เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 539-540

ตอนที่ 539-540

บทที่ 539 ป้าและลูกพี่ลูกน้องจากตระกูลเวิน

ห้องรกเจี่ยนอี้เหิงได้รับการทําความสะอาดจากเจี่ยนอีหลิง

นอกจากซุปแล้ว ยังมีอาหารร้อนแสนอร่อยบนโต๊ะกาแฟอีกด้วย

อาหารเพิ่งเตรียมไปเมื่อไม่นานนี้เอง

เนื่องจากเจี่ยนอีหลิงไม่สามารถขยับลูกพี่ลูกน้องของเธอได้ เจี่ยนอี้เหิงจึงยังได้แต่นอนอยู่บนพื้น

แต่ยังไงก็ตาม มีผ้าห่มบางๆมาคลุมร่างกายเขา

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าเจี่ยนอี้เหิงขณะที่เขามองไปที่เจี่ยนอีหลิง สายตาเขานุ่มนวลและอ่อนโยนเหลือเกิน

“เมื่อคืนฉันพูดอะไรแปลกๆหรือเปล่า” เจี่ยนอี้เหิงถามเจี่ยนอีหลิง

“อื้อ”

“เอ่อ…” เจี่ยนอี้เหิงตะลึง เขาอายเล็กน้อยก่อนจะรีบพูดว่า “อย่าไปใส่ใจเลย ฉันเป็นแบบนั้นเสมอเมื่อฉันดื่มมากเกินไป”

“อือ”

เมื่อคืนเขาไม่ได้พูดอะไรแปลกๆเกินไปใช่ไหม?

ภาพลักษณ์ของพี่ชายของเขา

ยังมีอยู่ใช่มั้ย?

เนื่องจากย่าเจี่ยนปวย ตระกูลเวินจึงมาเยี่ยมเธอ ตระกูลเวินอาศัยอยู่ในเปยจิง

ตระกูลเวินมีประวัติอันยาวนานเกี่ยวกับด้านวรรณคดีและศิลปะ

เวินน่วนมีพี่ชายสามคน หนึ่งในนั้นเปิดพิพิธภัณฑ์ ในขณะที่อีกคนเกี่ยวข้องกับธุรกิจโบราณวัตถุ และคนสุดท้ายเป็นช่างคัดลายมือ

ในระดับผิวเผิน ธุรกิจของสองพี่น้องดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก แต่ในความเป็นจริงธุรกิจของพวกเขาได้รับความนิยมมากเหลือเกิน

บรรพบุรุษของตระกูลเวินได้ส่งต่อสมบัติล้ําค่ามากมาย สมบัติเหล่านี้มีมูลค่ามหาศาล

นอกจากนี้ คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในสายธุรกิจประเภทนี้ไม่ใช่บุคคลธรรมดา

ดังนั้นตระกูลเวินจึงได้รับการยกย่องมากกว่าตระกูลเจี่ยนในเปยจิง

ที่จริงแล้วตระกูลเจี่ยนไม่ได้มีความหมายอะไรเลยในเปยจิง

ย่าเจี่ยนได้รับการเยี่ยมจากภรรยาของพี่ชายใหญ่ของเวินน่วน ภรรยาเขานั้นชื่อใช่ชิงเยว่ นอกจากนี้ลูกสาวไช่ชิงเยว่ เวินรั่วก็มากับเธอด้วย

ใช่ชิงเยว่และเวินรั่วหน้าตาไม่โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับพันธุกรรมของตระกูลเจี่ยน

แต่ยังไงก็ตาม ภาพพจน์และมารยาทของพวกเธออยู่ในอีกระดับหนึ่ง

ในฐานะบุคคลจากตระกูลที่มีชื่อเสียงด้านวรรณกรรม การกระทําของพวกเธอดูสง่างามและประณีต

พวกเธอไม่ได้ทําอะไรที่หวือหวาและการกระทําของพวกเธอสามารถยืนหยัดรับความชื่นชมได้เป็นอย่างดี

เวิ่นรั่วอายุยี่สิบปี เธอมีอายุมากกว่าเจี่ยนอีหลิงสองปี

ปัจจุบันเธอกําลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยทั่วไปเปยจิง เวินรั่วเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยปีที่สาม

หลังจากทักทายปราศัยกันพอเหมาะพอควรกับย่าเจี่ยนแล้ว เวินน่วนก็นําทางพี่สะใภ้และหลานสาวเธอไปที่ทางออก

เวินรั่วอ้าปากถามเกี่ยวกับเจี่ยนอีหลิง

“อาหญิง ย่าเจี่ยนบอกว่าเจี่ยนอีหลิงกําลังศึกษาอยู่ที่เปยจิงด้วยเหมือนกัน เธอเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยไหนเหรอ”

ในอดีต เจี่ยนอีหลิงคะแนนแย่มาก นี่คือสิ่งที่ทุกคนรู้

นอกจากนี้ เวินน่วนไม่เคยพูดถึงการเรียนของลูกสาวเลยทุกครั้งที่เธอกลับมาที่ตระกูลเวิน ด้วยเหตุนี้ตระกูลเวินจึงสรุปว่าเวินน่วนละอายใจที่จะพูดถึงลูกสาว เนื่องจากเจี่ยนอีหลิงเรียนได้ไม่ดีนัก

ด้วยเหตุนี้ตระกูลเวินจึงไม่ถามคําถามดังกล่าวกับเวินน่วน

แต่ยังไงก็ตาม ตระกูลเวินไม่รู้ความจริงว่าถ้าเป็นไปได้ เวินน่วนก็อยากให้ลูกสาวเธอเหมือนเดิมดีกว่า ไม่เป็นไรถ้าลูกสาวเธอไม่ชอบเรียนหรือทํางาน ไม่เป็นไรที่จะปรนเปรอและทําให้ลูกสาวเธอเสียคน ไม่ว่ายังไงเธอก็แค่ไม่ต้องการให้ลูกสาวทําตัวดีและจริงจัง

ด้วยเหตุผลเหล่านี้เวินน่วนจึงไม่ได้กล่าวถึงการศึกษาของลูกสาวเธอกับตระกูลเวิน

“เธอกําลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเปยจิง” เวินน่วนตอบ เมื่อเธอถูกสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็ได้แต่บอกความจริงกับพวกเธอ

มหาวิทยาลัยเปยจิงเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเปยจิง

แม้ว่ามหาวิทยาลัยทั่วไปเปยจิงจะได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีมาก แต่มหาวิทยาลัยก็ยังด้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยเปยจิง

“มหาวิทยาลัยเปยจิงเหรอ?” เวินรั่วพูดซ้ําด้วยความไม่เชื่อ

ลูกพี่ลูกน้องที่เย่อหยิ่งและอวดดีของเธอเข้ามหาวิทยาลัยเปยจิงงั้นเหรอ?

“อาหญิง ทําไมถึงไม่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนหน้านี้”

“ก็ไม่มีอะไรมากนี่” เวินน่วนตอบ เธอไม่ชอบพูดถึงเรื่องนี้

หากความมีชีวิตชีวาและความสุขของลูกสาวต้องแลกกับความรักในการเรียนรู้ นั่นเป็นการแลกเปลี่ยนที่เวินน่วนไม่ต้องการรับ

เธอไม่ต้องการให้ลูกสาวเธอเป็น “ลูกที่ฉลาด” แต่เธออยากได้อีหลิงที่น่ารักของเธอกลับมา

บทที่ 540 นั่นนายน้อยของตระกูลฉินไม่ใช่เหรอ?

ด้วยเหตุนี้เวินน่วนจึงไม่สนใจที่จะพูดถึงสิ่งใดเกี่ยวกับการศึกษาของเจี่ยนอีหลิง

ไม่ว่ายังไงก็ตาม ทัศนคติของเวินน่วนยากที่จะทําให้พี่สะใภ้และหลานสาวของเธอเชื่อว่าเจี่ยนอีหลิงกําลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเปยจิงจริงๆ

แม้จะไม่เชื่อ ไช่ชิงเยว่และเวินรั่วก็ตัดสินใจที่จะไม่แสดงความคิดเห็นกับการโกหกของเวินน่วน

ไม่ใช่เรื่องสุภาพที่จะเปิดโปงคนที่จงใจโกหกพวกเธอ การทําแบบนี้จะทําให้เวินน่วนอับอายอย่างแน่นอน

ดังนั้น ไช่ซิงเยว่ก็ได้พูดกับเวินน่วนว่า “อืม เนื่องจากตระกูลของเธอจะพักอยู่ที่เปยจิงสักพัก เธอคงต้องใส่ใจกับเรื่องจุกจิกมากมาย มีครอบครัวที่มีอิทธิพลมากมายในกรุงเปยจิง โปรดพยายามอย่าไปล่วงเกินพวกเขา เมื่อเร็วๆนี้พี่ชายใหญ่และน้องชายรองของเธอทําธุรกิจร่วมกัน ตอนนี้ เป็นจุดสําคัญในการติดต่อทางธุรกิจของพวกเขา เราไม่ต้องการความล้มเหลวใดๆ”

แม้ว่าพวกเธอไม่ได้คาดหวังว่าตระกูลเจี่ยนจะล่วงเกินใครก็ตาม แต่ก็ดีกว่าที่จะปลอดภัยแทนที่จะเสียใจ คําเตือนย่อมไม่เป็นอันตรายต่อใคร

เนื่องจากทั้งสองครอบครัวมีความเกี่ยวดองกัน หากเกิดปัญหาขึ้น ตระกูลเวินก็จะต้องเข้ามาร่วมด้วยเช่นเดียวกัน

“พี่สะใภ้ พี่คิดมากเกินไปกับสถานการณ์นี้ เราจะเจอใครในเปยจึงได้ล่ะ?”

เวินนวนคิดว่าไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น

พวกเขาจะไปล่วงเกินใครในเปยจึงได้กัน?

พวกเขามาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดอีหลิงเท่านั้น

แต่ทว่าย่าเจี่ยนล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเขาจึงต้องอยู่ที่เปยจิงไปอีกสองสามวันข้างหน้า

ขณะที่ไช่ชิงเยว่สนทนากับเวินน่วน เธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคยเดินผ่านมา

ไช่ชิงเยว่หันหน้ากลับไปมองทันที

บุคคลผู้นั้นสูง 185 เซนติเมตรและสวมชุดสูทที่รีดอย่างดี เขามีภาพพจน์ที่โดดเด่นเช่นเดียวกัน

นอกจากความสูงและภาพลักษณ์ของเขาแล้ว ผู้ชายคนนั้นยังดูดีมากอีกด้วย เขามีสันจมูกโด่ง และใบหน้าที่คมคาย

เป็นไปไม่ได้ที่จะเพิกเฉยเขา รูปลักษณ์เขานั้นทิ้งความประทับใจไว้ลึกล้ํา

ไช่ชิงเยวประหลาดใจที่เห็นฉันชวน “นั่นไม่ใช่ นั่นไม่ใช่นายน้อยของตระกูลฉินเหรอ”

ใช่ซิงเยว่รู้จักฉันชวน

ตระกูลฉินและตระกูลจํายเป็นครอบครัวที่ร่ํารวยและมีอํานาจมากที่สุดในเปยจิง

นอกเหนือจากความเป็นจริงนี้ ตระกูลฉินมักจะเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับตนเอง ดังนั้นทุกคนในเปยจิงจึงรู้จักตระกูลของพวกเขา

การกลับมาของฉันชวนสู่ตระกูลฉินนั้นเป็นที่รู้จักของทุกคน

ในทางกลับกัน ตระกูลจํายนั้นกลับยิ่งเก็บตัว แม้แต่รูปถ่ายของสมาชิกในครอบครัวก็ไม่ปรากฏออนไลน์

ขณะที่ใช่ชิงเยว่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็เห็นฉินชวนเดินเข้าไปในห้องย่าเจี่ยน

นี่ยิ่งทําให้เธอตกใจมากขึ้นไปอีก

เกิดอะไรขึ้น?

ทําไมนายน้อยของตระกูลฉินถึงเข้ามาในห้องย่าเจี่ยนนี้

“พวกเธอรู้จักนายน้อยของตระกูลฉินเหรอ” ไช่ชิงเยว่ถาม ใบหน้าเธอมีสีหน้าประหลาดใจ

เวินรั่วมีสีหน้าประหลาดใจเช่นเดียวกัน สายตาเธอยังคงติดตามฉินชวนไป

“เขาเคยเป็นติวเตอร์ของอีหลิง” เวินน่วนตอบ

ฉินชวนเป็นติวเตอร์ของเจี่ยนอีหลิงงั้นเหรอ

นั่นเป็นโชคแบบไหนกัน?

“เขาเป็นติวเตอร์อีหลิงเท่านั้นเองเหรอ?”

ฉันชวนมาเยี่ยมย่าเจี่ยนเมื่อตอนเธอป่วย

ติวเตอร์ธรรมดาไม่จําเป็นต้องมาเยี่ยมในสถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่เหรอ

“ใช่ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เขาอาจจะแค่ต้องการรําลึกถึงช่วงเวลาเก่า ไม่ว่ายังไง เราทั้งคู่ก็มาจากเมืองเหิงหยวน” เวินน่วนกล่าว

ลิฟต์มาถึงขณะที่พวกเธอพูดคุยกัน ไช่ชิงเยว่และเวินรั่วกําลังจะลงลิฟต์ไปที่ชั้นล่าง

“แม่ สร้อยข้อมือหนูหาย” เวินรั่วกล่าว

“โอ้? ลูกลืมสร้อยข้อมือไว้ที่วอร์ดย่าเจี่ยนงั้นเหรอ งั้นกลับไปหากันเถอะ”

จากนั้น ไช่ชิงเยว่และเวินรั่วจึงได้กลับไปที่วอร์ดย่าเจี่ยน

เมื่อพวกเธอเข้ามา ฉันชวนก็กําลังปลอบโยนย่าเจี่ยน

เขาไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเท่านั้น แต่เขายังปฏิบัติต่อย่าเจี่ยนด้วยความเคารพอีกด้วย

ราวกับว่าเขายังเป็นติวเตอร์ของเจี่ยนอีหลิง เขาไม่ได้กระทําด้วยความเย่อหยิ่งดังที่คาดหวังไว้จากนายน้อยของตระกูลฉิน

สิ่งนี้ทําให้สมาชิกของตระกูลเจี่ยนรู้สึกปลื้มใจเหลือเกิน นอกจากนี้ สิ่งนี้ยังทําให้พวกเขาประทับใจฉินชวนด้วยเช่นเดียวกัน

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ

Status: Ongoing

เดิมที เจี่ยนอีหลิง (简一凌) เป็นตัวละครประกอบที่มีชะตากรรมเป็นแนวหน้ากล้าตาย แต่ทว่าเมื่อตอนนี้เธอมีความทรงจำจากเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เจี่ยนอีหลิง ซึ่งเป็นผู้อ่านได้ย้ายเข้ามามีตัวตนในนิยาย จึงได้เปลี่ยนแปลงตนเองไปเป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ไม่เพียงแต่เจี่ยนอีหลิงจะไม่สนใจในตัวเอกชาย แต่เธอยังคงทำให้ผู้คนรอบกายเธอตกตะลึง สับสน งงงัน

ตามต้นฉบับแล้ว พี่ชายทั้งหลายต่างพากันเกลียดเธอ แต่ตอนนี้ทุกคนล้วนพากันปกป้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย

“อี้หลิงตกใจง่าย อย่าทำให้เธอกลัว”

“อี้หลิงไม่เคยไปที่ไกลๆ อย่าหลอกเธอ”

“อี้หลิงมีร่างกายอ่อนแอ ห้ามรังแกเธอ”

คนอื่นๆ ต่างต้องการร่ำร้องไม่อยากเชื่อ มั่นใจเหรอว่าเธอน่ะน่ารักและถูกรังแกได้ง่ายๆ ใครกล้ารังแกเธอกัน ในขณะที่พวกเขาล้วนคิดว่าเพียงแค่บรรดาพี่ชายตระกูลเจี่ยนก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง แต่นั่นก็ยังมีคนอื่นที่คอยเติมส่วนที่เหลือ

นายท่านเชิ่ง “อี้หลิงเป็นคนเปราะบางมาก อย่าทำให้เธอโกรธ ถ้าคุณทำให้เธอโกรธ ผมจะหั่นคุณออกเป็นชิ้นๆและทำเป็นน้ำซุป”

คนอื่นๆ “นายท่านเชิ่ง ผมคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดวงตาคุณ ผมแนะนำให้คุณไปหาจักษุแพทย์”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท