ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 111 ผลประเมินจิตเวช

บทที่ 111 ผลประเมินจิตเวช

ชางหลิงกับเมิ่งเคอแลกเปลี่ยนข้อมูลการติดต่อ จับโทรศัพท์ที่หนักอึ้งเดินลงตึก

สองแสนเลยนะ ไม่คิดเลยว่า ผู้อำนวยการเซิ่งซื่อแต่ละคนเงินเดือนเยอะขนาดนี้เลยเหรอ สองแสนบอกโอนก็โอนเลย

“เสี่ยวหลิงหลิง” ซูเสี่ยวเฉิงเดินตามชางหลิง “การแสดงเธอดีมากเลยนะ เมื่อกี้ฉันเกือบหลงกลกับน้ำตาเธอแล้ว”

ชางหลิงเชิดหน้าขึ้นอย่างภูมิใจ “แน่นอนอยู่แล้ว เคยได้ยินคำนี้ไหม จัดการคนไร้ยางอาย วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ไร้ยางอายมากกว่าเขา”

“เฮ้อ ไม่มีเกียรติเลยนะ” ซูเสี่ยวเฉิงส่ายหน้า แต่รอยยิ้มกลับกว้างมากขึ้น “แต่ว่า ฉันชอบนะ!”

ทั้งสองเดินไปด้วยเสียงหัวเราะ แต่พอถึงทางเลี้ยว ก็มีคนหนึ่งเดินออกมากะทันหัน ทำให้พวกเธอตกใจไม่เบา

โม่โม่กอดอกยืนอยู่หน้าพวกหล่อน ทำหน้าบึ้งตึง สายตาแทบจะฆ่าชางหลิงได้เลยทีเดียว

ชางหลิงชะงักเท้า เธอเตี้ยกว่าโม่โม่เล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมองหล่อน

“ผู้อำนวยการโม่” ซูเสี่ยวเฉิงทักทาย แต่โม่โม่กลับไม่สนใจหล่อน เธอเอาแต่จ้องชางหลิง ซูเสี่ยวเฉิงตื่นเต้นแทนชางหลิง

“เสี่ยวเฉิง เธอกลับไปก่อนเถอะ” ชางหลิงรู้ว่าโม่โม่ตั้งใจมารอตัวเองที่นี่

“แต่ว่า……” ซูเสี่ยวเฉิงกังวล

ชางหลิงยิ้มกว้างให้เธอวางใจ

ที่นี่เป็นเซิ่งซื่อ แม้โม่โม่จะเกลียดตัวเองแค่ไหน ก็คงต้องรักษาหน้าไม่ทำร้ายตัวเองตรงๆ แต่ขอแค่ไม่ทำร้ายร่างกาย คิดจะลอบทำร้าย ใครกลัวใครกันล่ะ?

ซูเสี่ยวเฉิงเดินแล้วหันกลับไปมองเรื่อยๆ ชางหลิงเดินไปถึงกลางสวนดอกไม้

“เลิกงานแล้ว” ชางหลิงดูเวลาบนโทรศัพท์ “คุณโม่ คุณมาคุยกับฉัน จะเพิ่มเงินค่าล่วงเวลาไหมคะ?”

โม่โม่แสยะยิ้ม “ชางหลิง เธอเป็นคนแรกที่กล้าหยิ่งผยองกับฉันแบบนี้”

ชางหลิงไม่สนใจ เธอเก็บใบแปะก๊วยที่ตกจากต้นไม้มาเล่นในมือ

“มีความกล้าเป็นเรื่องดี แต่ว่า ฉันคิดว่าความฉลาดของเธอทางที่ดีอย่าใช้มาแย่งผู้ชายเลย”

ชางหลิงหันหน้าไป ยิ้มเหมือนผู้บริสุทธิ์ “คุณโม่ คุณอย่าเข้าใจผิดเลย ฉันไม่ได้ตั้งใจแย่งผู้ชายคุณนะ” เธอพูดอย่างชัดเจนว่า “ตั้งแต่เริ่มจนจบ โหมวยู่เป็นคนเริ่มก่อนตลอด เขาจีบฉันก่อน เขาซื้อบ้านและรถให้ฉันก่อน เขาขอให้ฉันอยู่กับเขา ฉันปฏิเสธไปตั้งหลายครั้งแล้ว แต่คุณชายรองโหมวไม่ให้โอกาสฉันเลย”

โม่โม่อดไม่ได้กำหมัดในมือแน่น

“นั่นเป็นเพราะโหมวยู่ไม่เห็นธาตุแท้ของเธอ เธอว่าถ้าเขารู้ว่าเธอพูดแบบนี้ เขาจะมองเธอยังไง?” โม่โม่กระตุกยิ้ม

“ฉันไม่สนใจว่าเขาจะมองฉันยังไง” ชางหลิงตอบเธออย่างตั้งใจ “เรื่องของความรู้สึก ฉันคิดว่าไม่ควรบีบบังคับ ถ้าคุณโม่กับโหมวยู่รักกัน ถ้าโหมวยู่ยอมรับว่าคุณเป็นว่าที่ภรรยา ฉันก็จะออกห่างจากเขาเอง แต่ว่า เรื่องความรักกับการแต่งงาน ไม่มีใครตัดสินใจได้ คุณใช้ประโยชน์ของตระกูลกับนายท่านโหมวคลุมถุงชนโหมวยู่ และยังทำร้ายคนมากมาย ก็ไม่ได้ดีกว่าฉันหรอกนะ”

“ฉันรู้ว่าเธอมันปากดี เธออาจจะใช้ปากของเธอหลอกเขาได้ แต่สุดท้าย ความรักที่มีฐานะไม่เท่าเทียมกัน จะไม่ถูกยอมรับและอนุญาตเด็ดขาด” โม่โม่มองบนอย่างหยิ่งผยอง “เธอทำตัวโอหังได้ ยังไงสุดท้ายแล้ว ฉันก็เป็นคุณนายโหมวที่ถูกยอมรับจากทุกคน”

ชางหลิงยักไหล่ “แต่ว่า ถ้าคุณโม่มั่นใจจริงๆ ตอนนี้มาหาฉันทำไม? คุณควรไปหาโหมวยู่นะ”

“คนถ่อยได้ใจ” โม่โม่มองค้อนเธอ

ชางหลิงเห็นท่าทางเธอแบบนั้นก็หัวเราะ

ที่จริงด้วยสถานการณ์ตอนนี้ของเธอ เธอไม่มีความมั่นใจที่จะไปแย่งอะไรกับโม่โม่จริงๆ เพราะยังไงสายตาในบนโลกนี้ โม่โม่กับโหมวยู่เป็นคู่ที่ถูกยอมรับ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องฐานะหรือเวลา เธอก็เป็นมือที่สาม แต่ว่า ตอนนี้เธอยืนอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพราะโหมวยู่เท่านั้น

“โกรธมากใช่ไหม” ชางหลิงเดินไปข้างเธอช้าๆ กระซิบพูดเบาๆว่า “คำพูดของฉันเมื่อกี้ เธอคงอยากฆ่าฉันมากสินะ”

คำพูดของเธอเย็นชามากขึ้น “เสียดายมากใช่ไหม ที่คืนนั้นชางฉิงไม่ได้ฆ่าฉัน? เธอเสียดายมากใช่ไหม เกือบแล้ว อีกแค่นิดเดียวฉันก็จะหายไปและไม่มาปรากฏตรงหน้าเธอไปตลอดกาล”

โม่โม่สีหน้าเปลี่ยนไป เธอหรี่ตาลง จ้องมองสีหน้าของชางหลิง

“เธอกำลังพูดเพ้อเจ้อเหรอ?” โม่โม่แสยะยิ้มมุมปาก ถึงชางหลิงเดาได้แล้วยังไง? หยูเฉินตายไปแล้ว ชางฉิงก็ทำอะไรไม่ได้อีก

“ตอนนี้เธอคงได้ใจสินะ เพราะถึงแม้ฉันรู้ความจริงแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลโม่ และยังเป็นคุณนายโหมวที่โหมวเจิ้งถิงเลือกมาเอง ถึงแม้จะก่อเรื่องทำร้ายคนถึงชีวิต ก็ยังมีคนต่อแถวคอยเช็ดก้นให้เธอ” สายตาชางหลิงเฉียบคมขึ้น เมื่อกี้สีหน้าที่ยังเหมือนเด็กน้อยมีความร้ายกาจเข้ามาแทนที่

“เรื่องแบบนี้คงทำจนเคยชินแล้วสินะ ความโกรธที่ถูกโหมวยู่เมินมาตลอดหลายปี กลายมาเป็นความแค้นที่ระบายให้กับผู้บริสุทธิ์ แต่เธอกลับยังคิดไปเองว่าทำเพื่อความรัก โม่โม่ ฉันอยากจะบอกกับเธอจริงๆเลยนะ แต่ฉันรู้สึกว่าเธอควรจะไปพบจิตแพทย์สักหน่อยนะ แบบนี้ ในวันที่ฉันได้ส่งเธอเข้าคุกจริงๆ เธออาจจะใช้ผลประเมินจิตไม่สมประกอบมาเป็นข้ออ้างไม่ให้โดนโทษประหารชีวิต และอยู่ในคุกจนแก่ตาย”

โม่โม่เงียบไม่พูด ท้องฟ้ามืดลงทุกที แสงไฟในสวนดอกไม้สลัวอ่อนๆ หญิงสาวสองคนจ้องหน้ากัน สายตาเหมือนมีไฟฟ้าประกายออกมา

“ฉันคิดว่าเธอพูดถูก” โม่โม่อดทนไว้และปรบมือให้กับชางหลิง “เธอฉลาดมากกว่าที่ฉันคิดไว้ ไม่สิ ผลประเมินทางจิต ฉันทำเสร็จมานานเป็นปีแล้ว โรคซึมเศร้าระดับรุนแรงด้วยนะ บางครั้งคิดไม่ถึงและทำออกไปเป็นเรื่องปกติ ถึงแม้จะพลั้งมือฆ่าพวกคนที่เล็กเหมือนมดอย่างเธอ อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ ฉันเกิดมามีชีวิตที่ดี ตระกูลโม่เป็นเบื้องหลังที่แข็งแกร่งที่สุดของฉัน นายท่านโหมวก็อยากได้ฉันเป็นภรรยาของโหมวยู่ เธอจะทำอะไรฉันได้?”

ชางหลิงจิตใจสั่นไหว

ต้องมีครอบครัวแบบไหน ถึงจะสอนความคิดแบบนี้ได้? ฆ่าคนไม่กี่คนก็ไม่เป็นไรงั้นเหรอ? เธอไม่ใช่คนหรือไง? กลับพูดชีวิตคนออกมาจากปากได้อย่างง่ายดายขนาดนี้?

“งั้นก็พอดีเลย ฉันน่ะ เป็นคนดื้อรั้น ยิ่งไม่ให้ฉันทำฉันก็ยิ่งอยากลองทำ เธอเกิดมาสูงส่งกว่าก็จริง แต่ชาติตระกูลไม่ใช่การวัดค่ามาตรฐานของคน ที่ฉันอยากได้ ไม่ใช่แค่โหมวยู่เท่านั้น” ชางหลิงหัวเราะ เธอเหมือนเปิดเผยตัวตนออกมาทั้งหมด เธอมองโม่โม่และกะพริบตา

“แทนที่จะเก็บซ่อนไว้ ฉันทำให้เห็นจริงๆเลยดีกว่า คนแบบเธอ แม้จะถูกสั่งสอนแค่ไหนก็ปลุกเธอขึ้นมาไม่ได้แล้วล่ะ งั้นก็ไม่ต้องอ้อมค้อมมันแล้ว”

ชางหลิงเดินเข้าไปใกล้เธออีกก้าว

“ฉันเลือกอยู่ข้างโหมวยู่ได้ ให้เขาเลี้ยงฉันทั้งชีวิต ด้วยความสามารถของเขา จะต้องปกป้องฉันได้แน่ แต่ว่าฉันไม่ เพราะในมือเธอยังติดหนี้ชีวิตคนกับฉันอยู่ ฉันจะไม่ยอมให้หยูเฉินตายฟรีแน่ เรื่องชั่วๆที่เธอเคยก่อไว้ในอดีต ฉันจะเปิดเผยมันออกมาให้หมด ความทุกข์ทรมานที่หยูเฉินได้รับก่อนตาย ฉันจะให้เธอชดใช้ร้อยเท่าพันเท่า”

“โม่โม่ พูดมาแล้ว ฉันก็ต้องขอบใจเธอนะ เธอทำให้ชางฉิงพังทลายแทนฉัน จากนั้นไปอยู่ในใจของหล่อนแทนฉัน ครึ่งชีวิตปีก่อนของฉันเป้าหมายก็คือเป็นศัตรูกับหล่อน แต่ตอนนี้ เปลี่ยนเป็นเธอแล้ว”

สีหน้าโม่โม่มืดมนลง

“เรื่องของวันนี้แค่เริ่มต้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะเห็นว่า ฉันก็เป็นเหมือนเงาที่สลัดไม่หายไปและคอยติดตามเธอ รบกวนเธอ ดูถูกเธอ ในชีวิตของเธอ ความรักของเธอ งานของเธอ ฉันจะทำลายไปทีละอย่าง จนกระทั่งเธอตกลงมาจากที่สูงสุด จนกระทั่งเธอกลายเป็นคนปกติทั่วไปที่เธอบอกว่าตายแล้วก็ไม่เห็นเป็นอะไร”

โม่โม่เดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว เธอไม่เข้าใจว่าทำไมชางหลิงถึงโหดเหี้ยมได้มากขึ้น สายตานั้น เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ

“เธอ……เธอทำไม่ได้หรอก” โม่โม่กลืนน้ำลาย

“อย่าคิดว่ามีแต่เธอที่มีเบื้องหลัง พ่อเธอกับนายท่านโหมวสามารถสนับสนุนเธอได้อีกสักพัก แต่ว่า ตอนนี้เซิ่งซื่อ โหมวยู่เป็นคนบริหาร เขายังหนุ่ม ถึงแม้ต้องรอด้วยเวลา ก็สามารถรอจนกว่าวันที่พวกคนที่คุ้มครองเธอลงโลงไป คุณคิดว่าใช่ไหม? คุณโม่?”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท