บทที่ 1632 มาด้วยตัวเอง
เช้าวันต่อมาพอนึกได้ว่าวันนี้เลิกเรียนยู่ฉือยี่ซูจะมาหาตนเอง ถางหยวนหยวนก็รู้สึกวิตกกังวลมาก ทั้งวันไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร ทั้งวันจึงผ่านไปด้วยบรรยากาศที่วิตกกังวล
เมิ่งเข่อเฟยพบว่าเธอใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พูดอย่างเป็นห่วงว่า“เป็นอะไรไป
วันนี้ทั้งวันใจลอยกี่ครั้งแล้ว”
ถางหยวนหยวนส่ายหน้า“เปล่า ไม่เป็นอะไร”
“ใช่แล้ว ช่วงนี้เธอท่าทางอารมณ์ไม่ค่อยดี ถ้าอย่างนั้นหลังเลิกเรียนพวกเราไปเดินช้อปปิ้งกันดีมั้ย ฉันจะได้ซื้อเสื้อผ้าสักชุด”
เมื่อเจอคำชักชวนของเมิ่งเข่อเฟย ถ้าเป็นเวลาปกติ ถางหยวนหยวนต้องตกลงแน่นอน แต่วันนี้เธอนัดกับพี่ชายไว้แล้ว ถ้าหากผิดนัดตอนนี้ใน
“ขอโทษด้วยนะเฟยเฟย วันนี้ฉันมีธุระอย่างอื่น ไปช้อปปิ้งเป็นเพื่อนไม่ได้แล้ว”
“ธุระอย่างอื่นเหรอ”
เมิ่งเข่อเฟยสงสัยเล็กน้อย“ธุระอะไรกัน”
ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงเรื่องที่จงฉู่เฟิงมาหาถางหยวนหยวนเมื่อคืน จึงพูดว่า“พี่ฉู่เฟิงมาหาเธออีกแล้วเหรอ
พวกเธอนัดกันเรียบร้อยแล้วเหรอ
ถ้าหากเป็นแบบนี้ อย่างนั้นก็ไม่ควรผิดนัด อย่างนั้นรออีกสองวันเธอมีเวลาว่างแล้วค่อยไปก็ได้”
เมิ่งเข่อเฟยพูดมาขนาดนี้แล้ว ถางหยวนหยวนก็ไม่ได้อธิบายอีก พยักหน้ารับ “ขอโทษนะเฟยเฟย ฉันจัดการธุระเสร็จ อีกสองวันจะไปเป็นเพื่อนเธอแน่นอน”
“ได้เลย ตอนแรกก็เพราะเธออารมณ์ไม่ดี ฉันก็อยากจะไปเป็นเพื่อนนั่นแหละ ในเมื่อมีคนไปเป็นเพื่อนเธอแทนฉันแล้ว อย่างนั้นฉันก็เบาใจแล้ว”
กลัวว่าถางหยวนหยวนจะคิดมาก ดังนั้นเมิ่งเข่อเฟยยื่นมือมาบีบแก้มเธอ “ฉันก็แค่อยากให้เธอมีความสุข ดังนั้นไปให้สบายใจเถอะ”
“ขอบคุณนะเฟยเฟย”
ถึงเวลาเลิกเรียน ถางหยวนหยวนก็เก็บของอย่างเชื่องช้า ยื้อเวลาได้ก็ยื้อออกไปเรื่อยๆ
หลังจากเมิ่งเข่อเฟยเก็บของเสร็จแล้ว แอบเห็นเธอยังรีรอไม่รีบร้อน“เธอไม่รีบหน่อยเหรอ”
ถางหยวนหยวนพูดเบาๆ“ไม่ได้รีบขนาดนั้น เธอไปก่อนเถอะ”
“อย่างนั้นก็ได้”
หลังจากเมิ่งเข่อเฟยเก็บของเสร็จแล้วก็ออกจากห้องเรียน เธอที่ตอนแรกคิดจะตรงไปที่ห้องสมุดเลย จู่ๆกลับนึกขึ้นได้ว่าปากที่ตนเองจะใช้หมึกหมดแล้ว ดังนั้นจึงเปลี่ยนทาง เดินไปทางไปด้านนอกโรงเรียน เตรียมจะไปซื้อของที่ร้านหนังสือเสียหน่อย
