บทที่1515 เธอกำลังแคร์อะไรอยู่
“คลอดก่อนแล้วค่อยออกไป?” เจียงเสี่ยวไป๋ประคองเอวของตัวเอง ใช้แรงไปมากกว่าจะนั่งลงบนโซฟาได้ พลางพูดออกไปอย่างไม่พอใจ “รอให้คลอดแล้วฉันเกรงว่าจะไม่มีโอกาสน่ะสิ ถึงตอนนั้นก็ยังต้องอยู่เดือนอีก อีกอย่างหลังจากที่คลอดลูกแล้วก็ต้องเลี้ยงลูกอยู่ทุกวัน ฉันจะไม่สามารถทิ้งเขาไว้ที่บ้านแล้วออกไปเองได้หรอก”
“ได้สิ” เสี่ยวเหยียนให้คำแนะนำเธอไปด้วยรอยยิ้ม “ถึงตอนนั้นเธอให้ลูกดื่มนม แล้วให้พ่อแม่เธอช่วยดู เธอออกไปเดินเล่นข้างนอกเป็นครั้งคราว เป็นไง?”
พูดไปแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกมีความสุขมาก
พ่อแม่ของเธอต่างมีชีวิตแข็งแรงดีอยู่กันทั้งคู่ พ่อแม่ของเซียวซู่เองก็ด้วย ถึงตอนนั้นถ้าคลอดฝาแฝดมาคู่นึง ก็มีญาติๆกลุ่มใหญ่เข้ามาช่วยเลี้ยงอยู่แล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋กับเซียวซู่ทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นลูกชายลูกสาวคนเดียวกันทั้งคู่ เด็กที่คลอดออกมาก็เลยจะต้องเป็นสิ่งมีค่าในสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสี่คนนี้แน่ๆ
ฟังมาจนถึงตรงนี้แล้ว เจียงเสี่ยวไป๋คิดว่าที่เธอพูดมาเหมือนจะไม่เลวเลย
“ที่เธอพูดมาก็ถูก แต่ฉันก็ยังอยากออกไปเดินเล่นข้างนอกก่อนที่จะเข้าห้องคลอดอยู่เลย เธอออกไปเป็นเพื่อนฉันเถอะนะ?”
“ไม่ได้จริงๆ!” เสี่ยวเหยียนส่ายหน้า ปฏิเสธเธอไปอย่างแน่วแน่มาก “ตอนนี้เธอมีโอกาสคลอดลูกได้ตลอดเวลา ถ้าเกิดออกไปเดินกันอยู่แล้วเธออยากคลอดขึ้นมาจะทำไง? ดังนั้นแล้วเธอก็อยู่บ้านดีๆน่าจะกว่านะ? จริงสิ เซียวซู่ล่ะ?” พูดกันมาอยู่นาน เสี่ยวเหยียนเพิ่งจะสังเกตได้ว่าเซียวซู่ไม่อยู่บ้าน
“ออกไปแล้วล่ะมั้ง ที่บ้านมีแค่ฉันคนเดียว อีกอย่างวันนี้เขาต้องออกไปทั้งวันกว่าจะกลับมา ฉันอยู่บ้านคนเดียวมันน่าเบื่อมาก ก็เลยอยากให้เธอออกไปเดินเล่นกับฉัน”
ที่แท้เซียวซู่ก็ไม่อยู่นี่เอง?
เสี่ยวเหยียนเอาของขวัญวางลงบนโต๊ะ
“งั้นก็ดูเหมือนว่าฉันจะหมดหนทางที่จะเอาของขวัญขอบคุณส่งให้ถึงมือเขาแล้วสิ”
“ของขวัญขอบคุณ?”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่เข้าใจ “อยู่ดีๆทำไมถึงให้ของขวัญขอบคุณเขาล่ะ?”
“ช่วงก่อนหน้านี้หานชิงเกิดอุบัติเหตุ”
“อะไรนะ?” เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินเสี่ยวเหยียนบอกว่าสามีของเธอเกิดอุบัติเหตุ ก็เกิดความกังวลขึ้นมาทันที “ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
หลังจากที่กังวลออกมาเสร็จ ก็สูดหายใจเข้าลึกๆอีกครั้ง “ไม่ใช่สิ ดูจากท่าทางเธอตอนนี้แล้ว คงจะไม่เป็นอะไรเสียมากกว่า เมื่อกี้ฉันกังวลนิดหน่อย ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไร เธอเองก็เป็นห่วงฉันเหมือนกัน คุณหมอบอกเขาแล้วว่าแค่สมองกระทบกระเทือนนิดหน่อยพักผ่อนให้ดีก็ไม่มีปัญหาแล้ว”
“งั้นก็ดีแล้ว”
“วันนั้นตอนที่ฉันอยู่ที่ซูเปอร์มาเก็ตก็บังเอิญเจอกับเซียวซู่ เขาช่วยพาฉันไปส่งที่โรงพยาบาล แต่เรื่องวันนั้นมันเยอะเกินไป แล้วฉันก็รีบร้อนที่จะไปหาหานชิงด้วยอีก ก็เลยไม่มีโอกาสได้ขอบคุณเขาเลย จนช่วงสองวันมานี้พอมีเวลาว่างขึ้นมา ถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่าซื้อของสักหน่อยแล้วกัน”
หืม?
เจียงเสี่ยวไป๋ฟังมาจนถึงประเด็นหลัก
หลายวันก่อนหานชิงเกิดอุบัติเหตุ ส่วนเสี่ยวเหยียนบังเอิญเจอเซียวซู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เซียวซู่ไปส่งเธอที่โรงพยาบาล?
งั้นวันนั้นสาเหตุที่เซียวซู่ทิ้งเธอที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ก็เพราะว่าเสี่ยวเหยียน?
ไม่รู้ว่าทำไม เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกว่าน้ำลายในปากเหมือนว่ามันจะเปลี่ยนมาเป็นขมพร่าขึ้นมา วันนั้น…เซียวซู่บอกเองไม่ใช่หรือไงว่าไปส่งผู้หญิงคนหนึ่งที่โรงพยาบาล?”
เขายังบอกว่า เธอเจ็บขา
ไม่สิ นี่เป็นสิ่งที่เขาพูดมา หรือว่าเป็นเธอที่คาดเดาไปเอง? เจียงเสี่ยวไป๋จู่ๆก็สับสนขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ข้างหูก็มีเสียงระเบิดตูมดังขึ้น
ในนาทีนั้นเอง รู้สึกว่าสมองเหมือนกับถูกอะไรทุบลงมา
“เสี่ยวไป๋ เสี่ยวไป๋?”
เจียงเสี่ยวไป๋ได้สติกลับมา เห็นเสี่ยวเหยียนมองเธอด้วยสีหน้าเป็นกังวล เธอถึงได้เผยรอยยิ้มออกมาใหม่อีกครั้ง
“เป็นอะไรไป?”
“คำพูดนี้ควรจะเป็นฉันที่เป็นฝ่ายถามเธอมากกว่านะ”
เสี่ยวเหยียนมองเธอไปด้วยความกังวล “เมื่อกี้นี้หลังจากที่ฉันพูดเรื่องเซียวซู่ไปสีหน้าเธอ เธอก็แปลกไป ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย? ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า?”
“เปล่า ไม่มี!” รอยยิ้มของเจียงเสี่ยวไป๋กลับมาอีกครั้ง โบกมือพูดอธิบายออกไป “ฉันก็แค่คิดว่าสามีของเธอไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เธอไม่ได้พูดอะไรผิด วางใจเถอะ”
“งั้นก็ดีแล้ว”
ถึงแม้ว่าจะพูดไปอย่างนี้ แต่สายตาของเจียงเสี่ยวไป๋เมื่อกี้นี้เสี่ยวเหยียนกลับคุ้นเคยกับมันมาก นั่นมันเหมือนกับสีหน้าที่ผิดหวังมากและทั้งคาดไม่ได้อยู่บ้าง หรือว่าเสี่ยวไป๋จะไม่รู้เรื่องที่เซียวซู่พาเธอไปส่งที่โรงพยาบาลงั้นหรอ?
หรือว่าเซียวซู่จะไม่ได้บอกเธอ?
ถ้าอย่างนี้ล่ะก็ นั่นมันก็ทำให้พวกเขาเกิดความเข้าใจผิดกันได้ง่ายๆเลยสิ?
เสี่ยวเหยียนไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอธิบายออกไปหรือเปล่า แต่ในตอนนี้ยิ่งพูดไปอีกนิด ก็เหมือนกับว่ายิ่งอยากปกปิด กลับกลายเป็นเปิดเผยให้โลกรู้มากกว่าเดิมขึ้นมาอีก
ถ้าไม่พูด ถ้าเกิดเข้าใจผิดขึ้นมาจะทำไง?
คิดไปคิดมาแล้ว เสี่ยวเหยียนก็ตัดสินใจว่าเล่าเหตุการณ์ตอนนั้นไปสักหน่อยดีกว่า
“ตอนนั้นฉันซื้อของอยู่ที่ซูเปอร์ ได้รับสายว่าหานชิงเกิดอุบัติเหตุสติก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตั้งใจอยากจะไปโรงพยาบาล จากนั้นตอนที่มาถึงชั้นล่างก็ชนคนเข้า ฉันไม่รู้ว่าคนที่ฉันชนจะเป็นเซียวซู่ จากนั้นก็ให้เขาไปส่งฉันที่โรงพยาบาลไปอย่างรีบๆ ฉันว่าเขาคงเห็นว่าขาฉันบาดเจ็บ ก็เลยไม่กล้าปฏิเสธ ถึงได้พาฉันไปล่ะมั้ง”
คำโน้มน้าวของเธอเหมือนกับวิธีการพูดของพนักงานขายเลยไม่มีผิด
เจียงเสี่ยวไป๋ก็เลยฟังออกได้อย่างรวดเร็วว่าเธอไม่ได้โกหก
เพียงแต่ ในใจของเธอมันก็รู้สึกเสียใจนิดหน่อย
ทำไม เซียวซู่ถึงไม่บอกเธอว่าคนนั้นก็คือเสี่ยวเหยียนกันล่ะ?
ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเดิมทีมันก็ค่อนข้างจะละเอียดอ่อนอยู่แล้ว ตอนนี้รู้ว่าคนที่เขาไปส่งวันนั้นแท้จริงแล้วเป็นเสี่ยวเหยียน ในใจของเจียงเสี่ยวไป๋เองก็…
“ไม่เป็นไร” เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหน้าพร้อมฝืนยิ้มออกมา “ฉันไม่ได้คิดมากมายอย่างนั้น แล้วขาเธอไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ย? หายดีหมดแล้วใช่มั้ย?”
“อืม หายดีหมดแล้ว ให้เธอเป็นห่วงแล้ว”
“ของขวัญวางไว้ตรงนี้ก็ได้ รอตอนที่เขากลับมา ฉันจะช่วยเอาให้เขาแน่นอน”
ต่อจากนั้นการแสดงออกของเจียงเสี่ยวไป๋ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไรอีก เสี่ยวเหยียนคุยกับเธออยู่สักพักกว่าจะกลับไป
รอจนหลังจากที่เสี่ยวเหยียนกลับไป ภายในห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง เจียงเสี่ยวไป๋แบกท้องโตยืนอยู่ด้านนอกประตูเงียบๆ
ในหัวก็คิด ทั้งหมดล้วนแล้วจะเป็นภาพที่เซียวซู่ส่งเธอไปโรงพยาบาลวันนั้นทั้งนั้น
เธอเดินออกมาจากห้องลองชุด แต่ผลสุดท้ายกลับไม่เห็นแม้แต่เงา เธอรออยู่ตรงนั้นอยู่นาน เขาก็ไม่กลับมา
เธอรู้ว่าตอนนี้ ตัวเองไม่ควรไร้เหตุผล แต่เรื่องวันนั้นความจริงแล้วเธอก็ไม่ได้ใส่ใจ
เธอไม่ได้เก็บมาใส่ใจ
แต่ตอนนี้หลังจากที่เธอรู้ว่าคนนั้นเป็นเสี่ยวเหยียน ในใจของเจียงเสี่ยวไป๋ก็ไม่ได้สบายใจอย่างนั้นขึ้นมา
เธอไร้เหตุผลเกินไปงั้นหรอ? ทำไมเธอรู้สึกว่าในใจมันโหวงๆ
เซียวซู่เขายังมีความรู้สึกต่อเสี่ยวเหยียนอย่างกับรักเก่าที่ยากจะลืมใช่มั้ย?
ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว ทำไมพอเขาเห็นเธอบาดเจ็บแล้ว ก็ทิ้งเธอเอาไว้ข้างหลัง จากไปโดยที่ไม่ได้ทิ้งคำพูดอะไรเอาไว้แม้แต่คำเดียว?
ไม่สิๆ!
เจียงเสี่ยวไป๋พยายามส่ายหน้าออกมา พยายามไล่ความคิดฟุ้งซ่านพวกนั้นออกไปจากหัว เธอไม่ควรคิดฟุ้งซ่านสิ!
เซียวซู่ไม่ใช่คนอย่างนั้น อีกอย่างตอนที่เธอแต่งให้เขาก็รู้ถึงความรู้สึกที่เขามีต่อเสี่ยวเหยียนอยู่แล้ว
เธอรู้มาโดยตลอดนี่ แล้วเธอกำลังแคร์อะไรอยู่?
เจียงเสี่ยวไป๋ยืนอยู่นานอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว จนสองขาของเธอรู้สึกเมื่อยไปหมด เธอถึงได้สติกลับมา รีบเดินไปนั่งลงบนโซฟา
ตาร้อนขึ้นมาเล็กน้อย จมูกก็รู้สึกแสบขึ้นมาเล็กน้อย
ยิ่งเจียงเสี่ยวไป๋พยายามควบคุมไม่ให้ไปคิด ก็ยิ่งไปคิดทางเรื่องที่ว่าเซียวซู่จะยังคงมีความรู้สึกประมาณว่าเป็นรักเก่าที่ยากจะลืมต่อเสี่ยวเหยียนอยู่
วันทั้งวัน เอาแต่คิดแต่เรื่องนี้
ทำไมเขาไม่บอกเธอล่ะ? ถ้าบอกเธอมาตรงๆ เธอก็ไม่ถือสาอะไรแล้ว เขาไม่กล้าพูด หรือว่าคิดว่าไม่จำเป็นจะต้องพูด?