กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม – บทที่ 843 ไม่ได้ท้องใช่ไหม

บทที่ 843 ไม่ได้ท้องใช่ไหม

ตอนค่ำเด็กทั้งสองคนเลิกเรียนกลับมา จงเหยียนซีปีนขึ้นไปที่หัวเตียงของจงฉีเฟิง ใช้กระดาษสีพับเป็นนกกระดาษ“คุณครูศิลปะเป็นคนสอนพวกเราค่ะ”

“อย่างนั้นเหรอ?”จงฉีเฟิงยื่นมือออกมาลูบหัวของหลานสาว“หลานทำเป็นแล้วยัง?”

“ยังไม่ชำนาญ พับไม่สวยเท่าคุณครู”จงเหยียนซีพับอย่างตั้งใจ

“ปู่เชื่อว่าเสี่ยวลุ่ยจะพับสวย”

จงเหยียนซีเงยหน้าขึ้น“คุณปู่ หนูจะพับเยอะๆเลย”

“ทำไมเหรอ?”จงฉีเฟิงพูดถามขึ้น

เขาพิงที่หัวเตียง สีหน้าเริ่มเหลือง ดูซูบผอม

“อื้อ ในตำนานโบราณบอกว่าถ้าตั้งใจพับนกกระเรียนกระดาษได้ถึงหนึ่งพันตัว จะนำพาความสุขและโชคดีมาให้กับคนรักได้ หนูจะพับมาหนึ่งพันตัวมอบให้กับคุณปู่ ให้คุณปู่หายไวๆ”จงเหยียนซีพูดขึ้นอย่างจริงจัง

จงฉีเฟิงรู้สึกอบอุ่นในใจ เด็กน้อยคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งทำให้คนมีความสุขขึ้นเรื่อยๆ“หลานได้ยินมาจากไหน? ไม่ตั้งใจเรียน เรียนเรื่องพวกนี้ไม่มีประโยชน์หรอกนะ”

“คุณครูศิลปะบอกพวกเราตอนที่กำลังสอน ที่คุณครูสอนไม่มีประโยชน์เหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นต่อไปหนูไม่ฟังคุณครูแล้ว แล้วก็จะไม่ตั้งใจทำการบ้านด้วย”จงเหยียนซีฉลาดจริงๆ จงฉีเฟิงพูดด้วยความรักเอ็นดู“ปู่ผิดไปแล้ว มันมีประโยชน์ต่างหากล่ะ”

จงเหยียนซีเปิดตาสว่างใสแจ๋ว ขนตางอนกระพือ มองจงฉีเฟิงด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง“คุณปู่ หนูจะตั้งใจ ขอให้คุณปู่หายไวๆนะคะ”

จงฉีเฟิงไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว แต่ที่ปล่อยวางไปไม่ลงก็คือเด็กทั้งสามคนนี้ ก่อนที่เฉิงยู่ซิ่วเกิดก็อยากเห็นพวกเขาเข้าเรียน

หลินซินเหยียนคลอดลูกมา แต่เธอยังไม่ได้เห็นเลย

“หนูเอาไปแขวนก่อนนะคะ”จงเหยียนซีเอานกกระเรียนกระดาษที่พับเสร็จแล้วไปแขวนที่ผ้าม่านตรงหน้าต่าง

หลินซินเหยียนอุ้มลูกน้อยเข้ามา เห็นลูกสาวกำลังเหยียบเก้าอี้ขึ้นไปแขวนนกกระเรียนกระดาษ ก็เข้าไปประคองเธอไว้“ลูกระวังหน่อยสิ”

“ไม่เป็นไร หนูโตแล้ว”จงเหยียนซีแขวนเสร็จก็ปีนลงมา“หม่ามี๊ อุ้มน้องชายมาดูคุณปู่เหรอคะ?”

หลินซินเหยียนพยักหน้า“ใช่น่ะสิ น้องชายคิดถึงคุณปู่”

“แหะๆ”เธอยื่นมือไปหยิกแก้มของน้องชาย“แก้มของเขานิ่มจริงๆ”

หลินซินเหยียนตีมือของเธอ“หยิกไม่ได้นะ เดี๋ยวน้ำลายจะไหล”

จงเหยียนซีเบะปาก บอกว่าหนูจะไปแล้ว

พูดจบก็เดินออกไปจากห้อง ตอนที่กำลังจะปิดประตูนั้น ตรงประตูก็เจอกับจงจิ่งห้าวเข้าพอดี จึงตะโกนขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น“แด๊ดดี้”

จงจิ่งห้าวตอบรับ“ไปเล่นกับพี่ชายที่ห้องนั่งเล่นก่อนสิ”

“หนูไม่เล่นกับเขา เขาน่าเบื่อจะตาย”พูดจบก็ต่างคนต่างกลับไปที่ห้องของตัวเอง

จงเหยียนเฉินเป็นเด็กแก่แดด ฉลาดเกินอายุมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตอนนี้ในครอบครัวก็มีแต่จงเหยียนซีกับลูกน้อยที่ไม่รู้สถานการณ์ของจงฉีเฟิง จงเหยียนเฉินรู้สึกเจ็บปวดอยู่ภายในใจ

เขาที่ไม่ค่อยชอบพูดอยู่แล้ว ก็ยิ่งนิ่งเงียบขึ้นไปอีก

จงเหยียนซีบอกว่าเขาแสร้งทำเป็นสงบนิ่งขรึม

จงจิ่งห้าวปิดประตูเดินมาตรงหน้าเตียง ลากเก้าอี้หนึ่งตัวมานั่งลงใกล้ๆหลินซินเหยียน

หลังจากที่จงฉีเฟิงป่วย ก็ไม่ชอบอุ้มลูกน้อยแล้ว แม้ว่าโรคนี้จะไม่ติดต่อ แต่เขาก็กลัวว่าจะติดต่อไปที่เขา กลัวว่าโรคของตัวเองจะแพร่ไปที่ตัวของเขา

เขายังเด็ก ภูมิต้านทานอ่อนแอ

“เธออุ้มเขามาได้ยังไง อย่าเข้าใกล้ฉันขนาดนี้”จงฉีเฟิงโบกมือ

หลินซินเหยียนพูดขึ้น“ฉันกับจิ่งห้าวมีเรื่องอยากจะพูดกับพ่อค่ะ”

“เรื่องอะไร?”

จงฉีเฟิงเงยหน้าขึ้นมองมายังจงจิ่งห้าว

“ฉันกับจิ่งห้าวปรึกษากัน ว่าจะยกลูกน้อยให้กับซูจ้านและฉินยาเป็นคนดูแลเลี้ยงดูค่ะ”หลินซินเหยียนพูดขึ้น

จงฉีเฟิงมองต่ำลง สายตาหันมองไปยังลูกน้อยอย่างช้าๆ พร้อมกับพูดขึ้น“นี่เป็นลูกของพวกเธอ พวกเธอคุยปรึกษากันดีแล้ว ฉันก็ไม่มีข้อโต้แย้ง”

เขายื่นมือออกไป ลูกน้อยคว้าปลายนิ้วของเขาเอาไว้ ฉีกยิ้มกว้าง

“……แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”

ถึงจงฉีเฟิงจะป่วย แต่ในหัวรู้ดี รู้ดีว่าพวกเขาคิดยังไง

“พ่อแม่ของเธอก็มีเธอเป็นลูกสาวคนเดียว เด็กคนนี้ใช้นามสกุลของพ่อเธอ แล้วสืบทอดธุรกิจตระกูลของพ่อแม่เธอด้วย ก็ถือว่าครบสมบูรณ์แล้ว ไม่ได้เห็นพวกเขาตอนเกิด ถ้าเกิดได้เจอกับพวกเขาตอนที่ยังไม่ได้มาเกิดบนโลก ฉันก็สามารถพูดคุยกับพวกเขาได้”

จงฉีเฟิงเสียงเบามาก เห็นได้ชัดว่าอ่อนแอมากแล้ว

บรรยากาศก็หนักหน่วงขึ้นมา โดนเฉพาะหลังจากที่ได้ยินคำพูดสองประโยคหลังของจงฉีเฟิง พูดอีกสักพัก จงฉีเฟิงก็เหนื่อยแล้ว หลินซินเหยียนกับจงจิ่งห้าวออกมาจากห้อง ให้เขาพักผ่อน

ช่วงกลางคืนหลินซินเหยียนพลิกตัว พบว่าคนที่นอนข้างๆไม่อยู่แล้ว ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ มองผ่านผ้าม่านโปร่งๆบางๆ เห็นเงาคนหนึ่งคนยืนอยู่ที่ระเบียง เธอลุกจากเตียงสวมรองเท้าแตะหยิบเสื้อหนึ่งตัวเดินออกไป เอาเสื้อตัวนอกไปคลุมไว้ที่ตัวของเขา“ทำไมถึงไม่นอน?”

ภายใต้แสงจันทร์อันอ่อนโยน พอให้หลินซินเหยียนได้เห็นใบหน้าที่นิ่งลึกของเขาอย่างชัดเจน ในเวลานี้เกิดอารมณ์ความรู้สึกที่ยากเกินจะอธิบาย

จงจิ่งห้าวหยิบเสื้อคลุมที่คลุมอยู่ออกมา ห่มไปที่ร่างกายของเธอ คว้ามือของเธอมากุมเอาไว้“ผมนอนไม่หลับ อยู่เป็นเพื่อนผมสักพักสิ”

หลินซินเหยียนตอบอื้อกลับมาเบาๆ ทั้งสองคนไม่พูดอะไร ยืนเงียบๆอยู่แบบนี้ กลางดึกแสงจันทร์สาดส่องมาคลุมที่ร่างของพวกเขาทั้งสองคน

“อาลัยอาวรณ์ลูกน้อยใช่ไหม?”หลินซินเหยียนหันมองไปที่เขา“ถ้าคุณชอบ ฉันค่อยคลอดให้กับคุณอีกสักคน”

จงจิ่งห้าวกุมมือของเธอเอาไว้อย่างแรง พร้อมกับพูดขึ้น“สุขภาพร่างกายของคุณไม่ไหว พวกเราไม่เอาแล้ว มีเสี่ยวซีกับเสี่ยวลุ่ยอยู่ข้างกายของพวกเราก็พอแล้ว พวกเขาเป็นลูกคนแรกของพวกเรา ผมไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจแล้วล่ะ”

มีลูกชายหนึ่งลูกสาวหนึ่งมันก็ดีที่สุดแล้ว

“ฉันเข้าใจที่คุณทำแบบนี้ ก็เพื่อฉัน คุณเห็นด้วยที่จะให้ลูกน้อยนามสกุลจวง ในอนาคตเขาสืบทอดJK เพื่อเป็นทายาทต่อจากพ่อของฉัน สืบทอดธุรกิจของเขา ไม่ถึงขั้นที่เคยถูกคนลืมว่าเคยมีคนแบบนี้อยู่บนโลก”เธอมองต่ำลง เอามือไปประกบที่หลังมือของเขา“ฉินยากับซูจ้านเลี้ยงดูลูกน้อย แค่มีคนที่รักเขามากกว่าเพิ่มขึ้นมาอีกสองคนเท่านั้น มันก็ถือว่าเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือไง”

เข้าใจเหตุผลดี แต่แค่รู้สึกอาลัยอาวรณ์

“ไปนอนกันเถอะ”จงจิ่งห้าวกุมมือของเธอเข้าไปในห้อง

นอนลงบนเตียงก็ยากที่จะหลับลูกน้อยจงฉีเฟิง เหล่านี้ล้วนแต่เป็นความเศร้าหมองที่ตราตรึงอยู่ในใจ

ค่ำคืนนี้ยังมีอีกหนึ่งคนที่นอนกลับไม่สนิท

ช่วงนี้ซางหยูมักจะมีอาการคลื่นไส้อยู่บ่อยๆ วันนี้ตอนค่ำเธอไม่ได้กินอะไร ก็ยังรู้สึกอยากจะอาเจียน แต่อาเจียนไม่ออก

อาการคลื่นไส้นี้มีมาตลอด ทำให้เธอไม่สามารถพักผ่อนได้

เช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็กะจะไปที่คลินิก โรงพยาบาลใหญ่ๆต้องต่อคิว แถมเธอถูกบริษัทแห่งหนึ่งรับไปเป็นเด็กฝึกงานแล้วด้วย จะสายไม่ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะถูกหักการประเมินผลการปฏิบัติงาน แถมผลกระทบที่ตามมาก็ไม่ดีด้วย เธอเพิ่งจะถูกรับเข้าทำงานก็มาสายซะแล้ว จะทำให้คนเขารู้สึกไม่ดีกับเราตั้งแต่แรกไม่ได้

คลินิกคนไม่เยอะ

ซางหยูบอกอาการของตัวเองให้กับหมอ“ช่วงหลายวันนี้เอาแต่รู้สึกคลื่นไส้อยู่ตลอดเวลา แต่ก็อาเจียนไม่ออก ไม่มีความอยากอาหารด้วย กินอะไรไม่ลงเลยค่ะ”

หมอพูดถาม“ก่อนหน้านี้มีอาการแบบนี้ไหม?”

ซางหยูส่ายหน้า“สุขภาพร่างกายของฉันดีมาตลอดค่ะ”

“ช่วงนี้มีอดหลับอดนอนไหม?”หมอถามขึ้นอีกครั้ง

“ไม่มีค่ะ”

“อาการคลื่นไส้ เบื่ออาหารของคุณนี้อาจมาจากสาเหตุของกะเพาะและลำไส้อักเสบ”หมอพูดขึ้น“เดี๋ยวผมจ่ายยาให้คุณก็แล้วกัน”

ซางหยูพูดขึ้น“ได้ค่ะ ถ้าอย่างคุณหมอจ่ายยาให้เลยแล้วกันค่ะ”

หมอจ่ายยาให้เธอสองสามกล่อง ซางหยูหยิบยาใส่เข้าไปในกระเป๋า ระหว่างทางที่เดินทางไปบริษัท เธอซื้อน้ำเต้าหู้หนึ่งแก้ว แล้วก็ถือโอกาสกินยาไปด้วยเลย

เธอคำนวณเวลาแล้วว่าไปถึงบริษัทก่อนเวลา

เพิ่งมาฝึกงานก็ได้แค่ทำงานง่ายๆ พวกช่วยถ่ายเอกสาร ช่วยติดตารางงาน แต่แค่เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อาการดีขึ้นจากการกินยา

คิดดูแล้วอาจจะเป็นเพราะเพิ่งกินเข้าไป ก็เลยยังไม่ออกฤทธิ์ ตอนเที่ยงก็กินต่อตามคำสั่งของหมอ

ตอนเย็นเลิกงานเธอก็ยังไม่ดีขึ้น หวางทิงเสว่โทรศัพท์มาชวนเธอกินข้าว

เธอเหนื่อยกับงานมาทั้งวัน ไม่อยากไป หวางทิงเสว่พูดขึ้น“ถ้าเธอไม่มา เธอไม่ใช่เพื่อนของฉันแล้วนะ”

ซางหยูถอนหายใจออกมา รู้จักนิสัยใจคอของหวางทิงเสว่ดี ต้องไปเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะต้องไม่ยุ่งกับเธอไปอีกนานแน่นอน

“หมี่ของร้านนี้อร่อยมากเป็นพิเศษเลย”ทั้งสองคนเจอกันตรงประตูทางเข้ามหาลัย หวางทิงเสว่ควงแขนของเธอเดินไปอยู่ตรงหน้าร้านซุปวัวหวยหนานร้านหนึ่ง

“นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้มากิน” หวางทิงเสว่จูงเธอเดินเข้าไป พูดกับเถ้าแก่“เอาหมี่สองถ้วย แล้วก็ขนมปังทอดหนึ่งค่ะ”

“ได้ครับ กรุณารอสักครู่”

ผ่านไปสักพักเถ้าแก่ก็เอาหมี่สองถ้วยมาเสิร์ฟ หมี่เส้นเล็กๆ แล้วก็ฟองเต้าหู้ที่หั่นเป็นเส้น เนื้อวัวหั่นเป็นแผ่นบางๆ โรยด้วยผักชีและหอมแดง แล้วราดด้วยน้ำซุปร้อนๆ นี่แหละอาการอันโอชะ

หวางทิงเสว่ได้กลิ่นแล้วก็น้ำลายไหล“หอมจัง”

เมื่อก่อนซางหยูก็ชอบกินเหมือนกัน หมี่เนื้อวัวบวกกับขนมปังปิ้งบางๆ อร่อยมากจริงๆ แต่ตอนนี้เธอเห็นแล้วกลับไม่มีความอยากเลยแม้แต่น้อย

หวางทิงเสว่คีบเนื้อขึ้นมาหนึ่งชิ้นยัดเข้าไปในปากพร้อมกับบะหมี่ ได้กินของที่ตัวเองชอบ ในใจรู้สึกเติมเต็มไม่น้อยเลย เธอรู้สึกว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่มีความสุขที่สุด

“ซางหยูทำไมเธอเอาแต่มองไม่กินเลยล่ะ?” หวางทิงเสว่หยิบขนมปังขึ้นมากัดไปหนึ่งคำ พูดขึ้นทั้งที่ในปากยังมีอาหารอยู่

ซางหยูตอบ“ช่วงนี้ฉันรู้สึกไม่สบาย ไม่ค่อยอยาก”

หวางทิงเสว่กลืนอาหารลงไป ก่อนจะถามขึ้น“ไม่สบายยังไง?”

“คลื่นไส้อยากอาเจียน กินยาแล้ว ก็ไม่ได้ช่วย”จู่ๆเธอก็จับตรงหน้าอก เริ่มรู้สึกคลื่นไส้อีกแล้ว

หวางทิงเสว่ถลึงตาโต“ซางหยู นี่เธอคลื่นไส้ คงจะไม่ได้ท้องหรอกใช่ไหม?”

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

Status: Ongoing

การค้าครั้งหนึ่ง หลินซินเหยียนท้องลูกของชายแปลกหน้า เธอตั้งครรภ์ แต่งงานกับชายคู่หมั้นคู่หมายตั้งแต่วัยเด็กเดิมคิดว่านี่เป็นแค่การค้าที่ต่างฝ่ายต่างมีอุบาย แต่กลับพัวพันถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในชีวิตสมรสนี้ตอนตั้งครรภ์สิบเดือนใกล้คลอด จงจิ่งห้าวส่งใบหย่ามาใบหนึ่ง เธอถึงได้ตาสว่างขึ้นมาทันใดต่อมาเขาพูดอีกว่า คุณภรรยากลับมาเถอะ คนที่ผมรักมาโดยตลอดคือคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท