บทที่ 112: โทรศัพท์จากพี่รองเจี่ยนหยุ่นโม่
เมื่อเจี่ยนหยุ่นเฉิงกับป้าอันพูดคุยรายละเอียดกันจบแล้ว โทรศัพท์ก็ดังขึ้น มันเป็นโทรศัพท์จากต่างประเทศ
เจี่ยนหยุ่นเฉิงตอบโทรศัพท์ และอีกฝ่ายก็ถามขึ้นว่า
“พี่ใหญ่ น้องสาวผมเป็นยังไงบ้าง”
นี่เป็นเสียงนุ่มนวลสดใสของชายหนุ่ม
“ทุกครั้งที่นายโทรมา คนที่นายอ้าปากถามถึงจะเป็นน้องสาวทุกครั้ง ทำไมนายไม่โทรหาเธอตรงๆล่ะ” เจี่ยนหยุ่นเฉิงถามกลับด้วยเสียงค่อนข้างโกรธ
คนที่อยู่อีกปลายสายนั้นเป็นพี่ชายรอง เจี่ยนหยุ่นโม่
ในตอนนี้เขากำลังศึกษาต่อในต่างประเทศ และก็ยังไม่มีใครบอกเขาเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านก่อนหน้านี้
เขาคงจะเป็นกังวลไปเปล่าๆ ถ้าหากว่ารู้เรื่องนี้ ดังนั้นทางที่ดีควรจะปล่อยให้เขาเรียนอย่างสบายใจ
เขาแตกต่างจากเจี่ยนหยุ่นเฉิงที่เฉยชาและเข้มงวด เจี่ยนหยุ่นโม่มักจะเอาอกเอาใจน้องๆของเขามากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจี่ยนอีหลิง และมักจะตอบรับคำขอของน้องๆ
จากการกระทำเช่นนั้นเป็นเวลานาน เจี่ยนหยุ่นเฉิงจึงต้องรับบทเป็นผู้ร้าย และเจี่ยนหยุ่นโม่นั้นรับบทเป็นพระเอก
เด็กหญิงตัวเล็กๆกอดขาของพี่ชายรองของเธอและจ้องมองไปยังพี่ชายใหญ่แล้วพูดว่าพี่ชายใหญ่ใจร้าย
อาศัยการปกป้องจากพี่ชายรอง พี่ชายใหญ่ไม่สามารถตีก้นเธอได้ ทำให้เธอรู้สึกเกิดความมั่นใจ
คำถามของเจี่ยนหยุ่นเฉิงทำให้เจี่ยนหยุ่นน่าวที่อยู่อีกปลายสายนั้นเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นก็กล่าวว่า
“พี่ใหญ่ ผมยังกลับบ้านคริสต์มาสนี้ไม่ได้ ผมได้ซื้อของขวัญให้น้องสาวน้อยของผมกับนายด้วย แต่เพราะว่าการขนส่งของต่างประเทศนั้นยากที่จะรับประกันเวลาได้ ผมจึงส่งออกมาล่วงหน้า ดังนั้นพี่กับพ่อแม่จะได้รับของขวัญจากผมก่อนแล้วพี่ช่วยส่งส่วนของสาวน้อยให้กับเธอในวันเทศกาลด้วยนะ”
“นายคิดที่จะซื้อของขวัญให้กับน้องสาวเป็นเหตุผลหลัก ส่วนพ่อแม่กับฉันนั้นเป็นของแถม ใช่ไหม” เจี่ยนหยุ่นเฉิงพูดแทงใจดำ
“แค่ก แค่ก” เจี่ยนหยุ่นเฉิงไอออกมาสองครั้ง “พี่ใหญ่ พี่เข้าใจผมผิด ผมเตรียมของขวัญให้พี่อย่างตั้งใจเลยนะ”
“แค่พวกเราไม่ได้โดดเด่นเหมือนกับสาวน้อยนั่น” เจี่ยนหยุ่นเฉิงรักษาหน้าของเจี่ยนหยุ่นโม่ไว้เล็กน้อย
เจี่ยนหยุ่นโม่ถามเจี่ยนหยุ่นเฉิงอีกครั้ง “เรื่องที่บ้านเป็นยังไงบ้าง ตอนที่ผมโทรไปหาแม่เมื่อวันก่อน แม่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีความสุข”
“ไม่เป็นไร แม่รู้สึกไม่ค่อยสบายก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ต้องกังวล”
“ถ้างั้นก็ดี สาวน้อยนั่นยังคงเรียนไปได้ดีไหม เธอเจอปัญหาหรือเรื่องไม่สบายใจบ้างหรือเปล่า ผมคิดว่าเธอไม่ได้โพสต์เรื่องราวอะไรมานานแล้ว”
“เธอ…” เจี่ยนหยุ่นเฉิงชะงัก “ไปถามเธอตรงๆเลยสิ ถ้านายเป็นห่วงเธอ เธอคงจะดีใจ”
“ผม… ยังไม่อยากถาม” เจี่ยนหยุ่นโม่ตอบกลับ
“ขึ้นกับนาย” เจี่ยนหยุ่นเฉิงกล่าว “ดูแลตัวเองให้ดีๆ นายไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่บ้าน ฉันดูแลอยู่”
“พี่ใหญ่ พี่ต้องรักษาสุขภาพด้วยนะ อย่านอนดึก พี่มักจะทำหน้าบึ้งจนหน้าแก่กว่าผมไปแล้ว ระวังว่าตอนเรายืนด้วยกันพี่จะดูแก่กว่าผมไปสิบปี”
เจี่ยนหยุ่นโม่อายุน้อยกว่าเจี่ยนหยุ่นเฉิงเพียงสามปี
“นายก็อย่าดูหน้าแก่กว่าฉันล่ะ”
เจี่ยนหยุ่นเฉิงวางสายหลังจากที่พูดจบ ไม่เปิดโอกาสให้น้องชายรองได้มีโอกาสที่จะปฏิเสธ
หลังจากที่พูดกับน้องชายรองแล้ว เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็เดินออกไปจากห้องทำงาน จากนั้นก็เรียกเจี่ยนหยุ่นน่าวเข้ามาที่ห้องทำงานของพ่อของเขา ทั้งยังเรียกเวินน่วนมาด้วย
“หยุ่นเฉิง เกิดอะไรขึ้น” เวินน่วนถามเจี่ยนหวุ่นเฉิงด้วยความสงสัย
“มีอะไรบางอย่างที่ต้องการจะชี้แจง พ่อแม่นั่งลงแล้วฟังก่อน”
เจี่ยนหยุ่นเฉิงหันไปหาเจี่ยนหยุ่นน่าวหลังจากที่พูดกับเวินน่วน
“พี่ใหญ่ มีอะไรเหรอ” เมื่อเห็นสายตาของเจี่ยนหยุ่นเฉิงตกลงมาที่ตัวเอง เจี่ยนหยุ่นน่าวก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรไม่ถูกต้อง
“เรามาคุยกัน นายคิดยังไงกับเรื่องบังเอิญในวันนี้” เจี่ยนหยุ่นเฉิงถามความเห็นของเจี่ยนหยุ่นน่าว
———————————————————
พี่ชายรองเจี่ยนหยุ่นโม่ – ผมรู้สึกแย่จริงๆ อุตส่าห์อยู่ต่างประเทศ อยู่ดีๆก็มีกระถางตกใส่หัว
เจี่ยนหยุ่นน่าว เป็นพี่ชายสาม เจี่ยนหยุ่นโม่เป็นพี่ชายรอง เขายังไม่เคยถูกพูดถึงมาก่อน วันนี้เป็นวันเปิดตัวครั้งแรก แม้ว่าจะมีแต่เสียงก็ตาม
มีคนที่อยู่เบื้องหลังอีกคนหนึ่ง ป้าอัน – พี่เลี้ยงอีกคนในตระกูลเจี่ยน ซึ่งไม่เคยแต่งงาน ทำเหมือนกับตระกูลเจี่ยนเป็นครอบครัวของเธอเอง เธอไม่ค่อยพูดมากนัก แต่จงรักภักดีต่อตระกูลเจี่ยนอย่างถึงที่สุด
ผู้แปล ; ในช่วงนี้อาจจะมีการลงล่าช้าหรือหยุดชะงักไปได้นะครับ เพราะว่าคนที่บ้านป่วยมาก และอาจมีผลกระทบกับการแปล จึงขออภัยมาในที่นี้ด้วย