กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม – บทที่ 21 จงใจล่อลวง

บทที่ 21 จงใจล่อลวง

เมื่อหลินซินเหยียน มาถึงโรงพยาบาล เหอรุ่ยเจ๋อกำลังนั่งอยู่ที่ระเบียงทางเดินนอกห้องผู้ป่วย มือทั้งสองค้ำลงบนหัวเข่าค้อมตัวลงเล็กน้อยเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ขนาดที่ว่าแม้หลินซินเหยียนยืนอยู่ตรงหน้า เขาก็ยังไม่รู้ตัว

” ทำอะไรอยู่เหรอ ”

เหอรุ่ยเจ๋อเงยหน้าขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเป็นหลินซินเหยียนจึงเก็บรีบเก็บอาการ ก่อนจะเดินเข้าไปดูอาการในห้อง ” สภาวะอารมณ์ของเเม่คุณ ไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ”

หลินซินเหยียนก็พอจะเตรียมใจมาบ้างแล้ว ” อื้ม คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวตรงนี้ฉันดูแลเอง ”

สายตาของเหอรุ่ยเจ๋อมองแฉลบไปที่ท้องของเธอ ” คุณก็ต้องพักผ่อนบ้างนะ ”

” วางใจเถอะค่ะ ฉันจะดูแลตัวเองอย่างดีเลย ” พูดจบหลินซินเหยียนก็ยิ้มให้เขาบาง ๆ

เหอรุ่ยเจ๋อเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะพยักหน้า ” ถ้ามีเรื่องอะไรก็เรียกผมแล้วกันนะ ”

หลินซินเหยียนตอบรับ เหอรุ่ยเจ๋อก็ยืนขึ้นแล้วเดินออกไปนอกห้อง เมื่อมองตามแผ่นหลังที่ไกลออกไปของเขา หลินซินเหยียนก็เม้มปาก ถึงแม้เธอจะรู้จักกันเขามานานแล้ว แต่สำหรับเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเขา เธอไม่รู้เรื่องใด ๆ เลยสักนิด ภูมิหลังครอบครัวของเขา หรือคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับเขา เธอไม่รู้อะไรเลยแม้แต่น้อย

เมื่อกี้ก็ดูเหมือนเขาจะมีเรื่องในใจ ถึงได้คิดจนใจลอยไปแบบนั้น

ทันใดนั้น เหอรุ่ยเจ๋อหยุดเท้าที่กำลังก้าวเดินอยู่ แล้วหันตัวกลับมามองหลินซินเหยียน ” ผมไปถามคุณหญิงที่อยู่ที่นั่นแล้วได้รู้เรื่องบางอย่างมานิดหน่อย ว่ามีคนให้เงินพวกเธอ แล้วให้พวกเธอไปพูดอะไรบางอย่าง แม้กระทั่งสาดเสียเทสีใส่บ้านของเธอ ”

หลินซินเหยียนพยักหน้ารับ

” อื้ม พี่คะ ถ้ามีเรื่องอะไรก็บอกฉันได้ตลอดเลยนะ ” หลินซินเหยียนมองไปที่เขา

เหอรุ่ยเจ๋อยิ้มบาง ” ยังไหวอยู่นะ ”

หลินซินเหยียนไม่ได้ยื้อถามต่อ ใคร ๆ ก็คงมีเรื่องที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้กันทั้งนั้น

เมื่อเหอรุ่ยเจ๋อเดินจากไป เธอก็ไม่ได้เข้าห้องไปทันที แต่ในใจยังคิดอยู่ว่า ใครเป็นคนซื้อตัวเพื่อนบ้านพวกนั้นกันนะ

หลินหยู่หานเหรอ หรือเสิ่นซิ่วฉิง

แต่พวกหล่อนก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังท้องอยู่

ถ้างั้น….

เพล้ง!

จู่ๆ ก็มีเสียงของบางอย่างแตกดังออกมาจากในห้อง หลินซินเหยียนตกใจก่อนจะผลักประตูเข้าไป ก็เห็นเท้าของจวงจื่อจิ่นเห็นอยู่บนเศษแก้ว เธอรีบพุ่งเข้าไป ก้มลงเก็บเศษแก้วที่อยู่บนพื้น ” แม่ แม่อยากกินน้ำเหรอคะ แม่นั่งก่อนนะเดี๋ยวหนูเก็บกวาดให้ก่อน แล้วจะเทน้ำให้แม่… ”

เธอยังไม่ทันได้พูดจบ ก็โดนจวงจื่อจิ่นคว้ามือของเธอไปกุมไว้ อารมณ์เธอดูเลื่อนลอย ” เหยียนเหยียน ”

หลินซินเหยียนเงยหน้า มองไปที่แม่ของเธอ ” ว่าไงคะ ”

จวงจื่อจิ่นดูเหมือนจิตใจว้าวุ่น แล้วบีบมือของหลินซินเหยียนที่กุมไว้แรงขึ้น ” ลูกในท้องของแก เอาออกไปเลยได้ไหม ”

ตอนนี้เพิ่งจะเป็นเพียงการเริ่มต้น ถ้าต่อไป ไม่มีพ่อ แถมเกิดมาผมทองตาฟ้าอีก คนอื่นจะมองพวกเธอยังไง

หลินซินเหยียนรู้ว่าจวงจื่อจิ่นได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจแค่ไหน แต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะพูดออกมาแบบนั้น

” แม่…. ”

จวงจื่อจิ่นคลายมือจากเธอ ก่อนจะพูดประโยคเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนคนไม่มีสติอยู่กับเนื้อกับตัว ” แกไม่ยอมฉันรู้อยู่แล้วว่าแกต้องไม่ยอม ”

เธอนั่งลงบนเตียง ก่อนจะถอยกรูดไปติดหัวเตียง ประหนึ่งโดนผีสิง ” ซินฉีไม่อยู่แล้ว ไม่อยู่แล้ว… ”

หลินซินเหยียนตกตะลึง เหมือนไม่เข้าใจบางอย่าง เธอ เธอเป็นอะไรกันแน่

หลินซินเหยียนรีบเรียกพยาบาล จวงจื่อจิ่นก็ไม่วาย ยังไม่หยุดทำร้ายตัวเอง พยาบาลจึงต้องฉีดยาระงับประสาทให้เธอ

” จากการวินิจฉัยเริ่มต้น คนไข้อาจเป็นโรคจิตเภทครับ ” หมอพูดหลังจากการตรวจดูขั้นต้น

เมื่อได้ยินร่างกายของหลินซินเหยียนก็เซไปมา มือทั้งสองค้ำลองที่ตู้เพื่อพยุงร่างกายของตัวเองเอาไว้ ” ทำไมมันถึงได้ร้ายแรงขนาดนี้ล่ะคะ ”

” แม่ของคุณได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจมาก่อนหรือเปล่า จริง ๆแล้ว มันคงไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวต้องมีความกดดันภายในใจมาเป็นเวลานาน เมื่อระเบิดอารมณ์แล้วจึงเกิดเป็นอาการแบบนี้ขึ้นครับ ”

หลินซินเหยียนได้ฟังที่หมอพูดก็ปากสั่น หลังจากที่แม่ถูกหลินกั๋วอันส่งไปอยู่ต่างประเทศ เธอก็ไม่เคยยิ้มอีกเลย ใจของเธอคงมีบาดแผล ไหนจะน้องที่เกิดมา ต้องกลายเป็นโรคออทิซึมแล้วจากไป รวมทั้งเรื่องที่เธอท้องอีก ไม่ว่าเรื่องไหนก็ทำร้ายจิตใจแม่ไม่น้อยเลย

พอมาเจอเรื่องที่สะเทือนจิตใจครั้งนี้ ก็กดลึกลงไปจนฟางในใจเส้นสุดท้ายของเธอขาดลง

การรองรับอารมณ์ของเธอ คงถึงขีดจำกัดไปเสียแล้ว แค่มีอะไรไปกระทบจิตใจอันบอบช้ำของเธอเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เธอสูญเสียการควบคุมได้ในที่สุด

” ต้อง..ต้องรักษายังไงคะ ” หลินซินเหยียนพูดด้วยท่าทีตะกุกตะกัก ฝืนพูดออกไปเท่าที่จะพูดไหว

หมอถอนหายใจออกมา “โรคจิตเวทไม่ใช่อาการที่จะรักษาได้ง่าย ๆ คุณไม่ได้รู้จักกับหมอเหอหรอกเหรอ เขาเป็นจิตแพทย์ ผมคิดว่าเขาคงช่วยคุณได้ ”

หลินซินเหยียนนึกถึงท่าทีของเหอรุ่ยเจ๋อก่อนหน้า หรือจริง ๆ เขาจะรู้อะไรบางอย่าง

แต่ไม่กล้าเปิดปากบอกเธอ

” ผมแนะนำว่า ให้ย้ายแม่ของคุณไปแผนกจิตเวชนะครับ ”

หลินซินเหยียน พยักหน้ารับ

เมื่อหมอออกไปแล้วหลินซินเหยียนถึงกับต้องลงมากองกับพื้น มองไปทางจวงจื่อจิ่นก็รู้สึกว่าตัวเองจิตใจกำลังจะแหลกสลาย ใจของเธอนั้นเจ็บปวดทรมานจนแทบหมดหนทางจะหายใจ

ในหัวนึกย้อนกลับไปถึงตอนที่แม่นั้นไร้สติ จนถึงขั้นทำร้ายตัวเองเช่นนี้

วันนั้นจวงจื่อจิ่นก็ย้ายไปอยู่แผนกจิตเวช เพราะผู้ป่วยจิตเวชนั้น อารมณ์ไม่ค่อยมั่นคง นอกจากจะทำร้ายตัวเองได้แล้ว อาจไปทำร้ายคนอื่นแบบไม่ได้ตั้งใจ ที่นี่แม้จะเป็นคนที่สนิทกับผู้ป่วย ก็เยี่ยมได้แค่ในเวลาที่แผนกกำหนด

เรียกง่าย ๆ ว่ารักษาแบบแทบจะตัดขาดจากโลกภายนอกก็ว่าได้

เมื่อออกมาจากโรงพยาบาล หลินซินเหยียนก็เก็บข้าวของของจวงจื่อจิ่นและตัวเธอเอง จากนั้นก็คืนห้อง

 

เป็นเพราะของบนประตู เลยไม่ได้เงินมัดจำห้องคืน

ค่ายาและค่ารักษาของจวงจื่อจิ่น เหอรุ่ยเจ๋อช่วยเธอจ่ายทั้งหมด

ยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าเธอเริ่มติดหนี้เหอรุ่ยเจ๋อมากขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อเธอคิดอะไรไปเรื่อย รถก็มาจอดที่หน้าคฤหาสน์พอดี

เมื่อยืนอยู่หน้าคฤหาสน์ เธอยืนเหม่ออยู่ชั่วครู่ ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองต้องยืนตั้งหลักอยู่ตรงนี้

ขณะที่เธอกำลังจะเข้าไป ก็มีรถคันหนึ่งขับเข้ามา ถึงเธอจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน ก็รู้ได้ทันทีว่ารถคันนี้คือรถของจงจิ่งห้าว จึงยืนอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน

จงจิ่งห้าวก็ลงมาจากรถ เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือ หลินซินเหยียน ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเย็นเล็กน้อย “เธอจะไปไหน”

เขาไปที่โรงพยาบาล ได้ข่าวว่าเธอทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลแล้ว ครึ่งวันที่ผ่านมาเธอทำอะไรไปแล้วบ้างก็ไม่รู้

หลินซินเหยียนไม่ได้อธิบายอะไร แค่เรื่องของ จวงจื่อจิ่น เธอก็เหนื่อยใจจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว

เธอตอบสั้น ๆ แค่ว่า “มีธุระน่ะ”

จงจิ่งห้าวขมวดคิ้ว เธอเป็นอะไรของเธอกันแน่

เขาสาวเท้าเข้ามาใกล้……

ในขณะที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เหมือนสีหน้าของเขากำลังแสดงถึงความโกรธอยู่ จู่ ๆ ก็เห็นเงาคนซ้อนไปมาการรับรู้ของหลินซินเหยียนเริ่มพร่ามัวขึ้นทุกที แล้วภาพตรงหน้าก็ตัดเป็นสีดำ

ตอนนี้เธอสูญเสียการรับรู้โดยสิ้นเชิง

จงจิ่งห้าวรู้ตัวได้ไว วินาทีที่เธอกำลังล้มลง เข้าได้คว้าเอวของเธอไว้ทัน

เอวของเธอบางเสียจนไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นผู้หญิงที่กำลังตั้งท้องอยู่ ร่างกายของเธอนุ่มนิ่มไปหมด เมื่อได้ใกล้ชิด ทำให้รู้สึกเหมือนคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก เหมือนหัวใจกำลังเต้นจนจะหลุดออกมา

จงจิ่งห้าวขมวดคิ้ว ความรู้สึกลึกซึ้งนี้มันคืออะไรกัน

ไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง

ทั้ง ๆ ที่รู้จักกันได้ไม่นาน แต่ทำไมถึงเกิดความรู้สึกแปลก ๆ แบบนี้ขึ้นมาได้

ยังไม่ทันที่เขาจะได้โฟกัสกับสิ่งตรงหน้า ก็มีคนสองคนเดินออกมาจากประตูทางเข้า คนแรกก็คือ กวนจิ้ง ส่วนอีกคนก็คือ ไป๋จวู่เวย

เมื่อเห็น จงจิ่งห้าวกำลังอุ้ม หลินซินเหยียน สองคนก็ช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า

โดยเฉพาะ ไป๋จวู่เวย ถ้าตรงหน้าไม่ใช่ จงจิ่งห้าว เธอคงโกรธจนตัวกระเด็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

ในใจจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว!

“อะห้าว…นาย…..”

จงจิ่งห้าวอุ้มเธอขึ้นมา ก่อนจะหันตัวเข้าห้องไป กวนจิ้งมองไปที่ไป๋จวู่เวยที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ” ประธานจง ถึงแม้จะแต่งงานกับคุณหลิน ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะรักหล่อน เป็นถึงสามีภรรยากัน คงเห็นเธอเป็นลมแล้วไม่ไม่คิดดูแลก็คงไม่ได้หรอกจริงไหมล่ะ ”

ไป๋จวู่เวยยิ้มอย่างเย็นยะเยือก ” อยู่ดี ๆ จะเป็นลมได้ไง ไม่ใช่เพราะมันจงใจหรอกเหรอ ”

กวนจิ้งยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไร ไป๋จวู่เวยก็ต่อบทอีกประโยค ” นังนั่นไม่ได้ป่วยหรือเป็นอะไรเลย อยู่ดี ๆ ก็เป็นลมไม่คิดว่ามันแปลกหรือไง ”

คำพูดพวกนี้จะมีเหตุผลแค่ไหนกันเชียว

ถ้าเทียบกับหลินซินเหยียนแล้ว กวนจิ้งเชื่อใจไป๋จวู่เวยมากกว่า เพราะพวกเขารู้จักกันมานานแล้ว อีกทั้งเรื่องงานก็ยังเป็นเพื่อนคู่คิดกันอีก

ถึงแม้ หลินซินเหยียนจะเป็นผู้หญิงที่โชคไม่ค่อยดีนักแต่ก็ยังมีคนสนิทชิดเชื้อที่รายล้อม ต่างจาก ไป๋จวู่เวยที่โดดเดี่ยวเดียวดายอยู่คนเดียว กี่ปีมานี้ก็ขลุกอยู่กับแค่จงจิ่งห้าว ยังไงก็ต้องรู้สึกว่ามีความลำเอียงเกิดขึ้นต่อเธออยู่แล้ว

จงจิ่งห้าวที่อุ้มหลินซินเหยียนเข้ามาในห้อง ก็วางเธอลงบนเตียง เมื่อกำลังจะลุกขึ้นมา จู่ ๆ ก็โดนหลินซินเหยียนดึงเข้าที่ปกเสื้อ…..

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

Status: Ongoing

การค้าครั้งหนึ่ง หลินซินเหยียนท้องลูกของชายแปลกหน้า เธอตั้งครรภ์ แต่งงานกับชายคู่หมั้นคู่หมายตั้งแต่วัยเด็กเดิมคิดว่านี่เป็นแค่การค้าที่ต่างฝ่ายต่างมีอุบาย แต่กลับพัวพันถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในชีวิตสมรสนี้ตอนตั้งครรภ์สิบเดือนใกล้คลอด จงจิ่งห้าวส่งใบหย่ามาใบหนึ่ง เธอถึงได้ตาสว่างขึ้นมาทันใดต่อมาเขาพูดอีกว่า คุณภรรยากลับมาเถอะ คนที่ผมรักมาโดยตลอดคือคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท