หนานเฉิงมองเขา “แปลกจัง นายถึงกับมีเรื่องจะคุยกับฉัน บอกมาก่อนสิว่าเรื่องดีหรือไม่ดี?”
เจียงโย่เชียนไม่ล้อเล่นกับเขา “เรื่องจริงจังครับ”
หนานเฉิงเหลือบมองเขาเล็กน้อยแล้วเชื่อเขาไปก่อน
เขาระมัดระวังเจียงโเซียน ถึงยังไงเขาก็เป็นลูกชายของซิวหมิงเยี่ยน ใครจะไปรู้ว่าในใจเขาคิดยังไง?
เจียงโย่เซียนสังเกตได้ถึงความแสลงใจที่มีต่อตนเองของหนานเฉิง แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ ใครใช่ให้เขามาเป็นลูกชายของชิวหมิงเยี่ยนกันล่ะ?
คนเราเลือกเกิดไม่ได้หรอก
เขายอมรับว่ามีแม่แบบนี้ แต่เขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาไม่สามารถปล่อยปละละเลยไปได้
ไม่นานพวกเขาทั้งสองก็มาถึงบาร์แห่งหนึ่ง เจียงโย่เซียนนเคยกับที่นี่ เมื่อก่อนเขาชอบใช้ชีวิตไปวัน ๆ และก็ได้พบปะคนจำนวนหนึ่ง
แม้จะไม่ใช่คนดีอะไรแต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้าย ก็แค่คนที่ชอบเที่ยวเล่นและมีน้ำใจมากเท่านั้น
เขาเป็นแขกประจำของที่นี่และคุ้นเคยกับรูปแบบของที่นี่มาก เขาจึงเลือกห้องส่วนตัวที่ค่อนข้างเงียบ
“พูดมาเถอะ นายมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉัน” หนานเฉิงเอ่ยปากทันทีที่นั่งลง
เจียงโย่เซียนผ่อนคลายบรรยากาศลงแล้วพูดติดตลก “ทำไมเคร่งเครียดขนาดนั้นล่ะครับ? คุณเป็นมือขวาของพี่ชายผมนะ”
หนานเฉิง “….”
เขาหัวเราะแหะ ๆ “ล้อเล่นครับ อย่าใส่ใจเลย”
หนานเฉิงแขวะในใจ ฉันเพื่อนเล่นนายรึไง?
เจียงโย่เซียนเก็บสีหน้าแล้วพูดขึ้น “กลับเข้าประเด็นนะครับ”
“พูดมาเถอะ” หนานเฉิงขยับคอเล็กน้อยแล้วเอนตัวพิงกับโซฟา
“ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับพี่ผมใช่ไหมครับ?” เขาคิดว่าที่เจียงม่หานยอมรับตัวเองอย่างกะนห้นและเปลี่ยนท่าที ดูเหมือนจะเป็นเพราะเรื่องอะไรบางอย่าง
ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก
ดังนั้น เขาจึงอยากได้คำตอบจากหนานเฉิงที่นี่
“ประธานเจียง…” หยุดไปเล๊กน้อย “มีเรื่องไม่น้อยเกิดขึ้นกับเขาจริง ๆ”
“บอกผมเถอะครับว่ามีเรื่องอะไร” เจียงโย่เชียนโน้มเข้าไปใกล้
หนานเฉิงผลักเขาออก “คุยกันก็คุย อย่ามาใกล้ฉันขนาดนั้น”
เจียงโย่เชียน “…..”
เขานั่งตัวตรง “บอกมาเลยครับ”
“จงเหยียนซีไม่ได้ตาย การเปลี่ยนแปลงของเขาก็น่าจะเกี่ยวข้องกับเธอ เขาอยากจะเอากลับคืนมามาก ที่ขาของเขาได้รับบาดเจ็บก็เพราะไปไล่ตามเธอ” หนานเฉิงถอนหายใจ “พวกนาย
ทำร้ายเขา”
หนานเฉิงคิดมาตลอดมาเจียงโม่หานจะเป็นแบบนี้ และคนร้ายก็คือชิวหมิงเยี่ยนและเจียงจวิ้น
พวกเขาสร้างวัยเด็กอันเลวร้ายของเจียงโม่หาน ทำให้เขาไม่เข้าใจความรักจนสูญเสียจงเหยียนซีไป
เจียงโย่เซียนเองก็ไมโต้แย้ง เพราะหนานเฉิงพูดถูก
เขาก็คิดเช่นนั้นและยอมรับมัน
“เรื่องในอดีตไม่อาจเปลี่ยนแปลง ที่ผมมาหาคุณครั้งนี้ก็เพราะอยากทำเรื่องอะไรให้เขาบ้าง” เจียงโยเซียนตัดสินใจแน่วแน “คุณรู้ไหมว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?”
“นายคิดจะทำอะไร?” หนานเฉิงยังไม่ได้เชื่อใจเขานัก กลัวว่าเขาจะเรื่องอะไรที่ไม่ดีต่อเจียงโมหาน
เจียงโย่เซียนเข้าใจท่าทีของหนานเฉิง เขาธิบาย “เขาไม่ได้ถามหาความรับผิดชอบจากแม่ผม ผมรู้สึกชาบซึ้งมาก พวกเรารู้สึกผิดกับเขาอยู่ตลอด ตอนนี้ผมอยากจะทำอะไรให้เขาบ้าง
ขาของเขายังไม่หายดี เคลื่อนไหวไม่สะดวก ยากจะตามพี่สะใภ้กลับมาแทนเขา”
หนานเฉิงมองไปที่เขาโดยไม่พูดอะไร แค่จ้องมองเขาเงียบ ๆ แบบนั้นเป็นเวลานาน
เจียงโย่เชียนเองก็ไม่ได้หลบเลี่ยง เขาสบตรงไปยังสายตาพินิจพิเคราะห์ของเขาแล้วพูด “ผมจริงใจครับ”
หนานเฉิงครุ่นคิด “ก็ได้ ฉันออกจากประเทศไปไม่ได้ ถ้ามีคนจะไปตามหาแทนฉันก็เยี่ยมไปเลย”
เจียงโย่เซียนยิ้ม “ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร ผมจะต้องตามหาและพาพี่สะใภ้กลับมาให้พี่ชายให้ได้”
หนานเฉิงถอนหายใจ “หวังว่าอย่างนั้นนะ”
“พูดอะไรอย่างนั้น? เมื่อก่อนพี่สะใภ้ชอบพี่ผมแค่ไหน….”
“เจียงโเซียน” หนานเฉิงขัดจังหวะเขา “ตอนแรกประธานเจียงเป็นคนขอหย่า เธอเกือบจะถูกหลิงเวยฆ่าตาย แถมยังเสียลูกไปคนหนึ่งอีก นายคิดว่าเธอยังจะยอมให้อภัยเหรอ?”
เจียงโย่เชียนเบิกตากว้างก่อนจะนิ่งเงียบ
เขาตกตะลึงที่จงเหยียนซีเคยเสียลูกไป ทั้งยังเป็นลูกของเจียงโม่หาน
ที่จริงแล้วเขารู้มาตลอดว่าเจียงโม่หานปรารถนาความอบอุ่นจากครอบครัว
ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของเขา เป็นเพราะเขาสูญเสียสิ่งสำคัญไปมากมาย ตอนนี้อยากจะเอามันกลับมา?
ดังนั้นเขาถึงได้ใจกว้างก็แม่ของเขา และไม่คิดที่จะทำผิดพลาดที่ไม่อาจแก้ไขเพราะความแค้นอีก
“ผมจะต้องพาพี่สะใภ้กลับมาให้ได้” เยงโย่เชียนเอ่ยอย่างหนักแน่น
หนานเฉิงสูดหายใจลึก “ฉันหวังว่านายจะทำได้จริง ๆ นะ”
ความจริงเขาก็ไม่เชื่อหรอก
คำว่าให้อภัย พูดน่ะมันง่าย แต่ตอนทำเข้าจริง ๆ ก็จำเป็นต้องใช้ความกล้าหาญ
“นี่ เธออยู่ที่เชียงใหม่ประเทศไทย นายก็พยายามเข้าล่ะ” พูดจบหนานเฉิงก็ลุกขึ้น “ฉันยังมีธุระ ขอตัวก่อนนะ”
พูดจบเขาก็เดินออกไป
เจียงโย่เชียนมองเขา “ขอบคุณนะครับ อีกอย่าง อย่าบอกพี่ผมก่อนนะครับ ผมจะเซอร์ไพรส์เขาก่อน”
หนานเฉิงไม่ได้หันกลับมา เขาโบกมือให้เขาจากด้านหลัง “เข้าใจแล้ว”
เมื่อออกมาจากบาร์หนานเฉิงก็มุ่งตรงไปที่วิลล่าทันที
ในวิลล่าหาคนใช้มาทำความสะอาดแล้ว ตอนนี้เจียงโม่หานขยับขาไม่สะดวก ในบ้านต้องมีคนอยู่ด้วย
เมื่อจัดการเรื่องราวเสร็จสิ้นแล้วเขาก็ต้องบอกเจียงโม่หาน
เขามาถึงวิลล่า เจียงโม่หานก็นั่งอยู่หน้าหน้าต่าง คนใช้ทำอาหารและวางไว้บนโต๊ะ ดูเหมือนจะสักพักแล้ว มันเย็นชืดแล้ว
“ประธานเจียง” เขาเดินเข้าไป
“หลิงเวยตายแล้ว จากหลักฐานคือเธอฆ่าตัวตาย ทางห้วหน้าหวจัดการเรียบร้อนแล้ว เสี่ยงหวางนั่นที่ปล่อยเธอไปก็ถูกไล่ออกและตรวจสอบแล้วครับ”
เจียงโม่หานนั่งนิ่งไม่ตอบสนอง แต่หนานเฉิงรู้ว่าเขาได้ยินทั้งหมดแล้ว
“โต๊ะตัวนั้น เมื่อก่อนเธอมักจะนั่งอยู่ตรงข้ามฉันเสมอ”เจียงโม่หานหมุนรถเข็นแล้วมองไปยังโต๊ะอาหาร
หนานเฉิงเม้มปากและก้มหน้าลง
“แต่เธอกลับถูกฉันทิ้งขว้าง” แววตาของเขาหม่นลง “นี่คือผลกรรมของฉัน ผลกรรมที่ฉันทำร้ายเธอ”
“ผมยังไม่ได้กินข้าว ประธานเจียงผมกินเป็นเพื่อนนะครับ” หนานเฉิงเริ่มพูดขึ้น
เจียงโม่หานส่ายหน้า “ฉันไม่อยากอาหาร”
หากตรงข้ามไม่ใช่เธอ ใครก็ทดแทนไม่ได้
“ผ่านไปอีกสักพักพอขาของคุณหายแล้วกัสามารถไปหาเธอได้นะครับ ทุกอย่างยังมีความหวัง” หนานเฉิงปลอบใจเขา
เจียงโม่หานเงยหน้าขึ้นมามองเขา ครั้งก่อนเขายังคิดว่าไม่มีทางอนกลับไปได้อยู่เลย ครั้งนี้เขากลับบอกว่ามีโอกาสอีก
ก่อนหน้าคือความเป็นจริง ส่วนหลังมาคือคำปลอบใจ
ไม่ว่ายังไง เขาก็อยากจะสู้เพื่อมัน
คนใช้เดินเข้ามาพร้อมกับโทรศัพท์ที่กำลังดังอยู่ “คุณเจียง โทรศัพท์ที่คุณวางไว้บนโต๊ะมันดังน่ะค่ะ”
เจียงโม่หานเอื้อมมือไปรับมาแล้วกดรับสาย
อีกฝั่งส่งเสียงของเจียงโย่เซียนดังออกมา “พี่ครับ ผมคิดว่าพี่พูดถูก ผมไม่ควรเกลไถลต่อไปแบบนี้ ผมตัดสินใจว่าจะไปเรียนต่างประเทศ แต่ก่อนจะไป ผมอยากไปทำธุระบางอย่าง ขอ
เวลาผมสักหน่อยนะครับ”
เจียงโม่หานส่งเสียงอืมเรียบ ๆ ออกมาคำหนึ่ง
หนานเฉิงก้มหน้าลงอีกครั้ง ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยเพื่อปิดบังแววตาเอาไว้
ประเทศไทย
ขาของจงเหยียนซีหายดีแล้ว
นียาพูด “ขาของคุณหายแล้วงั้นเราออกไปเที่ยวกันเถอะ”
จงเหยียนซีไม่ได้ปฏิเสธ เธออยู่ที่นี่มาหลายวันแล้วและมีความรู้สึกดีต่อนียามาก ที่สำคัญคือโตมาเธอดูดีและมีเสนห์มาก
“ให้คุณพ่อเป็นไกด์ให้เรา” นียากำลังจะวิ่งไปหาซงเก้น จงเหยียนซีก็ดึงเธอเอาไว้”พวกเราไปกันสองคนเถอะ พ่อของหนูย่งมาก อย่าไปรบกวนงานของเขาจะดีกว่านะ”
“แต่ฟอสัญญากับหนูแล้วนะ” พร้อมกับที่เสียงของเธอเงียบลง ซงเก้นก็เดินเข้ามา เขาไม่ได้สวมเครื่องแบบแต่ใส่แค่ชุดลำลอง
“ฉันไปกับพวกเธอเอง”
นียายิ้มกับจงเหยียนซี “มีเขาอยู่ เราก็จะไม่หลงทาง”
“หนูไม่เชื่อใจฉันใช่ไหมเนี่ย?” จงเหยียนซีจงใจพูด
นียารีบพูด “เปล่านะ เปล่านะ”
เธอกอดขาของจงเหยียนซี “หนูแค่อยากให้คุณกับพ่อไปเที่ยวเป็นเพื่อนหนูด้วยกันเท่านั้นเอง อยากโกรธเลยนะคะ”
จงเหยียนซีบีบแก้มของเธอ “ฉันไม่ได้โกรธหรอกจ้ะ”
“ผมจะไปขับรถนะ” ซงเก้นเดินออกไปก่อน
“รอพวกเราด้วย” นียาดึงจงเหยียนซีวิ่งเข้าไป เว็บสล็อต
“คุณพ่อ”
“นียา” ซงเก้นปรามที่เธอวิ่ง “วิ่งแบบนี้ไม่ได้นะ”
นียากะพริบตาแล้วบ่นพิ่มพำ “หนูวิ่งแบบนี้บ่อย ๆ นะ”
ความจริงแล้วซงเก้นนั้นเป็นห่วงจงเหยียนซี ข้อเท้าของเธอเพิ่งจะหายดี ไม่เหมาะกับการวิ่ง เขาอุ้มนียาขึ้นมา
“ลูกต้องเป็นหญิงสาวผู้สง่างามนะโอเคไหม?”