ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 219 หลังจากนี้ทำใจดีๆ

บทที่ 219 หลังจากนี้ทำใจดีๆ

ชางหลิงขังตัวอยู่แต่ในห้องตลอดหนึ่งวันสองคืน

ช่วงเวลานี้ นอกจากกินและไปเข้าห้องน้ำ เธอก็ไม่เคยออกจากเครื่องจักรเลย ตัดผ้า เย็บปัก แพทเทิร์น สำเร็จเป็นชุด และลงเข็มเย็บตะเข็บรังดุม ทุกอย่างเธอทำมันด้วยตัวเอง

โหมวยู่อยู่เป็นเพื่อนเธอตลอด เวลาส่วนใหญ่มักจะเงียบ เพียงอยู่เฉยๆ ทั้งสองคนนอกจากการคุยกันไม่กี่คำ ก็ไม่มีใครเริ่มเสนอหัวข้อพูดคุยใหม่ๆ เลย

ในที่สุด การแข่งขันเลื่อนขั้นรอบชิงชนะเลิศก็มาถึงตามกำหนด

ชางหลิงแต่งหน้าอย่างสมบูรณ์แบบ รองพื้นปกปิดใต้ตาหมองคล้ำ ปกปิดความยากลำบากของเธอในช่วงหลายวันนี้ทั้งหมดเอาไว้

เธอก้าวเดินเข้าสู่สนามแข่งด้วยจังหวะที่มั่นคง

ทั้งโหมวยู่และฉู่ฉือเข้าไปยังที่นั่งผู้ชม ฉู่ฉือมองตามหลังชางหลิงที่เดินไปยังหลังเวที รู้สึกอยู่ตลอดว่าบรรยากาศมันมีอะไรผิดปกติ

“คุณชายรอง” ฉู่ฉือเป็นห่วง “คุณชางอารมณ์ไม่ดีเหรอครับ”

ตามหลักแล้ว การที่ในที่สุดได้มาถึงรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขัน ด้วยนิสัยของเธอ จะต้องรู้สึกตื่นเต้นมาก และไม่แน่ว่าอาจจะแสดงออกใหญ่โตต่อหน้าพวกเขาด้วย

“แล้วนายคิดว่าฉันอารมณ์ดีเหรอ” โหมวยู่เหลือบมองฉู่ฉืออย่างเย็นชา

ฉูฉื่อหันไปมองดูโหมวยู่อย่างจริงจัง จนถูกความหน้าดำคร่ำเครียดของโหมวยู่ทำให้หวาดกลัวขนลุกขนพอง

เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ ไม่ใช่ว่าสองสามวันก่อนเพิ่งจะคืนดีกันหรอกเหรอ คนสองคนที่ตัวติดกัน ทะเลาะอะไรกันอีก

โหมวยู่หาที่นั่งตัวเองแล้วนั่งลง การแข่งขันยังไม่เริ่ม ผู้ชมกำลังทยอยเข้าสู่สนามแข่งขัน

“โมเดลที่ชื่อแอวริลเป็นยังไง” จู่ๆ โหมวยู่ก็เอ่ยถาม

แอวิรลเหรอ ฉู่ฉือตกใจ

จู่ๆ เจ้านายก็ถามเขาเกี่ยวกับผู้หญิงคนอื่นงั้นเหรอ แถมยังเป็นนางแบบชื่อดังของบริษัทด้วย หรือว่า เพราะเรื่องนี้เขากับคุณชางจึงทะเลาะกัน

“เอ่อ…ก็ธรรมดาครับ” ฉู่ฉือพิจารณาสักพักก่อนจะตอบ “ถ้าเทียบกับคุณชาง แน่นอนว่ายังด้อยกว่าเธอเศษหนึ่งส่วนหมื่น….”

โหมวยู่หันศีรษะกลับมาช้าๆ ด้วยสายตาที่ส่อแววว่าฉู่ฉือสมองป่วย “นายกำลังคิดอะไรอยู่ ฉันถามนายว่าเวลาเธออยู่ในบริษัทน่ะเป็นยังไง”

“อ้อ” ฉู่ฉื่อเขี่ยจมูกอย่างเก้อเขิน “เอ่อ แอวริลคนนี้อยู่ในบริษัทไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษครับ เพียงแต่ช่วงนี้เธอเกิดเรื่องอื้อฉาวระหว่างไทเลอร์ แต่ตอนนี้ไทเลอร์ถูกปลดออกจากตำแหน่งเพราะจงใจทำร้ายคนอื่น และถูกไล่ออกจากเซิ่งซื่อ….”

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ หลังจากกลับประเทศ แอวริลคนนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่เซิ่งซื่ออีกต่อไป”

โหมวยู่สีหน้าท่าทางสงบนิ่ง มองไม่ออกว่าโกรธเกรี้ยวหรือยินดี

“ครับ” ฉู่ฉื่อไม่ได้ถามต่อ เรื่องที่โหมวยู่ต้องการ โดยธรรมชาติแล้วเขาจะไม่ถามหาเหตุผล และอีกอย่าง ถึงไม่ถาม มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว แน่นอนว่าที่คุณชางอารมณ์เสียใส่คุณชายรองโหมวของเขาก็เพราะเกี่ยวกับแอวริล

“ยังมีอีก” โหมวยู่พูดอีกประโยค ฉู่ฉือมีท่าทีเคารพและตั้งใจฟังขึ้นมาทันที

“ต่อไปนายเรียนรู้จากถงเอินให้น้อยหน่อย” โหมวยู่เหลือบมองฉู่ฉื่ออย่างไม่ชอบใจ “การมีจินตนารการมากไปไม่ใช่เรื่องดี”

“ได้ครับ” ฉู่ฉื่อพยักหน้ารับทราบอย่างหนักแน่น

ปรากฏว่าจริงเหรอที่ว่าใกล้คนเช่นไรย่อมเป็นคนเช่นนั้น ฉู่ฉื่อคิดแล้วไม่เข้าใจ ความประสาทของถงเอินแพร่เชื้อมาถึงตัวเขาจริงเหรอ

การแข่งขันได้เริ่มขึ้นแล้ว

การแข่งขันรอบที่แปด ในสนามเหลือเพียงดีไซเนอร์สิบห้าคน และในเกมนี้ ในดีไซเนอร์สิบห้าคนจะกำจัดออกเจ็ดคน กระทั่งเหลือแปดคน เลื่อนขั้นขึ้นสู่การแข่งรอบชิงชนะเลิศ

สิบสนามแข่ง จากเดิมมีห้าร้อยทีม จนในที่สุดเหลือเพียงแปดสิบทีม แปดสิบทีมนี้ เป็นระดับหัวกะทิที่รวบรวมจากบริษัทต่างๆ ทั่วโลก การต่อสู้ของการแข่งรอบชิงชนะเลิศ จะโหดร้ายและดำมืดยิ่งกว่ารอบเลื่อนขั้น

ร้อยละห้าสิบของอัตราการเลื่อนขั้น จะว่ายากก็ไม่ยาก จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย

ลำดับการแข่งของเกมนี้ขึ้นอยู่กับอันดับของเกมที่แล้ว ชางหลิงรั้งท้ายตาราง ดังนั้นครั้งนี้ จึงอยู่ลำดับสุดท้าย

โจวลี่ลี่เป็นกังวลมาก เธอนั่งในห้องแต่งตัว สองมือจับประสานกัน ในปากมีคำพูดนับไม่ถ้วน

“พระโพธิสัตว์อวยพร ขอให้ได้เลื่อนขั้นครั้งนี้ เจ้าแม่กวนอิม องค์พระยูไล พระแม่หวังหมู่ เง็กเซียนฮ่องเต้….”

“ที่นี่คืออิตาลีนะ” ชางหลิงหมดคำจะพูด “อยู่นอกเหนือขอบเขตอำนาจของพวกเขา คุณขอพรจากพระเจ้าองค์อื่นเถอะ”

เมื่อเทียบกับความเครียดของโจวลี่ลี่ ชางหลิงยังผ่อนคลายกว่ามาก เธอหยิบลูกอมออกมาจากกระเป๋าเม็ดหนึ่ง เอาเข้าปาก ไม่ใส่ใจเรื่องเกมการแข่งขันแต่อย่างใด

“ฮะ?” เมื่อโจวลี่ลี่ได้ยินคำพูดของชางหลิงก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอาโทรศัพท์มือถือออกมาค้นหาสักพัก

“พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระแม่มารี ขอให้ได้เลื่อนขั้นครั้งนี้….” โจวลี่ลี่ทำการเปลี่ยนพระเจ้าจริงๆ

ชางหลิงกลอกตา เธอพิงโต๊ะเครื่องแป้ง เอาลูกอมอีกเม็ดออกมา แล้วยื่นมือส่งไปตรงหน้าโจวลี่ลี่

โจวลี่ลี่ปลื้มใจ “ให้ฉันเหรอคะ”

เพราะท้ายที่สุดแล้ว หลายวันมานี้ แม้ว่าชางหลิงจะเลือกเธอมาเป็นผู้ช่วย แต่กลับไม่เคยมีความกระตือรือร้นให้ความสนใจต่อเธอเลย

ชางหลิงไม่ได้ตอบ โจวลี่ลี่หยิบลูกอมจากมือของเธออย่างระมัดระวัง มากำไว้ในฝ่ามือ

“ขอบคุณค่ะ” เธอแอบเหลือบมองชางหลิง

“บอกมาตามตรง ทำไมคุณถึงอยากให้ฉันได้เลื่อนขั้น” ชางหลิงเอียงศีรษะมองเธอ “คุณควรรู้ไว้ว่าต่อให้ฉันชนะ เมื่อกลับไปเซิ่งซื่อ ฉันก็ยังเลือกจะเก็บซูเสี่ยวเฉิงเอาไว้อยู่ดี โควตาที่จะได้ผ่านฝึกงานมีจำนวนจำกัด ถึงตอนนั้นคุณก็ต้องออกไป”

แววตาของโจวลี่ลี่ค่อนข้างผิดหวัง “ฉันรู้ค่ะ”

สองมือเธอกำกันแน่น มีท่าทางค่อนข้างอึดอัด “ซูเสี่ยวเฉิงเป็นเพื่อนสนิทของคุณ มิตรภาพนี้ ยังไงฉันก็เทียบไม่ได้ และอีกอย่าง ก่อนหน้านี้ฉันยังอยู่ในทีมหลิวจื่อเวยด้วย ทำในสิ่งที่ทำร้ายคุณ ดังนั้น ฉันจึงไม่คิดที่จะอยู่ในเซิ่งซื่อเลย”

“ที่อยากให้คุณชนะ เพียงเพราะอยากบรรเทาความรู้สึกผิดสักเล็กน้อย ไม่แน่บางทีคุณอาจจะอารมณ์ดี ไม่เอาความฉันในเรื่องก่อนหน้านี้อีก ถึงตอนนั้นฉันก็ยังมีโอกาสเลือกบริษัทเล็กๆ เพื่อไปแสดงศักยภาพต่อไป”

ได้ฟังคำพูดของเธอ จู่ๆ ชางหลิงก็รู้สึกว่าลูกอมในปากไม่ค่อยหวานนัก

“แค่นั้นเองเหรอ” ชางหลิงถาม “แค่อยากถอนตัว แล้วไปพัฒนาที่บริษัทอื่นเหรอ”

“แล้วไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ” โจวลี่ลี่หมดหนทาง “ฉันยังสามารถอยู่เซิ่งซื่อได้เหรอ ต่อให้ฉันได้อยู่ คนที่นั่นก็คงไม่รับฉัน หลิวจื่อเวยพ่ายแพ้ ผอ.โม่ก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน คุณอยู่เซิ่งซื่อ มีคุณชายรองโหมวคอยหนุนหลัง อยู่ได้อย่างมั่นคงแน่นอนแล้ว และจะมีตัวตายตัวแทนพยายามเป็นมือเท้าให้คุณ เพื่อการเอาใจคุณ สิ่งแรกที่พวกเขาจะทำ ก็คือการลงดาบฉันซึ่งเป็นคนที่เคยทำผิดต่อคุณ”

ชางหลิงเคี้ยวลูกอมในปากจนเกิดเสียงดัง เธอมองไปยังทิศทางหนึ่งโดยไม่มีจุดโฟกัส

“อืม” ชางหลิงยิ้ม “ออกไปก็ดี”

สถานที่นั้น ภายนอกสดใส แต่ด้านในความมืดกลับกัดกินไปทั่วพื้นที่ กลายเป็นถังย้อมสีขนาดใหญ่ ใครก็หนีไม่พ้นชะตากรรมของการถูกย้อมสีดำ

“หลังจากนี้ ทำใจดีๆ นะ” ชางหลิงยืดตัวตรง เสียงประกาศดังขึ้น เธอก้าวออกไป เดินไปทางประตู “เพราะท้ายที่สุดแล้วหลังจากนี้คงยากที่จะได้พบคนใจดีอย่างฉันอีก”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท