หลินลุ่ยซียิ้มกว้าง เผยให้เห็นฟันขาวเรียงเป็นแถว
“จริงสิจ้ะ”
เหอรุ่ยเจ๋อเหลือบมองหลินซีเฉินที่ไม่พูดไม่จา พลางถาม“เสี่ยวซี ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ?”
หลินซีเฉินดูกลัดกลุ้มใจ“อารมณ์ไม่ดี”
“เป็นเด็กเป็นเล็ก ทำไมถึงอารมณ์ไม่ดีล่ะ?”ประโยคนี้จวงจื่อจิ่นเป็นคนพูด“แม่ซื้อนาฬิกาโทรศัพท์ให้แล้วไม่ใช่เหรอ?ยังมีอะไรไม่พอใจอีกล่ะ?เธอดึงเสื้อฉันทำไม?”
หลินซีเฉินจะให้จวงจื่อจิ่นหยุดพูดแต่ไม่ทัน
“คุณ คุณไม่ต้องพูดแล้ว ทำให้น้าตลกแล้ว”หลินซีเฉินจัดเรียงคำพูดอย่างรวดเร็ว แต่พอพูดว่าลุงคำนี้ ทำเอาเขาสะอิดสะเอียนสุดๆ
คนหน้าเนื้อใจเสือแบบนี้ไม่เหมาะสมให้เขาเรียกว่าน้า
“เสี่ยวซี เอานาฬิกามาให้ฉันดูหน่อย ฉันลืมไปแล้วว่านาฬิกาโทรศัพท์เธอเป็นยังไง”
ตอนจวงจื่อจิ่นเอาโทรศัพท์ออกมา เหอรุ่ยเจ๋อตั้งใจทำแก้วชาหกใส่ จนทำให้โทรศัพท์น้ำเข้าเปิดไม่ติด เธอจึงไม่ได้พกมา
เขาจงใจมองข้อมือหลินซีเฉินแต่กลับไม่เห็นอะไร
เขาไม่อนุญาตให้หลินซีเฉินติดต่อหลินซินเหยียน
หลินซีเฉินตาเป็นประกาย“คือผมลืมเอามา”
เหอรุ่ยเจ๋อรู้ว่าเด็กคนนี้ฉลาด เห็นๆอยู่ว่าเมื่อครู่ดูหวาดผวา
เขาหวาดผวาอะไร?
เหอรุ่ยเจ๋อหรี่ตา ปฏิกิริยาของจวงจื่อจิ่นดูปกติมาก ไม่ได้ระวังเขา แสดงว่าหลินซินเหยียนไม่ได้บอกเธอ
ไม่บอกจวงจื่อจิ่น หลินซินเหยียนคงยิ่งไม่บอกเรื่องอย่างนั้นกับเด็ก5ขวบสองคนหรอก
เขาหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วโทรหาเบอร์หลินซีเฉิน
ทันใดนั้นเสียงกระดิ่งเข้าก็ดังขึ้นในรถ
เสียงนี้เหอรุ่ยเจ๋อจำได้แม่น
เป็นเสียงนาฬิกาโทรศัพท์ของหลินซีเฉิน
หลินซีเฉินหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าอย่างตกใจ แต่ก็สายไปแล้ว
“เสี่ยวซี ทำไมต้องโกหกน้า?เธอลืมไปแล้วเหรอว่านาฬิกาโทรศัพท์นี้ลุงเป็นคนซื้อให้ เบอร์ของลุงและเบอร์แม่เธอลุงตั้งค่าแบบพิเศษ เพราะงั้นต่อให้เธอปิดเสียงนาฬิกาโทรศัพท์ เวลาพวกเราโทรก็จะยังเตือน”
หลังจากเสียงนาฬิกาดังหลินซีเฉินก็เพิ่งนึกขึ้นได้เช่นกัน
เรื่องสำคัญขนาดนี้เขาลืมได้ยังไงกัน?
หลินซีเฉินก้มหน้าอย่างหงุดหงิด“ผม…ผมแค่ไม่อยากให้น้าดู”
เขาก้มหน้า เหอรุ่ยเจ๋อจึงไม่เห็นสีหน้าเขา
“ลุงจำได้ว่านาฬิกาโทรศัพท์รุ่นนี้มีจีพีเอสด้วย ตอนนั้นกลัวเธอหายไป”
“มีครับ”หลินซีเฉินเห็นท่าไม่ดี เขาจึงลองโทรหาจงจิ่งห้าว
ทันใดนั้นเหอรุ่ยเจ๋อก็จอดรถลงข้างทาง แล้วหันมามองหลินซีเฉิน“เธอจะโทรหาใคร?”
“ผมไม่ได้โทรหาใคร”เขาตกใจจนนาฬิกาโทรศัพท์ตก หน้าจอแสดงคำว่า ผู้ชายชอบเล่นความรู้สึกผู้หญิง
นี่เป็นชื่อเรียกที่หลินซีเฉินตั้งให้จงจิ่งห้าว
สำหรับเด็กคนนี้ เขาเป็นคนทอดทิ้งแม่และพวกเขา เขาก็คือผู้ชายที่ชอบเล่นความรู้สึกผู้หญิง
แม้ตอนนี้พวกเขาจะเป็นหุ้นส่วนกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะให้อภัยเขา
เหอรุ่ยเจ๋อก้มลงไปเก็บ จ้องชื่อที่แสดงบนจอพลางถาม“นี่คือใคร?”
หลินซีเฉินตกใจจนเหงื่อไหลเต็มหน้าผาก“ครูของผม เขาชอบยุ่งกับผม ผมเลยตั้งฉายาให้เขา”
เมื่อก่อนหลินซีเฉินเรียนที่AC รู้ว่าเขามีครูก็เลยไม่สงสัย
“นาฬิกาเรือนนี้ใช้มานานแล้ว ควรเปลี่ยนได้แล้ว”ขณะพูดเขาก็ถอดแผงวงจรไฟฟ้าด้านในออก
หน้าปัดนาฬิกาดับลงทันที
“ไม่ ผมไม่อยากเปลี่ยน”หลินซีเฉินยื่นมือไปแย่ง เหอรุ่ยเจ๋อก็หลบอย่างสบายๆ
จวงจื่อจิ่นสังเกตเห็นได้ว่าเหอรุ่ยเจ๋อทำตัวแปลกๆ“นาฬิกาเรือนนั้นยังใช้ได้อยู่เลย”
เหอรุ่ยเจ๋อโยนนาฬิกาลงไปในแม่น้ำเล็กๆใกล้ๆ เขาขับรถออกนอกเมือง จนมาถึงชานเมือง
จวงจื่อจิ่นถามเขาว่าทำไมไกลลับตาคนแบบนี้
เหอรุ่ยเจ๋อบอกวว่าที่ที่เขาจองไว้เป็นบ้านนอกก็เลยไกลหน่อย
เขากำจัดความสงสัยของจวงจื่อจิ่น
“กินข้าวเสร็จ พอกลับไปในเมืองน้าจะซื้อให้ใหม่ อันนี้เก่าจนมีหลายอย่างใช้ไม่ได้แล้ว”
“ผมว่ายังดีอยู่เลย อีกทั้งเมื่อกี้ตอนคุณโทรมาก็ยังดัง ยังใช้ได้”จวงจื่อจิ่นสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเหอรุ่ยเจ๋อ
“ผมจะซื้อใหม่ให้เขาอีกอัน”เหอรุ่ยเจ๋อสตาร์ทรถแล้วขับเข้าถนนอีกครั้ง
ทันใดนั้นหลินซีเฉินก็คว้าเสื้อเหอรุ่ยเจ๋อ“ผมอยากกลับบ้าน”
“ใกล้ถึงแล้ว จะกลับบ้านไปทำไม?”เหอรุ่ยเจ๋อไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแม้แต่น้อย
“ผม ผม…”สมองหลินซีเฉินทำงานอย่างรวดเร็ว เขาต้องหาเหตุผล แสงแวบผ่านสมองของเขา เขาคิดขึ้นได้ทันทีจึงกุมท้อง“ผมปวดท้อง ผมอยากเข้าห้องน้ำ”
“ที่นี่ไม่มีห้องน้ำ อดทนหน่อย”
“ไม่ได้ครับ ผมไม่ไหวแล้ว”หลินซีเฉินนั่งขดอยู่ตรงเบาะหลังอย่างเจ็บปวด
“หมอเหอ คุณหยุดรถก่อนเถอะ เสี่ยวซีรู้สึกไม่ดี”จวงจื่อจิ่นวางหลินลุ่ยซีลงบนเบาะรถ แล้วไปกอดหลินซีเฉินพลางลูบท้องเขา
“ตกใจจนปวดท้องเลยใช่ไหม?”
จวงจื่อจิ่นเป็นห่วงมากๆ
“น่าจะใช่ครับ”หลินซีเฉินปวดจนตัวสั่น ดูเหมือนเจ็บปวดสุดๆ“ผมปวดจะตายอยู่แล้ว ผมต้องเข้าห้องน้ำ”
อีกด้านหนึ่ง หลินซินเหยียนขึ้นรถจงจิ่งห้าว รู้สึกเขาดูท่าทางแปลกๆ จึงถามขึ้น“ตกลงคุณจะพาฉันไปไหน?”
“เมื่อกี้ตอนอยู่ในห้องทำงานลูกชายคุณโทรมาหาผม……”
ครืดๆ…
ทันใดนั้นโทรศัพท์เขาก็สั่นขัดบทสนทนาของพวกเขา เขาหันไปมองโชว์เบอร์เป็นกวนจิ้งจึงรับสาย
เสียงของกวนจิ้งดังขึ้นทันที“ข้อมูลระบุตำแหน่งจู่ๆก็ขาดไปครับ”
เส้นประสาทจงจิ่งห้าวควบแน่นทันที เป็นแบบนี้ได้ยังไง?
เด็กนั่นโดนจับได้แล้ว?
“ตำแหน่งหายไปตรงไหน?”
“แถวๆติงเฉียว”
“ตอนนี้พวกนายอยู่ที่ไหน”
“กำลังรีบตามไปทางนั้นครับ”
จงจิ่งห้าวสงบใจครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาให้กวนจิ้งแยกกันไปตรวจสอบบริเวณแถวๆนั้น
ติงเฉียวไกลจากตัวเมืองไปแล้ว ที่นั่นค่อนข้างลับตาคน เขาเดาว่าที่ที่เหอรุ่ยเจ๋อจะไปคงไม่ไกลนัก น่าจะอยู่แถวๆนั้น
“ไปตรวจดูว่ามีที่ที่จะซ่อนคนได้ไหม”
วางสายปุ๊บหลินซินเหยียนถามขึ้นปั๊บ“เสี่ยวซีโทรหาคุณงั้นเหรอ?”
ตอนแรกจงจิ่งห้าวจะบอก แต่ตอนนี้เกิดความผิดพลาดขึ้น กลัวเธอจะเป็นห่วงเลยไม่บอก เพียงแค่ตอบอืมไปอย่างเรียบๆ
“เขามีเบอร์คุณได้ยังไง?”หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว เด็กคนนั้นเกลียดเขามาก จะเป็นคนติดต่อเขาก่อนเองได้ยังไง?
ตกลงมันมีเรื่องอะไรที่เธอไม่รู้กันแน่?
จู่ๆเธอก็รู้สึกร้อนใจแปลกๆ
“ตอนกินข้าวกันครั้งที่แล้วผมให้เขาไว้เอง ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่ศัตรูกันสักหน่อย เขาไม่ได้อคติกับผมแล้ว”จงจิ่งห้าวอธิบายอย่างใจเย็น
หลินซินเหยียนยังคงรู้สึกไม่สบายใจ
“จริงเหรอ?”
“จริงสิ”
แต่ทางด้านจวงจื่อจิ่นร้อนรนสุดๆ“คุณรีบจอดรถสิ เสี่ยวซีไม่สบาย!”
เหอรุ่ยเจ๋อดูตำแหน่ง มันไม่ไกลจากที่ที่เขาจะไปแล้ว หยุดรถแป๊บเดียวคงไม่เสียเวลาเท่าไหร่ อีกอย่างเขาเอาเครื่องมือสื่อสารของหลินซีเฉินออกแล้ว เขาติดต่อคนภายนอกไม่ได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงหยุดรถ
เขาเปิดประตูรถ เดินไปยังเบาะด้านหลังแล้วพูดกับจวงจื่อจิ่น“ผมพาเสี่ยวซีไปเอง คุณอยู่ดูแลเสี่ยวลุ่ยในรถ ที่นี่ห่างไกลผู้คน อย่าเจอพวกคนไม่ดีเข้า”
“โอเค”จวงจื่อจิ่นตอบรับ
“น้าอุ้มผมหน่อย ผมปวดท้องจนเดินไม่ไหวแล้วครับ”หลินซีเฉินกอดเอวหอรุ่ยเจ๋ออย่างไร้กำลัง
เหอรุ่ยเจ๋อมองเขา“นายปวดจริงๆเหรอ?”
“จริงครับ ผมจะโกหกน้าทำไม?”หลินซีเฉินอ้อนในอ้อมอกเขา กอดเขาแน่น เหมือนเขาเป็นคนที่สนิทมากๆอย่างไรอย่างนั้น
ตอนนี้ไม่สบาย คนก็อ่อนแอลง
เหอรุ่ยเจ๋อเห็นเด็กคนนี้ตั้งแต่เล็กจนโต รู้สึกผูกพัน
เห็นเขาเจ็บปวดขนาดนี้จึงใจอ่อน“น้าอุ้มไปเอง”
ตอนหลินซีเฉินอยู่ในอ้อมแขนเขา มือแอบล้วงเขาไปในกระเป๋าเขา แล้วจงใจคุยกับเขา“คุณน้า ผมจะตายแล้วใช่ไหม?”
“พูดอะไร ไม่ตายแน่นอน แค่ปวดท้องเฉยๆไม่ใช่โรคที่รักษาไม่หาย”เหอรุ่ยเจ๋อพูดปลอบใจ
“งั้นทำไมผมถึงปวดขนาดนี้ ปวดมากๆ ผมปวดจะตายแล้ว”
เขาจงใจดิ้นขยับไปมาในอ้อมแขนเขา เพื่ออำพรางการหยิบโทรศัพท์ของเขา
“จะตายง่ายๆได้ยังไง ถ้านายตาย แม่เธอก็อยู่ต่อไปไม่ได้หรอก……”
พูดถึงหลินซินเหยียน ดวงตาเขาก็มืดมนลงทันที
หลินซีเฉินหยิบโทรศัพท์เหอรุ่ยเจ๋อได้สำเร็จ เขาแอบเอาใส่กระเป๋าตัวเอง
“ตรงนี้แหละ”เหอรุ่ยเจ๋อพาเขามาในป่า
หลินซีเฉินยืนลงบนพื้นพลางถอดกางเกงลง