ตอนที่ 2,977 : ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินออกโรง!
ต้วนหลิงเทียนนั้นไม่ได้มีผลึกอมตะระดับสูงติดตัวอะไรมากมาย
กระทั่งในตอนที่เขาใช้มันซื้อหินดิบที่ย่านซีฟาง เขาก็ใช้ผลึกอมตะระดับสูงในมือไปแทบหมดแล้ว
แต่เป็นธรรมดาว่าถึงเขาจะมีผลึกอมตะระดับสูงไม่มาก แต่ผลึกอมตะระดับกลางนั้นไม่ใช่!
เพราะตอนที่ยังอยู่ในพื้นที่ชายแดน เขาได้เข่นฆ่ายอดฝีมือขอบเขตขุนนางอมตะ 9 ตำหนักของนิกายอมตะสราญรมย์ ยังมีขุนนางอมตะ 10 ทิศของนิกายสวรรค์ลี้ลับ แถมยังมีราชาอมตะ 1 ต้นกำเนิดที่พึ่งทะลวงของนิกายอมตะสราญรมย์นั่นอีกคน
เรียกว่าอาศัยแค่ทรัพยส์สินตัวในแหวนพื้นที่ของทั้ง 3 คนนี่ไม่ต้องรวมถึงแหวนพื้นที่ยอดฝีมือคนนอื่นที่เขาจบชีวิตพวกมันไป ก็ทำให้เขานับว่าร่ำรวยติดอันดับในพื้นที่ชายแดนได้เลย!
อาศัยแค่ในแหวนพื้นที่ของทั้ง 3 ก็มีผลึกอมตะระดับกลางให้เขา 20 กว่าล้านชิ้น!
เป็นเพราะเหตุนี้เองทำให้ที่ตัวเขามีผลึกอมตะระดับกลางไว้ในครอบครองจำนวนมหาศาลถึง 25 ล้านชิ้น!
“ผลึกอมตะระดับสูงมีแค่ 100,000 ชิ้น แต่ผลึกอมตะระดับกลางกลับมีถึง 25,000,000 ชิ้น…หรืออัจฉริยะของประเทศฝูชิวผู้นี้จะเป็นผู้ฝึกตนอิสระ ทั้งยังโชคดีพบเจอสายแร่ผลึกอมตะระดับกลางไร้เจ้าของ?”
บนเวทีประมูล ชายชราที่ได้รับแหวนพื้นที่ของต้วนหลิงเทียนมา พอตรวจสอบผลึกอมตะในแหวนมันก็อดไม่ได้ที่จะอึ้ง จึงกล่าวพึมพำออกมาเบาๆโดยไม่รู้ตัว
ในสายตามัน
ไม่ต้องกล่าวถึงในประเทศตันจี้ของพวกมันด้วยซ้ำ แม้จะให้มองไปทั่วทั้งแดนสวรรค์ใต้ ก็คงมีคนจำนวนแค่หยิบมือเท่านั้น ที่ครอบครองผลึกอมตะระดับกลางมากกว่า 20 ล้านก้อนแบบนี้…
แน่นอนว่านี่เป็นความคิดของชายชราเท่านั้น
และตอนนี้ชายชราก็ไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ ว่าชายขอบของพื้นที่ภาคกลางสวรรค์ใต้ เมื่อออกนอกจากม่านพลังกั้นแดนไปแล้ว…ยังมีสถานที่อันเรียกว่าพื้นที่ชายแดนอยู่อีก!
ในพื้นที่ชายแดนล้วนมีแต่สายแร่ผลึกอมตะระดับต่ำ กับผลึกอมตะระดับกลางนั้นมันยังพอให้ผลผลิตได้บ้าง แต่ผลึกอมตะระดับสูงนั้นมันไม่อาจผลิตออกมาได้เลย
ทำให้แม้ในพื้นที่ชายแดนจะมีผลึกอมตะระดับสูงหมุนเวียนอยู่บ้าง หากแต่ทั้งหมดล้วนมาจากพื้นที่ภาคภลางทั้งสิ้น และมีจำนวนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้แม้ต้วนหลิงเทียนจะเข่นฆ่าสังหารยอดฝีมือระดับแนวหน้าของพื้นที่ชายแดนไปหลายคนและริบสินสงครามมา แต่ส่วนใหญ่เขาก็ได้มาแค่ผลึกอมตะระดับกลางเท่านั้น แทบไม่มีผลึกอมตะระดับสูงเลย นับได้ก็ไม่กี่พันชิ้นเท่านั้น
ที่มีมากหน่อย ก็คือผลึกอมตะระดับกลางนั่นเอง
และเป็นธรรมดาว่าเขายังมีผลึกอมตะระดับต่ำอีกด้วย…ซึ่งมันมากมายจนเขาไม่คิดจะไปนับด้วยซ้ำ!
“น้องต้วน…ข้าละยอมใจท่านเลยจริงๆ…”
“ผลึกอมตะระดับกลางตั้ง 25 ล้านชิ้น…นี่ท่านไปปล้นเหมืองมาหรือ?”
ในขณะที่หวงเจียหลงมองกล่าวพลางยกนิ้วโป้งให้ต้วนหลิงเทียนอย่างซูฮก หวงเหยี่ยนเฟยกับผู้เฒ่าโม่ก็อดไม่ได้ที่จะมองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาสนใจ
“พี่เจียหลงก็พูดไป ข้าไปปล้นเหมืองอะไรที่ไหนเล่า ผลึกอมตะระดับกลางพวกนั้น เป็นข้าได้มาตอนยังอยู่ในพื้นที่ชายแดนน่ะ…และในพื้นที่ชายแดนนั้น นับว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะพบเจอผลึกอมตะระดับสูงสักก้อน”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้มแหยๆ
…
การประมูลที่ทางตระกูลราชวงศ์ประเทศตันจี้จัดขึ้น เมื่อต้วนหลิงเทียนปิดประมูลกิ่งหลักของพฤกษาเทพกำเนิดชีพซึ่งเป็นรายการสุดท้ายไปแล้ว เช่นนั้นงานประมูลจึงสิ้นสุดลงด้วยประการฉะนี้…
เป็นธรรมดาว่าคนอื่นๆนั่นไม่รู้ว่ากิ่งไม้ประหลาดนั่น ก็คือหนึ่งในกิ่งหลักของพฤกษาเทพกำเนิดชีพ
ถึงแม้จะมีใครไปบอกพวกมันว่านี่คือกิ่งหลักของพฤกษาเทพกำเนิดชีพนะ แต่เกรงว่าพวกมันก็คงไม่รู้จักอยู่ดีว่าแล้วมันคืออันใด…นับประสาอะไรกับคุณค่าของมัน!
พฤกษาเทพกำเนิดชีพนั้น อย่าว่าแต่แดนสวรรค์ใต้เลย ต่อให้กวาดตามองไปทั่วทั้งหลิงหลัวเทียน แต่เกรงว่าแทบไม่มีคนที่ล่วงรู้ว่ามันคืออะไรด้วยซ้ำ!
หลังจบงานประมูล ต้วนหลิงเทียนก็พาหลิวก่วงหลินติดตามหวงเหยี่ยนเฟยไปพร้อมกับหวงเจียหลงและผู้เฒ่าโม่เพื่อย้อนกลับไปยังตำหนักที่พักในพระราชวังหลวงของประเทศตันจี้
และไม่ทันกลับถึงที่พัก ทั้งหมดก็พบเจอเหอเฟิง ผู้ตรวจการควบคำแหน่งผู้บัญการการกองทหารองครักษ์เข้าระหว่างทาง และดูท่าอีกฝ่ายยังจงใจมาหาโดยเฉพาะ เพราะเมื่อเดินมาถึงอีกฝ่ายก็ยิงคำถามออกมาตรงๆว่า
“เจ้าเมืองหวง ที่แท้ท่านทำได้อย่างไรกันแน่? ผู้ที่นำคนของประเทศตงหมิงกับโม่หลุนมาครานี้หาใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมันไม่…แต่ท่านกลับทำให้พวกมันล้มเลิกการประมูลไส้เดือนฝอยทองได้ ช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก!”
เหอเฟิงกล่าวจบคำ ลูกตามันก็ฉายชัดถึงความสนใจใคร่รู้
“ผู้ตรวจการเหอ นี่ท่านอยากรู้เอง…หรือมีผู้ใดอยากรู้?”
หวงเหยี่ยนเฟยหยีตามองจ้องเหอเฟิงพลางถาม
“เอ่อ เป็นฝ่าบาทที่สงสัยและให้ข้ามาถามท่านนั่นล่ะ…แต่ข้าเองก็อยากรู้จริงๆ เพราะสุดท้ายแล้วคนของประเทศโม่หลุนกับตงหมิงที่ดั้นด้นมาครานี้ก็เพื่อประมนูลไส้เดือนฝอยทองนี่โดยเฉพาะ…แต่ในเวลาสำคัญพวกมันกลับล้มเลิกไปดื้อๆ ยังมีผู้ใดไม่อยากรู้อีกเล่า?”
“อีกทั้งตราบใดที่ยังพอมีหัวคิดอยู่บ้าง ก็แทบจะมองออกทันที…ว่าต้นเหตุของเรื่องนี้ ไม่พ้นเป็นฝีมือของท่าน เจ้าเมืองหวงแน่แท้!”
เหอเฟิงกล่าว
“อันที่จริง มันก็ไม่ได้มีอะไรมากมายหรอก”
ได้ยินคำถามของเหอเฟิง หวงเฟยเหยี่ยนเพียงกล่าวตอบออกไปสบายๆ “ข้าแค่บอกพวกมันไป ว่าตราบใดที่ข้าได้ไส้เดือนฝอยทองสองตัวนั่นมา ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชาที่ข้าเชิญมาย่อมสามารถหลอมโอสถเฉียนจินได้ 2 เม็ด”
“โอสถเฉียนจินเม็ดหนึ่งเป็นข้าคิดเก็บไว้…ส่วนอีกเม็ดข้าสามารถให้พวกมันทั้งคู่แข่งกันประมูล”
“ด้วยเหตุนี้พวกมันทั้งคู่จึงเลิกคิดประมูลไส้เดือนฝอยทองแข่งกับข้า”
เห็นได้ชัดว่าหวงเหยี่นเฟยไม่ได้คิดปกปิดเรื่องนี้แต่แรก
เป็นธรรมดาว่ามันรู้ดีว่าต่อให้คิดจะปกปิด ก็คงยากจะปกปิด
สิบวันหลังจากนี้ คนของประเทศโม่หลุนหรือตงหมิงไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง ก็ต้องมีคนชวดโอสถเฉียนจินอยู่ดี ถึงตอนนั้นพวกมันก็คงไม่คิดจะปิดบังเรื่องนี้ต่อแน่นอน
“ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชา!?”
ใจเหอเฟิงสะท้านเต้นไปไม่เป็นจังหวะ เมื่อไดยินคำตอบของหวงงเหยี่ยนเฟย เพราะมันคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะได้ฟังคำตอบทำนองนี้!
ถึงแม้ว่าฮ่องเต้ตันจี้ของมัน อยากจะเชิญปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชามาหลอมโอสถเฉียนจินให้ จะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่นับว่าต้องจ่ายราคาออกไปมหาศาล!
ที่ไฉนฮ่องเต้ตงหมิงกับฮ่องเต้โม่หลุนต้องการไส้เดือนฝอยทองทั้ง 2 ตัว ก็เพราะพวกมันไม่คิดจะจ่ายราคามหาศาลเพื่อจ้างวานปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชา…
พวกมันตั้งใจจะให้ปรมาจารารย์หลอมโอสถอมตะระดับขุนนางที่มีความมั่นใจมากๆหน่อยเป็นผู้หลอมโอสถเฉียนจินแทน เช่นนั้นจึงต้องการไส้เดือนฝอยทองทั้งสองตัว อย่างน้อยๆโอกาสสำเร็จก็จะเพิ่มขึ้นเท่าตัว
“ฮ่องเต้ประเทศฝูชิวช่างใจถึงยิ่งนัก!”
เหอเฟิงเหลือบมองต้วนหลิงเทียน พลางกล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ
เห็นได้ชัดว่าเหอเฟิงนั้นคิดไปว่า ทั้งหมดเป็นเพราะฮ่องเต้ฝูชิวคาดหวังงไว้กับต้วนหลิงเทียนอย่างสูง จึงยินดีทุ่มทุนจ้างวานปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชามาหลอมโอสถเฉียนจินให้โดยเฉพาะ! ทั้งหมดเพื่อให้ต้วนหลิงเทียนทะลวงถึงยอดเซียนอมตะขั้นสุดยอดได้ทันเวลาก่อนที่แดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำจะเปิดออก…!!
ความใจถึงและความกล้าหาญนี้ ไม่ใช่อะไรที่ฮ่องเต้โม่หลุนหรือฮ่องเต้ตงหมิงจะมีได้
ทว่าเหอเฟิงไม่เคยคิด กระทั่งหลับยังไม่อาจฝันถึง ว่าผู้ที่จะใช้ไส้เดือนฝอยทองทั้งสองหลอมโอสถเฉียนจิน หาใช่ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชาไม่ แต่เป็นตัวต้วนหลิงเทียนเอง!
หลังจากเหอเฟิงได้รับฟังสิ่งที่ต้องการแล้วมันก็ประสานมืออำลา ขอตัวจากไป
ด้านพวกต้วนหลิงเทียนก็กลับมายังตำหนักที่พักที่ทางประเทศตันจี้จัดเตรียมไว้ให้
“เสี่ยวเทียน เรื่องหลอมโอสถเฉียนจินนั้น หากเจ้ายังต้องการสิ่งใดโปรดบอกข้า…ข้าจะช่วยหลือเจ้าสุดกำลัง!”
หลังกลับมาถึงตำหนักที่พัก หวงเหยี่ยนเฟยก็พูดกับต้วนหลิงเทียนอย่างจริงจัง
ถึงแม้มันจะเชื่อในตัวต้วนหลิงเทียน อย่างไรก็ตามพอคิดว่าอีก 10 วันหลังจากนี้ หากไม่มีโอสถเฉียนจินไปให้คนของอีก 2 ประเทศประมูลแข่งกันจริงๆ ไม่พ้นมันก็เสมือนผิดใจกับราชาอมตะของประเทศโม่หลุนและประเทศตงหมิงพร้อมๆกัน แค่คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา หวงเหยี่ยนเฟยก็เครียดแล้ว
“ลุงหวงขอท่านอย่าได้กังวลไปเลย ข้าไม่ทรยศความเชื่อใจของท่านหรอก”
หลังต้วนหลิงเทียนกล่าวกับหวงเหยี่ยนเฟยด้วยรอยยิ้มแล้ว จากนั้นเขาก็อำลาอีกฝ่ายและขอตัวกลับที่พัก เมื่อมาถึงเขาก็คิดจะหลอมโอสถเฉียนจินเลย
และมีเพียงแต่ตัเขาเองเท่านั้นที่รู้ว่าตัวเขาไม่ใช่ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับสูงงธรรมดาๆ
ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับสูงนั้น โดยปกติแล้วจะอาศัยเพลิงอมตะในการหลอมปรุงโอสถ ทว่าตัวเขากลับใช้เพลิงเทพโกลาหล!
ถึงแม้ว่าพลังของเพลิเทพโกลาหลขั้นที่ 3 จะเทียบได้กับเพลิงอมตะระดับสูง และในบางแง่มันเทียบได้กับเพลิงอมตะระดับสูงสุด แต่อย่างไรก็ยังไม่ใช่เพลิงอมตะระดับสูงสุด
บางแง่มุมเพลิงอมตะระดับสูง ก็ไม่อาจเทียบกับเพลิงอมตะระดับสูงสุดได้เลย
“เหอะๆ…สหายตัวน้อยปฐพี เจ้าไม่ใช่ลั่นวาจาไว้หรือ…ว่าตราบใดที่เจ้าหนูนี่เอากิ่งหลักของพฤกษาเทพกำเนิดชีพมาได้ ตราบใดที่ต้องการความช่วยเหลือ เจ้าก็จะช่วยเหลือทันทีมิใช่รึ?”
เสียงหนึ่งดังขึ้นภายในร่างกายของต้วนหลิงเทียน เป็นเสียงทองเทพสุดลี้ลับ เมื่อฟังจากถ้อยคำแล้วเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังพูดอยู่กับปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดิน
“ถึงแม้ด้วยพรสวรรค์และความสามารถในการหลอมโอสถของเจ้าหนูนี่กับความช่วยเหลือของอาวุโสเพลิง เรื่องที่จะหลอมโอสถเฉียนจินให้สำเร็จนั้นไม่ได้ยากเย็นอะไร แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้เต็มสิบส่วนว่าจะสำเร็จ…ทว่าหากเจ้าลงมือช่วยเหลือ ย่อมมั่นใจได้ว่าต้องสำเร็จเต็มสิบส่วนแน่”
ทองเทพสุดลี้ลับกล่าว
“หืม?”
ได้ยินวาจาดังกล่าวของทองเทพสุดลี้ลับ ต้วนหลิงเทียนก็พอจะเดาได้รางๆ ว่าไม่พ้นปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินต้องมีความสามารถอะไรบางอย่าง ที่ช่วยให้เขาหลอมโอสถเฉียนจินสำเร็จได้แน่นอน!
เรียกว่าหลังได้ยินวาจานี้ของทองเทพสุดลี้ลับ ลูกตาต้วนหลิงเทียนก็ลุกวาวขึ้นมาทันที
ตราบใดที่ปฐพีแรกกำเนิดฟ้าดินลงมือ อัตราความสำเร็จจะเต็มสิบส่วน?
ต้องทราบด้วยว่าก่อนหน้านี้แม้เขาจะมั่นใจว่าสามารถหลอมโอสถเฉียนจินได้ แต่เขาก็มั่นใจราวๆ 9 ส่วนเท่านั้น กล่าวให้ชัดเขามั่นใจแค่ราวๆ 8-9 ส่วน!
แต่ตอนนี้ฟังจากคำพูดของทองเทพสุดลี้ลับ เห็นได้ชัดว่าขอเพียงปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินเต็มใจยื่นมือเข้าช่วย เรื่องหลอมโอสถเฉียนจินได้สำเร็จก็เป็นเรื่องที่แน่นอน!
พอนึกถึงเรื่องที่ตอนนี้หวงเหยี่ยนเฟยกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลขนาดไหน ต้วนหลิงเทียนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ คิดร้องขอความช่วยเหลือจากปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดิน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุผิดพลาดอะไรเด็ดขาด
“เพ่ยๆๆ! ใครคือสหายตัวน้อยของเจ้ากัน! อีกอย่างนะ ข้าน่ะไม่ต้องให้เจ้ามาเตือนหรอก!!”
ทว่าในขณะที่ต้วนหลิงเทียนคิดจะเอ่ยปาก ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินพลันโพล่งออกมาเสียงก่อน “อะไรที่ข้าพูดไป ข้าย่อมจดจำได้อยู่แล้ว!!”
หลังจากสบถใส่ทองเทพสุดลี้ลับอย่างฮึดฮัด ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินก็หันมาเอ่ยคำกับต้วนหลิงเทียน “เจ้าหนู เอาเตาหลอมโอสถอมตะของเจ้าออกมาเสีย”
ได้ยินคำของปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดิน แม้ต้วนหลิงเทียนจะสงสัยว่าอีกฝ่ายิคดจะทำอะไร แต่เขาก็ยังเรียกเตาหลอมโอสถอมตะออกมาตำคำขออีกฝ่ายทันที
และทันทีที่ต้วนหลิงเทียนเรียกเตาหลอมโอสถอมตะออกมา เขาก็พบว่ามีพลังลี้ลับขุมหนึ่งที่หลั่งไหลออกมาจากปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดินที่ฝังตัวกับกระดูกต้นแขนขวาเขา มาผนึกควบรวมที่มือจนฝ่ามือเขาเริ่มทอแสงสีกากีออกมาเรืองๆ
จากนั้นไม่นานพลังสีกากีดังกล่าวก็พวยพุ่งออกจากมือขวาเขาดั่งมังกรปฐพี บึ่งตรงไปผสานหลอมรวมเข้ากับเตาหลอมโอสถอมตะที่เขาเรียกออกมาเบื้องหน้า!
ซูวว!
เตาหลอมโอสถอมตะสั่นไหวครู่หนึ่ง จากนั้นต้วนหลิงเทียนก็สังเกตเห็นได้ชัด ว่าตัวเตาคล้ายมีม่านพลังแสงสีกากีฉายเคลือบไว้อีกชั้นทั้งภายในและภายนอก
“ปฐพีเทพแรกกำเนิดฟ้าดิน สามารถผสานพลังเข้ากับอุปกรณ์อมตะใดๆรวมทั้งเตาหลอมโอสถอมตะของปรมาจารย์โอสถ และมันจะช่วยยกระดับพลังอำนาจของอุปกรณ์อมตะดังกล่าวไปอีกขั้น ซึ่งในที่นี้จะเป็นการยกระดับอัตราการหลอมโอสถอมตะของเจ้าให้สำเร็จมากขึ้น กอปรกับมีข้าช่วยเหลือ โอสถเฉียนจินย่อมหลอมได้สำเร็จเต็มสิบส่วน”
ขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังสงสัยว่าแสงพลังสีกากีนี้มีความสามาถรอะไร เสียงของเพลิงเทพโกลาหลพลันดังขึ้นอ่างประจวบเหมาะ
“เช่นนั้นพวกเราเริ่มกันเลยเถอะ”
และในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังตะลึงกับความสามารถดังกล่าว ก็เป็นเพลิงเทพโกลาหลกล่าวขึ้นอย่างไม่รอช้า
ต้วนหลิงเทียนพอได้ยินก็ดึงสติกลับมา และเริ่มสงบสติสำรวมใจ ทำสมาธิเตรียมหลอมโอสถ
โอสถเฉียนจินนั้นได้ชื่อว่าเป็นโอสถอมตะระดับสูงที่หลอมยากที่สุดในบรรดาโอสถอมตะระดับสูง ขั้นตอนการหลอมก็สลับซับซ้อนมาก ควบคุมพลังผิดพลาดไปเพียงเล็กน้อยก็อาจสูญเสียทั้งหมดได้ อย่างไรก็ตามเรื่องสลับซับซ้อนที่ว่า สำหรับต้วนหลิงเทียนแล้ว…มันกระจ่างดุจฝ่ามือตัวเอง!
เพราะสุดท้ายแล้วทักษะความสามารถในการหลอมโอสถอมตะของต้วนหลิงเทียนตอนนี้ ได้ก้าวข้ามปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับสูงไปไกล ยังเหนือกว่าปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับขุนนาง จนเทียบเทียมได้กับปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชาเบื้องต้นแล้ว
…
ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนเริ่มต้นหลอมโอสถเฉียนจินอย่างตั้งใจ เหล่าคนของประเทศตงหมิงและประเทศโม่หลุนก็ได้รับทราบเรื่องราวความเป็นไปจากผู้นำของพวกมัน
ว่าไฉนวันนี้ในงานประมูล อีกฝ่ายถึงไม่ช่วงชิงไส้เดือนฝอยทองังกำชับให้พวกมันไม่ออกปากเสนอราคาประมูล
“อะไรนะ! คนของประเทศฝูชิว…ถึงกับจ้างวานปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชามาจริงๆ?”
“ฮ่องเต้ฝูชิวช่างใจถึงและทุ่มทุนสร้างครั้งยิ่งใหญ่โดยแท้!”
“ข้าว่าฮ่องเต้ฝูชิวคงไม่ใจถึงขนาดนั้นหรอก…ข้าเดาว่าเรื่องนี้ไม่พ้นต้องมีปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชาจากเผ่าพยัคฆ์เหิน ที่เต็มใจช่วยเหลือต้วนหลิงเทียนคนนั้นมากกว่า!”