ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 192 ที่เสียใจจนก็คือเธอ

บทที่ 192 ที่เสียใจจนก็คือเธอ

“หลีซิน……” ซูเสี่ยวเฉิงเบิกตาโพลงโตอย่างตกใจ เธออยากจะเตือนเขา แต่ใช้แรงทั้งหมดก็ทำได้แค่เบ่งเสียงอันเบาหวิวของตัวเองออกไป

และหลีซินก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่ด้านหลัง เขาเหลือบไปมองจากนั้นก็ขยับตัวเล็กน้อย ในตอนที่แท่งเหล็กจะฟาดลงตัวเขา เขาก็หลบออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็คว้าข้อมือของผู้ชายที่ถือแท่งเหล็กเอาไว้และหักลงไปอย่างแรง เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นมา

แท่งเหล็กตกลงไปจากมือของผู้ชาย หลีซินรีบรับเอาไว้อย่างเร็ว เพื่อไม่ให้ตกลงไปโดนตัวซูเสี่ยวเฉิง

หลีซินปลดคอเสื้อตัวเองออก มือก็จับแท่งเหล็กไว้แน่น

“เข้ามาสิ พวกชั่ว!” หลีซินตะโกนใส่ผู้ชายพวกนั้น

พวกเขามองหน้ากันเลิ่กลั่ก เห็นฝีมือเขาไม่ธรรมดา ก็ไม่มีท่าทีโอหังเหมือนเมื่อกี้แล้ว พวกเขาอยู่นิ่งๆสักพักอย่างตื่นเต้น หนึ่งในนั้นก็เอาไม้ฟาดไปที่หลีซิน

หลีซินไม่เอาคนพวกนี้ไว้ในสายตา ไม้สองแท่งกระทบกันอย่างแรง แรงกระทบทำเอาฝ่ามือเจ็บไปด้วย หลีซินไม่ได้ให้โอกาสเขาได้รู้สึกตัว ความเร็วแทบจะเทียบเท่ากับสายฟ้าแลบ จากนั้นก็เตะผู้ชายออกไปไกลๆ

ที่เหลือสองคนเห็นแล้วก็พุ่งเข้ามา หลีซินรับหน้าได้อย่างดี ไม่กี่นาทีก็ชกพวกเขาจนร่วงลงไปกองกับพื้น ในตอนนั้นเอง ภายในห้องก็เหลือเพียงแต่เสียงร้องโอดครวญของผู้ชายพวกนั้น

ซูเสี่ยวเฉิงนั่งอยู่บนพื้น ภายในสายตาก็คือหลีซินหันหลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ท่าทางของเขาคล่องแคล่วรวดเร็ว ก็เหมือนกับอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยเจ้าหญิงบนโทรทัศน์

เธอยังคิดว่าตัวเองคงได้ตายแน่นอน แต่กลับไม่คิดว่า ในตอนที่เธอสิ้นหวังนั้น กลับมีคนมาช่วยเธอเอาไว้

“เสี่ยวเฉิงไหวไหม?” หลีซินนั่งลงพยุงตัวซูเสี่ยวเฉิงขึ้นมา

ซูเสี่ยวเฉิงสีหน้าซีดขาว แต่กลับยังฝืนไว้และพยักหน้า

ในตอนที่ผู้ชายพวกนั้นยังไม่ลุกขึ้นมา หลีซินก็พยุงซูเสี่ยวเฉิงออกไปจากห้อง

และในตอนที่ออกจากห้องนี้ ซูเสี่ยวเฉิงก็ถึงสถานที่ที่ตัวเองอยู่

นี่เป็นโรงงานร้างแห่งหนึ่ง ด้านนอกมีเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ขึ้นสนิม แสงไฟบนหัวก็ชำรุดหรุดโทรม เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่าง และไฟกะพริบขึ้นเป็นบางครั้งบางคราว

ถึงเธอจะตายอยู่ที่นี่ เกรงว่าศพเน่าเหม็นแล้วก็คงยังไม่มีใครเห็นอยู่ดี

ดังนั้น……ซูเสี่ยวเฉิงหันหน้าไป มองดูหลีซินที่พยุงตัวเธอไว้ ในใจก็รู้สึกอุ่นใจอย่างมาก

“นายมาที่นี่ได้ยังไงเหรอ?” เธอออกมาไม่เคยบอกกับใครเลย สถานที่ร้างไร้ผู้คนแบบนี้ โม่โม่น่าจะตามหาอยู่นานนะ คงไม่ใช่สถานที่ที่หาไม่ได้ง่ายๆเลย

“ชางหลิงบอกสถานที่โดยรวมกับฉันมา ฉันก็ตามหามาตลอดทาง” หลีซินไม่ได้มองเธอ เมื่อกี้ที่ต่อสู้กัน เขาเหนื่อยจนเหงื่อออกเต็มหน้าผากแล้ว ในตอนนี้ ไรผมบนหน้าผากเขาก็เปียกชุ่มหมดแล้ว สายตาเฉียบคมคอยสังเกตดูรอบด้าน

“คนที่ฉันพามาก็อยู่รอบๆนี้ พวกเราเดินออกไปก่อน ขอแค่ออกไปได้ก็ปลอดภัยแล้ว” หลีซินพูดอย่างจริงจัง

ซูเสี่ยวเฉิงมองใบหน้าข้างๆเขาอย่างเหม่อลอย และเผลอยิ้มออกมา

“ชางหลิง……เธอรู้แล้วเหรอ……” รอยยิ้มของซูเสี่ยวเฉิงมีความขมขื่น “ฉัน……ฉันก่อเรื่องอีกแล้ว”

“อย่าคิดมากเลย” สุดท้ายหลีซินก็หันหน้าไปมองเธอ “ถ้าเธอเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ คนที่เสียใจมากที่สุดก็คือเป็นชางหลิง ดังนั้น ฉันจะต้องพาตัวเธอออกไปให้ได้”

แสงประกายในตาของซูเสี่ยวเฉิงก็มืดมนลง

คนที่เสียใจที่สุดคือชางหลิง……ใช่สิ……พวกเธอเป็นเพื่อนรักกันขนาดนี้ เธอไม่ควรสงสัยมิตรภาพที่ชางหลิงมีให้ตัวเองเลย

แต่ว่า ทำไมพอฟังแล้วก็อยากร้องไห้ขึ้นมาเลย?

ดังนั้น เขากลัวว่าชางหลิงจะเสียใจเลยมาช่วยเธองั้นเหรอ? ถ้าเธอไม่ใช่เพื่อนของชางหลิง เขาก็คงไม่มาช่วยเธอสินะ?

ซูเสี่ยวเฉิงรู้สึกปวดหัวใจ ร่างกายทรุดลงไปกองอยู่กับพื้น

“ซูเสี่ยวเฉิง!” หลีซินตกใจ เขารีบพยุงตัวซูเสี่ยวเฉิงไว้ “เธอเป็นอะไรไป?”

ซูเสี่ยวเฉิงสีหน้าซีดขาวดั่งกระดาษ เธออ้าปากอยากจะพูด แต่เหมือนมีอะไรติดอยู่ที่คอ ขนาดเบ่งเสียงออกมายังเป็นเรื่องที่ลำบากเลย

“ซูเสี่ยวเฉิง……” มือของหลีซินจับโดนเสื้อบนตัวของเธอ แต่กลับเปียกชื้นไปหมด เสื้อคลุมที่เขาถอดออกมา ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเลือด เพราะเป็นสีเข้ม เมื่อกี้เขาจึงดูไม่ออก

หลีซินยกมือขึ้นมาและฝ่ามือของเขาก็เต็มไปด้วยเลือด ทำเอาเขาตกใจจนเบิกตาโพลงโต มองดูซูเสี่ยวเฉิงด้วยความสงสาร

“ไปไหนแล้ว?” มีเสียงดังขึ้นจากที่ไม่ไกลมาก น่าจะทำให้พวกคนเฝ้าตื่นตกใจ

หลีซินไม่รีรอ เขารีบอุ้มซูเสี่ยวเฉิงขึ้นมา เดินหลบหลีกอยู่ในเครื่องจักรที่เรียงตัวเป็นแถวๆ สุดท้ายก็หามุมลับๆซ่อนตัวอยู่ที่นั่น

ซูเสี่ยวเฉิงเริ่มไม่ได้สติ ถ้าอาการเวียนหัวครั้งก่อนเป็นเพราะเจ็บปวด ครั้งนี้น่าจะเป็นความตายมาเยือนแล้วสินะ……

เธอเสียเลือดไปมาก เมื่อกี้เธอใช้แรงทั้งหมดของตัวเองไปหมดแล้ว ที่อดทนมาถึงที่นี่กับหลีซินได้ เป็นเรี่ยวแรงทั้งหมดของเธอแล้วจริงๆ

“เสี่ยวเฉิง……” หลีซินพูดเสียงเบา “เธอเจ็บตรงไหน?”

เขารู้ว่าเลือดออกเยอะขนาดนี้ต้องบาดเจ็บหนักแน่ แต่กลับไม่รู้ว่าบาดเจ็บตรงไหน เขารีบตรวจสอบร่างกายของเธอ แต่กลับไม่กล้าเปิดเสื้อที่พันไว้บนตัว

เพราะยังไงก็เป็นชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน ทั้งชีวิตนี้ นอกจากชางหลิงแล้ว เขาไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนอื่นมาก่อนเลย

ซูเสี่ยวเฉิงอ้าปากแต่กลับไม่มีแรงพูด หลีซินร้อนใจ จ้องมองเสื้อบนตัวเธออยู่นานสองนาน สุดท้ายก็ยื่นมือไป……

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท