หนานเฉิงนิ่งไปสักครู่ ไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด เขารู้สึกลำบากใจขึ้นมาทันที
เจียงโม่หานขมวดคิ้ว “ทำไมถึงเงียบล่ะ?”
“แหวนวงนี้คุณประมูลมาจากงานประมูลแห่งหนึ่ง ม่ได้บอกว่าจะมอบให้ใครเลยครับ”หนานเฉิงก้มหน้าแล้วพูด เขาไม่กล้าไปสบตากับเจียงโม่หาน เพราะกลัวเขาจะจับโกหกได้
“เหรอ?”น้ำเสียงของเจียงม่หานไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้ เขาหลับตาลง เขารู้สึกว่าแหวนวงนี้เหมือนเขาจะมอบให้ใครสักคน
แต่เขาก็นึกไม่ออก
หนานเฉิงมองดูท่าทางที่อีนุงตุงนังของเขา แล้วรู้สึกลังเลอยู่หลายครั้ง
บางที่ก็รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องดี เพราะการที่เขาคิดที่จะจีบจงเหยี่ยนซีให้ติดอีกครั้งนั้นมันยากมาก แถมมีผู้ชายที่สมบูรณ์แบบปรากฏขึ้นในชีวิตของจงเหยียนซึ จึงทำให้การจีบจงเหยียนซีนั้นมัน
ยากกว่าเดิม
ถ้าเขาลืมทุกอย่างไปจริงๆ หรือมีโอกาสได้สานสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่น แล้วใช้ชีวิตด้วยกันตลอดไป
ครืดๆๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์ของหนานเฉิงดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วรับสาย เป็นธุระของบริษัท ต้องการให้เจียงโม่หานเป็นคนจัดการ เพราะโทรหาเจียงโม่หานไม่ติด จึงโทรมาหาเขา
“ผมทราบแล้ว พวกเราจะรีบกลับไป”หนานเฉิงพูดขึ้น
เมื่อได้ยินเสียงตอบกลับของปลายสาย เขาก็กดวางสาย แล้วเงยหน้าขึ้นมองเจียงโม่หาน “ประธานเจียง ที่บริษัทยังมีงานอีกมากมาย พวกเรากลับกันเถอะครับ”
เจียงโม่หานไม่ได้ตอบ แต่กลับพูดขึ้นว่า “คุณออกไปก่อน ผมขอคิดทบทวนหน่อย”
เขารู้สึกว่าตัวเองลืมเรื่องสำคัญบางอย่างไป ทว่า ไม่ว่าจะพยายามคิดแค่ไหน ก็คิดไม่ออก
หนานเฉิงออกไปจากห้อง เจียงโเซียนนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าห้อง เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูก็เงยหน้าขึ้น มองเห็นหนานเฉิงออกมา จึงถามขึ้นว่า “พี่ชายฉันพูดอะไรกับนาย?”
หนานเฉิงนั่งลงที่ข้างๆเขา “เรื่องการรักษาอาการของประธานเจียง นายจะเอายังไง? นายเป็นครอบครัวของเขา ฉันไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ”
ตอนนี้ ภายในใจของเจียงโย่เชียนวุ่นวายไปหมด จึงยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร “ฉันไม่รู้”
แน่นอนว่าเขาอยากให้เจียงม่หานจำความได้ แต่ก็กลัวในความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เพราะมันเป็นการผ่าตัดหัว
ไม่กลัวเรื่องหนึ่ง ก็มีให้กลัวอีกเรื่องหนึ่ง
เขารับความเสี่ยงนี้ไม่ได้จริงๆ
“นายก็รู้ ความสัมพันธ์ของพี่ชายฉันกับคนในครอบครัวไม่ดี และแน่นอนว่า นี่เป็นความผิดของพ่อแม่ฉัน กว่าเขาจะเดินมาถึงทุกวันนี้นั้นไม่ง่ายเลย ถ้าฉันทำการตัดสินใจไป ถึงเวลานั้นกลับ
ทำร้ายตัวเขา นายจะให้ฉัน.. .ทำอย่างไร?”เจียงโย่เชียนพูดขึ้น
ทั้งสองคนพูดไปพูดมา ก็ไม่กล้าตัดสินใจ
“หรือไปหาคุณจงดี”หนานเฉิงพูดเสนอ
เจียงโย่เชียนหันไปมองเขา ไม่เข้าใจในความหมายของเขา “หล่อนกับพี่ชายของฉันหย่ากันแล้ว ไม่นับว่าเป็นครอบครัวมั้ง? และอีกอย่าง หล่อนก็เกลียดพี่ชายของฉัน จะตัดสินใจในทางที่ดีให้
พี่ชายของฉันหรอ?”
หนานเฉิงพูดขึ้น “ไม่ใช่ให้หล่อนต้ดสินใจ ถึงเราจะให้หล่อนต้ดสินใจ ตามทัศนคติของหล่อนในปัจจุบันที่มีต่อประธานเจียงนั้น หล่อนไม่ทำแน่นอน ความหมายของฉันคือ ให้หล่อนรับรู้
สถานการณ์ในตอนนี้ของประธานเจียง ไม่แน่หล่อนอาจจะใจอ่อน บางทีอาจจะถึงขั้นให้อภัยประธานเจียงเลยก็เป็นไปได้ นายคิดว่าไง?”
เจียงโย่เชียนครุ่นคิด แล้วพูดขึ้น “โอเค เราไปด้วยกัน”
หนานเฉิงก็เห็นด้วย
เมื่อความคิดเห็นตรงกัน พวกเขาก็ลงมือทันที เมื่อจัดการเรื่องที่โรงพยาบาลเสร็จ ทั้งสองคนก็มุ่งหน้าไปยังที่พักอาศัยของจงเหยียนซีในเมืองC พวกเขาติดต่อเธอไม่ได้ จึงทำได้เพียงมาด้กรอ
และด้กรอในที่มืด เพราะกลัวว่าคนตระกูลจงคนอื่นจะเห็น
จงเหยี่ยนซีออกมาจากบริษัท ก็กลับบ้านท้นที ที่บ้านนั้นมีเพียงเสิ่นซินเหยาคนเดียว เธอคิดว่าตัวเองนั้นไม่มีธุระอะไร ก็เลยกลับมาอยู่เป็นเพื่อนกับเสิ่นซินเหยา เพื่อไม่ให้เธอเหงา และตอนที่จง
เหยียนซีลงมาจากรถ ก็ถูกหนานเฉิงกับเจียงโย่เชียนรั้งไว้
“คุณจงครับ พวกเราขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหมครับ?” หนานเฉิงพูดขึ้น
จงเหยียนซีมองไปยังเขาอย่างเฉยเมย “มีอะไรก็รีบพูด ฉันยังมีธุระที่ต้องทำ”
“พวกเราไปคุยที่อื่นกันได้ไหมครับ?”
จงเหยียนซีรู้สึกว่ามันไม่จำเป็น “พวกคุณมีอะไรก็รีบพูด ไม่งั้น ฉันจะไปละนะ? ”
“คุณไม่ห่วงอาการของพี่ชายผมบ้างเหรอครับ?”เจียงโย่เชียนถามขึ้น
“อาการของเขา มันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”จงเหยียนซีเริ่มหมดความอดทนแล้ว “ถ้าเรื่องที่พวกคุณอยากพูดเป็นเรื่องนี้ งั้น ฉันคิดว่าพวกคุณกลับไปเถอะ อีกอย่าง ต่อไปนี้อย่ามาหาฉันเพราะเรื่องนี้
อีก”
“ครั้งที่แล้วที่คุณออกจากเมืองB ประธานเจียงไปตามหาคุณ จนเกิดอุบัติหตุทางรถยนต์ ขาได้รับบาดเจ็บ ไม่เช่นนั้น เขาตามคุณไปประเทศไทยตั้งนานแล้ว แค่ได้ยินว่าคุณมีผู้ชายคนใหม่ที่
ประเทศไทย เขาก็รีบตามไปทั้งๆที่ขายังไม่หายดีซงเก้นที่น่ารังเกียจนั้น ใช้วิธีการที่น่ารังเกียจพยายามดักจับพวกเรา แต่โชคดีที่พวกเราไม่ได้รังแกก้นได้ง่ายๆ เขาตามคุณมาถึงเมืองC สิ่งเดียวใน
ใจของเขาคือการตามคุณกลับไป ครั้งนี้ ก็เลยถูกทำร้ายโดยไม่มีเหตุผล ผมคิดว่า คุณก็น่าจะรู้ว่าเป็นฝีมือของใครใช่ไหมครับ?”
หนานเฉิงสงสัยมาตลอดว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับตระกูลจง
“พูดจบหรือยัง?”จงเหยียนซีจ้องไปยังหนานเฉิง “ถ้าไม่มีหลักฐาน อย่าพูดเลยดีกว่านะ ไม่เช่นนั้น ครั้งหน้าฉันอาจจะไม่ได้พูดดีแบบนี้ละนะ”
พูดจบ เธอก็เดินมุ่งเข้าไปในบ้าน ตอนที่ถึงประตู เธอก็หยุดเดิน “พวกคุณรีบกลับไปดีกว่านะ”
เธอไม่อยากให้คนที่บ้านพบกับพวกเขา
เจียงโเชียนรีบตามไปที่หน้าประตู ตามองไปยังเธอ “พี่ชายของผมถูกพวกเขาตีที่หัว และเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งที่แล้วทำให้ในหัวมีก้อนเลือด ทำให้เขาลืมความทรงจำก่อนหน้านี้ไป
หมด หมอบอกว่า ถ้าอยากรักษาให้หาย ต้องเข้ารับการผ่าตัด คุณก็รู้ว่าการผ่าตัดแบบนี้มันเยงกว่าการผ่าตัดแบบอื่นๆ จนถึงตอนนี้ พวกผมก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี คุณเห็นแก่ในถานะที่เคยเป็น
สามีภรรยากันมาก่อน ช่วยเราหน่อยนะครับ”