เจียนหยุ่นโม่ได้รับโทรศัพท์จากเชี่ยนหยุ่นเฉิง
“นายอยู่ในเมืองถึงไห่เหรอ”
เสียงจากปลายสายดูเหมือนพยายามระงับอารมณ์เอาไว้ เงี่ยนหยุ่นโม่ไม่สามารถบอกได้ว่าพี่ชายเขานั้นโกรธหรือเศร้า
“อีหลิงอยู่ที่นั่นด้วยเหรอ” เฉียนหยุ่นเฉิงถาม เขาได้เห็นข่าวในอินเทอร์เน็ตแล้ว
“นายน่าจะบอกฉันล่วงหน้านะ”
น้องสาวของเขาได้เข้าสู่ยี่สิบอันดับแรกของการแข่งขันอย่างเป็นทางการของบริษัทเขา อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่งรู้เรื่องนี้เมื่อตอนเห็นข่าวเท่านั้น
แม้ว่าเจียนหยุ่นเฉิงเป็น CEO ของบริษัท แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะคอยจับตาดูทุกสิ่ง ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่เห็นรายชื่อผู้เข้าร่วมการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม ยั่วอวน่าจะรู้เรื่องนี้ เขาตั้งใจหยิบชื่อของเจียนอีหลิงบนอินเทอร์เน็ต นี้หมายความว่าเขาน่าจะรู้มานานแล้วว่าเจียนอีหลิงเข้าร่วมการแข่งขัน
แล้วผู้ชายคนนั้นกลับไม่ยอมบอกเขางั้นเหรอ
อาา นี่เป็นสิ่งที่เชี่ยนหยุ่นเฉิงต้องวางแผนแก้ไขหลังจากนี้แน่นอน
“ช่วงนี้ฉันยุ่งหลายเรื่อง เลยลืมไป”
เห็นได้ชัดว่าเงี่ยนหยุ่นโม่ตั้งใจทําอย่างนี้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พูดเปิดโปงออกมา
“ตอนนี้ฉันอยู่ที่เมืองถึงไห้” เฉียนหยุ่นเฉิงตอบกลับ
ในฐานะ CEO ของบริษัท เขาต้องมาที่นี้เป็นปกติอยู่แล้ว ในเมื่อมีทัวร์นาเมนต์ใหญ่ได้จัดขึ้น
“นายต้องการมาที่นี่หรืออะไรไหม” เฉียนหยุ่นโม่ถาม เขาสามารถได้ยินคําพูดที่เงี่ยนหยุ่นเฉิงตั้งใจจะพูด
เชี่ยนหยุ่นเฉิงไม่ได้ตอบ เขาไม่ได้บอกว่าใช่หรือไม่ใช่
เมื่อไม่ได้ยินการตอบกลับ เจียนหยุ่นโม่ก็พูดต่อไปว่า “ยืม ฉันได้ยินมาว่าอาหารทะเลในเมืองถงให่ค่อนข้างดี เราคงจะหิวกันตอนกลางคืนคงจะดีถ้ามีคนมาส่งอาหารมื้อดึกตอนเทียงคืน”
“ค่อยคุยกันทีหลัง ตอนนี้ฉันยุ่งอยู่บ้าง” เฉียนหยุ่นเฉิงตอบกลับ จากนั้นเขาก็วางสาย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา กริ่งประตูก็ดังขึ้นที่ห้องของเจียนหยุ่นโม่
เมื่อเจียนหยุ่นโม่เปิดประตูออกก็เห็นพี่ชาย พี่ชายของเขานั้นสวมเสื้อผ้าสีเข้มและมีสีหน้าจริงจัง
เขามีผู้ช่วยติดตามมาด้วยเช่นเดียวกัน ผู้ช่วยเขาถือถุงพลาสติกหลายถุงอยู่ในมือ
เจียนหยุ่นเฉิงหันมาพูดกับทุกคนในห้อง “อาหารว่างตอนเที่ยงคืนของทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว”
เมื่อพวกเขาเห็นคนส่งอาหาร หยูซีและเงี่ยนหยู่เงียก็กลัวเกินกว่าจะยิ้ม
ทั้งสองคนกลัวเขียนหยื่นเฉิงอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เพราะเขียนหยื่นเฉิงทําอะไรกับพวกเขา แต่เป็นเพราะกลิ่นอายของเจียนหยุ่นเฉิงค่อนข้างน่ากลัว
เชี่ยนหยุ่นไม่เป็นคนแรกที่ขยับ เขาหยิบของสองสามอย่างจากถุงเหล่านั้นแล้ วเอาไปที่เขียนอีหลิงเขาได้เลือกอาหารที่เขียนอี้หลิงชอบกินมากที่สุด
“กินมากขึ้น ถ้าอยากตัวสูงขึ้น” เงี่ยนหยุ่นโม่พูดกับเจียนอีหลิง
เจียนหยุ่นไม่รู้ว่าน้องสาวเขาต้องการอะไร เจียนอีหลิงต้องการสูงขึ้นและเก๋กว่าเดิม
จากนั้น เจี๋ยน หลิงก็เริ่มกินอาหารทะเลที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างจริงจัง
เงี่ยนหยุ่นโม่ไม่รีบที่จะกินอาหารทะเล กลับกัน เขาช่วยเขียนอีหลิงแคะเนื้อหอยแทน เขาตัดส่วนที่กินไม่ได้ออก
เจียนหยุ่นเฉิงตูเจียนหยุ่นโม่ทําสิ่งนี้ เขาไม่สามารถตัดใจได้
ในตอนแรก เงี่ยนหยู่เฉียและหยุชกลัวเกินกว่าที่จะเริ่มกิน อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเริ่มกินพวกเขาก็เป็นคนที่กินมากที่สุด
ทั้ง กุ้ง ปทะเลแปซิฟิคบลู หอย หอยงวงช้าง หอยคอสั้น หอยนางรม หอยสังข์
พวกมันทั้งหมดสดมาก พวกมันถูกจับจากทะเลได้ไม่นาน
ทักษะการทําอาหารของเชฟก็ดีมากเช่นเดียวกัน ดูเหมือนว่าเขียนหยุ่นเพิ่งได้ใส่ใจเข้าไปในอา หารว่างตอนเที่ยงคืน
เชี่ยนหยุ่นเฉิงดูน้องๆกิน
เมื่อดูเหมือนว่าเจียนหลิงจะกินเสร็จแล้ว เขียนหยุ่นเฉิงก็ถามน้องสาวว่า “เธอชอบเล่นเกมนี้เหรอ”
เพิ่งวันนี้เท่านั้นที่เขียนหยุ่นเพิ่งได้รู้ว่าเขียนอหลิงเล่นเกมนี้ ไม่เพียงเท่านั้น แต่เธอยังเล่นเกมนี้ได้ดีมากเหลือเกินอีกด้วย
“หยูชี้ชอบเล่นเกม” เขียนอีหลิงตอบกลับ
คําตอบของเธอไม่ใช่สิ่งที่เขียนหยุ่นเฉิงคาดหวัง
ตอนแรก เขาคิดว่าน้องสาวเขาชอบเล่นเกมของบริษัท
เจียนหยุ่นเพิ่งหันกลับไปมองหยูซี หยุหยุดกินอาหารทะเลที่อยู่ตรงหน้าทันที
หยูซีรู้สึกว่าสายตาของเงี่ยนหยุ่นเฉิงไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก
อย่างไรก็ตาม เขาได้รับอนุญาตให้เล่น “Zerg Invasion กับเทพหลิงจากย่าเจียน ถ้าเจียนห
ยุ่นเฉิงต้องการจะคิดบัญชีเขา ย่าเขียนย่อมต้องหนุนหลังเขาแน่
ตอนที่ 406 ผู้เล่นหญิงเพียงคนเดียว
วันก่อนการแข่งขันทั้งยี่สิบทีมมารวมตัวกัน เจ้าหน้าที่ของทัวร์นาเมนต์ ‘Zerg Invasion” ก็ ได้อธิบายคร่าวๆเกี่ยวกับการดําเนินงานทัวร์นาเมนต์ และบอกกับทีมต่างๆถึงสิ่งที่พวกเขาต้องระวังสําหรับทัวร์นาเมนต์ออฟไลน์
จะมีผู้ชมมายังงานในวันแข่งขัน
ในแง่ของการขายตัวในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าสถานที่จัดงานจะเต็มไปด้วยผู้ชม
เมื่อทุกทีมมารวมกัน ก็เห็นได้ชัดว่ามีผู้เล่นหญิงเพียงคนเดียวในหมู่พวกเขา
และนั่นก็คือเจียนหลิง
อย่างไรก็ตามเงี่ยนอีหลิงไม่ใช่ผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุด มีเด็กผู้ชายสองสามคนที่อายุน้อยกว่าเธอด้วย
อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังคงดูเหมือนน้องเล็ก
เธอเตี้ยกว่าเด็กชายอายุสิบสี่ปี
ในระหว่างการนําเสนออย่างเป็นทางการ ทีมในประเทศทั้งสามทีม (จอมอหังการ] [ไล่เมมาคว้าชัยชนะ] และ [พึ่งพาผู้อื่น] ได้นั่งอยู่ด้วยกัน
ความแตกต่างของสไตล์ระหว่างสามทีมนี้ค่อนข้างมาก
ตั้งแต่แรก มีคนลงทุนในทีม [ไล่เมฆาคว้าชัยชนะ ซึ่งหมายความว่าทีมนี้มีความเป็นมืออาชีพมากกว่าทีมอื่นๆในสถานที่จัดงานนี้
ผู้เล่นในทีมนั้นเป็นผู้เล่นชั้นนําในภูมิภาคของตน ผู้เล่นบางคนถึงกับเป็นสตรีมเมอร์ที่มีชื่อเสียงทําให้ทีมของพวกเขาดูเป็นมืออาชีพและมีความมั่นใจเหลือเกิน
ในทางกลับกัน สมาชิกทั้งสี่ของทีม [พึ่งพาผู้อื่น ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยตัวของพวกเขาเองทีมของพวกเขามีลักษณะเดียวกันกับทีมของเจียนหลิง พวกเขาดูค่อนข้างเป็นมืออาชีพน้อยกว่า
ส่วนทีม [จอมอหังการ] นั้นแต่งตัวค่อนข้างแตกต่างจากคนอื่นๆ
คนอื่นๆต่างก็สวมชุดลําลอง อย่างไรก็ตาม ผู้ชายทุกคนใน (จอมอหังการ] สวมสูท ใน ทางกลับกันเจียนหลิงสวมกระโปรงพลีท
นี่คือเหตุผลที่ทุกคนปฏิเสธที่จะสวม ชุดทีม ตั้งแต่แรก
ทําไมหยูชีจึงเตรียมกระโปรงให้เจี้ยน หลิง
แม้ว่าหยูชีจะให้กางเกงเลคกิ้งสีผิวแก่เขี่ยนหลิง แต่ในภายหลัง ทุกคนที่ยังลังเลอยู่บ้างที่จะยอมรับเครื่องแบบ” ของเขา
เงี่ยนหลิงมักสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวและกางเกงขายาว ดังนั้นหยูชีจึงขอร้องอ้อนวอนให้ เธอสวมกระโปรงสั้นสักครั้ง
แม้ว่าเจียนอีหลิงจะไม่สูง แต่เธอก็ยังมีสัดส่วนร่างกายที่ดี เมื่อเธอสวมกระโปรงสั้น ขาเธอก็ดู
ตรงและยาว
เมื่อเจียนอหลิงนั่งลง ก็มีเสื้อคลุมหลายตัวสวมทับตัวเธอ
หนึ่งจากจํายหินเชิง หนึ่งจากหยูซี และอีกหนึ่งจากเจียนหยู่เจีย
เสื้อเบลเซอร์ทั้งหมดในทีมอยู่บนตัวของเจียนอีหลิง
สองชิ้นถูกวางไว้บนตักของเธอและตัวสุดท้ายคลุมร่างกายส่วนบนของเธอ
อย่างไรก็ตาม เสื้อเบลเซอร์ทั้งสามตัวนั้นใหญ่เกินไปสําหรับเจียนอีหลิง สิ่งนี้ทําให้เจียนอีหลิงดูเล็กกว่าที่เป็นจริง
เสื้อเบลเซอร์คลุมร่างกายเธอเกือบหมด ราวกับว่าพวกเขาไม่สนใจต่อความจริงที่ว่า เธอยังคงสวมกางเกงเลกกิ้งสีผิวอยู่ใต้กระโปรงเธอ
สมาชิกของทีม [ไอเมฆาคว้าชัยชนะ] เหลือบมองไปที่เขียนอหลิง พวกเขาส่ายหน้าและมีสิ้นน้าท่าทางขับข้อน
(จอมอหังการ] แต่งตัวไม่เหมือนมาเล่นกีฬาอีสปอร์ต ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังวางแผนที่จะเข้าร่วมงานแฟชั่นโชว์มากกว่า
ดูเหมือนว่าพวกเขาวางแผนที่จะใช้เงินเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง
“Zerg Invasion” เป็นเกมที่ได้รับความนิยมมากมายเหลือเกิน การแข่งขันจะออกอากาศบนแพลตฟอร์มสตรีมมิงหลักทั้งหมด
ชายคนหนึ่งหันหน้ากระซิบกับเพื่อนร่วมทีมว่า “นายศตว่าพวกเขาจะถูกชาวเน็ตสาปแช่งหรือเปล่า ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาโดนเจ็บมาเยอะบนอินเทอร์เน็ต ทําไมพวกเขาถึงทําแบบนี้พวก เขาชอบโดนด่าหรือไงกัน”
“นายไม่รู้เรื่องนั้นเหรอ ทุกวันนี้ ถ้าถูกคนด่ามากพอ คนนั้นก็จะกลายเป็นที่รู้จักได้ ในตอน แรกพวกเขาวางแผนที่จะใช้วิธีแบบนั้นเพื่อดึงดูดความสนใจ ด้วยวิธีนี้พวกเขาก็ได้รับความนิยมนั่นแหละคือจุดประสงค์สูงสุด”
ชายผู้ถามคําถามอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า เขาไม่เข้าใจการกระทําดังกล่าวเลย
