กวนจิ้งตัวแข็งทื่อ ในใจรู้สึกลุกลี้ลุกลน ใครเนี่ย ใครมันโทรหาเขาตอนนี้ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาในขณะที่สายตาอันเฉียบคมของจงจิ่งห้าวกำลังมองอยู่ เมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์ขึ้นมา ก็ทำให้รู้สึกราวกับยกภูเขาออกจากอก
กวนจิ้งยืนตัวตั้งหลังตรง ก่อนจะรับสาย
หลินซินเหยียนกลืนอาหารที่อยู่ในปากก่อนจะพูดสายกับเขา ” เรื่องที่ฉันให้คุณไปหา เป็นยังไงบ้าง ”
กวนจิ้งนึกอยู่นานแต่ก็นึกไม่ออก เธอให้เขาไปหาเรื่องอะไรกัน
หลินซินเหยียนวางตะเกียบลง ” ฉันให้คุณไปหาข้อมูลของหลี่จ้านจ้างบริษัทนายหน้าทั้งหมดไง คุณลืมไปแล้วเหรอ หรือว่ายังไม่ได้หา ”
กวนจิ้งเลิ่กลั่กอยู่พักใหญ่ ถึงจะเป็นสายของหลินซินเหยียนก็เถอะ แต่เขาไม่สามารถคุยโทรศัพท์ต่อหน้าผู้บริหารทางบริษัทได้หรอก ที่จะมานั่งฟังเสียงโทรศัพท์ จนเสียเวลาการประชุม
กวนจิ้งหันไปมองจงจิ่งห้าว แล้วยกหน้าจอโทรศัพท์หันไปทางเขา ให้เขามองเห็นเบอร์ที่ปรากฏบนจอ
กวนจิ้งบันทึกชื่อของหลินซินเหยียนไว้ว่า ‘ ภรรยาของท่านประธาน ‘
จงจิ่งห้าวเลิกคิ้วขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้ตำหนิอะไร จากนั้นก็บอกปัดให้เขาออกไปรับสายข้างนอก
กวนจิ้งยิ้นแหยๆ ก่อนตอบตกลง
ยังไม่ทันที่กวนจิ้งจะตอบกลับมา หลินซินเหยียนก็รู้สึกรีบร้อนเล็กน้อย ” คุณยุ่งอยู่เหรอ ”
” ไม่ยุ่งครับ ไม่ยุ่ง ” กวนจิ้งปิดประตูห้องประชุม
ก่อนจะเดินหาที่เงียบๆ ไม่มีคน ” ครั้งที่แล้วคุณวางสายเร็วเกินไป ผมเลยบอกไม่ทัน หลี่จ้านไม่มีบริษัทนายหน้าครับ แต่เขามีแค่คนกลางหรือนายหน้าแค่คนเดียวเท่านั้น ”
หลินซินเหยียนขมวดคิ้วหนักกว่าเก่า ” แล้วหาคนอื่นเจอไหม ”
” เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาเพิ่งกลับเข้ามาในประเทศครับ ตอนนี้น่าจะอยู่ที่108ถนนถงหลิงซี ” กวนจิ้งบอก
หลินซินเหยียนรู้สึกพอใจกับคำตอบ ” อื้ม ”
” เดี๋ยวครับ ” ขณะที่หลินซินเหยียนกำลังจะวางสาย ก็ถูกกวนจิ้งเรียกไว้ก่อน ” คุณรู้จักหลี่จ้านด้วยเหรอ ”
หลินซินเหยียนพูดออกมาตามความเป็นจริง ” ไม่รู้จักหรอก ”
” แล้วคุณจะหาเขาทำไม ”
” จำเป็นสำหรับการทำงานน่ะ ทำไมเหรอ หาไม่ได้หรือไง ” หลินซินเหยียนรู้สึกว่ากวนจิ้งชักจะถามมากเกินไปแล้ว
” นี่คุณ คุณไม่รู้จริงๆ เหรอว่าสถานะของเขาคืออะไร ” กวนจิ้งถามหยั่งเชิง
หลินซินเหยียนเริ่มรู้สึกสนใจ ” สถานะเขาคืออะไรล่ะ ”
กวนจิ้งกำลังจะเปิดปากพูด แต่พอจะพูด ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้เขาไม่ควรพูดออกมา
” ถึงเวลาเดี๋ยวคุณก็รู้เองแหละ ” พูดจบกวนจิ้งก็วางสายไป
หลินซินเหยียนไม่รู้ มันก็หมายความว่าเรื่องที่เธอตามหาหลี่จ้านนี้ จงจิ่งห้าวไม่รู้อย่างแน่นอน ไม่งั้นจะให้เขามาหาที่อยู่ทำไม
หลินซินเหยียนมองไปที่โทรศัพท์ รู้สึกเหมือนจะร้องไห้หรือหัวเราะดี ทำไมคนคนนี้ถึงชอบพูดจาครึ่งเดียวตลอดเลย จะพูดก็พูดไม่หมด
ชอบทำให้คนอยากรู้อยากเห็น แล้วก็ไม่พูด
สนุกนักหรือไง
เธอวางโทรศัพท์ลง เมื่อกินข้าวเสร็จแล้วก็ออกจากบ้าน เตรียมตัวขึ้นรถ แล้วเปิดโทรศัพท์ให้นำทางเธอไปที่108ถนนถงหลิงซี เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันอยู่ถนนเส้นไหน ก็ได้แต่ตามนำทางไป
เธอขับรถไปตามที่นำทางบอก แต่ใช้ยิ่งใกล้ปลายทางเท่าไหร่ ก็ยิ่งห่างไกลทางเจริญขึ้นเรื่อยๆ ในใจทำให้เกิดความลังเลสับสนว่าดาราชื่อดังทำไมถึงอยู่ที่ซึ่งไร้ความเจริญขนาดนี้
บ้านเรือนที่อยู่ขนาบสองข้างทางนั้นดูเก่ามาก แล้วก็มีร้านของชำอยู่บ้างบางจุด บางครั้งบนถนนก็ไม่มีคนเดินอยู่เลยแต่บางครั้งก็มีบ้างเล็กน้อย แต่โดยมากก็เป็นคนที่สูงอายุแล้ว
ในเขตพื้นที่นี้ส่วนมากก็จะเป็นคนสูงอายุที่อาศัยอยู่ จากที่เธอค้นหาหลี่จ้านในเว็บป๋ายตู้ ไม่ใช่เพียงแค่ดาราดังเท่านั้น แต่อายุก็ยังไม่มาก ทำไมถึงมาอยู่ในพื้นที่ที่เก่าแก่แบบนี้
อีกอย่าง ดาราดังอย่างเขาคงไม่มีปัญหาเรื่องเงินหรอกมั้ง
หลินซินเหยียนเกรงว่าข้อมูลที่กวนจิ้งให้เธอมาคงจะเป็นข้อมูลปลอม
ในจังหวะที่เธอกำลังจะวางมือจากเรื่องนี้ เธอก็เห็นป้ายของบ้านเลขที่ 108 แต่ประเด็นก็คือตอนนี้เธอเห็น เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งยืนยึกยักอยู่หน้าตึก แล้วยังใส่หมวกแก๊ปลิ้นเป็ด แล้วยังกอดกล้อง เห็นได้ชัดว่าเป็นนักข่าวที่กำลังแอบถ่ายอยู่แน่ๆ
หลินซินเหยียนจอดรถ เห็นแบบนี้ เธอคงจะเจอตัวหลี่จ้านยากสินะ
ตอนนี้เหมือนเธอจะเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมหลี่จ้านถึงเลือกมาอยู่เขตพื้นที่เล็กๆ แบบนี้ จุดประสงค์ก็เพื่อจะหลีกเลี่ยงจากนักข่าวนี่เอง
เธอมองผ่านกระจกรถออกไปยังตึก ก็น่าจะมีแค่ประมาณสิบห้าสิบหกชั้น หน้าต่างก็เต็มไปด้วยผ้าที่ตากอยู่ ทั้งเสื้อในกางเกงในก็บอกสะบัดพัดปลิวไปตามลม สภาพคือหมดคำจะพูด
หลินซินเหยียนอ้าปากค้าง ในใจก็คิด เธอต้องทำยังไงถึงจะได้เจอกับหลี่จ้านนะ
เห็นแบบนี้ถึงเธอจะเดินไปเคาะประตู เขาก็คงไม่เปิดประตูให้เธอหรอก
ไม่แน่เขาอาจจะคิดว่าเธอเป็นปาปารัสซี่ด้วยก็ได้
” เร็ว….. ”
ขณะที่หลินซินเหยียนพยายามคิดหาวิธีที่จะเจอกับหลี่จ้านอย่างยิ่งยวด ประตูก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นชายคนหนึ่ง เขาใส่ผ้าปิดปากสีดำ สวมชุดลำลอง ฮู้ดที่ติดกับเสื้อคลุมหัวจนมิด แทบจะบังไปครึ่งหน้า จนจะดูแทบไม่ออกว่าเขาเป็นใคร
ความวุ่นวายเกิดขึ้นกับเธอขึ้นโดยพลัน เธอยังไม่ทันได้มองชัดเจนเลยด้วยซ้ำ ท่านใดนั้นก็มีผู้คนกลุ่มนึงวิ่งเพ่นพ่านไปมา ก่อนจะไปกระจุกกันอยู่ตรงประตู
คนส่วนใหญ่ตรงนั้นเป็นเด็กสาว ในมือถือป้าย【หลี่จ้าน ฉันรักคุณ】【หลี่จ้าน สามีของฉัน】ต่างๆ นานา ปากก็ตะโกนโหวกเหวก พูดคำสองพยางค์ซ้ำๆ ‘ หลี่จ้าน ‘
นี่คือครั้งแรกที่หลินซินเหยียนเห็นติ่งดารากับตา
เมื่อก่อนเห็นแต่ในข่าว ที่เขาบอกว่าคนเยอะจนกลายเป็น ‘ ภูเขาคนทะเลคน’ที่ยืนกระจุกรวมกันมากมายแบบนั้น รู้สึกว่ามันไม่มีอยู่จริง แต่พอมาวันนี้ เธอคิดว่ามันบ้าคลั่งยิ่งกว่าที่เห็นในทีวีเสียอีก
ข้างกายของหลี่จ้านมีเพียงคนอ้วนคนหนึ่งยืนอยู่เท่านั้น บนศีรษะถักเป็นเปีย ข้างหลังยังสะพายกระเป๋าเป้ ใส่แว่นตา เหมือนอยากจะกันตัวหลี่จ้านเอาไว้ แต่ว่าคนเยอะเกินไป
หลินซินเหยียนเริ่มลุกลี้ลุกลน รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันอยู่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันที่เธอตามเป็นติ่งดารา
เธอกลับมันมีความหวังที่จะอยากเห็นหน้าจริงของหลี่จ้าน ว่าหล่อถึงขั้นที่ทำให้คนเป็นบ้าเลยหรือเปล่า
ตอนนี้มันเธอเริ่มรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ว่าหลี่จ้านจะเดินออกมาได้ยังไง คนล้อมรอบเยอะขนาดนั้น ข้างกายก็มีแค่คนคนเดียว ในขณะที่เธอกำลังจ้องมองเหตุการณ์อย่างออกรสออกชาติ ประตูหลังของเธอก็ถูกเปิดออก
” รีบขับไปสิ ”
หลินซินเหยียนหันกลับไปมอง ก็เห็นแค่ผู้ชายรูปร่างพร้อมส่งคนหนึ่ง ใส่แว่นตาสีดำ ใบหน้านั้นทรวมผ้าปิดปากสีดำเช่นกัน เหมือนทั้งไม่น่าจะถูกปกปิดเอาไว้
รูปลักษณ์แบบนี้มัน…. เหมือนเธอจะเห็นว่าดูคล้ายกับหลี่จ้านในเว็บป๋ายตู้เมื่อกี้
เธอหันกลับไปมองที่ประตู ก็ยังเห็นแฟนคลับยังคงยืนอัดแน่นตรงนั้นเพื่อรอหลี่จ้านอย่างบ้าคลั่ง
” คุณเป็นใคร “หัวของหลินซินเหยียนผุดเครื่องหมายคำถามอันใหญ่ออกมา
หลี่จ้านใช้นิ้วยันสะพานจมูกของแว่นตาลง ก่อนจะมองหน้าหลินซินเหยียน ” เป็นคุณนี่เอง…. ”
” หลี่จ้านเหรอ ” หลินซินเหยียนเห็นหน้าเขาก็ถามขึ้น
หลี่จ้านยันแว่นกลับขึ้นมาเหมือนเดิม ” พาผมไปให้ไกลจากที่นี่ ”
หลินซินเหยียนไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไร ก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไป
เหมือนกับคำโบราณที่ว่า ย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกไม่พบพาน ยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย จะสื่อว่าพยายามหาแทบตายก็ไม่เจอแต่พอเลิกสนใจก็กลับมาเจอง่ายๆ เสียอย่างงั้น
” คุณจะไปไหนล่ะ ” หลินซินเหยียนถาม
” ไปใจกลางเมือง ”
วันนี้จะมีมีตติ้งแฟนคลับ ด้านนั้นจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ให้เขาไปถึงที่นั่น
ก่อนขึ้นรถ เขาคิดว่าทางนู้นส่งรถมาให้เขาแล้ว หลังจากที่ได้เจอหลินซินเหยียน เขาก็รู้ทันทีว่าเขาได้ขึ้นรถผิดคัน
แต่ก็ช่างเถอะไม่ว่าจะยังไง เขาก็คงต้องเอาตัวให้รอดจากแฟนคลับที่พยายามขวางเขาก่อน
เขาถอดแว่นและผ้าปิดปากออก เผยให้เห็นใบหน้าเต็มๆ
ผมสีดำน้ำเงิน ที่ถูกตัดออกมายังเป็นเอกลักษณ์ กลับดวงตาที่ดูลึกล้ำคมคายนั้น สุขสกาวราวกับดวงจันทร์ ใบหน้าทุกส่วนดูดีราวกับเป็นรูปปั้น มีมุมที่ดูหล่อต่างจากคนธรรมดาทั่วไป
เขาสวมเสื้อเชิ้ตลายตารางสีฟ้าอ่อน ม้วนแขนเสื้อขึ้นจากข้อมือคลายๆ แต่ดูเป็นระเบียบและสวยงาม และยังมีความรู้สึกเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก
จมูกที่เป็นสันสูง รับกับริมฝีปากอวบอิ่มที่เมื่อยิ้มแล้วก็ทำให้คนมองแทบจะตาลายกันเลยทีเดียว
” ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ “