หลินซินเหยียนหยุดเดินและหันมา ก็เห็นว่าจงจิ่งห้าวปล่อยไป๋จวู่เวยแล้ว แล้วก็ก้าวอย่างมั่นคง เดินตรงมาที่เธอ
ความเยือกเย็นของริมฝีปากควบแน่นเป็นแนวโค้ง มีมีดคมซ่อนอยู่ โจมตีเธออย่างไร้ความปรานี “ขอโทษจวู่เวย!”
หลินซินเหยียนไม่ขยับ หันหน้ากลับไปมองเขาอย่างดื้อรั้น
“ฉันไม่มีทางขอโทษเธอ!” แม้กระทั่งตอนนี้ เธอก็ยังคงกลัวเขา
เธอไม่ได้ทำอะไรผิด ไป๋จวู่เวยเป็นคนจะผลักเธอก่อน
เธอก็แค่ปกป้องตัวเอง มันเป็นเพียงปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณ!
แล้วทำไมเธอต้องขอโทษด้วย?!
สายตาของจงจิ่งห้าวจับจ้องไปที่ใบหน้าที่ดื้อรั้นของเธอ คิ้วก็ขมวดเข้าหากันจนเป็นปม เขาไม่เคยมองดูผู้หญิงคนนี้อย่างละเอียดเลย แม้แต่ตอนที่ฉันเสียสติและจูบเธอ ก็ไม่ได้มองเธออย่างละเอียด
เธอค่อนข้างผอม ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ งดงามและละเอียดอ่อนมาก เผยให้เห็นความบริสุทธิ์ นัยน์ตาคู่นั้นกำลังจ้องมองมาที่เขา ดื้อรั้นและแน่วแน่
ดวงตาทั้งสองสบกัน ไม่มีใครยอมถอย
“เธอผลักเธอ เธอก็ต้องขอโทษ!” เสียงของเขายังคงเย็นชาเหมือนเดิม แต่ดุน้อยกว่าเดิม
ราวกับว่า ตกใจกับการแสดงออกของเธอ
“อะห้าว ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ มันเป็นเพราะว่าฉันไม่ทันระวัง มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณหลินเลยจริงๆ ” ไป๋จวู่เวยรีบเดินเข้ามา ตัดการเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองคน
เธอกอดแขนของจงจิ่งห้าว“อะห้าว”
เธอส่ายหน้าให้จงจิ่งห้าว ดวงตามีหมอกจากๆ ดูรู้สึกเสียใจเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ว่าก็อดกลั้นเอาไว้ “อะห้าว เมื่อกี้ฉันยืนไม่นิ่ง น่าจะเพราะว่าฉันสวมรองเท้าส้นสูงเกินไป มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณหลินจริงๆ นะ”
เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ตัวแทนหลินซินเหยียน
จงจิ่งห้าวหรี่ตาลง แล้วก็มองดูรองเท้าส้นสูงของมัน มันก็ค่อนข้างจะสูงจริงๆ แต่ว่าเขาก็เห็นอยู่ว่าเมื่อกี้หลินซินเหยียนเป็นคนผลักเธอ
สรุปแล้วเรื่องนี้มันเป็นยังไงกันแน่?
“อะห้าว เมื่อกี้ข้อเท้าฉันน่าจะพลิกนะ เจ็บมากเลย”ใบหน้าที่สวยงามของไป๋จวู่เวยมีรอยย่น
ไม่เหมือนกับปกติที่จะดูสง่างาม ดูน่ารักมากขึ้น
จงจิ่งห้าวเอื้อมมือไปเอาผมทัดหูให้เธอ ผู้หญิงคนนี้คอยตามเขาเงียบๆ ไม่ขออะไรตอบแทน ไม่ร้องไห้หรือสร้างปัญหา ตอนที่เขาโดนวางยาและต้องการผู้หญิงนั้น เธอก็มอบตัวเองให้เขาอย่างไม่ลังเล
แม้ว่าเขาจะได้เธอไปแล้ว เธอก็ไม่ได้ขอสถานะ ยังคงอยู่ข้างกายเขาเงียบๆ
และในขณะนั้น จงจิ่งห้าวก็อยากจะให้สถานะแก่เธอ
เขาไม่รักเธอ เขาไม่เคยรักผู้หญิงคนไหนมาก่อน และก็ไม่เชื่อเรื่องความรักด้วย
แม่ของเขาจากโลกนี้ไปยังไม่ทันถึงเดือน พ่อของเขาก็แต่งงานกับคนอื่น
โลกใบนี้จะมีอะไรที่เรียกว่าความรักอยู่ได้ยังไงกัน?
ไร้สาระและน่าขำ!
“โง่ไม่โง่?”
ไป๋จวู่เวยอิงแอบในอ้อมแขนของเขา “ขอแค่ได้อยู่กับนาย ให้ฉันทำอะไรฉันก็ยอมทั้งนั้น ฉันไม่ได้คิดว่าฉันโง่ ฉันแค่คิดว่าฉันมีความสุขมาก”
หลินซินเหยียนไม่ได้มีอารมณ์อยากจะมองพวกเขาทั้งสองคน หันหน้าออกมาแล้วก็เดินออกไปที่ประตู
ไป๋จวู่เวยมองแผ่นหลังของหลินซินเหยียนด้วยหางตา พร้อมกับคลี่ยิ้มมุมปาก
คิดว่าเธอตอนนี้น่าจะไม่มีเวลาได้อยู่กับจงจิ่งห้าวในคฤหาสน์แห่งนี้แล้วสินะ?
เธอคิดว่าเธอซ่อนสีหน้าได้ดีมากแล้ว แต่ว่ามันไม่รอดพ้นสายตาของจงจิ่งห้าว
แต่ว่าเขากลับไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ถามอะไร แต่ว่าหันหลังแล้วก็เดินกลับห้องไป
ไป๋จวู่เวยรีบตามไป“อะห้าว——”
จงจิ่งห้าวหันหน้ากลับมา แล้วก็มองเธอนิ่งๆ สายตาของเขามองไปที่รองเท้าส้นสูงของเธอ แล้วก็พูดอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “ต่อไปอย่าใส่รองเท้าที่ส้นมันสูงเกินไปนะ ถ้าล้มลงไปจริงๆ จะไม่ดีเอา”
พอพูดจบ เขาก็เดินเข้าไปในห้องทำงาน ตอนที่เดินมาถึงหน้าประตูนั้น เขาก็หยุด “วันนี้ฉันมีธุระ เธอกลับไปก่อนเถอะ”
ไป๋จวู่เวยยังไม่ทันจะโต้ตอบอะไร ประตูห้องทำงานก็ถูกปิดลงแล้ว
เธอยืนอยู่ตรงนั้น ก้มหน้ามองดูรองเท้าส้นสูงของตัวเอง เขาหมายความว่ายังไง เป็นห่วงเธองั้นเหรอ?
แต่เหมือนกับว่ามันมีความหมายอย่างอื่นนะ
ไป๋จวู่เวยก้าวไปด้านหน้า อยากจะเคาะประตู แต่ว่าป้าหยูก็ขวางเธอไว้ “คุณชายบอกแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าให้คุณกลับไปก่อน? ”
ป้าหยูไม่ชอบเธอ ไป๋จวู่เวยรับรู้มาโดยตลอด
เธอพยายามอย่างหนักเพื่อเอาใจ แต่ว่าผลลัพธ์มันก็ไม่เคยดีเลย
ป้าหยูไม่ใช่แค่คนรับใช้ทั่วไป เธอคือคนที่ดูแลจงจิ่งห้าวมาตั้งแต่เด็กจนโต
เธอมีหน้ามีตาต่อหน้าจงจิ่งห้าว
“ป้าหยู ฉันก็เห็นว่าเหมือนอารมณ์เขาจะไม่ค่อยดี ก็เลยอยากจะอยู่เป็นเพื่อนเขา——”
“เรื่องอยู่เป็นเพื่อนเขา ให้เป็นหน้าที่ของคุณผู้หญิงเถอะค่ะ ต่อไปคุณไป๋ไม่ต้องมาบ่อยก็ได้นะคะ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นเรียกว่าเป็นชู้อะไรแบบนั้น แบบนั้นมันจะไม่ดีต่อชื่อเสียงของคุณไป๋เอานะคะ” เมื่อก่อนตอนที่จงจิ่งห้าวยังไม่ได้แต่งงานกับหลินซินเหยียนนั้น ป้าหยูก็ไม่ชอบไป๋จวู่เวย แต่ว่าตั้งแต่ที่จงจิ่งห้าวแต่งงานกับหลินซินเหยียนแล้ว
ไป๋จวู่เวยมาที่นี่อีก พยายามเข้าใกล้จงจิ่งห้าว ก็เหมือนกับเป็นมือที่สาม
ไม่มีใครชอบสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามือที่สามหรอก!
แล้วยิ่งคนที่ค่อนข้างมีอายุอย่างป้าหยูแล้ว ก็ยิ่งรังเกียจเข้าไปใหญ่
“คนที่อะห้าวชอบก็คือฉัน การที่ต้องแต่งงานกับคนของตระกูลหลิน มันไม่ใช่สิ่งที่เขายินยอม คุณคือคนที่ดูแลเขามาตั้งแต่เด็กจนโต หรือว่าไม่อยากเห็นเขามีความสุขยังงั้นเหรอคะ? ” ไป๋จวู่เวยพยายามอดทนอย่างมาก ถึงไม่ได้ตะคอกออกมา
เธอเป็นแค่คนรับใช้ อาศัยว่าตนเองอายุเยอะแล้วมาเที่ยวดูถูกคนอื่น เกลียดจริงๆ เลย!
