บทที่ 1402 เอาแต่ใจ
หูของเซียวซู่ถูกเจียงเสี่ยวไป๋บิดจับเล่นอยู่นาน จนแดงขึ้นเรื่อยๆ แดงจนทนมองไม่ไหวอีกต่อไป
แต่เจียงเสี่ยวไป๋ยังคงเล่นอย่างมีความสุข แววตาที่มองมาส่องสว่างเป็นประกายเหมือนจิ้งจอกที่จ้องจะขโมยดาว เซียวซู่อดไม่ได้ที่จะจับมือของเธอไว้ ดึงมือที่กำลังเล่นหูของตัวเองลงมา กดโทนเสียงต่ำจนฟังดูประหลาด “พอแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋เบ้ปากอย่างไม่พอใจ: “ทำอะไรน่ะ นายเป็นคนบอกว่าจะลองคบกับฉันเองนะ ตอนนี้ฉันแค่เล่นหูของนาย นายก็รับไม่ได้แล้วงั้นเหรอ?”
เซียวซู่กระแอมออกมาเล็กน้อย: “นี่เรายังอยู่ด้านนอก ถ้าอยากเล่นกลับไปแล้วค่อยเล่น”
“จับหูแค่นี้ ไม่ได้จูบสักหน่อย มีอะไรน่าอายกันล่ะ?” เมื่อพูดจบเจียงเสี่ยวไป๋ก็หันไปมองอีกด้านหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองบน: “อีกอย่าง เวลาแบบนี้ ยังจะมีใครดูนายอีกล่ะ? นายวางใจได้”
เมื่อพูดจบ หล่อนก็ดึงมือออกมา และคิดจะไปจับหูแดงๆของเซียวซู่อีกครั้ง
ไม่จบไม่สิ้น
เมื่อเห็นว่ามือของหล่อนกำลังจะเอื้อมมาจับหูของตัวเอง เซียวซู่จึงอุ้มหล่อนขึ้นมาทางขวาง เจียงเสี่ยวไป๋ยังไม่ทันตั้งตัว เมื่อหันกลับมาก็ถูกเซียวซู่หมุนตัวขึ้นไปกอดอยู่ในอ้อมอกแล้ว
“ว๊าย นี่นายทำอะไรน่ะ? รีบปล่อยฉันลงไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันยังจับไม่พอใจเลย”
“หุบปาก”
เซียวซู่ดุเขาด้วยใบหน้าอันแดงก่ำ “เสียงดังขนาดนี้ เธอจะกรีดร้องให้คนทั้งตึกได้ยินหรือไง?”
อีกทั้งถ้อยคำที่หล่อนพูดออกมาว่า ฉันยังจับไม่พอใจเลย ดึกดื่นขนาดนี้ เสียงก็ดังมากเช่นนี้ หล่อนไม่กลัวว่าคนอื่นจะเข้าใจผิดบ้างหรือไง?
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้คิดอะไรมาก เมื่อเห็นว่าเซียวซู่หน้าแดง จึงเตือนสติขึ้นมาได้ว่าเมื่อครู่ตัวเองพูดอะไรออกไป
“ฉันใสซื่อบริสุทธิ์ ฉันแค่จับหูนายเท่านั้น ถ้าพวกคนที่ฟังแล้วคิดไปไกล ก็ช่วยอะไรไม่ได้”
แต่สุดท้ายเจียงเสี่ยวไป๋ก็ไม่ตะโกนโวยวายอะไรอีก หลังจากเข้าไปในลิฟต์ หล่อนก็ตีมือของเซียวซู่ “นายปล่อยฉันลงนะ ฉันยืนเองได้”
เซียวซู่เกรงว่าถ้าปล่อยหล่อนลงมา หล่อนจะมาจับหูเขาอีก ดังนั้นจึงไม่ยอมปล่อย จนถึงหน้าประตูห้อง ตอนที่กำลังจะเปิดประตูออกจึงยอมปล่อยเจียงเสี่ยวไป๋ลงมา
ทั้งสองเปิดประตูและเข้าไปพร้อมกัน
เมื่อเข้าไปด้านใน เจียงเสี่ยวไป๋เห็นของใช้ที่คุ้นตา จึงรู้สึกอุ่นใจเป็นพิเศษ ทิ้งเซียวซู่ไว้และวิ่งตรงไปนอนที่โซฟาของตัวเอง
“ยังไงโซฟาของตัวเองก็สบายที่สุดแล้ว ไม่เหมือนของที่บ้านฟางถังถัง โซฟาตัวนั้นแข็งมาก ขนาดนั่งยังรู้สึกไม่สบายตัวเลย”
เซียวซู่ยกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อนอก จากนั้นถอดแขวนไว้บนราวแขวนเสื้อด้านข้าง เมื่อเห็นเจียงเสี่ยวไป๋นอนอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางแสนสบาย แววตาจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
ก่อนหน้านี้ตอนที่เจียงเสี่ยวไป๋ไม่อยู่ หลงเหลือไว้เพียงแค่ของของหล่อน จึงทำให้เซียวซู่รู้สึกว่างเปล่าอยู่เสมอ ทั้งๆที่ทั้งบ้านมีของใช้มากมาย แต่ทำไมยังรู้สึกว่างเปล่าล่ะ?
ตอนนี้เจียงเสี่ยวไป๋ล้มตัวนอนไปแล้ว เซียวซู่จึงเข้าใจทันทีว่าเป็นเพราะอะไร เพราะขาดหล่อนไป
หรือว่า ในความว่างเปล่านั้น เขาค่อยๆเริ่มปรับตัวเข้าหาชีวิตที่มีหล่อนอยู่ด้วยแล้ว
เมื่อคิดถึงตอนนี้ เซียวซู่เม้มปาก จับหูที่โดนหล่อนบิดจับจนเจ็บ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
ถ้าต่อไปถูกหล่อนบิดหูของตัวเองบ่อยๆแบบนี้ คงต้องตั้งกฎกับหล่อนแล้ว
ไม่เช่นนั้นผ่านไปนานเรื่อยๆ หูของเขาคงต้องลอกแน่นอน
เจียงเสี่ยวไป๋นอนอยู่บนโซฟา เห็นเซียวซู่กำลังจะเข้าไปในห้องน้ำ จึงรีบตะโกนหาเขา: “ฉันหิวน้ำ ฉันอยากดื่มน้ำ”
เมื่อเซียวซู่ได้ยินเช่นนั้น จึงหยุดเดินทันที “เธอพูดว่าอะไรนะ”
“ฉันบอกว่าฉันหิวน้ำ อยากดื่มน้ำ”
เซียวซู่หรี่ตาลง ทำเหมือนไม่เข้าใจ: “ในห้องครัวมีไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันรู้ว่าในห้องครัวมี” เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าลง ลุกขึ้นมานั่ง กระพริบตามองเขาด้วยความใสซื่อ: “แต่ตอนนี้นายเป็นแฟนฉันแล้วนะ นายต้องดูแลแฟนของตัวเอง ฉันบอกว่าหิวน้ำ นายก็ต้องไปรินน้ำให้ฉันสิ”
เซียวซู่: “…”
ตรรกะอะไรแปลกประหลาดขนาดนี้?
“เขามีแฟนไว้ให้เอาใจไงล่ะ อีกอย่างตอนนี้พวกเราแค่ลองคบกัน นายยังอยู่ในช่วงทดลองงานนะ! รีบไปสิ!”
เซียวซู่ไม่ต่อล้อต่อเถียงอะไรกับหล่อนอีก หันหลังเดินตรงไปที่ห้องครัวตามคำสั่ง จากนั้นไม่นานก็รินน้ำออกมาพร้อมยื่นให้หล่อนหนึ่งแก้ว ใครจะไปคาดคิดเมื่อเจียงเสี่ยวไป๋รับแก้วมากลับแสดงสีหน้ารังเกียจออกมา
“เซียวซู่ นี่สรุปว่านายเป็นแฟนได้ไหมเนี่ย? น้ำเย็นขนาดนี้ ฉันเป็นผู้หญิงนะ นายให้ฉันดื่มน้ำเย็น ถ้าฉันปวดท้องขึ้นมาจะทำอย่างไร?”
เซียวซู่: “?”
เจียงเสี่ยวไป๋กระพริบตาไปมา: “ช่วยเปลี่ยนเป็นน้ำอุ่นให้หน่อยสิ ขอบคุณนะ”
เซียวซู่รับแก้วมา ก่อนหันหลังกลับไปบ่นพึมพำ: “เอาแต่ใจ”
เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินคำพูดประโยคนี้ จึงรีบพูดขึ้น: “เอาแต่ใจที่ไหนกัน ผู้หญิงอย่างพวกเราร่างกายก็เย็นอยู่แล้ว อากาศแบบนี้ ถ้าแฟนของนายดื่มน้ำเย็นเข้าไปแล้วไม่สบาย สุดท้ายคนที่ต้องเป็นห่วงก็คือแฟนไม่ใช่หรือไง?”
