บทที่1476ไม่พูดอยู่แล้ว
ถ้าเกิดเขาเชื่อคำพูดของผู้ใหญ่จริงๆ รู้สึกทั้งสองไม่เหมาะที่จะอยู่ด้วยกันล่ะก็
เจียงเสี่ยวไป๋แววตาระยิบระยับ และหัวเราะอย่างชิวๆ
“งั้นก็ไม่ต้องเอาเขาสิ”
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ เธอก็ไม่มีอะไรต้องอาลัยอาวรณ์แล้ว
เธอ เจียงเสี่ยวไป๋หยิบขึ้นได้ก็ปล่อยลงได้
ฟางถังถังเห็นรอยยิ้มของเธอ กลับพูดไม่ออก
นาทีนี้สิ่งที่เจียงเสี่ยวไป๋คิดคือ ขอแค่เซียวซู่มีการลังเลเล็กน้อย หรือว่าเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน งั้นเธอก็จะไปจากเขาอย่างไม่ลังเลเลย! และไปอย่างเด็ดขาดด้วย!
แต่แล้ว เหลียงหย่าเหอไม่ได้บอกข่าวนี้ให้กับลูกชายตัวเอง แต่สถานการณ์ของเธอก็ไม่ค่อยดีจริงๆ พอกลับไปก็ไม่หลับไม่นอนทั้งคืน ดึงสามีตัวเองคอยถามเรื่องนี้อย่างไม่หยุด
“ตาเซียว คุณว่าเรื่องนี้ควรจะทำยังไงดีคะ? ฉันไม่ได้ถามเด็กสองคนก็ไปดูดวงให้พวกเขา เดิมทีนึกว่าสามารถดูดวงออกมาได้อย่างดีอกดีใจกันทุกคน ใครจะรู้ว่าดูออกมาว่าแยกจากกัน นี่จะทำยังไงดี? เรื่องนี้ฉันไม่กล้าบอกเด็กสองคนเลย”
พูดเรื่องนี้กับเซียวหมิงจื้อทั้งคืน ตอนแรกเซียวหมิงจื้อยังปลอบใจเธอ
“ตอนนี้มันคอมมิวนิสต์จีนใหม่แล้ว พวกคุณยังเชื่อเรื่องแบบนั้นอีก คุณไม่ไปดู ก็ไม่เป็นแบบนี้แล้วไม่ใช่เหรอ? เด็กสองคนคบกันดีๆ ทั้งสองครอบครัวเจอหน้าก็มีความสุขดีไม่ใช่เหรอ? ทำไมต้องไปคิดเรื่องอนาคตที่มองไม่เห็นด้วย?”
เหลียงหย่าเหอรู้สึกที่เขาพูดมีเหตุผล: “ฉันก็รู้สึกเหมือนกันค่ะ เฮ้อ เพราะฉะนั้นทำไมพวกเราต้องไปดูดวงด้วย? อีกอย่างคุณว่านี่ผิดปกติหรือเปล่า? พูดแบบนี้คนเดียวก็แล้วไป พวกเราถามตั้งหลายคนล้วนพูดแบบนี้หมด คุณว่าตกลงเรื่องนี้จริงหรือเปล่าคะ?”
“จะเป็นเรื่องจริงได้ยังไง?” เซียวหมิงจื้อพูดอย่างจนปัญญา:“ใครจะไปรู้เรื่องของอนาคต? เรื่องมากมายล้วนคาดเดาไม่ได้ อีกอย่าง ถึงทั้งสองมีอะไรที่ผ่านไปไม่ได้จริงๆ นั่นก็ถือว่าทดสอบความรัก”
“ฉันก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ดี เรื่องนี้จะทำยังไงดีคะ? จะบอกเซียวซู่หรือเปล่า?”
“จะบอกลูกทำไม?” เซียวหมิงจื้อพูดอย่างไม่เห็นด้วย “เมื่อก่อนคุณเคยเห็นลูกมีแฟนมั้ย? ตอนนี้เขายอมมีแฟน แสดงว่าชอบเด็กคนนี้ ลูกชายคุณก็ไม่เด็กแล้ว อุตส่าห์ชอบคนๆนึงเข้า อย่าใช้วิธีที่งมงายแบบนี้ทำคนตกใจกลัวจนหนีเลย”
“คุณพูดแบบนี้เหมือนก็มีเหตุผลนะ แต่ฉันเป็นห่วงไม่ใช่เหรอคะ?”
เหลียงหย่าเหอถอนหายใจทีนึง ยังไงก็นอนไม่ลง จึงได้นั่งบนเตียงเลย: “ฉันชอบเสี่ยวไป๋มากแค่ไหนคุณก็รู้ อีกอย่างถึงฉันไม่พูด แม่ของเสี่ยวไป๋จะพูดกับเธอหรือเปล่า? ถึงเวลาถ้าเสี่ยวไป๋ไม่อยากเอาลูกของเราจะทำยังไง?”
“เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ไปดูดวงตั้งแต่แรกก็ไม่มีปัญหาแบบนี้แล้ว ถ้าคุณไม่ไปดู ทั้งสองครอบครัวคุยแค่เรื่องแต่งงานอย่างเป็นมิตร ก็มีความสุขดีไม่ใช่เหรอ? ผมก็บอกแล้วพวกผู้หญิงอย่างพวกคุณนี่ว่างเกินไป ถึงคิดทำเรื่องพวกนี้มาเพิ่มความกลุ้มใจให้ตัวเอง”
“จะพูดแบบนี้ก็ไม่ได้นะ!”เหลียงหย่าเหอตบสามีตัวเองทีนึง และพูดอย่างรังเกียจ: “คุณก็รู้แต่ไปทำงานๆ เรื่องแต่งงานของลูกชายคุณๆเคยต้อนรับขับสู้มั้ย? เหมือนลูกชายเป็นแค่ของฉันคนเดียวอย่างงั้นแหละ ตอนนี้ฉันมีเรื่องปรึกษากับคุณ คุณกลับดีมาโทษฉันหมดเลย งั้นแบบนี้ดีกว่า ฉันไม่ยุ่งแล้ว คุณยุ่งคนเดียวเลย!”
พอพูดจบ เหลียงหย่าเหอก็หันไปไม่สนใจเซียวหมิงจื้ออีก
เดิมทีเซียวหมิงจื้อก็ง่วงแล้ว ตอนนี้ก็เวลาพักผ่อนแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องทำงานอีก ปรากฏเหลียงหย่าเหอทะเลาะตลอดไม่ให้เขานอน ในใจเขาหงุดหงิดมาก แต่เพราะเป็นภรรยาของตัวเอง ได้แต่ฝืนทนไว้
ทีนี้เห็นเธอโกรธ ก็ไม่กล้าชักช้าอีก ได้แต่รีบลุกมานั่งที่เตียง
“โอเคๆ ผมพูดผิดแล้ว นี่ไม่ใช่ปัญหาของคุณ ต้องโทษผมที่ปกติให้ความสำคัญกับงานเกินไป ต่อไปผมจะใช้เวลาสั่งสอนลูกดีๆ เรื่องนี้คุณอย่ายุ่งเลย คุณรีบนอนเถอะ ให้ผมมาจัดการเอง”
เหลียงหย่าเหอไม่ปล่อยเขาเพราะเหตุนี้ กลับจ้องเขาแล้วถาม: “แล้วคุณจะจัดการยังไง? คุณคงไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดกับเซียวซู่มั้งคะ?”
“ผมไม่พูดอยู่แล้ว” ก่อนอื่นเซียวหมิงจื้อก็ได้ปฏิเสธความคิดนี้ก่อน“ผู้หญิงที่ลูกชายเราเลือกเอง พวกเราที่เป็นพ่อกับแม่เชื่อเขาแน่นอน”
พ่อแม่ของเซียวซู่ไม่ค่อยเหมือนพ่อแม่ของเจียงเสี่ยวไป๋ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าเซียวซู่กับเจียงเสี่ยวไป๋ตอนแรกอยู่ด้วยกันแค่เป็นแฟนกันหลอกๆ ต่อมาถึงเล่นละครเป็นความจริง พวกเขานึกว่านี่คือแฟนที่เซียวซู่หาเอง
“ฉันเชื่อลูกอยู่แล้ว และฉันก็ชอบเสี่ยวไป๋มากด้วย นอกจากเสี่ยวไป๋ฉันไม่อยากได้ลูกสะใภ้อื่นแล้ว”
เสี่ยวไป๋หน้าตาสะสวยจริงๆ เมตตาและอ่อนโยนกับผู้คน ที่สำคัญคือเหลียงหย่าเหอชอบเด็กผู้หญิงตั้งแต่เด็ก เสียดายหลังจากคลอดเซียวซู่แล้วร่างกายไม่ค่อยดี และคงเพราะไม่มีวาสนา ต่อมาเธอก็ไม่ท้องลูกคนที่สองอีกเลย ดังนั้นอยากได้ลูกสาวคนนึงก็ไม่มีโอกาสเลย
กว่าลูกชายตัวเองจะหาแฟนได้คนนึงไม่ใช่ง่ายๆ แถมยังเป็นเด็กผู้หญิงที่เชื่อฟัง หน้าตาสะสวยและเฉลียวฉลาด อย่าบอกเลยว่าเหลียงหย่าเหอชอบมากแค่ไหน
“ผมรู้ว่าคุณชอบเสี่ยวไป๋ แต่คุณแน่ใจหรือว่าพ่อแม่ของเสี่ยวไป๋จะไม่บอกเธอ? คุณดูหลังจากคุณกลับมาก็วิตกกังวลมาก พ่อแม่ของฝั่งโน้นถึงเวลาคือจะเอาลูกสาวแต่งเข้าตระกูลเราเชียวนะ ต้องกังวลมากกว่าเราแค่ไหน?”
เหลียงหย่าเหอฟังแล้วรู้สึกมีเหตุผล
“ใช่สิ เสี่ยวไป๋เป็นลูกคนเดียว ดูการพูดการจาของเธอก็รู้ว่าต้องถูกพ่อแม่อบรมสั่งสอนมาดีแน่นอน ต้องกังวลมากแน่ๆ เฮ้อ งั้นจะทำยังไงดี?”
“ตอนนี้คุณกังวลแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอก ดึกดื่นป่านนี้นอนดีกว่า ผมบอกแล้วว่าเรื่องนี้ให้ผมมาจัดการ นอนดึกไม่ดีต่อสุขภาพนะ”
“นอนๆๆคุณก็รู้จักแต่นอน ลูกสะใภ้คุณจะหนีไปอยู่แล้ว คุณยังมีกะจิตกะใจนอนอีก!” เหลียงหย่าเหอโมโหจนโยนหมอนไปที่หน้าของเซียวหมิงจื้อ และพลิกผ้าห่มวิ่งออกไป
เซียวหมิงจื้อถูกหมอนโยนใส่หน้าแล้วจนปัญญาสุดๆ แต่ก็ได้ตามเหลียงหย่าเหอไปที่ห้องรับแขก สุดท้ายเขาได้ยื่นมือถือให้เธอ
“ถ้าคุณไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ งั้นคุณโทรหาเซียวซู่ตอนนี้เลย บอกเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้เขา”
เหลียงหย่าเหอฟังแล้วช็อค ได้เงยหน้าเผชิญกับแววตาของเขา เธอส่งเสียงตกใจและพูดอย่างยากที่จะเชื่อ “นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”
“ก็คุณไม่รู้จะจัดการยังไงไม่ใช่เหรอ? งั้นก็บอกเรื่องนี้กับลูกโดยตรงสิ ภรรยาของเขาเอง ให้เขามาปวดหัวเอง”
ในใจของเหลียงหย่าเหอ เย็ดแม่ง อยากจะตีคนจริงๆ
เธอปฏิเสธที่จะคุยกับเซียวหมิงจื้อ
ต่อมาเซียวหมิงจื้อใช้เหตุผลสารพัดเกลี้ยกล่อมไปครึ่งค่อนคืน เหลียงหย่าเหอก็ยังไม่ฟังเขา เขาก็นอนไม่หลับแล้ว สองสามีภรรยาจึงได้นั่งอยู่ที่ห้องรับแขกจนถึงเช้า
ส่วนเหลียงหย่ากว่าจะอดทนมาถึงท้องฟ้าสว่างไม่ใช่ง่ายๆ เธอได้หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาตู้เซียวหยู่ทันที
เดิมทีเธอยังคิดอยู่ว่า โทรไปเวลานี้จะเช้าเกินไปหรือเปล่า ตู้เซียวหยู่จะยังไม่ตื่นหรือเปล่า? เธอไปรบกวนฝ่ายตรงข้ามหรือเปล่า
แต่เสียงโทรออกดังปุ๊บ โทรศัพท์ก็มีคนรับสายทันทีเลย
“ฮัลโหล?”
“ฮัลโหล เซียวหยู่!”เหลียงหย่าเหอเรียกด้วยความเกรงใจ เพราะไม่ได้นอนมาทั้งคืน นาทีนี้เสียงของเธอค่อนข้างแหบแห้ง
“เธอหรือเนี่ย”ในขณะเดียวกัน เสียงของตู้เซียวหยู่ก็เหมือนเธอ แฝงด้วยความเหนื่อยล้าและหมดเรี่ยวแรง