ตอนเดินมาถึงหน้าประตูโรงเรียน พบว่ามีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังรวมตัวกันมองอะไรอยู่ เมิ่งเข่อเฟยไม่รู้สาเหตุ ว่าเกิดอะไรขึ้น
“หล่อจังเลยอะ! นี่คือใครเหรอ”
“ทำไมถึงมาอยู่หน้าประตูโรงเรียนของพวกเรา เขามารับแฟนเขาเหรอ”
“อื้อฮือหล่อขนาดนี้ น่าอิจฉาจัง”
ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเอามือแนบแก้มกระซิบกระซาบพลางมองไปที่จุดหนึ่ง
เมิ่งเข่อเฟยรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ไม่อยากจะเข้าร่วมด้วย แต่ว่าทางออกประตูโรงเรียนจำเป็นต้องผ่านระหว่างพวกหล่อนไป จึงได้แต่เดินไปด้านนอกอย่างจำใจ เดินพลางเอ่ยพลาง “ขอโทษนะคะ ช่วยหลีกหน่อยค่ะ”
ไม่ใช่ง่ายๆที่จะหลุดออกมาได้ เมิ่งเข่อเฟยถอนหายใจอย่างโล่งอก ตอนเตรียมจะไปร้านหนังสือ กลับพบร่างที่คุ้นเคยยืนอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนโดยบังเอิญ
ชายหนุ่มร่างสูงและผอมยืนพิงข้างกำแพง แต่งกายด้วยชุดลำลองเรียบง่าย สายตาหลุบมองที่พื้น ให้ความรู้สึกเกียจคร้านอย่างยิ่ง แต่ก็ท่าทางหยิ่งยโสมาก มีลมหายใจที่ห้ามคนเข้าใกล้แผ่ออกมารอบตัว
ยู่ฉือยี่ซู! จังหวะการเต้นของหัวใจเมิ่งเข่อเฟยเพิ่มความเร็วขึ้นมา
ผ่านมาหลายวัน คิดไม่ถึงว่าเธอจะได้พบเขาอีก ยังคงหล่อเหลาจนทำให้เธอไม่อาจละสายตาได้
แต่ว่า ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่
ทันใดนั้น เมิ่งเข่อเฟยนึกถึงเรื่องที่คุยกับถางหยวนหยวนเมื่อตอนกลางวัน สีหน้าเธอเปลี่ยนไปทันที ที่แท้เขาก็มาหาถางหยวนหยวน แต่ทำไมถางหยวนหยวนไม่บอกตน คนที่นัดเธอออกไปวันนี้ คือยู่ฉือยี่ซูไม่ใช่จงฉู่เฟิงหรือ
หรือว่า เธอไม่เชื่อใจตนเองขนาดนี้แล้ว
หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ดังนั้นไม่อยากให้ตนรู้ว่าเธอออกไปกับยู่ฉือยี่ซู
ยิ่งคิด สีหน้าเมิ่งเข่อเฟยก็ยิ่งขาวซีด
และยู่ฉือยี่ซูที่ยืนพิงกำแพงอยู่นั้นก็กลับรู้ตัว สายตามองมาทางเธอ
เมิ่งเข่อเฟย
เมิ่งเข่อเฟยชะงัก ได้ยินเสียงผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังดังขึ้น
“ว้ายๆๆ เขามองมาทางนี้แล้ว เขากำลังมองฉันเหรอ”
“สวรรค์ หล่อเกินไปแล้ว!”
ยู่ฉือยี่ซูเม้มริมฝีปากบางเดินมาทางเมิ่งเข่อเฟย
“เมิ่งเข่อเฟย”
เขาเอ่ยปากเรียกชื่อเธอ เสียงเข้มและน่าดึงดูด
“มีแค่เธอคนเดียวเหรอ”
เมิ่งเข่อเฟยจึงได้ตั้งสติกลับมาได้“ใช่ แค่ฉันคนเดียว คุณมาหาหยวนหยวนเหรอคะ”
“เธออยู่ที่ไหน”
“ยังเก็บของอยู่ข้างใน อีกไม่นานน่าจะออกมาแล้ว”
“อืม”
ไม่ได้พูดอะไรแล้ว เมิ่งเข่อเฟยรู้สึกก้าวขาไม่ออกเล็กน้อย แต่เธอรู้ ว่าตนเองควรไปแล้ว มิฉะนั้นศักดิ์ศรีของเธอจะเอาไปไว้ที่ไหน
แต่กลับเอ่ยถามอย่างน่าผิดหวังว่า“ต้องการให้ฉันเข้าไปเรียกเธอมั้ยคะ”
“ไม่ต้องหรอก เธอรับปากผมแล้ว”
ยู่ฉือยี่ซูกลับปฏิเสธข้อเสนอเธออย่างเรียบๆ
เมิ่งเข่อเฟยก็หน้าแดงเลย หัวสมองก็รุ่มร้อน ทำไมเธอต้องถามด้วย ก้มหน้าเดินไปก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ
คิดมาถึงตรงนี้ เธอกัดริมฝีปากล่าง กำหมัดด้วยความลำบากใจ หมุนตัวแล้วเดินไป
เพื่อนนักศึกษาที่อยู่ด้านหลังไล่ตามมา ถามอย่างตื่นเต้นว่า“เมิ่งเข่อเฟย เธอรู้จักกับเขาเหรอ เขาเป็นใคร”
“ใช่ๆ ทำไมเธอถึงรู้จักผู้ชายที่หล่อขนาดนี้ได้ แนะนำให้พวกเรารู้จักหน่อยสิ”
เมิ่งเข่อเฟยตอบอย่างรำคาญเล็กน้อยว่า“ก็แค่รู้จัก ไม่ได้สนิท”
“เธอหมายความว่ายังไง พวกเราก็แค่ให้เธอช่วยแนะนำให้พวกเรารู้จักแค่นั้นเอง”
เมิ่งเข่อเฟยสาวเท้าเร็วๆ ไม่อยากจะฟังคำพูดของคนพวกนั้นอีก
ในที่สุด ถางหยวนหยวนก็เกือบจะเดินถึงประตูโรงเรียนแล้ว ออกมาเชื่องช้าง พอออกมาก็มองเห็นร่างของยู่ฉือยี่ซู เธอยืนอยู่ที่เดิมไม่อยากไป
จากไกลๆ สายตาของยู่ฉือยี่ซูมองมาที่ใบหน้าเธอ กวักมือมาทางเธอ
“เธอยังคิดจะเป็นหอยทางอยู่ที่ตรงนั้นอีกนานมั้ย”
หอยทากเหรอ
ถางหยวนหยวนหน้าแดงก่ำ เถียงไปว่า“ฉันไม่ใช่หอยทาก”
“ในเมื่อไม่ใช่ ก็รีบมาหน่อยสิ”
ถางหยวนหยวนกัดริมฝีปากล่าง ไม่ขยับ
ทั้งสองคนไม่มีใครยอมใคร หลังจากนั้นพักใหญ่ยู่ฉือยี่ซูก็สาวเท้าก้าวมาตรงหน้าเธอ ยื่นมือกดที่ศีรษะเธอ“เดินมาเองมันยากขนาดนั้นเลยเหรอ ต้องให้พี่เป็นฝ่ายเดินมาให้ได้ใช่มั้ย”
“อย่าถูกตัวฉัน!”
ถางหยวนหยวนปัดมือเขา ท่าทางเกรี้ยวกราดดุดัน
“ดุขนาดนี้เลย”
ยู่ฉือยี่ซูถอนหายใจอย่างหมดปัญญา เอามือกลับมา“ไม่แตะก็ไม่แตะ ไปเถอะ”
ถางหยวนหยวนสะพายกระเป๋าหนังสือตนเองแน่น มองรองเท้าของเขาพลางเอ่ยว่า“พูดที่นี่ก็ได้ พูดจบฉันยังต้องไปทำการบ้านอีก”
หลังจากเงียบอยู่นาน ยู่ฉือยี่ซูจึงพูดขึ้นมาใหม่ว่า
“ข้างๆยังมีเพื่อนนักศึกษาอยู่ เธอแน่ใจเหรอว่าจะคุยเรื่องที่เธอดื่มชานมจนอ้วกในวันนั้นที่นี่”
ได้ยินดังนั้น ถางหยวนหยวนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ยู่ฉือยี่ซูตามมาด้านหลัง ตามมาด้านหลังเธออย่างเร็วมาก แต่ว่าเมื่อเขาเดินมาข้างเธอถางหยวนหยวนก็รีบเร่งฝีเท้าเป็นวิ่งเหยาะๆไปข้างหน้า รักษาระยะห่างกับเขาช่วงหนึ่ง
พอยู่ฉือยี่ซูตามมาทัน เธอก็วิ่งเหยาะๆหนีไปอีกสองสามก้าว
หลังจากนั้นอีกหลายครั้ง ยู่ฉือยี่ซูก็ถามอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรว่า“เธอเหนื่อยมั้ยเนี่ย”
ถางหยวนหยวนมองไปรอบๆไม่มีใคร จึงได้หยุดฝีเท้าลง
“เรื่องดื่มชานมวันนั้น คุณห้ามบอกใครนะ