ชางหลิงที่กำลังอึ้งอยู่นั้นก็รู้ดีว่าจัดให้ที่ว่าของโหมวยู่แปลว่าอะไร ใบหน้าเธอแดงระเรื่อ กำลังจะสั่งสอนเขา แต่กลับถูกโหมวยู่กอดตัวเธอเอาไว้
สองแขนสองขาของเธอถูกเขากอดเอาไว้ กลัวว่าจะตกลงไป แต่ไม่ต้องกังวลเลยถ้าอยู่กับโหมวยู่ เขากอดเธอเดินขึ้นบันไดไปอย่างง่ายดาย เปิดประตูห้องเข้าไป ทั้งสองล่มลงบนเตียงนุ่มนิ่ม
“อย่านะ! เมื่อกี้ยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้สะสางเลย” ความเคยชินอะไรกัน รู้แต่เอาเรื่องนี้มากลบเกลื่อนความผิด……
โหมวยู่ไม่รู้ว่าเธอหายไปเมื่อไหร่ ชางหลิงลุกขึ้นอย่างยากลำบาก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ตกใจกับกับสายที่ไม่ได้รับที่โทรมาหลายครั้งมาก
เป็นคนตระกูลชางทั้งหมดเลย ยังมีซูเสี่ยวเฉิงอีก
เกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ชางหลิงอึ้ง รีบโทรกลับไปหาซูเสี่ยวเฉิง
“เสี่ยวหลิงหลิง เธอตื่นสักทีนะ เธอเห็นข่าวหรือยัง น้องสาวเธอเป็นข่าวแล้ว พระเจ้า ทนดูไม่ได้เลย นี่มันแรงมากจริงๆ เปลี่ยนความคิดฉันใหม่ทั้งหมดเลย” พึ่งรับสาย ซูเสี่ยวเฉิงก็พูดมาไม่จบ
“ข่าวอะไร?” ชางหลิงรู้สึกแปลกๆ เธอกดเปิดเสียงลำโพง คลิกข่าวที่ซูเสี่ยวเฉิงส่งมาให้
“ลูกสาวเศรษฐีเล่นแบบใหม่ เปิดห้องสวิงกิ้งกับผู้ชายสี่คน?” ชางหลิงอ่านประโยคนี้ ก็รู้สึกสมองแทบระเบิดออกมา
เธอเลื่อนลงไปด้านล่างเรื่อยๆ ด้านในมีรูปที่น่าเกลียดมาก เป็นสื่อลามกที่ดูมีชีวิตชีวาขั้นสูงมาก
“ฉันตกใจมากเลยนะ เธอว่า ชางฉิงจะคิดยังไงนะ ถึงแม้เธอจะถูกเซิ่งซื่อไล่ออกมาแล้ว ก็ไม่น่าจะทำลายตัวเองแบบนี้นะ” ซูเสี่ยวเฉิงยังคงพูดไม่หยุด แต่สมองชางหลิงกลับตื้อไปหมด
เมื่อคืน เธอยังเห็นชางฉิงอยู่กับโหมวยู่ เพียงแค่คืนเดียว ทำไมถึงมีข่าวแบบนี้ออกมาล่ะ? เรื่องนี้……เกี่ยวกับโหมวยู่หรือเปล่า?
“พวกเราเจอกันค่อยคุยนะ” ชางหลิงรีบตัดสายทิ้ง
ไปบริษัท บรรยากาศในบริษัทแปลกมาก ชางหลิงก้มหัว จากการพูดคุยกับทุกคน ก็ฟังออกบ้างแล้วคร่าวๆ
โดยรวมแล้วก็คือ ชางฉิงไปโรงแรมเปิดห้อง หาผู้ชายหุ่นกำยำสามคน สุดท้ายพอตื่นมาตอนเช้า ก็ถูกนักข่าวรุม จึงทำให้เป็นข่าวใหญ่แบบนี้
“เรื่องนี้เปิดโลกฉันเลยแหละ” ซูเสี่ยวเฉิงบ่นอยู่ข้างๆ “ชางหลิง เธอว่าชางฉิงปกติทำท่าหยิ่งผยอง ทำไมฉันมองไม่ออกนะว่าชางฉิงมีความชอบแบบนี้? และยัง……”
ซูเสี่ยวเฉิงขยับเข้าไปกระซิบข้างหูชางหลิง “ชางฉิงพึ่งแท้งเองนี่? ยังไม่ถึงหนึ่งเดือนเลย มันจะ……”
นี่ก็เป็นตรงที่ชางหลิงสงสัย แม้ชางฉิงจะร้ายกับเธอมาตลอด แต่ยังไงพวกเธอสองคนก็โตมาด้วยกัน นิสัยเธอเป็นยังไง ชางหลิงก็รู้ดี เธอไม่มีเหตุผลที่จะเปิดโปงข่าวอื้อฉาวนี้
ชางหลิงสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมาตลอดวัน คนตระกูลชางโทรมาไม่หยุด ไม่ต้องเดา เธอก็รู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร
เพราะทำอะไรไม่ได้ ชางหลิงจึงไปรับโทรศัพท์และหลบอยู่ตรงบันได จากนั้นพอรับสายแล้ว ทางนั้นก็ซัดมาไม่ยั้ง
“ชางหลิง! ฉันคิดว่าเธอตายไปแล้วเสียอีก? ฉันโทรหาเธอไปเท่าไหร่แล้ว? เธออยู่ไหน? ตอนนี้รีบกลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ! ทำไมถึงทำร้ายน้องสาวแบบนี้ได้ลงคอ กลับมาฉันจะลอกหนังเธอออกซะ!” ดูท่าชางหวยซูจะโกรธมาก เสียงเขาแหบมาก ชางหลิงนึกถึงท่าทางโมโหจัดของเขาแล้วล่ะ
“ฉันทำร้ายเธองั้นเหรอ?” ชางหลิงขมวดคิ้ว “ฉันก็พึ่งได้ยินเรื่องนี้เหมือนกัน จะทำร้ายเธอได้ยังไง?”
“อย่ามาทำไขสือ นิสัยเธอเป็นยังไงฉันยังไม่รู้เหรอ? ทำไมเธอถึงโหดเหี้ยมอำมหิตได้ถึงขนาดนี้? ฉิงฉิงทำเรื่องไม่ดีกับเธอ แต่เธอกลับหาคนไปกระทำชำเราน้องสาวตัวเอง? นั่นเป็นน้องสาวแท้ๆของเธอนะ เธอก็เป็นลูกสาวของตระกูลชาง เธอทำให้ชื่อเสียงตระกูลชางเสียหาย มันดีสำหรับเธอยังไงกัน?”
ชางหลิงกุมขมับ
เธอรู้ว่า ไม่ว่าชางฉิงจะเกิดเรื่องอะไร เธอต้องเป็นคนที่รับกรรมนั้นทั้งหมด
“ฉันจะบอกกับคุณครั้งสุดท้ายนะ เรื่องของชางฉิงไม่เกี่ยวกับฉัน” ชางหลิงสูดหายใจเข้าลึกๆ “เรื่องที่เธอทำเอง คุณก็ไปถามเธอเองสิ ฉันยุ่งอยู่ อย่ามารบกวนฉัน”
“ทำไมเธอถึงไม่มีจิตสำนึกแบบนี้? เธอรู้ไหมเธอบีบบังคับน้องสาวตัวเองจนเป็นยังไงแล้วบ้าง? ชางฉิงพึ่งอายุยี่สิบเอ็ด ตอนนี้ชื่อเสียงกลับพังทลายหมดแล้ว ฉันจะบอกเธอให้นะ ถ้าชางฉิงเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ ได้เห็นดีกันแน่”
ชางหลิงฟังเสียงตะโกนของชางหวยซูจากโทรศัพท์ เธอยืนนิ่งอยู่กับที่ สมองสับสนตื้อไปหมดเลย
ชางหลิงพึ่งวางสายไป ก็ได้ยินเสียงเอะอะจากชั้นสาม เธอได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
“ชางหลิง นังตัวดี โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!” จ้าวหลันจือตะโกนเสียงดัง เสียงด่าของเธอดังไปทั่วตึก
ชางหลิงลนลาน จ้าวหลันจือทำไมถึงมาที่นี่ได้?
“คุณป้าคะ ที่นี่เป็นบริษัท ทำไมถึงมาโวยวายที่นี่ล่ะ?” ซูเสี่ยวเฉิงรีบลุกขึ้น
“เธอหุบปากเลยนะ!” จ้าวหลันจือตะคอกซูเสี่ยวเฉิง เธอพุ่งเข้าห้องทำงานไป ตามหาชางหลิงทุกซอกทุกมุม “ชางหลิง อย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลย กล้าทำก็ต้องกล้ายอมรับสิ เธอทำร้ายฉิงฉิงของฉันขนาดนั้น คนชั้นต่ำ!”
ทุกคนถูกรบกวนจากการโวยวายของจ้าวหลันจือ ต่างก็หยุดทำงานในมือ ตามดูเหตุการณ์กัน
“เธอคุมผู้ชายตัวเองไว้ไม่อยู่เอง แล้วมาโทษฉิงฉิงของฉัน ยังไล่ฉิงฉิงออกจากเซิ่งซื่อเพราะงานออกแบบชิ้นเดียว เรื่องนี้พวกเราก็ไม่อะไรกับเธอแล้ว แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะใช้วิธีสกปรกแบบนี้ ฉิงฉิงของฉันบริสุทธิ์ เธอทำแบบนี้ก็เหมือนฆ่าฉิงฉิงทั้งเป็นเลยนะ!” จ้าวหลันจือหาตัวชางหลิงไม่เจอ จึงนั่งลงพื้นไป ร้องโอดครวญดังไปทั่วชั้นสาม
ชางหลิงนั่งอยู่ตรงบันได เธอถอนหายใจยาว และเดินเข้าไปในห้องทำงาน
“ฉันไปฆ่าเธอทั้งเป็นเมื่อไหร่?” ชางหลิงมองคนตรงหน้าอย่างใจเย็น “ฉันยังจำได้ว่า ตอนนั้นคนที่ป่าวประกาศว่าจะฆ่าฉันคือชางฉิงนะ”
เพราะชางหลิงออกมา คนรอบข้างก็ต่างซุบซิบขึ้นมา ก่อนหน้านี้ชางหลิงตั้งใจทำตัวไม่เกี่ยวข้องกับชางฉิง แต่ตอนนี้ คนเขาก็ดูออกกันว่า ระหว่างพวกเธอทั้งสอง เห็นได้ชัดว่ารู้จักกันมานาน
“นังตัวดี ฉันจะฉีกปากเธอซะ!” จ้าวหลันจือเห็นชางหลิง เหมือนคนมาที่พุ่งเข้ามา
ชางหลิงรีบหลบออก ทำให้จ้าวหลับจือเกือบล้ม
“ที่นี่เป็นบริษัท มีเรื่องอะไร รอฉันเลิกงานก่อนฉันจะบอกกับเธอทั้งหมด ถ้าเธอยังโวยวายต่อไป ฉันจะเรียกยามขึ้นมาแล้ว”
“เหอะ?” จ้าวหลันจือแสยะยิ้ม “บริษัทแล้วยังไง? เธอกลัวว่าเรื่องชั่วร้ายที่เธอทำจะถูกเปิดโปงงั้นเหรอ?”
ว่าแล้ว จ้าวหลันจือก็เดินไปในหมู่ผู้คน พูดเสียงดังขึ้นมาว่า “ทุกท่าน ฉันเป็นแม่ของชางฉิง และเป็นแม่เลี้ยงชางหลิง ชางหลิงไม่ให้ฉันพูดออกมา แต่ฉันจะพูด ชางหลิงเป็นนังตัวดีที่ไม่มีจิตสำนึก ชางฉิงของฉันเก่งกว่าเธอ เธอเลยรู้สึกอิจฉา ทำงานแต่งของฉิงฉิงล่มไม่พอ ต่อมายังใส่ร้ายฉิงฉิงจนเสียงานตัวเองไป”