War sovereign Soaring The Heavens – ตอนที่ 3830 : เกิดมาเพื่อเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพ

ตอนที่ 3830 : เกิดมาเพื่อเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพ

ตอนที่ 3,830 : เกิดมาเพื่อเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพ

  อดีตประมุขเฒ่าของนิกายมังกรสวรรค์นั้น เป็นดั่ง ‘ตำนาน’ ของนิกายมังกรสวรรค์ในยุคนี้เลยก็ว่าได้ ศิษย์ 9 ใน 10 ของนิกายมังกรสวรรค์เห็นอีกฝ่ายเป็นดั่งแบบอย่าง และส่วนที่เหลือก็นับถือและชื่นชมมันจากใจ

  ในสายตาของพวกมัน

  ตัวตนระดับนี้ ต่อให้ไม่อาจหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดได้ แต่ไม่ใช่เพราะไร้ฝีมือ เพียงแต่ขาดเคล็ดลับสำคัญบางอย่างจึงไม่อาจหลอมได้สำเร็จ

  ส่วนต้วนหลิงเทียนนั้น ทุกคนคิดว่า 9 ใน 10 สมควรโชคดีได้รับเคล็ดลับในการหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรให้ออกมาเป็นขั้นสุดยอด ก็เลยสามารถหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดได้

  วันนี้ ตราบใดที่อดีตประมุขเฒ่าสามารถเห็นเคล็ดลับและกลวิธีของต้วนหลิงเทียนล่ะก็ ต้องสามารถนำมาประยุกต์ใช้จนหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดได้เช่นกัน!

   ไม่แน่เคล็ดลับที่ต้วนหลิงเทียนใช้หลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดได้ หากอยู่ในมือท่านอดีตประมุขผู้เฒ่า ท่านอาจจะสามารถนำไปปรับใช้กับโอสถเทพระดับราชาชนิดอื่นๆ หรือแม้แต่โอสถเทพระดับจอมราชัน! ถึงตอนนั้นท่านย่อมหลอมโอสถเทพระดับจอมราชันขั้นสุดยอดได้!! 

   หลอมโอสถเทพระดับจอมราชันขั้นสุดยอดหรือ! หากอดีตประมุขผู้เฒ่าทำได้จริงๆ ข้าเกรงว่าความสามารถในการหลอมโอสถเทพของท่านตอนนั้น หากกล่าวว่าเป็นที่ 2 คงไม่มีใครในเขตคฤหาสน์ตงหลิงกล้าพูดว่าเป็นที่ 1! 

   แต่พูดก็พูดเถอะ ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นโชคดียิ่งนัก มันถึงกับล่วงรู้เคล็ดวิธีหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดได้ ไม่ทราบจริงๆว่ามันไปพบพานมาแต่ที่ใด 

   ใครที่เป็นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพ จำต้องจับตาดูการหลอมยาวันนี้ของต้วนหลิงเทียนให้ดี หากเก็บเกี่ยวอันใดได้ นั่นจักเป็นประโยชน์มหาศาล! 

  …

  เมื่อหันไปมองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง สายตาทุกคนก็ลุกวาวขึ้นมา แต่ละคนล้วนเผยความคาดหวังทั้งสิ้น บ้างก็กระตือรือร้นอย่างมากเพราะเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพเช่นกัน ส่วนที่ไม่ได้เป็นบางคนก็ถึงกับเริ่มเตรียมบันทึกฉากเรื่องราวลงป้ายหยกเก็บความทรงจำ

  ‘เคล็ดลับ?’

  ถึงแม้เหล่าศิษย์และอาวุโสของนิกายมังกรสวรรค์จะกระซิบกระซาบคุยกัน แต่โสตประสาทรับฟังของต้วนหลิงเทียนนั้นยอดเยี่ยมมาก เขาจึงได้ยินมันชัดเจน และนั่นก็ทำให้เขาอดลอบหัวเราะในใจไม่ได้

  เกรงว่าคนเหล่านี้คงต้องผิดหวังแล้ว

  เคล็ดลับหรือ?

  จริงอยู่ที่เขามี

  เพียงแต่เคล็ดลับของเขาคงไม่มีใครสามารถลอกเลียนได้

  พอดีข้าพเจ้ามีพฤกาษเทพกำเนิดชีพที่ได้จากซากปรักหักพังของระนาบเทพทั้งต้นอยู่ในโลกใบเล็กภายในกาย แล้วพวกท่านสามารถหามันมาปลูกไว้ในโลกใบเล็กของพวกท่านได้หรือไม่?

  ตั้งแต่ที่มาถึงระนาบเทพ ต้วนหลิงเทียนก็ได้รู้เรื่องราวต่างๆเพิ่มเติมมากมายที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนในอดีต และบางเรื่องวารีเทพชำระโลกาก็ไม่ได้บอกเขา

  บางเรื่องวารีเทพชำระโลกาอาจไม่รู้ชัด แต่บางเรื่องก็เป็นเรื่องพื้นฐานจนอาจละเลยไป

  และสิ่งหนึ่งที่เขาได้รู้เพิ่มก็คือ ระนาบเทพนั้น มันจะถูกทำลายจนกลายเป็นซากปรักหักพังในเวลาเดียวกันกับที่ผู้แข็งแกร่งที่สุดอันเป็นเจ้าของระนาบเทพนั้นๆถูกฆ่าตาย ต่อมาระนาบเทพดังกล่าวก็จะจมหายไปในห้วงมิติโกลาหล ยากจะมีผู้ใดสามารถล่วงรู้หรือระบุตำแหน่งของมันได้

  ยิ่งไปกว่านั้น พฤกษาเทพกำเนิดชีพอันเป็นรากฐานของระนาบเทพนั้น ปกติแล้วหลังจากระนาบเทพพังทลาย ไม่นานนักมันก็จะเริ่มสูญเสียพลัง ก่อนจะพินาศไปด้วย

  เหตุผลเดียวที่พฤกษาเทพกำเนิดชีพในซากปรักหักพังที่ต้วนหลิงเทียนพบเจอนั้นสามารถรอดชีวิตอยู่ได้ ทั้งหมดเป็นเพราะวารีเทพชำระโลกาคอยหล่อเลี้ยงด้วยพลังของนาง จนทำให้มันสามารถรอดชีวิตมาได้จนพบเจอต้วนหลิงเทียน

  หากต้วนหลิงเทียนไม่ได้เข้าสู่ซากปรักหักพังของระนาบเทพในตอนนั้น และนำพฤกษาเทพกำเนิดชีพมาปลูกในโลกใบเล็กภายในกายเขา เกรงว่าคงใช้เวลาอีกไม่นาน พฤกษาเทพกำเนิดชีพก็ต้องเหี่ยวเฉาจนตกตาย หลังจากที่สูบพลังของวารีเทพชำระโลกาจนหมด

  วารีเทพชำระโลกาไม่ได้มีพลังอำนาจทุกอย่าง และไม่มีทางหล่อเลี้ยงพฤกษาเทพกำเนิดชีพในซากปรักหักพังของระนาบเทพไปได้ตลอดกาล

   มันจะหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดได้จริงๆหรือ? 

  ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของเหล่าศิษย์และผู้อาวุโสโดยรอบ รวมถึงเห็นความสงบบนใบหน้าของต้วนหลิงเทียน สือคงเยย่ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ยังรู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง

  ตัวตนระดับนี้ ยอมลดตัวลงมาผูกมิตรกับติงเหยียนจริงๆ?

  อีกฝ่ายตาถั่วหรือไร?

  ด้านติงเหยียนที่ลอยร่างห่างสือคงเยว่ไม่ไกล ไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อย แต่มันก็อดเป็นกังวลไม่ได้ ก็เลยส่งเสียงผ่านพลังไปหาต้วนหลิงเทียน  ต้วนหลิงเทียน หากเจ้ามีเคล็ดลับบางอย่างที่ทำให้เจ้าสามารถหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดได้จริง ข้าว่าเจ้าซ่อนมันไว้จะดีกว่า…ถึงแม้สิ่งนี้จะดูเห็นแก่ตัวไปบ้าง แต่เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยเคล็ดลับให้คนอื่นฟังจนต้องเสียประโยชน์ 

   หากท่านอดีตประมุขผู้เฒ่าต้องการเคล็ดลับของเจ้าจริง ก็ให้อีกฝ่ายเสนอบางอย่างเป็นการแลกเปลี่ยนเถอะ 

   ข้าขอกล่าวบอกเจ้าตามตรงเลยแล้วกัน หากเจ้ามีเคล็ดลับที่ว่าจริง นั่นไม่ใช่อะไรที่ประเมินค่าได้เลย 

  คำพูดผ่านพลังของติงเหยียนนั้น แม้จะฟังดูเห็นแก่ตัว แต่มันก็กล่าวเตือนเพราะหวังดีกับต้วนหลิงเทียน

  ถึงจะไม่อาจเก็บเคล็ดลับดังกล่าวไว้ได้ตลอด แต่การนำมันไปแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ย่อมคุ้มกว่ามาเปิดเผยเปล่าๆ

  สำหรับมันแล้ว แม้ฐานะของอดีตประมุขเฒ่าจะยิ่งใหญ่ในนิกายมังกรสวรรค์มาก แต่สุดท้ายก็ไม่ต่างอะไรจากคนแปลกหน้าสำหรับมันอยู่ดี

  อีกอย่างทุกสิ่งที่มันได้รับจากนิกายมังกรสวรรค์ ก็ได้รับจากท่านลุงสือคงที่เป็นดั่งบิดาคนที่สองของมันคนเดียว ไม่เกี่ยวกับใครหน้าไหนในนิกายมังกรสวรรค์ทั้งนั้น มันจึงไม่อยากให้ต้วนหลิงเทียนเสียเปรียบใคร

  สิ่งนี้ไม่ถือว่ามันเนรคุณนิกาย แต่แยกแยะผลประโยชน์ให้ชัดเจน

  หากเคล็ดลับที่ว่าเป็นของมันๆย่อมยินดีมอบให้ท่านลุงสือคงโดยไม่มีเงื่อนไข แม้ท่านลุงจะนำไปมอบให้นิกายมันก็ไม่ใส่ใจ

  แต่เคล็ดลับที่ว่าเป็นของต้วนหลิงเทียน และต้วนหลิงเทียนเป็นสหายของมัน เช่นนั้นมันย่อมบังเกิดความเห็นแก่ตัว ไม่อยากให้ต้วนหลิงเทียนเปิดเผยเคล็ดลับล้ำค่าต่อนิกายโดยไม่ได้รับผลตอบแทน

   เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอก 

  คำเตือนดังกล่าวของติงเหยียน ทำให้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกอบอุ่นใจไม่น้อย  ข้ามีเคล็ดลับก็จริง แต่นั่นไม่ใช่อะไรที่ใครจะเรียนรู้มันได้ 

   เอ๋? ไม่มีใครสามารถเรียนรู้ได้หรือ? 

  ติงเหยียนอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวด้วยความผิดหวัง  เช่นนั้นเคล็ดลับของเจ้า ก็ไม่อาจนำไปแลกผลประโยชน์ใดๆได้น่ะสิ ในเมื่อมันเป็นเคล็ดลับที่ไม่อาจมีผู้ใดเรียนรู้ได้…ข้าว่าวันนี้อดีตประมุขผู้เฒ่ากับอาวุโสรวมถึงเหล่าศิษย์ที่เป็นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพทั้งหลายคงต้องผิดหวังกันแล้วกระมัง 

  …

   เจ้าเริ่มหลอมยาเลยเถอะ 

  เสียงของอดีตประมุขเฒ่าดังก้องไปทั่วอีกครั้ง และคราวนี้ดูเหมือนจะพูดกับต้วนหลิงเทียน

  เห็นได้ชัดว่ามันเองก็ค่อนข้างสนใจการหลอมยากลางแจ้งของต้วนหลิงเทียนมาก

  ต้องทราบด้วยว่า หากต้วนหลิงเทียนหลอมยาในสถานที่พัก ด้วยพลังของค่ายกล เช่นนั้นแม้แต่จอมราชันเทพขั้นสูงก็ไม่อาจสอดแนมต้วนหลิงเทียนขณะปรุงยาได้ โดยไม่รบกวนต้วนหลิงเทียน

  และถ้าต้วนหลิงเทียนถูกรบกวน ย่อมรู้ได้ทันทีว่าถูกสอดแนม เช่นนั้นก็คงไม่คิดหลอมโอสถเทพต่อแน่นอน

   ได้ 

  ท้ายที่สุดแล้วอีกฝ่ายก็คืออดีตประมุขเฒ่าของนิกายมังกรสวรรค์ แม้ต้วนหลิงเทียนจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ไหน แต่ในเมื่ออีกฝ่ายสมควรจับตาดูเรื่องราวอยู่ ต้วนหลิงเทียนก็เลยกล่าวตอบรับออกมาเร็วไว ไม่กล้าละเลย

  หลังจากนั้นเขาก็เริ่มต้นหลอมยาต่อหน้าทุกคน

  ขั้นตอนการหลอมยาทั้งหมด ดำเนินไปตามปกติ

  ยังราบรื่นประหนึ่งเมฆคล้อย ลมเคลื่อน แลดูสบายๆเป็นธรรมชาติ

   ถึงแม้ทักษะต่างๆที่ต้วนหลิงเทียนใช้ในการหลอมยาจะถือว่าดี แต่จากระดับแล้วก็พอๆกับปรมาจารย์หลอมโอสถเทพระดับราชาชั้นแนวหน้าเท่านั้น ดูเหมือนความลับในการหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดของต้วนหลิงเทียน จะอยู่ที่การสัมผัส และสกัดพลังชีวิตท่ามกลางพลังวิญญาณฟ้าดิน… 

  ปรมาจารย์หลอมโอสถเทพบางคนกล่าวพึมพำกับตัวเบาๆ

  เท่าที่พวกมันดู ทักษะการหลอมโอสถของต้วนหลิงเทียน แม้จะดีและกระทำทุกอย่างได้ละเอียดไม่ผิดพลาดก็จริง แต่ก็เหมือนกับทำตามตำราสอน ไร้สิ่งใดโดดเด่นเป็นพิเศษ พวกมันส่วนส่วนใหญ่ลองถามตัวเองดู ก็ตอบได้ทันทีว่าพวกมันสามารถทำได้เช่นกัน

   กำลังจะเข้าสู่ขั้นตอนการสกัดพลังชีวิตแล้ว 

  ไม่นานนักต้นหลิงเทียนก็หลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรถึงขั้นตอนสำคัญ เขาเริ่มแผ่สำนึกเทวะออกไปยังสภาพแวดล้อมโดยรอบ ราวกับกำลังค้นหาพลังชีวิตท่ามกลางพลังวิญญาณฟ้าดิน และนี่นับเป็นครั้งแรกเลยที่ต้วนหลิงเทียนได้หลอมโอสถในนิกายมังกรสวรรค์

  ต้องบอกเลยว่านิกายมังกรสวรรค์นั้นสมแล้วที่เป็นขุมกำลังระดับจักรพรรดิเทพ ด้วยสายแร่หินเทพมหาศาล ทำให้ปริมาณพลังวิญญาณฟ้าดินในถิ่นที่อยู่ของนิกายมังกรสวรรค์นั้นหนาแน่นบริบูรณ์นัก สุดที่ตระกูลหลิงหูที่ต้วนหลิงเทียนเคยอยู่จะเทียบได้เลย

  และที่นี่ ต้วนหลิงเทียนก็สัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่ปะปนในพลังวิญญาณฟ้าดินจำนวนมาก ทำให้ต้วนหลิงเทียนอดทอดถอนอยู่ในใจไม่ได้ ‘พลังชีวิตที่อยู่ในพลังวิญญาณฟ้าดินของนิกายมังกรสวรรค์ มันมากพอจะให้ข้าหลอมโอสถเทพระดับจอมราชันทั่วไปให้ออกมาเป็นขั้นสุดยอดโดยไม่ต้องพึ่งพลังชีวิตจากพฤกษาเทพกำเนิดชีพด้วยซ้ำ’

  ‘ด้วยพลังชีวิตที่มากมายขนาดนี้ คิดจะหลอมโอสถเทพระดับราชาให้ออกมาเป็นขั้นสุดยอด นับว่ามันมากเกินพอ…’

  ถึงแม้ในใจต้วนหลิงเทียนจะเหม่อคิดเรื่องราวไปเรื่อย แต่การเคื่อนไหวของเขาก็ไม่เคยหยุดชะงัก เริ่มสกัดพลังชีวิตท่ามกลางพลังวิญญาณฟ้าดินอย่างไม่รีบไม่ร้อน

  ตอนแรกเหล่าปรมาจารย์หลอมโอสถก็ไม่ได้รู้สึกอะไร

  แต่เมื่อพวกมันพบว่าพลังชีวิตมหาศาลถูกสกัดและถ่ายทอดลงสู่เตาหลอมโอสถไม่หยุด พวกมันก็ถึงกับตกตะลึง

   บ้าน่า…มากขนาดนี้เชียวหรือ!? 

  ลูกตาของอาวุโสมังกรดำ หยวนคังหมิง ถึงกับหดเล็กลงแทบปิด ใบหน้ามันฉายชัดถึงความตกตะลึง

  ส่วนอีกด้าน โหวฟาง อาวุโสมังกรดำอีกคน ที่ไม่ยอมลดราวาศอกกับหยวนคังหมิงก่อนหน้านี้ ตอนนี้ก็ถึงกับเหม่อลอยไปคล้ายคนสติหลุด  ได้อย่างไร…เจ้าหนูนั่นมันทำได้อย่างไรกัน? ไฉนมันถึงสกัดพลังชีวิตได้มากมายมหาศาลนัก?! 

   สวรรค์ พลังชีวิตมหาศาลขนาดนี้ ต่อให้เป็นอดีตประมุขผู้เฒ่าก็ไม่อาจสกัดออกมาได้กระมัง? 

   ที่สำคัญ…พวกเจ้าเห็นหรือไม่ วิธีที่ต้วนหลิงเทียนใช้กสัดพลังชีวิต ข้าบอกตามตรงมารดามันช่างทื่อด้านทั้งหยาบกระด้างยิ่ง นับเป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดก็ว่าได้… 

   มันใช้วิธีสกัดพลังชีวิตที่ไม่ได้เรื่องเช่นนั้น แต่ยังสกัดพลังชีวิตได้มากมายมหาศาลขนาดนี้ ราวกับพลังชีวิตทั้งหลายยินดีโผล่ออกมาให้มันสกัด… 

  กล่าวถึงจุดนี้โหวฟางก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้ว

  ต้วนหลิงเทียนมีเคล็ดลับอะไรหรือไม่?

  เห็นได้ชัดว่าไม่มี!

  การจับสัมผัสพลังชีวิตท่ามกลางพลังวิญญาณฟ้าดินนั้น ทำได้แค่พึ่งพาตัวเองเท่านั้น ว่ากันว่ายิ่งบรรลุความเข้าใจในกฏแห่งชีวิตมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งไวต่อสัมผัสพลังชีวิตมากขึ้นเท่านั้น

  อย่างไรก็ตาม อดีตประมุขผู้เฒ่าของพวกมัน ด้วยความที่ใช้กฏชีวิตเป็นกฏหลัก ความเข้าใจในกฏแห่งชีวิตย่อมไม่มีทางด้อยกว่าต้วนหลิงเทียนแน่นอน

  แต่กระนั้น ความสามารถในการสัมผัสและสกัดพลังชีวิตของอดีตประมุขผู้เฒ่าก็สู้ต้วนหลิงเทียนไม่ได้เลย

  ไม่ใช่แค่สู้ไม่ได้ธรรมดา แต่ห่างชั้นกันไม่เห็นฝุ่น…

   เหอๆ…ด้วยพลังชีวิตมากมายมหาศาลขนาดนี้ หากว่ามันยังไม่อาจหลอมโอสถเทพระดับราชาให้ออกมาเป็นขั้นสุดยอดได้อีก ทักษะในการหลอมโอสถเทพของมันต้องต่ำเตี้ยเรี่ยดินแล้วจริงๆ 

  จังหวะนี้ ไม่ว่าจะหยวนคังหมิง โหวฟาง หรือปรมาจารย์หลอมโอสถเทพคนไหนๆ ที่มีความสามารถในการหลอมโอสถล้ำลึก ย่อมบังเกิดความคิดทำนองเดียวกันในใจ

  เพราะต่อให้เป็นพวกมันเอง หากสามารถสกัดพลังชีวิตได้มากเหมือนต้วนหลิงเทียนล่ะก็ พวกมันมั่นใจว่าต่อให้หลับตาทั้งใช้มือข้างเดียวก็สามารถหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรให้ออกมาเป็นขั้นสุดยอดได้แน่ๆ!

  เหนือขึ้นไปบนฟ้าสูง เลยหมู่เมฆขึ้นไป ปรากฏร่างชราหนึ่งเหินลอยอยู่อย่างเงียบงัน

  หลังเห็นฉากเรื่องราวด้านล่าง มันก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้  ไร้ซึ่งเคล็ดลับอันใดทั้งสิ้น…ดูเหมือน 9 ใน 10 เจ้าหนูนี่จะเกิดมาพร้อมสัมผัสที่ไวต่อพลังชีวิตท่ามกลางพลังวิญญาณฟ้าดินมากกว่าผู้อื่น 

   ตัวตนเช่นมัน ถือว่าเกิดมาเพื่อเป็นปรมาจารย์หลอมโอสถเทพตามธรรมชาติ 

   ขอเพียงทักษะการหลอมโอสถของมันถึงเกณฑ์ อย่าว่าแต่หลอมโอสถเทพระดับราชาขั้นสุดยอดเลย…แม้แต่โอสถเทพระดับจอมราชันขั้นสุดยอด หรือเหนือกว่านั้นมันก็หลอมได้ 

  …

  หลังส่ายหน้าเบาๆไม่กี่ครั้ง พริบตาต่อมาร่างชราก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

  ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนยังคิดหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดกลางแจ้งอีกเตาสองเตา มันก็หมดความสนใจที่จะชมดูอีกต่อไป

  ขณะเดียวกัน ต้วนหลิงเทียนที่กำลังหลอมโอสถอยู่ หลังสกัดพลังชีวิตลงสู่โอสถแล้วเสร็จ เมื่อจบสิ้นกระบวนการหลอมโอสถเทพคลี่คลายชีพจรแล้ว ตัวโอสถก็พุ่งออกจากเตาก่อนจะลอยขึ้นไปบนฟ้า ไม่นานนักก็อัสนีที่ก่อเกิดจากเมฆหายนะก็ฟาดผ่างมา

  โอสถเทพคลี่คลายชีพจรธรรมดาๆ หลังจากผ่านอัสนีสวรรค์ มันก็ถือว่าผ่านขั้นตอนสุดท้ายในการเป็นโอสถเทพคลี่คลายชีพจรขั้นสุดยอดต่อหน้าต่อตาทุกคน

   เกิดเป็นผู้คนเหมือนกันแท้ๆ แต่ช่างทำให้ผู้อื่นรู้สึกหงุดหงิดนัก…โอสถเทพระดับราชาขั้นสุดยอด มันหลอมออกมาง่ายดายเพียงเท่านี้? 

  หยวนคังหมิงได้แต่คลี่ยิ้มขื่นขม ใบหน้าสั่นไหวเบาๆ มองไปให้ดีเหมือนน้ำตาจะไหลเล็กน้อย…

 

War sovereign Soaring The Heavens

War sovereign Soaring The Heavens

Status: Ongoing

จิตวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธในโลกปัจจุบัน ได้ทะลุข้ามไปยังโลกอื่นรวมเข้ากับความทรงจำของของเด็กหนุ่ม ที่ถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา จนกระทั้งขาดใจตาย

การฝึกฝนเทคนิค เก้ามังกรเทพสงคราม จะสามารถกวาดล้างศัตรูได้โดยไม่มีวันแพ้!

ขณะที่เขา มีความสามารถในการปรุงยา การสร้างอาวุธ และเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ …

ทักษะทั้งหมดนี้ คือวิถีทางแห่งราชันย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท