัยเด็กให้ฟังหน่อยซิ”
“เสี่ยวโต้วหยา。”
เสี่ยวโต้วหยา ชื่อนี้คล้ายๆกับชื่อของเสี่ยวหมี่โต้ว เป็นชื่อของพี่น้องที่เหมาะสมมาก
ตอนแรกที่คุณท่านยู่ฉือได้ยินชื่อนี้ก็ไม่ค่อยชอบนัก ทว่าพอคิดๆดูแล้วก็เข้าใจ แม้ในใจจะไม่ชอบ แต่ก็ยังพยักหน้า
“ดี ชื่อเหมาะกับเหลนสาวของฉันมาก!”