“ฉันคิดว่าตอนนั้นที่คุณนายเตรียมเรื่องงานแต่งงานไว้ให้คุณผู้ชาย คงจะมีเหตุผลของเธอนะคะ คุณผู้ชายก็แต่งงานแล้ว หรือว่าคุณไป๋อยากจะก้าวเข้ามาในชีวิตแต่งงานของคนอื่น แล้วทำลายชีวิตแต่งงานของคนอื่นอย่างที่คนอื่นเรียกกันว่าชู้ยังงั้นเหรอคะ? ”
คำพูดของป้าหยูนั้นเด็ดขาด แต่ว่าก็ยังคงมีมารยาทอยู่ เธอหันไปทางไป๋จวู่เวยแล้วทำมือเป็นสัญลักษณ์ว่าเชิญ “คุณไป๋ เชิญค่ะ”
มองที่อยู่ข้างลำตัวทั้งสองข้างของไป๋จวู่เวยนั้นกำแน่น เธอโกรธจนสั่น แต่ว่าก็ไม่สามารถระเบิดได้
ทำได้แค่ต้องกลับก่อน
พอไป๋จวู่เวยออกจากบ้านไป ป้าหยูก็ปิดประตูทันที
ร่างกายของเธอแข็งทื่อ ค่อยๆ หันกลับไปมองประตูที่ปิดอยู่ สีหน้าก็เปลี่ยนไป ดูดุร้ายขึ้นมาก ดูแย่มาก
จงจิ่งห้าวยืนอยู่ตรงริมหน้าต่าง มองไปที่สีหน้าของไป๋จวู่เวยที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
เขาหรี่ตาลง
“คุณผู้ชาย คุณหลินจะกลับมาทานข้าวเที่ยงไหมคะ? ” เมื่อคืนเธอก็ไม่ได้กลับ วันนี้กลับมาแป๊บเดียวก็ไปอีกแล้ว ป้าหยูไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก
เธอแต่งงานเข้าตระกูลจงมาแล้ว กลายเป็นภรรยาของจงจิ่งห้าว ก็ควรจะมีท่าทีของคนเป็นภรรยา
ยิ่งไปกว่านั้นพึ่งจะแต่งงานกันแท้ๆ ก็ไม่กลับบ้านซะแล้ว มันไม่ดีเท่าไหร่นัก
จงจิ่งห้าวนึกถึงเรื่องที่เธอเข้าโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ แล้วก็หันหน้าไป “เธอไม่ค่อยสบาย มื้อเที่ยง——”
อืม
จงจิ่งห้าวเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าตอนเที่ยงเธอจะกลับมาหรือไม่
เขาพึ่งจะมารู้ตัวตอนนี้ ว่าตัวเองไม่มีแม้แต่ช่องทางการติดต่อของเธอเลย
ป้าหยูถอนหายใจ เกิดอะไรขึ้นกับคนสมัยนี้กันนะ?
สามีภรรยาก็ไม่เหมือนสามีภรรยา
ทั้งๆ ที่แต่งงานกันแล้ว ไม่นอนด้วยกัน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน เป็นสามีภรรยากันจริงไหม?
“ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอนแรกคุณนายถึงได้กำหนดการแต่งงานนี้ไว้”ป้าหยูถอนหายใจยาว
ตั้งแต่คุณนายจากโลกนี้ไป จงจิ่งห้าวย้ายออกไป ก็กลับมาน้อยมาก
เธอนึกว่างานแต่งงานที่คุณนายเตรียมไว้ให้ เธอต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน ตอนนี้ก็แต่งแล้ว
แต่ไม่คิดเลยว่า——
สีหน้าของจงจิ่งห้าวมืดมนลงหลายเท่า “ผมจะไปหาเธอ”
ป้าหยู“……”
ป้าหยูกลัดกลุ้มมากกว่าเดิม นี่มันเป็นสามีภรรยาที่ไหนกัน นี่มันคนแปลกหน้าชัดๆ
จงจิ่งห้าวหยิบเสื้อคลุมจากโซฟาขึ้นมาใส่ แล้วก็หยิบกุญแจออกจากบ้านไป
ระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาลนั้น จงจิ่งห้าวก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ แล้วก็โทรหากวนจิ้ง
“สัญญาที่ดินที่อ่าวรีพัลส์เบย์นั่น นายจัดการให้เรียบร้อยแล้วส่งมาให้ฉัน”