ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 200 เบาะแสใหม่

บทที่ 200 เบาะแสใหม่

“เธอรู้จักคนนี้จริงเหรอ?” ชางหลิงตะลึง

“ฉันบอกแล้วไงว่ารู้จักแค่ผิวเผิน” ออโรร่าจ้องรูปนั้นอยู่นานมาก จากนั้นก็มองชางหลิง เหมือนกำลังเปรียบเทียบใบหน้าของทั้งสองอยู่ “แค่เคยเจอครั้งเดียว ตอนงานเลี้ยงครั้งนั้น หล่อนกับคุณอาเย่นเต้นรำด้วยกัน ฉันรู้สึกว่าหล่อนสวยมาก ก็เลยจำได้น่ะ”

“คุณอาเย่น?” ชางหลิงได้ยินชื่อนี้ก็รีบถามต่อ “เขาเป็นใคร?”

“เย่นเจิ้งหยาง จะว่าไปแล้ว เขายังเป็นลูกครึ่งจีนด้วยนะ มีชื่อเสียงในอเมริกามาก เป็นชาวจีนโพ้นทะเลที่เก่งมากเลยนะ เธอไม่รู้จักงั้นเหรอ?”

เย่นเจิ้งหยาง……ชางหลิงพยายามค้นหาชื่อนี้ในสมองตัวเอง รู้สึกเหมือนจะเคยได้ยินมาก่อนนะ แต่กลับไม่รู้ว่าได้ยินมาจากไหน

“เธอคงจะไม่ได้……เป็นลูกสาวของผู้หญิงคนนี้นะ” ออโรร่าเปรียบเทียบอยู่นานมาก ในที่สุดก็ได้คำตอบนี้ แต่กลับทำสีหน้ารังเกียจ

“คงไม่หรอกน่า คุณอาเย่นมีตำแหน่งฐานะขนาดนั้น จะหาผู้หญิงที่มีลูกแล้วมาเป็นแฟนสาวงั้นเหรอ? อีกอย่าง……”

ออโรร่ามองชางหลิงตั้งแต่หัวจรดเท้า “ผู้หญิงที่สวยขนาดนั้น ยีนเปลี่ยนกะทันหันเหรอ? ทำไมถึงได้มีลูกแบบเธอออกมา……”

ชางหลิงแทบจะตบออโรร่าทันทีที่ได้ยิน “ฉันทำไม? ฉันคิดว่าฉันสวยดีออก”

“ชิ” ออโรร่าไม่สนใจและหันหลังเดินออกไปทันที

“เดี๋ยวก่อน” ชางหลิงกว่าจะได้เบาะแสนี้มา เธอไม่ปล่อยหลุดไปง่ายๆแน่ “แล้วหลังจากนั้นล่ะ? ระหว่างพวกเขาเกิดอะไรขึ้น?”

“ฉันจะรู้ได้ยังไงล่ะ?” ออโรร่าแปลกใจ “เรื่องเมื่อก่อนแล้ว? ฉันอยู่ประเทศจีนหนึ่งอาทิตย์ก็กลับประเทศแล้ว ถึงจะไม่กลับประเทศ เรื่องผู้ใหญ่จะให้เด็กอย่างฉันรู้ได้ยังไงล่ะ?”

พูดมาก็ถูก……

ชางหลิงเบาะแสขาดอีกครั้ง

ตอนนั้น ออโรร่าก็แค่อายุสิบขวบ น่าจะฟังภาษาจีนไม่ออกด้วยซ้ำ อยากรู้อะไรจากเธอก็คงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร

แต่ว่า ตอนนี้อย่างน้อยก็มีเบาะแสแล้วนิดหน่อย

ช่วงเวลาที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ เคยเจอกับผู้ชายที่ชื่อเย่นเจิ้งหยาง และยังมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาอีกด้วย

“ไม่เป็นไรใช่ไหม” ออโรร่าเหลือบตามองเธอ “ฉันไปแล้วนะ ขี้เกียจเสียเวลากับเธอ”

ชางหลิงถอนหายใจเบาๆ มองดูออโรร่าและยิ้มอ่อนๆ “ไม่มีแล้ว ขอบใจนะ”

คำขอบคุณที่มาแบบกะทันหันนี้ทำเอาออโรร่ารู้สึกไม่ดี เธอหลบสายตาอย่างเขินอาย “ฉันไม่ได้ถามเพราะเป็นห่วงนะ ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่โหมวยู่ละก็ ฉันไม่อยากสนใจเธอด้วยซ้ำ”

พูดจบ เธอก็สะบัดก้นเดินออกไป เสียงรองเท้าส้นสูงเหยียบพื้นเสียงดังต๊อกแต๊ก แต่ชางหลิงกลับไม่รู้สึกรำคาญใจเลย

เธอนั่งลงบนเก้าอี้นอกห้องพักผู้ป่วย หลังพิงกำแพงมองดูโทรศัพท์ในมือ

บนรูปใบนั้น แม่ยิ้มได้อย่างอ่อนโยนมากและยังมีความสวยของผู้หญิงในยุคนั้น ใครจะคิดล่ะว่า ผู้หญิงแบบนี้ จะแบกรับตระกูลชางเอาไว้ทั้งหมด กลายเป็นฮีโร่หญิงในสายตาของคนมากมาย?

“แม่คะ” นิ้วมือชางหลิงสัมผัสไปที่รูปบนหน้าจอโทรศัพท์ แม้จะยิ้มอยู่แต่กลับมีน้ำตาเอ่อล้นเต็มขอบตา “จะสิบห้าปีแล้ว”

“หนูเสียแม่ไปนานมากเลย……”

ชางหลิงจับโทรศัพท์ไว้ในมือ มือเท้าคางไว้ ตกอยู่ในห้วงความเงียบงัน

พอปลอบประโลมซูเสี่ยวเฉิงเสร็จแล้ว ชางหลิงก็มีเวลาพักผ่อนแล้ว คนของโหมวยู่เฝ้าอยู่ด้านนอกประตู ความปลอดภัยของพวกเขาถูกยกระดับมากขึ้น

ไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน ชางหลิงกลับไปที่โรงแรม เข้าไปอาบน้ำอุ่นในห้องน้ำ

แต่ทว่า ในตอนที่เธอผมเผ้าเปียกปอนนุ่งผ้าเช็ดตัวและเดินออกมา ก็สะดุ้งตกใจผู้ชายที่นั่งอยู่บนเตียงของตัวเอง

“ให้ตายสิ” ชางหลิงรีบปิดหน้าอกตัวเองไว้ “โหมวยู่ นายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

โหมวยู่ก็เปลี่ยนเสื้อสบายๆ ร่างใหญ่นั้นนอนอยู่บนเตียง ทำเอาเตียงเดี่ยวของเธอที่ดูไม่ใหญ่แล้วก็ยิ่งดูแคบลงไปอีก

“สักพักแล้วล่ะ” โหมวยู่สองมือประสานไว้หลังหัว จ้องมองชางหลิงที่ดูเหมือนดอกบัวที่เพิ่งบานโผล่พ่นน้ำอย่างพึงพอใจ

“นายมาทำอะไรในห้องฉัน? ถ้าคนอื่นเห็นจะทำยังไง……”

“พวกเขารู้แล้วล่ะ” โหมวยู่พูดอย่างไม่สนใจ “คลิปขอแต่งงานเมื่อคืน ตอนนี้เป็นประเด็นร้อนในกลุ่มบริษัทแล้ว อย่าว่าแต่ที่นี่เลย ถึงแม้ในประเทศ ก็รู้กันหมดแล้ว”

พอนึกถึงเรื่องนี้ ชางหลิงก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา

แม้เธอจะเป็นคนชอบเป็นจุดเด่น แต่กลับไม่อยากมีข่าวอื้อฉาวและถูกจับตามองเหมือนเป็นวิวบรรยากาศตะวันตก ตอนแรกยังตั้งใจจะพักผ่อนสักระยะ ตอนนี้โหมวยู่เปิดข่าวนี้อีก เกรงว่าต่อไปคงไม่ได้ใช้ชีวิตสงบสุขเหมือนเมื่อก่อนแล้วล่ะ

ไม่สิ……ชางหลิงหยุดมือที่เช็ดผมลง

เมื่อก่อนตอนที่แอบอยู่ด้วยกัน ชีวิตของเธอก็ไม่ได้ดีไปถึงไหนเลย

กำลังคิดอยู่นั้น โหมวยู่ก็มาอยู่ด้านหลังเธอเรียบร้อยแล้ว เขารับผ้าขนหนูมาจากมือเธอ จากนั้นก็เริ่มเช็ดผมให้เธอ

“ตอนนี้เรื่องของพวกเขาก็จัดการเสร็จแล้ว เรื่องระหว่างเรา ควรจัดการได้แล้วไหม?”

ได้ยินคำพูดของโหมวยู่ ชางหลิงก็รู้สึกได้ถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น

“ระหว่างพวกเรา……มีเรื่องอะไรกันเหรอ?”

โหมวยู่เช็ดผมให้ชางหลิงแรงขึ้น ผ้าขนหนูสีแดงถูกนวดผมเธอพันเข้าไปด้วย จนเริ่มกลายเป็นรังนก

“คำพูดที่เธอพูดที่ลานนั้น เป็นคำพูดจากใจจริงเธอเหรอ?” โหมวยู่ถาม

ชางหลิงใจเต้นตึกตัก เธอรู้ว่าโหมวยู่เป็นคนแค้นฝั่งลึก จะต้องไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆแน่

“ฉันถูกบังคับนี่ โม่โม่โทรมาขู่ฉัน บอกไม่ให้ฉันตกลงกับคำขอแต่งงานของนาย ยังให้ฉันใช้คำพูดแรงที่สุดเท่าที่ทำได้ทำให้นายเสียหน้า เพราะฉันเป็นคนนิสัยดี เลยยังประนีประนอมอยู่บ้าง……”

นิ้วมือโหมวยู่กระตุก

ผู้หญิงคนนี้รู้บ้างไหม ตอนนั้นเธอพูดอย่างเข้มงวดและตั้งใจขนาดนั้น เขาเชื่อจริงๆนะ

“ไอ้หยา!” ชางหลิงเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอรีบลุกขึ้นมา โหมวยู่ตั้งตัวไม่ทัน หัวเธอกลับกระแทกเข้ากับคางของเขาเต็มๆ

“แหวน! แหวนวงนั้น? โหมวยู่นายได้ไปเก็บไหม!”

โหมวยู่จับคางตัวเองไว้และขมวดคิ้วเป็นปม

ชางหลิงลูบหัวตัวเอง แต่ก็ไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาคิดมาก ในหัวมีแต่แหวนเพชรที่เปล่งประกายวงนั้น

“แหวนนั้นเท่าไหร่น่ะ นายว่าตอนนี้มันจะยังอยู่ที่เดิมไหม? ฉันไปหาก่อนนะ”

ว่าแล้วชางหลิงก็จะเดินออกไปด้านนอก ไม่ได้สนใจเลยว่าตอนนี้ตัวเองใส่อะไรไว้อยู่

โหมวยู่ดึงผ้าเช็ดตัวเธอเอาไว้ ดึงร่างเล็กนั้นกลับเข้ามาหาตัวเองอย่างเร็ว

“เธอก็จำได้แต่แหวนวงนั้น?” น้ำเสียงเขามีความตำหนิ “คนเป็นๆอย่างฉันเธอไม่เอา อยากได้แหวนไปทำไม?”

ชางหลิงเบะปาก “ตอนนั้นฉันไม่มีทางอื่นจริงๆ ถ้าไม่ทำตามที่โม่โม่บอก คนที่บาดเจ็บก็คือซูเสี่ยวเฉิง ฉันจะเห็นแก่ตัวจนไม่สนใจความปลอดภัยของเพื่อนไม่ได้”

โหมวยู่กอดเอวชางหลิงเอาไว้ ยื่นมือไปลูบไล้เส้นผมที่ยุ่งเหยิงของเธอ เผยให้เห็นใบหน้าที่ขาวใสชัดขึ้น

“ดังนั้น ฉันให้โอกาสเธออีกครั้ง เธอตอบฉันมาดีๆ”

ชางหลิงกะพริบตา เงยหน้าสบตากับโหมวยู่ รอเขาพูด

“เธออยากจะแต่งงานกับฉันไหม?” เขาถามเธอ

ระยะห่างทั้งสองใกล้กันมากขึ้น ชางหลิงรับรู้ได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นแรงของเขา เธอมองดูสายตาของโหมวยู่อย่างเงียบสงบ นานมากไม่ได้พูดอะไร

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท