ตายแล้วเหรอ…มือของชางหลิงสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“ตอนที่ฉันโทรไปหาเธอน่ะ เธอก็โดนฉันโยนให้พวกผู้ชายพวกนั้นแล้ว ฉันเคยอธิบายไปแล้วนะว่า เธอจะถูกทรมานจากบนลงล่างจากภายในสู่ภายนอกก่อนแล้วค่อยส่งเธอไป เพื่อให้เธอได้เสพสุขกับรสชาติการถูกสบประมาท และฉันก็จะไม่แทงทะลุหัวใจของเธอ แล้วปล่อยให้เธอได้หายใจเป็นครั้งสุดท้าย
ชางหลิงปล่อยตัวและมองดูโม่โม่ด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“และเมื่อกี้นี้เอง ฉันเพิ่งได้รับโทรศัพท์มาว่า ซูเสี่ยวเฉิงผู้หญิงคนนั้น เจ้าอารมณ์มาก กระทั่งถูกเล่นงานจนกลายเป็นแบบนั้นแล้วก็ยังต่อต้านอีก ดังนั้น คนพวกนั้น จึงกรีดเนื้อเธอ ไปทีละนิด จนหมด…”
“ไม่…” ชางหลิงน้ำตาไหลพรั่งพรูราวกับสายฝน “เธอมันโกหก มันเป็นไปไม่ได้หรอก…”
“ถ้าเธอไม่เชื่อ ก็รอสายจากหลีซินสิ แต่…” โม่โม่มุมปากอย่างช้าๆ “แต่ก็ต้องดูก่อนนะว่าหลีซินจะยังมีชีวิตโทรหาเธออีกหรือเปล่า”
“เธอกำลังพูดอะไร?” ชางหลิงตื่นตกใจอย่างแรง
“ฉันเดาอยู่แล้วว่าเธอต้องให้หลีซินไปหาซูเสี่ยวเฉิงอย่างแน่นอน ดังนั้น ฉันจึงตั้งใจให้คนรอเขาอยู่ที่นั่น แค่เขาไปเท่านั้น ก็อย่าคิดมีชีวิตกลับมาอีกเลย” โม่โม่กวาดมองชางหลิงอย่างเยาะเย้ย และพอใจกับการตอบสนองแบบนี้ของเธอมาก
ตัวชางหลิงก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ หลังจากตอบสนองไปไม่กี่วินาที เธอจึงรีบหยิบมือถือขึ้นมาแล้วโทรหาหลีซิน
สิ่งที่ดังมาจากข้างหู คือเสียงตู๊ดๆ ที่ไม่หยุด และอีกเสียงก็เย็นเยือกกว่าอีกเสียง
รับสายสิ…หัวใจของชางหลิงยิ่งเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“อย่าเสียแรงเปล่าไปเลย” โม่โม่ส่งเสียงเยาะเย้ย “ในเมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว ทำไมไม่มานั่งดื่มไวน์สักแก้ว ดูล่ะ แล้วรอดูว่าจะได้รับข่าวการตายของหลีซินเมื่อไหร่?”
สายก็วางไปโดยอัตโนมัติ และชางหลิงก็มองออกไปแล้วนึกถึงสมุดรายชื่อบนหน้าจอมือถืออีกครั้ง และความวิตกกังวลก็โจมตีตัวเธออีกครั้ง
ส่วนอีกด้านหนึ่ง รอยยิ้มที่ขัดลูกหูลูกตาของโม่โม่ ชางหลิงไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป และฟาดหน้าโม่โม่ด้วยแรงทั้งหมดของเธอ
โม่โม่ถูกตบโดยไม่ทันตั้งตัว ตัวเธอเอียงไปข้างหน้าทีหนึ่ง แล้วล้มลงบนเตียง
“เธอตบฉันเหรอ?” โม่โม่กุมใบหน้าที่ปวดแสบปวดร้อนของตัวเอง และไม่อยากจะเชื่อเลย
ตั้งแต่เด็กจนโต ถ้าใครไม่ปฏิบัติกับเธอดั่งเจ้าหญิง และการจับผมแค่เส้นเดียวของเธอก็จะเป็นบาปกรรมที่แย่มาก แต่ชางหลิง…เธอกล้าตบหน้าเธอไปแล้วจริงๆ?
“ฉันตบเธอแล้วมันจะทำไม?” ชางหลิงตาแดง และยังไม่ทันให้โม่โม่ได้ลุกขึ้น เธอก็กระโจมเข้าไปอีกครั้ง และบีบคอโม่โม่อย่างแม่นยำ
“ฉันไม่เพียงแค่ตบเธอเท่านั้น ฉันยังจะฆ่าเธอด้วยนะ!” เสียงชางหลิงแหบแห้ง และด้วยท่าทีที่เกลียดชังอย่างมาก แม้แต่ป๋ายจื๋อที่อยู่ข้างๆ ยังตกใจเลย
เขาขมวดคิ้ว แล้วกวาดตามองไปข้างหลังอย่างไม่รู้ตัว เพื่อยืนยันว่าจะไม่มีใครเข้ามา
“วางมือ…” โม่โม่หน้าแดง เธอสะกิดหลังมือของชางหลิง และเล็บที่แหลมคมของเธอก็มีเลือดไหลออกมาบนการเสียดสี แต่ชางหลิงก็ไม่รู้ว่าเธอไปเอาแรงมาจากไหน ไม่ว่าโม่โม่จะสะกิดแรงแค่ไหน เธอก็ไม่ยอมปล่อยเลย แต่ระดับความหนักเบาของมือเธอกลับหนักขึ้นเรื่อยๆ
“เธอก็กลัวตายด้วยเหรอ? คนอย่างเธอน่ะ มองชีวิตคนอย่างกับของเล่น กลัวตายด้วยงั้นเหรอ?” ชางหลิงตะโกนออกมา “เธอจะเกลียดฉันและโทษฉัน เธอก็มุ่งมาที่ฉันสิ ทำไมต้องทำร้ายซูเสี่ยวเฉิง ทำไมต้องทำร้ายหลีซินด้วย! พวกเขาก็เป็นคนเหมือนกันนะ ต่างก็เป็นคนที่มีชีวิตเหมือนกัน”
โม่โม่มองไปยังชางหลิงที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างหวาดกลัว ทั้งๆ ที่เป็นแค่ผู้หญิงที่ไม่ได้สูงอะไรมาก แต่ตอนนี้ก็เหมือนกับคนบ้าที่กำลังบีบคอเธอ และเธอก็ไม่มีแม้แต่ความสามารถในการต่อต้านเลย
“ช่วย…ช่วยด้วย…” โม่โม่วางสายตา การขอความช่วยเหลือไว้ที่ตัวป๋ายจื๋อ
ป๋ายจื๋อจ้องไปที่ฉากตรงหน้าเขา แม้ว่าเขาจะไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อโม่โม่เลย แต่เขาก็ยังก้าวออกมาข้างหน้า และตบไหล่ชางหลิงเบาๆ
“ถ้าคุณฆ่าเธอไปแบบนี้จริงๆ ผมไม่รับประกันว่าผมจะสามารถพาคุณออกไปได้” ป๋ายจื๋อพูดเตือนเธอ
ชางหลิงจ้องไปที่โม่โม่อย่างแน่นหนา และเธอก็ขาดอากาศหายใจจนหน้ากลายเป็นสีตับหมู ดวงตาของเธอก็แดงก่ำและเต็มไปด้วยเลือด และเธอก็สูญเสียรูปลักษณ์ของคุณหนูที่สูงส่งอย่างเมื่อก่อนไปแล้ว เมื่อชางหลิงปล่อยมือ ก็ผลักโม่โม่ลงพื้นอย่างโหดเหี้ยม
ในที่สุดเธอก็สามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้แล้ว โม่โม่หอบหายใจอย่างแรง และชางหลิงก็หรี่ตาลง บนตัวเธอก็เต็มไปด้วยความรุนแรง
“ปล่อยหลีซินไปสะ” ชางหลิงพูดอย่างระงับอารมณ์ “ฉันต้องการให้หลีซินกลับมาอย่างปลอดภัย”
“และซูเสี่ยวเฉิง…” ทันทีที่เอ่ยชื่อนี้ หัวใจของชางหลิงก็รู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง “ไม่ว่ามีชีวิตหรือตาย ยังไงก็ต้องให้หลีซินพากลับมา ต่อให้มีชีวิตฉันก็ต้องเห็นคน และต่อให้ตายก็ต้องเห็นศพให้ได้”
“เหอะๆ” โม่โม่ปรับการหายใจตัวเอง และยิ้มอย่างเยาะเย้ยอีกครั้ง “ทำไมฉันต้องฟังเธอด้วย?”
เธอพูด แต่ตัวเธอก็ลุกอย่างรวดเร็วแล้ว และคว้ามือถือที่หัวเตียงไว้ จากนั้นก็กดคีย์ลัดไปยังแผนกต้อนรับ
“Help!” โม่โม่ตะโกนใส่ในสาย
“นี่เธอ!” ชางหลิงขมวดคิ้ว แต่เมื่อดูท่าทางที่ตะโกนร้องขอความช่วยเหลืออย่างจนตรอกของโม่โม่แล้ว เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะเย้ย
“ต่อให้เธอจะเรียกคนมาแล้วจะยังไง? เธอสามารถหลบวันนี้ไปด้วย แต่ต่อไปนี้เธอจะหลบไปได้เหรอ?” ชางหลิงจ้องเธออย่างเย็นชา “โม่โม่ ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปแน่ ชีวิตเหล่านั้นบนตัวเธอ ฉันจะต้องเอาคืนมาให้ได้”
“จริงเหรอ?” โม่โม่ฟังสิ่งที่ชางหลิงพูด โม่โม่ก็ยืนตัวสั่น “แค่น่าเสียดาย ที่โหมวยู่บอกกับฉันด้วยตัวเองว่า พรุ่งนี้เขาจะส่งฉันกลับประเทศ และกว่าเธอจะพบศพของหลีซินและซูเสี่ยวเฉิง ฉันก็รอเธอในพื้นที่ของฉันแล้ว”
ส่งเธอกลับประเทศงั้นเหรอ?”
ชางหลิงยิ่งไม่เข้าใจโหมวยู่ เขาไม่ได้พูดเหรอว่าเขาจะลงมือโจมตีตระกูลโม่? ทำไมถึงต้องส่งโม่โม่กลับประเทศล่ะ?
หรือว่า เขาจะรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ที่โม่โม่ทำ และตั้งใจจะปกป้องเธอ?