หลังจากนั้นเขาก็ไปห้องน้ำล้างมือ และยังถูสบู่ด้วย เมื่อถอดเสื้อตัวนอกแล้วก็เดินมาใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้นจงฉีเฟิงก็เอ่ยว่า “งานที่บริษัทว่างมากหรือ ถึงได้กลับมาเร็วขนาดนี้?”
จงจิ่งห้าว “…….”
“ลูกพักก่อนเถอะ”
หลังจากนั้นจงจิ่งห้าวก็ทำได้เพียงแค่นั่งมองอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ
จวงจื่อจิ่นพับเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็วางไว้บนโซฟา พลางเอ่ยว่า “กลับมาเร็วขนาดนี้ เพื่อมาดูลูกสินะ?”
จงจิ่งห้าวเอ่ย “ตอนที่รู้ว่าเสี่ยวลุ่ยกับเสี่ยวซีเป็นลูกของผม ในใจผมนั้นตื้นตันจนยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ แต่ว่าตอนนี้ก็ยังคงตื้นตันใจอยู่”
เจ้าตัวน้อยที่ยังเล็กขนาดนั้น เป็นลูกชายของเขา
หลังจากเกิดออกมาแล้ว คุณหมอบอกว่าจะส่งไปที่แผนกทารกแรกเกิด เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดเรียบร้อยแล้วก็อาศัยคุณหมอเพื่อไปดู เขานอนอยู่ในตู้อบที่ใช้ควบคุมอุณหภูมิเด็กทารกแรกเกิด เจ้าตัวน้อยเหมือนกับหนูตัวใหญ่ ทั่วทั้งร่างเขียวช้ำ บนร่างมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่คอยสังเกตดูสัญญาณชีพทั้งหมดของเขา เขาสามารถมีชีวิตรอดมาได้และฟื้นฟูได้รวดเร็วเช่นนี้ก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งแล้ว
เขาทอดถอนใจในความมหัศจรรย์ของชีวิต
เขาไม่เชื่อเทพยดา ไม่เชื่อในพระเจ้าและพระเยซู ไม่เชื่อในบุคคลใดที่ปรากฏตัวขึ้นเพราะต้องฝากความหวังเอาไว้
แต่เมื่อถึงคราวของลูก เขาขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ให้ลูกของเขามาเกิดบนโลกใบนี้
ถ้าหากว่าไม่มีลูกแล้ว เขาจะต้องโทษตัวเองด้วยความทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต
ใบยินยอมให้ทำแท้งเขาก็เป็นคนลงนามด้วยตนเอง
“เหยียนเหยียนล่ะครับ?”
ตั้งแต่กลับมาเขาก็ไม่เห็นเธอเลย
“ไปเยี่ยมเสี่ยวยาน่ะ” จวงจื่อจิ่นพูดแล้วก็ถอนหายใจ รู้สึกว่าฉินยาจะไม่ราบรื่นเกินไปแล้ว น่าสงสารเป็นอย่างมาก
“รีบมาดูสิ เขายิ้มแล้ว” จงฉีเฟิงเอ่ย
ทารกน้อยยังหลับตาอยู่ เห็นอยู่ชัดๆว่ากำลังนอนหลับ แต่เมื่อครู่กลับแย้มรอยยิ้ม
ป้าหยูวิ่งไปดู
ตอนนี้เองที่รอยยิ้มของทารกน้อยได้เลือนหายไปจากริมฝีปากแล้ว ป้าหยูกำลังจะพูดว่ายิ้มที่ไหนกัน แต่ต่อมาก็เห็นเจ้าตัวน้อยแย้มริมฝีปากยิ้มออกมาจริงๆ
“ไอ้หยา เจ้าเด็กคนนี้น่ารักจริงๆ ฝันว่าเจอเรื่องอะไรดีๆในความฝันกันนะ ถึงได้ยิ้มอารมณ์ดีขนาดนี้ ฝันถึงภรรยาหรือเปล่านะ?”
จวงจื่อจิ่นที่หยิบเสื้อผ้าที่พับเสร็จแล้วขึ้นมา เตรียมตัวจะขึ้นไปชั้นบน เอ่ยว่า “เพิ่งจะอายุเท่าไรเอง”
“ผ่านไปอีก 20 ปี ก็จะเป็นเด็กหนุ่มที่หล่อเหลา จะต้องได้มีแฟนสาวแน่นอน” ป้าหยูเอ่ย
รอยยิ้มจวงจื่อจิ่นเลือนหายไป รู้สึกว่าเธอคิดไกลเกินไปแล้ว
ตอนนี้เองที่ป้าหยูทอดถอนใจออกมา “พอถึงตอนนั้นแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าจะได้เห็นหรือเปล่า”
จวงจื่อจิ่นเอ่ย “คุณจะมีชีวิตไปถึงหนึ่งร้อยปีนะ”
ป้าหยูยิ้ม
ตอนเย็นเหยียนเฉินกับเหยียนซีเลิกเรียน หลังจากนั้นน้องชายตัวน้อยก็ถูกจงเหยียนซีครอบครองเอาไว้คนเดียว เธอนอนคว่ำอยู่ข้างเตียง มือเล็กถ้าไม่ได้จิ้มแก้มน้อยๆของเขา ก็ลูบศีรษะเขา
จงเหยียนซีที่คุ้นชินแล้ว นั่งกอดอกนิ่งอยู่ข้างกายจงจิ่งห้าว “คุณพ่อครับ ได้เป็นคุณพ่อแล้วมีความรู้สึกอย่างไรบ้างหรือครับ”
จงจิ่งห้าวเอ่ยนิ่งๆว่า “นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เป็นคุณพ่อสักหน่อย คุ้นชินนานแล้ว”
“ลูกได้เป็นพี่ชายแล้วมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง” จงจิ่งห้าวเอ่ยจบแล้วก็เสริมอีกประโยคหนึ่ง
จงเหยียนซีตอบเสียงนิ่งว่า “นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เป็นพี่ชายสักหน่อย คุ้นชินนานแล้วครับ”
จงจิ่งห้าว “……”
ตอนเย็นหลินซินเหยียนไม่ได้กลับมากินข้าวเย็น จงฉีเฟิงจึงคอยดูตอนที่เด็กทั้งสองคนทำการบ้าน
ป้าหยูอยากจะอุ้มทารกน้อย ดังนั้นงานล้างชามจานจึงมีจวงจื่อจิ่นเป็นคนทำ
ทารกน้อยกำลังดื่มนม ปากเล็กๆนั้นคาบจุกนมเอาไว้แน่น ดูดแรงมาก 20มิลลิลิตร ไม่นานก็ดื่มหมด
ป้าหยูวางขวดนมไว้บนโต๊ะ เช็ดปากให้เขา เดิมยังตื่นอยู่ แต่เมื่อดื่มนมหมดแล้วก็หลับไปแล้ว
“ไอ้หยา ทำไมหนูถึงได้เหมือนหมูน้อยแบบนี้ล่ะ กินอิ่มแล้วก็นอน”
จวงจื่อจิ่นเดินมาหยิบขวดนมที่ถูกดื่มนมหมดแล้ว เตรียมจะไปล้างให้สะอาดแล้ววางในตู้ฆ่าเชื้อ เมื่อได้ยินคำพูดของป้าหยูจึงเอ่ยว่า “เด็กทารกก็กินและนอน กินนอนแล้วโต”
ป้าหยูยิ้ม “เด็กคนนี้หน้าตาเหมือนใคร?”
“เหมือนจิ่งห้าว” จวงจื่อจิ่นเอ่ย
ป้าหยูเอ่ย “ฉันมองแล้วเหมือนคุณนาย คนล้วนพูดกันว่าลูกชายเหมือนแม่แล้วจะโชคดี”
“เหมือนใครก็ล้วนโชคดี ดูครอบครัวเราสิล้วนวนรอบตัวเขาคนเดียว จะว่าไป ฉันรู้สึกว่าเหมือนจิ่งห้าวนั้นหน้าตาหล่อมาก” จวงจื่อจิ่นยิ้มตาหยี มองไปทางเด็กที่อยู่ในอ้อมแขนป้าหยู
ล้วนพูดกันว่าแม่ยายมองลูกเขย ยิ่งมองก็ยิ่งชอบ คำพูดนี้เป็นความจริงไม่หลอกลวง จวงจื่อจิ่นรู้สึกว่าจงจิ่งห้าวล้วนดีไปหมด สมบูรณ์แบบ
“ไอ้หยาๆ คุณเป็นแม่แท้ๆนะ? คุณนายหน้าตาไม่ดีตรงไหนคะ” ป้าหยูมองเธอ ยังมีการดูแคลนลูกสาวตัวเองด้วย
จวงจื่อจิ่นไม่ได้ดูแคลนลูกสาวตัวเอง เพียงรู้สึกว่าเด็กผู้ชาย หน้าตาเหมือนหลินซินเหยียนก็เหมือนกับเด็กผู้หญิงน่ะสิ ดังนั้นจึงยังรู้สึกว่าหน้าตาเหมือนจงจิ่งห้าวถึงจะดี หล่อเหล่าและไม่สูญเสียความเป็นชายด้วย
“ไม่ว่าจะหน้าตาเหมือนใคร สรุปแล้วไม่น่าเกลียดแน่นอน” ป้าหยูเอ่ย
จวงจื่อจิ่นเอ่ยยิ้มๆว่าใช่ และถือขวดนมจากไป
ตอนกลางคืนหลินซินเหยียนจะเป็นคนดูแลลูกเอง เดิมจวงจื่อจิ่นจะช่วยเธอดูแล เธอพูดว่าตัวเองจะดูแลก่อนช่วงเวลาหนึ่ง
ถึงเวลานอน ป้าหยูถึงได้พาเด็กขึ้นมาส่งที่ชั้นบน
ภายในห้องมีจงจิ่งห้าวแค่คนเดียว เมื่ออาบน้ำสวมชุดนอนเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งดูเอกสารรออยู่ที่ข้างหน้าต่าง
ขาเรียวยาวทั้งคู่ของเขานั่งไขว่ห้างด้วยท่าทางสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาครึ่งหนึ่งถูกซ่อนอยู่ในความมืด อีกครึ่งหนึ่งอยู่ใต้แสงสว่าง มีมิติอย่างเห็นได้ชัด
ป้าหยูอุ้มทารกน้อยที่หลับแล้ววางลงในเตียงทารก ถามเสียงเบาประโยคหนึ่งว่า “คุณนายยังไม่กลับมา”
“เธอจะกลับมาดึกหน่อย” หลินซินเหยียนโทรศัพท์กลับมาบอกเขา บอกว่าข้างกายฉินยาไม่มีใคร เธอจะอยู่เป็นเพื่อนเธอให้มากหน่อย
ป้าหยูเดินออกไปแล้วปิดประตู
ผ่านไปครู่หนึ่ง ทารกน้อยที่นอนอยู่บนเตียงก็ร้องไห้ขึ้นมากะทันหัน