“ป๋ายจื๋อ……” ชางหลิงเห็นสถานการณ์แบบนี้ ก็รีบเรียกชื่อป๋ายจื๋อ “นายไม่ต้องสนใจฉัน รีบออกไปเร็ว”
ถ้าเขาขึ้นไป ตัวเองอาจจะมีโอกาสรอดก็ได้
แต่ทว่าป๋ายจื๋อไม่ฟังที่เธอพูดเลยด้วยซ้ำ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ดำลงน้ำไปอีกครั้ง
ชางหลิงก็จมลงน้ำไปด้วย แต่พอไม่กี่วินาทีผ่านไป เธอกลับรู้สึกเท้าขวาตัวเองเหยียบเข้ากับตัวของป๋ายจื๋อ เขานั่งอยู่ในสระน้ำ ให้ชางหลิงเหยียบไหล่ของเขา เพื่อให้เธอได้มีโอกาสได้หายใจ ตัวเองกลับพยายามแก้มัดเชือกที่เท้าของเธอ
“ป๋ายจื๋อ……ป๋ายจื๋อขึ้นมาเร็ว……” ชางหลิงร้องอย่างตกใจกลัว แต่แม้จะเป็นแบบนี้ เธอก็ยังกระอักน้ำอยู่ดี
เธอไออย่างรุนแรง พอเห็นผู้ชายคนนั้นปีนขึ้นไปได้แล้ว เชือกก็ถูกดึงกลับไปอีกครั้ง ความหวังในใจเธอก็ดับลงไปทีละนิดๆ
ป๋ายจื๋อขึ้นมาจากน้ำอีกครั้ง เขาหายใจถี่ๆ และกอดตัวชางหลิงไว้อีกครั้ง พยายามให้เธอไม่อยู่ใต้น้ำ
เชือกบนเท้าของชางหลิงถูกดึงไปจนสุดแล้ว น้ำยังคงเพิ่มระดับเรื่อยๆ เธอที่กระอักน้ำอยู่หลายครั้งก็เริ่มหมดแรงแล้ว
“อดทนอีกหน่อยนะ” ป๋ายจื๋อพูดให้กำลังใจข้างหูเธอ
“ป๋ายจื๋อ” ชางหลิงเรียกเขาเอาไว้ “เหยียบตัวฉัน……เหยียบตัวฉัน ปีนขึ้นไป……”
ป๋ายจื๋อมองเธอและขมวดคิ้ว ไม่ได้พูดอะไรตอบ จากนั้นก็ดำลงน้ำไปอีกครั้ง
ภายในความมืดมิดนั้น ลมหายใจของชางหลิงอ่อนลงเรื่อยๆ เธอรับรู้ได้ถึงป๋ายจื๋อที่พยายามแก้มัดเชือกให้ตัวเอง เธอเหยียบไหล่ของเขาไว้ แต่ไม่นาน น้ำก็ท่วมหัวของเธอในที่สุด เธอจมอยู่ในน้ำทั้งตัว
การมองเห็นเริ่มไม่ชัดเจน ความรู้สึกขาดอากาศหายใจ ก็เหมือนกับมีหินก้อนใหญ่ทับหน้าอกเธอเอาไว้ ภายในโลกที่วุ่นวาย ปลิงที่ลอยขึ้นมาบนน้ำกลายเป็นมารร้าย พุ่งกระหน่ำมาที่เธออย่างรวดเร็ว
โหมวยู่……
ชางหลิงเรียกชื่อเขาในใจเบาๆ
น่าเสียดาย……ครั้งนี้ไม่อาจรอดไปได้ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เธอคงไม่ทะเลาะกับเขาตอนจะกลับไป
เธอจะตายแล้ว……โหมวยู่จะทำยังไง
ครึ่งชีวิตที่เหลือของเขา จะต้องอยู่ในความรู้สึกผิดแน่
ป๋ายจื๋อแก้มัดช้าลงเรื่อยๆ แต่น้ำหนักเท้าของชางหลิงที่เหยียบบนตัวของเขาก็น้อยลงไป ร่างกายของเธอลอยขึ้นน้ำ ป๋ายจื๋อไม่มีเวลาขึ้นไปหายใจ เขากลั้นหายใจสุดท้ายเอาไว้ เชือกก็ยังแก้ไม่ได้สักที ตะขอขึ้นสนิมที่ติดแน่นไว้กับกำแพงกลับถูกเขาหักลงมาทั้งอย่างนั้น
“ชางหลิง! ชางหลิงตื่นสิ!” ป๋ายจื๋อรีบอุ้มตัวชางหลิงขึ้นเหนือน้ำ
เขาตัวสูงจึงทำให้ยังคงเหยียบพื้นในสระน้ำได้ เขาพยุงกำแพงเอาหัวชางหลิงยกขึ้นเหนือน้ำ
“ชางหลิง!” ป๋ายจื๋อตะโกนเรียกชื่อของเธอเสียงดัง ใช้มือตบหน้าเธอ
“ฮ่าๆ” โม่โม่ที่ริมสระในที่สุดก็ชินชากับความเจ็บ เธอคลานมาที่ริมสระช้าๆ มองดูคนด้านล่างและหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
“หล่อนตายแล้ว! สุดท้ายก็ตายได้สักที!”
น้ำตาเธอไหลออกมา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเจ็บปวด หรือความสะใจจากการได้แก้แค้น
ป๋ายจื๋อจ้องมองหล่อนด้วยสายตาเย็นชา
“ป๋ายจื๋อ นายยิงขาฉัน งั้นก็ตายไปพร้อมหล่อนเลยแล้วกัน” พูดแล้ว โม่โม่ก็ลากขาข้างที่เจ็บของตัวเองลุกขึ้นมา ปิดวาล์วน้ำที่อยู่ข้างกำแพง น้ำที่เพิ่มระดับเรื่อยๆก็หยุดลงตรงบริเวณคางของป๋ายจื๋อทันที
“นายอย่าคิดจะได้ออกมาอีกเลย”
ป๋ายจื๋อว่ายน้ำเป็น ถ้าปล่อยให้น้ำเพิ่มระดับเรื่อยๆ เขาอาจจะลอยขึ้นมาก็ได้ แต่ตอนนี้ ระดับน้ำหยุดลงตรงครึ่งสระพอดี กำแพงรอบสระเปียกชื้นและลื่น นอกจากเขาจะมีความสามารถบินได้ ไม่งั้นก็ต้องอยู่ในนี้ตลอดไป
ร่างกายโม่โม่เต็มไปด้วยเลือด เธอโยนขวดโหลที่เหลือลงพื้นจนแตกละเอียด ปลิงมากมายถูกเธอดันลงในสระน้ำจนหมด
“ไปตายซะ ไปตายเลย!” โม่โม่ตะโกนเสียงดังอย่างบ้าคลั่ง
ร่างกายป๋ายจื๋อขยับไปด้านหลัง เขาเขย่งปลายเท้าไว้อย่างยากลำบาก บวกกับมีชางหลิงในอ้อมกอดอีก ทำให้เขาทนได้ไม่นานมากแล้ว
แต่แผลบนไหล่เขากลับยังไม่ทันหาย แช่อยู่ในน้ำนานๆและใช้แรงมากเกินไป เลือดซึมออกมาจากผ้าก๊อซที่ปิดแผลของเขา
ปลิงได้กลิ่นของเลือกก็พุ่งมาที่ไหล่ของเขาทันที
ป๋ายจื๋อรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด เขาได้แต่กัดฟันอดทนไว้
โม่โม่เทปลิงทั้งหมดลงมาในสระน้ำ ในที่สุดก็โล่งอกและนอนลงไปกับพื้น มองดูเพดาน
“ตายแล้ว ในที่สุดก็ตายแล้ว……”
ไม่มีใครมาแย่งโหมวยู่กับตัวเองได้อีกแล้ว
สมองของเธอมีภาพใบหน้าของโหมวยู่ลอยขึ้นมา เขาเดินมาหาเธอด้วยรอยยิ้มช้าๆ
เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า อยากจะเป็นภรรยาของเขาไหม……
“โม่โม่! โม่โม่!” เสียงร้อนรนของผู้ชายดังขึ้น เธอตื่นขึ้นมาจากฝันตัวเอง แต่ทว่าพอลืมตาขึ้นมา ที่เห็นกลับไม่ใช่โหมวยู่แต่เป็นเจสันแทน
“โม่โม่ เธอเป็นอะไรน่ะ?” เจสันเห็นบาดแผลบนขาของเธอก็ตกใจเป็นอย่างมาก
โม่โม่ไม่มีแรงตอบแล้ว เธอฝืนยิ้มด้วยสีหน้าที่ซีดขาวและจับมือเจสันไว้แน่น
“เจสัน……ฉันแก้แค้นได้แล้ว……ในที่สุด……ก็สำเร็จ……”
เจสันหันหน้าไปช้าๆ มองเห็นสระน้ำข้างๆ มองจ้องเข้าไปดีๆก็เห็นสองคนอยู่ในนั้น ทำเอาเขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก
สองวันมานี้เขาง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา ตอนที่ตื่นมาโม่โม่ก็หายไปแล้ว เขาตามหาเธอจนทั่วก็ไม่เจอ จนกระทั่งตอนนี้ เขาถึงหาโรงงานเล็กๆในใจกลางเมืองนี้ได้
ถ้าไม่ได้เส้นสายที่อยู่ในมิลานของเขากับบันทึกรายจ่ายของโม่โม่ เขาไม่มีทางคิดได้เลยว่าโม่โม่จะมาอยู่ในสลัมแบบนี้
แต่ว่า มองดูชางหลิงที่ไม่ขยับเขยื้อนในน้ำ เจสันรู้ว่า เขามาช้าไปแล้ว
“ฉันพาเธอไปนะ” เจสันไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาอุ้มโม่โม่และวิ่งไปทางประตู แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง เขาปล่อยโม่โม่ลงและย้อนกลับไปใหม่
เขายืนมองอยู่ริมสระนานมาก ป๋ายจื๋อเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้านั้นไม่มีสีสันเลย ผู้ชายสองคนสบตากัน สุดท้าย เจสันก็หลบตาอย่างรู้สึกผิด
“ขอโทษด้วยนะ” เจสันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก สุดท้าย เขาก็เห็นฝาซีเมนต์สองอันวางอยู่ข้างๆ
เขาลากฝาซีเมนต์มาอย่างยากลำบาก เอาพวกมันปิดไว้บนสระน้ำ
“ฉันจะให้พวกนายมีชีวิตอยู่ไม่ได้” ถ้าพวกเขามีชีวิตรอด เกรงว่า เขากับโม่โม่ได้ตายแน่
ตามด้วยฝาซีเมนต์อันสุดท้ายปิดลง แววตาที่เยือกเย็นของป๋ายจื๋อก็ถูกซ่อนไว้ในความมืดในทันที
เจสันโล่งอก เขารีบวิ่งไปที่ประตู อุ้มตัวโม่โม่ขึ้นมา หายไปจากหน้าประตูทันที