ฟังดูเหมือนมีเหตุผล เซียวซู่ถึงกับเถียงไม่ออก ไม่นานนักเขาก็ไปเปลี่ยนเป็นน้ำอุ่นมาให้หล่อนหนึ่งแก้ว ในที่สุดเจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกพอใจ
เซียวซู่จึงกลับไปอาบน้ำร้อนที่ห้อง
ตอนที่เซียวซู่อาบน้ำ เขาคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้อยู่ตลอด รวมถึงเรื่องเมื่อคืน อันที่จริงความทรงจำของเขาชัดเจนมาก จนถึงตอนนี้ยังคงจดจำสีหน้าอารมณ์ของเจียงเสี่ยวไป๋ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้อย่างดี คิดไปคิดมา เขารู้สึกว่าร่างกายของตัวเองเปลี่ยนไปแปลกๆ
จากนั้นจึงทำให้การอาบน้ำครั้งนี้ เซียวซู่ใช้เวลาอาบนานมาก
รอให้เขาอาบน้ำเสร็จ ก็ผ่านไป40นาทีแล้ว เซียวซู่มองดูห้องรับแขกอันว่างเปล่า บนโซฟาไม่มีเงาของเจียงเสี่ยวไป๋แล้ว
เซียวซู่เดาว่าหล่อนคงไปอาบน้ำเตรียมตัวนอนเช่นกัน จึงไม่ได้ไปรบกวนหล่อน เขาเช็ดผมพลางเดินไปที่ห้องของตัวเอง
“ทำไมนายอาบน้ำนานขนาดนี้ล่ะ?”
เพิ่งเดินถึงข้างเตียง เสียงของหญิงสาวก็ดังขึ้นมาจากบนเตียง จนทำให้เซียวซู่ตกใจมาก
เมื่อหันกลับไปมอง เซียวซู่จึงเห็นเจียงเสี่ยวไป๋นอนกอดผ้าห่มของเขาอยู่อีกด้านหนึ่งของเตียง สายตามองตรงมาที่เขาพอดี
เซียวซู่หรี่ตาลง: “ทำไมเธอมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ?”
“นายถามอะไรแปลกๆ ตอนนี้พวกเราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม? ฉันอยู่ตรงนี้มีปัญหาอะไรไหม?”
เซียวซู่ขมวดคิ้วขึ้น เป็นแฟนกันต้องนอนด้วยกัน?
แม้ว่าทั้งสองคบกันแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน อีกอย่างเมื่อคืนเขาก็ทำเรื่องโง่ๆไปแล้วครั้งหนึ่ง ถ้านอนกับหล่อนโดยไม่ได้เป็นอะไรกัน จะเป็นยังไงนะ?
เมื่อคิดถึงตอนนี้ เซียวซู่จึงเม้มปาก จากนั้นดึงผ้าขนหนูลงมา: “งั้นผมไปนอนที่ห้องรับแขก”
เมื่อพูดจบก็หันหลังเดินออกไปข้างนอก
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
เซียวซู่หยุดชะงัก เมื่อได้ยินเสียงของเจียงเสี่ยวไป๋ถามขึ้น
“นายรังเกียจฉันเหรอ?”
เซียวซู่หันกลับไป ส่ายหน้าแสดงถึงการปฏิเสธ
“ในเมื่อไม่ได้รังเกียจฉัน แล้วทำไมนายต้องไปนอนที่ห้องรับแขกด้วยล่ะ?”
หล่อนถามถึงขนาดนี้แล้ว เซียวซู่จึงต้องตอบตามความจริง: “ตอนนี้พวกเราแค่ลองคบกัน ถ้านอนร่วมเตียงกันแบบนี้ คงดูไม่ดี”
“ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรสักหน่อย เป็นแฟนกันแล้ว นอนด้วยกันจะไปมีปัญหาอะไรล่ะ?”
เซียวซู่อยากพูดแต่ก็พูดไม่ออก เจียงเสี่ยวไป๋กลับพูดออกมาตรงๆ: “เมื่อคืนนายเอาแต่ใจเหมือนตอนนี้รึเปล่า?