เสิ่นเผยซวนชักมุมปาก อมยิ้ม
“โอ้”ซูจ้านเห็นสีหน้าท่าทีของเขาก็รู้ได้เลย ว่ามีข่าวดี“มิน่าล่ะถึงถึงชวนพวกเรามาทานข้าว ที่แท้ก็มีข่าวดีจะอวดพวกเรานี่เอง”
เสิ่นเผยซวนชำเลืองมองเขา“ฉันไม่ได้ขี้อวดเหมือนนายสักหน่อย”
“ฉันมีอะไรให้อวดไม่ทราบ?”ซูจ้านยิ้มๆ แม้ว่าจะไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไร แต่ตอนนี้สามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับฉินยาได้ ก็มีค่าเหนือสิ่งอื่นใดแล้ว
ตรงหน้าซางหยูกับฉินยาเดินเข้าไปข้างในบ้านก่อน หลินซินเหยียนกับจงจิ่งห้าวมาถึงก่อนเพื่อน แม้ว่าจะย้ายออกจากวิลล่าแล้ว แต่ทางนี้ก็ยังเรียกให้คนมาทำความสะอาดอยู่ ดังนั้นในบ้านจึงไม่มีฝุ่นเกาะเลยแม้ว่าจะไม่มีคนอยู่ก็ตาม ที่นี่สะอาดสะอ้านมาก
พอเห็นพวกเธอเข้ามาหลินซินเหยียนก็รินน้ำสองสามแก้ววางไว้บนโต๊ะ
“เผยซวน ได้ยินว่านายเลื่อนตำแหน่งแล้ว”หลินซินเหยียนวางกาน้ำลง เงยหน้าขึ้นมามองเขาพร้อมกับพูดขึ้น
เสิ่นเผยซวนนั่งลงบนโซฟา“พี่สะใภ้นี่ข่าวไวจังเลยนะครับ ผมยังไม่ทันได้บอก คุณก็รู้เรียบร้อยแล้ว”
หลินซินเหยียนยิ้มอ่อน เธอก็ได้ยินมาจากจงจิ่งห้าวเหมือนกัน แต่จงจิ่งห้าวรู้ได้ยังไง เธอก็ไม่รู้เหมือนกัน จงจิ่งห้าวมีเครือข่ายกว้างขวาง ข่าวคราวไวก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
“เนื่องในโอกาสนี้ ผมก็มีเรื่องจะพูดเหมือนกัน”ซูจ้านโอบฉินยาพร้อมกับพูดขึ้น“ผมกับฉินยาวางแผนเรียบร้อยแล้ว ว่ากลับมาในครั้งนี้ก็เพื่อมารับท่านย่า”
“รับท่านยาไปไหนล่ะ?”เสิ่นเผยซวนเพิ่งจะไปทำงานต่างถิ่นกลับมาได้ไม่นาน ไม่รู้เรื่องที่ซูจ้านจะไปใช้ชีวิตที่เมืองC ก็เลยถามออกไปแบบนี้
ซูจ้านบอกเรื่องที่ตัวเองจะกลับไปเมืองCออกไป“อาการของท่านย่าหนักมาก แต่สำหรับพวกเราแล้วกลับเป็นเรื่องที่ดี แบบนี้ผมก็จะได้อยู่ด้วยกันกับฉินยา”
เส้นทางนี้ดูท่าน่าจะยากลำบากเกินไป
ท่านย่าที่มีภาวะสมองเสื่อมอยู่แล้ว แถมบวกกับคราวก่อนที่ล้มหัวฟาด ความจำเสื่อม ความจำส่วนใหญ่จะหยุดอยู่ในอดีต ความจำในช่วงนี้ดูเหมือนจะลืมไปจนหมด เรื่องที่ไม่ดีไม่พึงประสงค์พวกนั้นลืมไปหมดแล้วสำหรับเขาถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
“นายไปใช้ชีวิตที่นั่น ถ้าอย่างนั้นทางนี้……”
“ทางนี้ฉันจัดการหมดแล้ว”ซูจ้านรู้ว่าเสิ่นเผยซวนอยากจะถามอะไร
เสิ่นเผยซวนตบไหล่ของเขา ในตอนนี้ ก็มีเสียงกริ่งประตูดังขึ้นมา คนที่มาส่งอาหาร
หลินซินเหยียนลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู พวกเขามากันสามคน ถือกล่องอาหารมาสองสามกล่อง หลินซินเหยียนหลีกตัวให้พวกเขาเดินเข้ามา“วางบนโต๊ะให้หมดเลยค่ะ”
ไม่นานคนส่งอาหารก็เอากล่องอาหารวางไว้บนโต๊ะ
หลังจากพวกเขาไปแล้ว หลินซินเหยียนก็ปิดประตูเดินไปเปิดกล่องอาหารที่โต๊ะ ฉินยากับซางหยูเดินมาช่วย
หลินซินเหยียนพูดขึ้น“ฉันคนเดียวได้ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว ทำไมพวกเธอถึงมากันหมดเลยล่ะ?”
“พวกเขาคุยกันตามประสาผู้ชาย พวกเราก็ไม่รู้จะคุยอะไรเหมือนกัน”ซางหยูยิ้มพร้อมกับถามขึ้น“จะเอาจัดใส่จานไหมคะ?”
ฉินยาพูดขึ้น“มันจัดวางมาเรียบร้อยแล้ว ถ้าจัดลงจาน ก็แค่สวยงามเท่านั้น เดี๋ยวก็ต้องเก็บกวาดอีก”
“ก็ถูก”ซางหยูถามหลินซินเหยียน“พี่สะใภ้ ทำไมพวกคุณถึงย้ายไปที่บ้านเก่า ไม่อยู่ที่นี่ต่อล่ะคะ?”
หลินซินเหยียนมองต่ำลงซ่อนเร้นอารมณ์ความรู้สึก บอกว่าสุขภาพของจงฉีเฟิงไม่ดี คิดถึงสถานที่เก่าๆ ก็เลยย้ายกลับไป
อาหารจัดเตรียมเสร็จแล้ว ฉินยาตะโกนไปหาคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่น“พวกคุณมากินไปพลางคุยไปพลางสิ”
“วันนี้ฉลองให้กับการได้เลื่อนตำแหน่งของเสิ่นเผยซวน เดี๋ยวฉันไปเอาเหล้ามาให้”หลินซินเหยียนพูดขึ้น
“พวกเราขับรถมากันทั้งนั้น ถ้าดื่มแล้วจะกลับกันยังไง?”ซูจ้านจูงฉินยานั่งลง
หลินซินเหยียนหยุดฝีเท้าลงรู้สึกว่าซูจ้านพูดถูก
“เรียกคนมาขับแทนก็ได้ไม่ใช่เหรอ หาเวลายากมากที่พวกเราจะมารวมตัวกันแบบนี้ หลังจากที่พี่เสิ่นได้เลื่อนขั้นแล้วจะต้องยุ่งมากแน่ๆ ฉันกับซูจ้านก็จะไปใช้ชีวิตที่เมืองCแล้ว ครั้งหน้าไม่รู้ว่าจะได้รวมตัวกันอีกเมื่อไร ไหนๆก็ดื่มสักแก้วก็แล้วกัน พวกคุณว่าไง?”ฉินยาพูดยิ้มๆ
ต่อมาทุกคนก็รู้สึกว่ากินแต่ข้าวไม่กินเหล้ามันเสียบรรยากาศอย่างที่ฉินยาพูด ก็เลยหยิบมาสองขวด
ตอนแรกหลินซินเหยียนจะรินให้ แต่เสิ่นเผยซวนหยิบขวดเหล้ามา“เดี๋ยวผมทำเอง”
หลินซินเหยียนเอาขวดให้กับเขา แล้วนั่งลง
เขาเริ่มรินให้กับจงจิ่งห้าวไปจนครบทุกคน แต่ไม่ได้รินให้กับซางหยู ฉินยาพูดแซวเขา“เมื่อก่อนดูไม่ออกเลยว่าพี่เสิ่นจะดูแลคนเก่งขนาดนี้”เธอยิ้มๆพลางมองซางหยู“คุณนี่แต่งงานถูกคนแล้วนะ ดูสิ ฉันกับพี่หลินก็รินให้แล้ว มีแต่คุณที่ยังไม่ได้รินให้ เป็นห่วงเอ็นดูขนาดไหนกันเชียว”
ซางหยูรู้สึกอึดอัดไม่น้อย หน้าเริ่มแดงเพราะถูกฉินยาพูดแซวแล้ว
เธอก้มหน้าด้วยความเขินอาย
ฉินยาพูดจบ เสิ่นเผยซวนก็ยังไม่รินให้ซางหยู
เขานั่งลงวางขวดเหล้าลงข้างๆ“เธอดื่มไม่เป็น”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ดื่มได้แล้วใช่ไหม?”หลินซินเหยียนยิ้มๆ
ทุกคนต่างมีความสุขสนุกด้วยกัน ไม่ใช่แกล้งซางหยู แต่กำลังหยอกแซวเสิ่นเผยซวนอยู่“ถ้าอย่างนั้นของซางหยูคุณเป็นคนดื่มแทนเธอก็แล้วกัน”
“ได้”เสิ่นเผยซวนตอบกลับไปทันทีโดยที่ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
ซูจ้านเหลือบมองเสิ่นเผยซวน“นายรีบไปเลยไป ถ้านายจะมาแสดงความรักกันก็กลับไปแสดงที่บ้าน นายได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว พวกเราก็มาเฉลิมฉลองให้นาย แต่ภรรยาของนายกลับไม่ดื่ม มันได้ที่ไหนกัน”
ซูจ้านหยิบเหล้าที่อยู่ตรงหน้าของเสิ่นเผยซวนมารินให้กับซางหยูเต็มแก้ว แถมยังพูดขึ้น“วันนี้มาฉลองให้สามีของคุณ จะมาหักหน้าพวกเราไม่ได้นะ”
“ซูจ้าน”ฉินยาจ้องเขม็งเขา
เธอแค่อยากที่จะแซวเสิ่นเผยซวนเท่านั้น ไม่ได้คิดจะให้ซางหยูดื่มจริงๆสักหน่อย ในที่นี้เธอเด็กที่สุด แถมยังเป็นเด็กนักศึกษาไม่เหมาะสมเท่าไรที่จะดื่มเหล้า
ซางหยูลุกขึ้นมา รินน้ำชาหนึ่งแก้ว“ฉันดื่มชาแทนเหล้าก็แล้วกันค่ะ”
ซูจ้านยังอยากที่จะพูดอะไรออกมา หลินซินเหยียนพูดตัดบทเขา“เอาล่ะ ซางหยูก็ดื่มน้ำชาไปก็แล้วกัน”
เธอดูเหมือนจะมองอะไรบางอย่างออก ไม่ใช่ว่าซางหยูดื่มไม่ได้ ครั้งที่แล้วเธอก็ดื่มมาแล้ว วันนี้ทุกคนก็อยู่พร้อมหน้ากันหมด ไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่ดื่มแน่นอน
เธอแต่งงานกับเสิ่นเผยซวนมาสักพักหนึ่งแล้ว น่าจะมีแล้วสินะ
หลินซินเหยียนไม่แน่ใจ แค่เดาเท่านั้น
ไม่อย่างนั้นเธอก็คิดสาเหตุอื่นไม่ออกแล้วเหมือนกันว่าทำไมซางหยูถึงไม่ยอมดื่ม
“ตอนแรกพวกคุณก็เป็นคนเลือกเอง ตอนนี้ก็เป็นพวกคุณอีก ผู้หญิงนี่ทำไมถึงเปลี่ยนใจง่ายขนาดนี้?”ซูจ้านนั่งลง
ฉินยาหยิกหูของเขา“ฉันเปลี่ยนใจง่าย? แล้วที่ฉันอยู่คบกับคุณไม่เคยเปลี่ยนไปเลยล่ะ?”
“โอ้ย”ซูจ้านยอมจำนนในทันใด“คนทั้งนั้น ไว้หน้าผมสักหน่อยเถอะ”
“คุณยังมีหน้ามีตาอยู่อีกเหรอ?”เสิ่นเผยซวนพูดแซวขึ้น“วันๆเอาแต่โดนภรรยาลงโทษสินะ”
ซูจ้านถลึงตา จ้องเขม็งเขาอย่างแรง สายตาหันมองไปยังซางหยูที่อยู่ข้างๆเขา“ซางหยูได้ยินแล้วยัง เขาชอบโดนลงโทษ วันนี้กลับไปจัดการเขาเลย เขาชอบ”
“นายต่างหากล่ะที่ชอบ”เสิ่นเผยซวนรินเหล้าจากแก้วของตัวเองลงไปในแก้วของซูจ้านครึ่งหนึ่ง“ให้นายดื่มเยอะจะได้ไม่ต้องพูดมาก”
“เอากลับไป นายดื่มไปแล้ว ฉันไม่ดื่ม”ซูจ้านยกแก้วเหล้าขึ้นรินกลับไป
เสิ่นเผยซวนพูดขึ้น“ฉันไม่ดื่ม”
“แบบนั้นก็ไม่ได้ หรือจะให้ซางหยูดื่มแทนนาย?”พูดพลางซูจ้านก็หันแก้วไปยังซางหยู“คุณดื่มแทนสามีของคุณก็แล้วกัน ถึงยังไงเขาก็ดื่มไปแล้ว”
เสิ่นเผยซวนขวางเอาไว้ รับมาไว้ตรงหน้าของตัวเอง“ซูจ้าน ทำไมนายถึงน่ารำคาญขนาดนี้?”
“แค่ให้ภรรยาของนายดื่มเหล้า ก็รำคาญไม่ชอบแล้ว?”ซูจ้านชำเลืองตามองเขา“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่า พวกนายเหมือนมีเรื่องอะไรบางอย่างก็ไม่รู้ หรือว่าป่วย?”
พอคิดถึงตรงนี้สีหน้าท่าทีของเขาก็เข้มงวดจริงจังขึ้นมาทันที
“นายนั่นแหละที่ป่วย”เสิ่นเผยซวนอยากจะแหกหัวของซูจ้านออกจริงๆ ดูว่าข้างในสมองมีอะไรอยู่กันแน่
“แล้วทำไมถึง……”
“เสิ่นเผยซวนน่าจะได้เป็นพ่อคนแล้วสินะ”หลินซินเหยียนพูดตัดบทของซูจ้าน พร้อมกับหันมองไปยังซางหยู