ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่77 คนของนายท่าน

บทที่77 คนของนายท่าน

“ถ้าฉันไม่ให้ล่ะ?” หลีซินเอาตัวบังชางหลิงเอาไว้

“งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ” ว่าแล้ว คนพวกนั้นก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

หลีซินโจมตีออกไปก่อน กระโดดถีบผู้ชายคนแรกที่หน้าท้อง

และก็มีผู้ชายสองคนใช้โอกาสที่หลีซินกำลังยุ่งอยู่นั้น ก็พุ่งไปทางชางหลิง ชางหลิงก็หยิบไม้ขึ้นมาจากพื้น เธอลุกขึ้นยืน จับไม้ในมือไว้แน่น

หลีซินกำลังต่อสู้กับคนที่เหลืออยู่ เห็นได้ชัดว่า เขาประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไป พวกเขาผ่านการฝึกฝนมา ไม่ได้เป็นเพียงนักสู้ธรรมดา

พอต่อสู้กันสักพัก หลีซินก็เริ่มเสียเปรียบ

ผู้ชายสองคนทางด้านชางหลิงก็พุ่งมาหาเธอ ชางหลิงกวัดแกว่งไม้ในมือของเธอ แต่ยังไม่ถูกตัวพวกเขา ก็ถูกพวกเขาจับไม้เอาไว้ได้ ใช้แรงดึง ไม้นั้นก็ถูกแย่งออกจากมือชางหลิงอย่างง่ายดาย

หลีซินถูกชกหลายหมัด ถอยหลังไปอย่างทุลักทุเล และไปยืนข้างชางหลิง

“อย่าขัดขืนไปเลย พวกเราแค่ทำตามคำสั่ง ไม่อยากทำร้ายพวกเธอหรอกนะ” ผู้ชายก็โดนฤทธิ์หมัดของหลีซินเหมือนกัน เขากุมหน้าอกไว้และฝืนพูด

“พวกนายเป็นคนของนายท่านเหรอ?” หลีซินเหมือนรู้อะไร

นายท่าน? ชางหลิงอึ้ง นั่นเป็นพ่อของโหมวยู่ไม่ใช่เหรอ? พ่อของเขา ทำไมต้องจับตัวเธอไปด้วยล่ะ?

สีหน้าของหลีซินตื่นเต้นขึ้นมากกว่าเดิม ชางหลิงก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้น รู้สึกได้ว่านายท่านที่ว่านี้จะไม่ใช่คนดีเท่าไหร่

ผู้ชายหัวเราะออกมา และเดินไปตรงหน้าชางหลิง “คุณชาง เชิญครับ”

“พี่สะใภ้” หลีซินกังวล จับมือชางหลิงไว้อีกที “ไม่ได้นะครับ”

เขารู้ว่าฝีมือนายท่านโหมวเป็นยังไง ถ้าชางหลิงตกอยู่ในมือเขา เกรงว่าคงได้มีเหตุร้ายเหมือนเซิ่งเยียนหัวในตอนนั้นแน่

ชางหลิงจ้องมือของหลีซินที่จับตัวเองไว้แน่น ในสมองก็เกิดความลังเลใจขึ้นมา

ถ้าเป็นคนที่ชางฉิงสั่งมา คืนนี้พวกเขาหลบได้ ต่อไปก็หลบหน้าหน่อยหรือไม่ต้องเจอกันอีกเลย แต่ถ้าเป็นนายท่านโหมว ตระกูลโหมวสามารถปิดบังทุกอย่างได้ในเมืองหนาน แม้แต่โหมวยู่ก็ไม่อาจขัดคำสั่งได้ ถึงเธอจะหนีไป แล้วจะหนีไปไหนได้อีกล่ะ?

“ได้ ฉันจะไปกับพวกนาย” ชางหลิงชักมือออกจากหลีซิน

เป็นตายร้ายดียังไง เธอก็ต้องลองก่อนค่อยว่ากัน

“พี่สะใภ้!” หลีซินกลัวมาก แต่ผู้ชายพวกนั้นจับตัวชางหลิงเอาไว้แล้ว

ชางหลิงหันหน้าไป โบกมือให้กับหลีซิน

ตอนนี้เธอขอแค่หลีซินออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย ไปขอความช่วยเหลือจากโหมวยู่ แต่ทว่า ยังไม่ทันได้พูดออกไป ด้านหลังคอก็มีความรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา ภาพตรงหน้าเธอมืดไปหมด จากนั้นก็สลบไปทันที……

——

โหมวยู่ออกมาจากสวนแล้ว ก็รู้สึกแปลกๆในใจมาตลอด เขาโทรหาชางหลิง ถึงเห็นว่าโทรศัพท์เธอไม่มีสัญญาณ

ถ้าถึงบ้านแล้ว ไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแน่นอน

โทรศัพท์ของชางหลิงมีระบบจีพีเอส แต่ตอนนี้ จีพีเอสโทรศัพท์กลับหายไปด้วย

เขาโทรหาหลีซินหลายสาย เขาก็เป็นเหมือนกับชางหลิง

ชางหลิงเกิดเรื่องแล้ว!

โหมวยู่รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

เขาขับรถไปNova พอมาถึง ต้วนเหิงก็รอเขาหน้าประตูแล้ว

“หลีซินล่ะ? หลีซินกลับมาหรือยัง?” โหมวยู่ถาม

ต้วนเหิงส่ายหน้า “ผมก็รู้สึกแปลกเหมือนกัน ที่นี่ไปกลับหนานวานก็ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว ผมเห็นพวกเขายังไม่กลับมา โทรไปก็ไม่รับ สั่งคนไปตามหาแล้วครับ ตอนนี้ยังไม่มีรายงานอะไรเลย”

โหมวยู่ไหวพริบขึ้นมาทันที

หวังว่าจะไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้……

แต่ทว่า เสียโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นเหมือนตัดความหวังของเขาไปด้วย เขากำโทรศัพท์ไว้แน่น มองดูชื่อบนหน้าจอแล้วอึ้งอยู่นาน

โหมวเจิ้งถิง……

ต้วนเหิงก็ตื่นเต้นขึ้นมา เขามองโทรศัพท์ของโหมวยู่ แล้วอดไม่ได้กลืนน้ำลาย “ดูท่าแล้ว นายท่านคงชิงลงมือก่อนแล้ว”

โหมวยู่บีบโทรศัพท์ในมือแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาพยายามบ่มอารมณ์ตัวเองไว้ และรับสาย

“ดูท่าแล้ว คุณคงไม่ได้ฟังที่ผมพูดสินะ” โหมวยู่กัดฟันกรอด

“นายไม่ฟังที่ฉันพูดต่างหากล่ะ” เสียงของโหมวเจิ้งถิงดูไม่รีบร้อนอะไร “โหมวยู่ นายคิดว่านายจะปกป้องเธอได้งั้นเหรอ ดึงอีกคนมาเป็นข้ออ้าง คิดว่าฉันจะไม่รู้หรือไง?”

“คุณจะเอายังไง?” โหมวยู่กำหมัดในมือแน่น

“ได้ยินว่านายอยากให้โม่โม่ติดคุกเหรอ?”

โหมวยู่เงียบลง สายตามืดมนลง

“โม่โม่เป็นคุณนายตระกูลโหมวที่ฉันเลือกเอาไว้ ถ้าเธอมีคดีติดตัว ที่ขายหน้าคือตระกูลโหมว พวกเราตระกูลโหมวบริสุทธิ์ จะมีเรื่องเสียๆหายๆแบบนี้ไม่ได้ นายน่าจะเข้าใจความหมายของฉันนะ” โหมวเจิ้งถิงพูดอย่างเรียบเฉย

“คุณอยากให้ผมปล่อยโม่โม่ไปเหรอ?” โหมวยู่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ฉันรู้ว่านายอาจจะลำบากใจ วางแผนมาตั้งนาน เหลือแค่ก้าวเดียวก็จะสำเร็จแล้ว แต่คุณหนูตระกูลชางดูท่าทางนุ่มนิ่มมาก ฉันไม่กล้ารับประกันหรอกนะว่าเธอจะรับบทลงโทษหนักๆได้หรือเปล่า โหมวยู่ นายก็รู้นี่ ถ้าฉันฆ่าเธอ คงไม่ใช่ฝีมือง่ายๆเหมือนโม่โม่หรอกนะ”

โหมวยู่ชะงัก “อย่าแตะต้องเธอนะ!”

“โหมวยู่ ฉันให้เวลานายไปคิดหนึ่งวัน ไม่เพียงแต่โม่โม่ ยังมีตระกูลโม่ คนของฉัน นายจะแตะต้องไม่ได้ คนที่ฉันปั้นขึ้นมากับมือ มีแค่ฉันที่ตัดสินใจได้”

พอสายตัดไปแล้ว ความโกรธของโหมวยู่ที่กำลังจะลุกเป็นไฟก็ถูกแทรกขึ้นก่อน เขายืนอยู่กับที่ ภายในใจเย็นเยือกแข็งตัวเป็นน้ำแข็งในทันที

“ตอนนี้ทำยังไงดี?” ต้วนเหิงไม่มั่นใจ “เรื่องทั้งหมดก็ใกล้จบแล้ว ถ้าปล่อยโอกาสนี้ไปละก็ สิ่งที่พวกเราทำไปทั้งหมดก็เปล่าประโยชน์ไปเลยนะครับ”

โหมวยู่รอบตัวของเขาแผดพลังความโกรธออกมา เขาจ้องมองไปไกล เส้นเลือดที่แขนก็นูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

โทรศัพท์สั่นอีกครั้ง โหมวยู่เปิดดู เป็นรูปที่โหมวเจิ้งถิงส่งมา

มองมือสองเท้าชางหลิงถูกมัดเอาไว้ เชือกหยาบกระด้างนั้นถูไถไปกับบาดแผลของเธอ เลือดสีแดงสดนั้นทำให้กระโปรงสีแดงเธอเปื้อนจนน่าตกใจ สายตาเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัย โหมวยู่มองดูดวงตาคู่นั้น หัวใจเหมือนถูกควักออกมาแล้วบีบขย้ำอย่างแรง

“ทำตามที่เขาพูด” โหมวยู่มือสั่นเทา

ต้วนเหิงก็รู้ว่าเป็นเรื่องใหญ่แน่ แม้จะรู้สึกเสียดายแต่ว่า ความปลอดภัยของชางหลิง พวกเขาไม่มีทางเลือก

โหมวยู่หันหลังขึ้นรถไป เหยียบคันเร่งจนมิด และมุ่งหน้าไปบ้านตระกูลโหมว

เขาไม่คิดเลยว่า โหมวเจิ้งถิงจะชิงลงมือกับชางหลิงเร็วขนาดนี้ ยังทำเพื่อตระกูลโม่อีกด้วย

หน้าประตูตระกูลโหมว โจวฝูที่เป็นพ่อบ้านรู้ว่าโหมวยู่ต้องมาแน่ เขาเลยมารอที่หน้าประตู

“คุณชายรอง”

โหมวยู่ไม่พูดอะไร และบุกเข้าไปข้างในทันที โจวฝูรีบตามไป “คุณชายรอง นายท่านหลับแล้ว”

โหมวยู่ไม่ฟังคำพูดของโจวฝู เขาเดินเข้าไปในห้องรับแขก และตอนนี้เอง ยามกลุ่มหนึ่งก็วิ่งเข้ามา ล้อมตัวโหมวยู่เอาไว้

โหมวยู่หยุดเดิน รอเขาพวกเขาพูด

“คุณชายรอง นายท่านบอกแล้ว ให้คุณคิดพิจารณาวันนี้ คุณกลับไปคิดดีๆก่อนดีกว่านะครับ” โจวฝูยิ้มและพูดอย่างเคารพ

“ชางหลิงอยู่ไหน?” โหมวยู่สีหน้าเคร่งครึ้ม

โจวฝูไม่ได้พูดอะไร แค่ก้มหน้าไว้ตลอด

โหมวยู่มองดูคนในห้องรับแขก ภาพในตอนนี้ ทำให้เขานึกถึงภาพในตอนที่น้าของเขาเสียชีวิตไป

ตอนที่เขารู้ข่าว กลับมาจากหน่อยทหาร อยากได้คำอธิบาย ตอนนั้นโหมวเจิ้งถิงก็ทำแบบนี้ สั่งคนมาล้อมตัวเขาเอาไว้

สิบปีก่อนตอนที่เขายังเป็นวัยรุ่น น้าสาวเป็นจุดอ่อนเดียวของเขา เธอไม่อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงก่อกวนตระกูลโหมวได้ตามใจชอบ แต่ตอนนี้ชางหลิงอยู่ในมือเขา เขาก็เหมือนถูกคนมัดมือเท้าเอาไว้

“ฉันอยากเจอเขา” โหมวยู่ยืนตัวตรง พูดกับโจวฝู “พ่อบ้านโจว ตอนนี้ไม่เหมือนสิบปีก่อน ฉันหวังว่าพวกนายจะไม่ท้าทายความอดทนของฉัน”

สีหน้าโจวฝูเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขายิ้มอ่อนๆ

“แต่นายท่านสั่งแล้วว่า……”

“ท้าทายความอดทนนายแล้วยังไง?” เสียงของโหมวเจิ้งถิงดังขึ้น เขายืนอยู่หน้าบันไดชั้นสอง ถือซิการ์ไว้ในมือ เสื้อกันหนาวคลุมไหล

“ลูกอกตัญญู ถ้าวันนี้ฉันไม่เจอนาย นายก็จะบุกเข้ามา? เพื่อผู้หญิงต่ำต้อยคนเดียวงั้นเหรอ?”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท