ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 94 เธอเป็นภรรยาของผม

บทที่ 94 เธอเป็นภรรยาของผม

ชางหลิงไม่ได้หลบ คนชุดดำอยากที่จะห้ามเขาไว้ แต่ว่าชางหลิงก็ได้โบกมือ ให้พวกเขาปล่อย

“นังแพศยา!” หลิวมั่นลี่ก็ได้พุ่งเข้ามา แล้วก็ได้ตบไปที่หน้าของชางหลิงไปตรงๆ

ใจของโหมวยู่ก็ได้บีบ ต่อให้ชางหลิงบอกไว้แล้วว่าไม่ต้องห้าม เขาก็อดไม่ได้ที่จะไม่ไปปกป้องชางหลิงไว้ข้างหลัง

“คุณนายหยู! คนที่ทำร้ายหยูเฉินคือชางฉิง คุณมาหาผิดคนแล้วหรือเปล่า?”

การปรากฏตัวของโหมวยู่ไม่ได้ทำให้สองสามีภรรยาหยูเจิ้งหงตกใจ ตอนแรกตอนที่อยู่สถานีตำรวจ หยูเจิ้งหงก็รู้แล้วว่าโหมวยู่กับชางหลิงได้มีความสัมพันธ์ที่ไม่ปกติ บวกกับต่อมาหยูเฉินโดนต่อย ก็ได้เข้าใจแล้วว่าของสูงที่ชางหลิงได้คว้ามานั้น เป็นตระกูลโหมวแห่งเมืองหนาน

แต่ว่าตระกูลโหมวแล้วยังไง? ชีวิตของหยูเฉินก็ได้ไปเกี่ยวข้องด้วยแล้ว เขายังสามารถที่จะห้ามการเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกชายของพวกเขาอีกเหรอ?

“แน่นอนว่าชางฉิงต้องชดใช้ด้วยชีวิตอยู่แล้ว แต่ชางหลิงก็หนีไม่พ้น ถ้าไม่ใช่หล่อน ลูกชายของฉันก็ไม่มีทางตาย!” หยูเจิ้งหงชี้ไปที่ชางหลิงด้วยแววตาที่เคียดแค้น

“สัตว์เดรัจฉานอย่างตระกูลชางของพวกเธอ คนที่ควรตายเป็นพวกเธอ ทำไมถึงได้ไปทำร้ายลูกชายของฉัน! ชื่อเสียงของตระกูลหยูพวกเราก็ได้ถูกปีศาจอย่างพวกเธอสองตัวทำให้ป่นปี้แล้ว วันนี้ ชีวิตของเขาพวกเธอก็ไม่ปล่อยไป!”

หลิวมั่นลี่ร้องไห้จนไม่เป็นเสียง ตาของเธอก็ได้ร้องไห้จนแดง ขนาดยืนก็ลำบาก หยูเจิ้งหงเห็นเธอแบบนั้น ก็เลยไปประคองเธอ

“เฉินเอ๋อของฉัน……” หลิวมั่นลี่ร้องไห้จนเสียงแหบ “เขาทำไมถึงโง่แบบนี้ เพื่อผู้หญิงที่ไม่เห็นบุญคุณแบบนี้ก็ได้เอาชีวิตไปแลก……ตอนนี้ดีเลย เขาตายแล้ว แต่ว่าผู้หญิงแพศยาชางหลิงนี่ กลับไปมีชีวิตที่ดีกับผู้ชายคนอื่น นี่ให้คนเป็นแม่อย่างฉันมีความสุขได้ยังไง……”

ชางหลิงก้มหน้าลง เธอได้ปล่อยมือของโหมวยู่ ค่อยๆ เดินไปตรงหน้าทั้งสองทีละก้าว

“คุณลุงคุณป้า” เธอได้กัดฟัน ก็ได้คุกเข่าไปที่พื้นอย่างแรง

“หนูรู้ ว่าเรื่องมันมาถึงแบบนี้แล้ว จะขอโทษยังไงก็ไม่มีประโยชน์อะไร หยูเฉินได้ไปตายเพราะหนูจริง ตระกูลหยูก็เป็นเพราะตระกูลชางถึงได้กลายเป็นแบบนี้จริง แต่ว่าขอให้เชื่อใจหนู พวกเราต้องมีคำอธิบายที่ดีให้พวกคุณแน่ค่ะ”

“หนูกับหยูเฉินก็ได้เคยมีช่วงเวลาดีๆ กัน เขาไม่อยู่ หนู……หนูต้องดูแลพวกท่านแน่ๆ หน้าที่ที่ลูกชายอย่างเขาได้ทำทั้งหมด หนูจะ……”

“เธอไม่ต้องมาทำเป็นเสแสร้ง!” หยูเจิ้งหงก็ได้ตะคอกใส่เธอ “ต่อให้พวกเราไม่มีลูกชายแล้ว ก็ไม่ถึงคิวเธอเป็นคนฆ่าลูกชายพวกเรามาดูแลจนแก่จนตาย!”

ชางหลิงคุกเข่าอยู่กับพื้น ไม่เงยหน้า

“ต่อให้ฉันเอาชีวิตแก่ๆ ที่เหลือ ก็จะเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกชายฉัน” หยูเจิ้งหงโมโหจนอยากให้ชางหลิงตายไปต่อหน้าพวกเขาเดี๋ยวนี้

“เพราะงั้น พวกคุณจะเป็นศัตรูกับผม?” โหมวยู่ก็ได้ยืนอยู่ข้างๆ ชางหลิง

หยูเจิ้งหงก็ยังเกรงใจเขาอยู่บ้าง ก็ได้เก็บความหงุดหงิดของตนไปเล็กน้อย

“โหมวยู่! นายอย่าคิดว่าตระกูลนายมีเงินมีอำนาจแล้วก็ได้ทำอะไรก็ได้ ชีวิตของลูกชายฉันอยู่ตรงนั้นแล้ว นายยังอยากที่จะปกป้องผู้หญิงคนนี้เหรอ?”

“ผมไม่เคยคิดที่จะปกป้องใคร แต่ว่า คนที่ทำให้คุณชายหยูตาย เป็นคุณหนูรองของตระกูลชาง รอให้ผมรู้เรื่องที่ผมอยากจะรู้แล้ว ผมก็จะส่งเธอให้กับตำรวจ ถึงตอนนั้น เธอจะโดนตัดสินยังไง กฎหมายเป็นตัวกำหนด แต่ว่า ตั้งแต่ต้นยันจบชางหลิงเป็นผู้เสียหาย คุณจะเอาโทษทั้งหมดโยนไปที่เธอ ขอโทษครับผมรับไม่ได้” โหมวยู่ก็ได้ยืนตัวตรง บรรยากาศรอบตัวน่ากลัว

“นาย……” หลิวมั่นลี่ชี้โหมวยู่ “ตระกูลโหมวของนายไม่ว่ายังไงก็เป็นตระกูลใหญ่ของเมืองหนาน กลับทำเพื่อผู้หญิงที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแบบนี้ มารังแกตระกูลหยูของพวกเรา? นายไม่กลัวว่าฉันจะพูดเรื่องพวกนี้ออกไป แล้วไปทำลายชื่อเสียงของตระกูลโหมวเหรอ?”

“ชางหลิงไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง” โหมวยู่หันหน้า มองชางหลิงที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น

“เธอเป็นภรรยาของผม เป็นภรรยาที่ผมยอมรับแล้วก็กฎหมายก็ได้ยอมรับแล้ว”

ชางหลิงมีสีหน้าตกใจ เธอได้เงยหน้ามองโหมวยู่ ไม่กล้าที่จะเชื่อว่าเขาได้เอาเรื่องที่พวกเขาแต่งงานแล้วพูดออกมา

เขารู้ว่านี่หมายความว่าอะไรไหม? เพื่อเธอเขาก็ได้แตกหักกับนายท่านใหญ่โหมว แล้วก็ได้ฉีกหน้ากับโม่โม่ ตอนนี้ยอมรับเรื่องความสัมพันธ์กับเธอ ก็มีแต่เธอที่ทำให้เขายิ่งอยู่ยิ่งเหนื่อยเปล่าๆ

เกิดเรื่องจนมาถึงตอนนี้ คนที่เป็นพ่ออย่างชางหวยซู ก็ได้หลบเหมือนกับเต่าที่ได้หดคอในกระดอง ขนาดจ้าวหลันจือก็ไม่กล้าออกมาเสนอหน้า แต่ละคนก็พากันหลบแทบไม่ทัน เขาทำไมยังกล้าที่จะพูดเรื่องที่แต่งงานกับเธอออกไปล่ะ?

หยูเจิ้งหงกับหลิวมั่นลี่ก็ตกใจ ถ้าโหมวยู่คิดว่าชางหลิงเป็นของเล่น พวกเขายังรับได้ ยังไงซะเขาจะแคร์ยังไง เธอก็เป็นแค่ลูกสาวที่ไม่ได้รับการใส่ใจของตระกูลชาง พวกเขาตระกูลหยูอยากจะแตะเธอ ถึงแม้ลำบากก็ไม่ใช่ว่าไม่มีวิธีอะไร

แต่ว่า ถ้าเธอเป็นภรรยาของโหมวยู่……พวกเขาตระกูลหยู ต้องเอาทุกสิ่งทุกอย่างออกมาล้างแค้นให้หยูเฉินเหรอ?

“โหมวยู่ นายพูดอะไรออกมา?” ชางหลิงไม่อยากที่จะยอมรับในคำพูดของโหมวยู่

“ไหนๆ ก็เป็นภรรยาของโหมวยู่คนนี้ ความผิดของเธอก็คือความผิดของฉัน ฉันไม่มีทางหนี” โหมวยู่พูดจบ ก็ได้งอเข่าลง ก็ได้คุกเข่าต่อหน้าหยูเจิ้งหงกับหลิวมั่นลี่เหมือนชางหลิง

“โหมวยู่!” ชางหลิงก็ได้รีบห้ามเขา

เข่าของผู้ชายนั้นเป็นทองคำ เพื่อเธอแล้วเขาสามารถต้องคุกเข่าต่อหน้าพวกเขาได้ยังไง!

โหมวยู่ก็ได้จับมือของชางหลิง ถึงแม้คุกเข่าอยู่ ก็ไม่ได้ต่อต้านหรือทำตาม

“เดิมสามีภรรยาก็ได้มีใจดวงเดียวกัน สุขก็สุขด้วยกัน ไหนๆเธออยากจะคุกเข่า ฉันก็คุกเข่าพร้อมกับเธอ” โหมวยู่ก็ได้เอามือของเธอกุมไว้ในมือของตัวเอง

หยูเจิ้งหงกับหลิวมั่นลี่ต่างตั้งตัวไม่ทัน ตอนที่รู้สึกได้ถึงเหตุการณ์ตรงหน้า ก็ได้พากันถอยหลังพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

“ผมคุกเข่าให้พวกคุณ ก็เพราะว่าคุณชายหยูได้ปกป้องภรรยาของผมแล้วก็ตายไป ผมรู้สึกขอบคุณเขา แล้วก็รู้สึกขอบคุณท่านทั้งสอง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าพวกท่านไม่รังเกียจ ผมก็จะดูแลพวกท่านด้วยกันกับชางหลิง”

“โหมวยู่……” ตาของชางหลิงก็ได้ร้อน

เธอได้จับมือของโหมวยู่แน่น มือของทั้งสองก็ได้ประกบกัน สิบนิ้วประสานกัน

“ขอบคุณนะ” เธอยิ้ม น้ำตาก็ได้ไหลลงมา

ไม่ว่ายังไงเธอก็คิดไม่ออก คนที่อยู่ในที่สูงอย่างโหมวยู่ มีวันหนึ่ง ก็ได้วางศักดิ์ศรีทั้งหมดแล้วก็ได้อ่อนข้อไปพร้อมกับเธอ

เธอคิดไม่ถึง สามีภรรยาหยูเจิ้งหงยิ่งคิดไม่ถึงเข้าไปอีก พวกเขาคิดว่าโหมวยู่จะใช้อำนาจของตระกูลโหมวมากดดันพวกเขา แต่พอโหมวยู่คุกเข่าแบบนี้ พวกเขาก็ไม่ได้คิดอะไรเลย

“ผมไม่มีทางส่งเธอให้พวกคุณ ไม่ให้พวกคุณมาทำร้ายเธอ ถ้าพวกคุณอยากจะลองกับอำนาจของผม ก็มาเลยครับ” โหมวยู่เงยหน้า ถึงแม้ว่าคุกเข่าอยู่ แต่ว่าบรรยากาศนั้น กลับได้แข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก

ทั้งอ่อนและแข็ง รุกรับสลับกัน หยูเจิ้งหงก็ได้ถอนหายใจ

นั่นเป็นเจ้าพ่อแห่งเมืองหนานเลยนะ เขาอยากจะปกป้องคน ต่อให้พวกเขาเอาทั้งตระกูลหยูไปสู้ ก็ยากที่จะต่อกรได้

“ได้ ไหนๆ ชางหลิงก็ได้กลายเป็นนายหญิงตระกูลโหมว พวกเราก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับตระกูลโหมว แค่หวังว่าคุณท่านรองโหมวจะทำตามที่พูดไว้ ชางฉิงที่ฆ่าลูกชายของฉัน ต้องให้พวกเราส่งให้ตำรวจเอง!”

หยูเจิ้งหงยอมจำนน ก็ได้ถอยไปก้าว

ชางหลิงตกใจ หยูเจิ้งหงจะปล่อยเธอไปแบบนี้จริงๆ เหรอ?

โหมวยู่ก็ได้ประคองเธอขึ้น ขาของชางหลิงก็ไม่มีแรง ความหนักของร่างกายก็ได้ตกอยู่ไปที่ตัวของโหมวยู่

“ขอบคุณท่านทั้งสองที่เห็นใจครับ” โหมวยู่พาชางหลิง ก้มหัวให้พวกเขา

หยูเจิ้งหงประคองหลิวมั่นลี่แล้วก็ขึ้นลิฟต์จากไป ชางหลิงมองผมที่เริ่มขาวของพวกเขา จมูกก็ได้ตัน น้ำตาก็ได้ยิ่งกลั้นไว้ไม่อยู่

มาเสียลูกตอนนี้ คนผมขาวส่งคนผมดำ และคนที่ทำให้กลายเป็นแบบนี้ ก็คือเธอ

ถ้าเกิดเธอไม่ได้คบกับหยูเฉินตั้งแต่แรก ก็ไม่มีทางที่จะเกิดเรื่องหลังจากนั้นกับชางฉิง หยูเฉินก็ไม่มีทางที่จะตาย……

พอคิดถึงเด็กชายที่ได้อยู่กับเธอในช่วงเวลาที่ยังไร้เดียงสานั้นไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว ชางหลิงก็อดไม่ได้ที่จะไม่เสียใจ

โหมวยู่ก็ได้โอบเอวเธอขึ้น แล้วก็เดินเข้าไปในห้องพักคนไข้อีกครั้ง

นั่งไปที่เตียงคนไข้ โหมวยู่ก็ได้นั่งตรงหน้าของเขา ได้ตบฝุ่นที่กางเกงของเธอเบาๆ

ชางหลิงก็ได้จับมือของเขา อยากจะพูดขอบคุณ กลับรู้สึกว่าพูดคำนี้บ่อยเกินไปก็จะดูไร้ค่าเกินไป

“มีแค่ผู้ชายที่ไม่มีปัญญา ถึงได้ให้ผู้หญิงของตนนั้นไม่เผชิญเรื่องทั้งหมดคนเดียว” เขาก็ได้ยิ้มอ่อนๆ “ฉันมีชีวิตอยู่วันหนึ่ง ก็ไม่มีทางให้คนนอกมาทำให้เธอเจ็บปวด”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท