ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – บทที่ 229 ไม่ถึงกับเอาชีวิตของฉัน

บทที่ 229 ไม่ถึงกับเอาชีวิตของฉัน

ภายในห้องที่ถูกปิดมิดชิด มองไม่เห็นแสงจากด้านนอก และไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว มีแต่แสงไฟในห้องที่ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่

หลังจากที่เจสันกับโม่โม่ถูกจับมาแล้ว ก็ถูกขังอยู่ในห้องนี้ตลอดเวลา

ในที่สุด หลังจากที่ไม่รู้ว่าผ่านมานานเท่าไหร่แล้ว โม่โม่ก็ตื่นขึ้นมา แสงไฟที่แยงเข้าตาจากบนหัว เธอมีสติขึ้นมาทันที และมองเห็นโครงสร้างภายในห้องอย่างชัดเจน

ที่นี่คือ……โรงงานร้างที่เธอเคยขังซูเสี่ยวเฉิง!

เธอลุกขึ้นนั่ง อยากจะขยับตัว อาการเจ็บบนขาทำให้เธอเคลื่อนไหวได้ยาก ในระหว่างที่ลนลานอยู่นั้น เธอก็เห็นเจสันที่ถูกมัดมือมัดเท้าและสกอตช์เทปปิดปากเอาไว้

“เจสัน!” โม่โม่ตะโกนเสียงดัง เดินไปหาเขาด้วยความเจ็บปวด

ในตอนที่เธอถูกเจสันช่วยเอาไว้ก็สลบลงไปทันที ไม่รู้เลยว่าหลังจากนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น ดูท่าทางตอนนี้แล้ว หรือว่า……

เธอฉีกสกอตช์เทปที่ปิดปากเจสันออก อยากช่วยเขาแก้มัด “ทำไมพวกเราถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”

สีหน้าของเจสันดูโทรมมาก พอเขาเห็นโม่โม่แล้ว สายตากลับไม่มีความอ่อนโยนเหมือนแต่ก่อนเลย

เขาชอบโม่โม่ก็จริง และยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อเธอ แต่ในที่นี้ยังรวมถึงชีวิตของเขาด้วย

แต่ในตอนที่เขากับโม่โม่ถูกคนของโหมวยู่จับตัวมา เขาก็รู้แล้วว่า เขากับโหมวยู่ถือว่าเป็นศัตรูกันแล้ว

“พวกเราออกจากที่นี่กัน” โม่โม่แก้มัดให้กับเขา

“หนีไม่ได้หรอก” เจสันรู้ดีแก่ใจ “เธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? พวกเราอยู่ในมือโหมวยู่แล้ว”

ได้ยินชื่อโหมวยู่ โม่โม่ก็ชะงักไปทันที

นั่นสิ ด้วยความสามารถของโหมวยู่ เธอไม่มีทางหนีออกจากน้ำมือเขาได้แน่

แต่แล้วยังไงล่ะ? อย่างน้อยชางหลิงก็ตายแล้ว ขอแค่หล่อนตาย เป้าหมายของเธอก็สำเร็จแล้วล่ะ

โม่โม่ยิ้มอ่อนๆ เธอแก้มัดเชือกบนตัวของเขาจนหมด จากนั้นก็พิงกำแพงอย่างเหนื่อยล้า

“ฉันเป็นคนฆ่าชางหลิง จะแก้แค้นก็ต้องแก้ที่ผู้กระทำ ฉันจะไปบอกกับโหมวยู่เอง ให้เขาปล่อยนายไป”

“ไม่มีใครรู้จักโหมวยู่ดีเท่าฉัน เขาเป็นคนที่มีกฎเกณฑ์สูง ดังนั้น จะต้องพาฉันกลับประเทศ ส่งตัวฉันให้กับตำรวจ ฉันพร้อมแล้วล่ะ พวกเขาไม่มีทางพิจารณาโทษประหารฉันได้หรอก”

หลายปีมานี้ เธอแอบเก็บเงินไว้ไม่น้อย ถึงแม้ตระกูลโม่จะไม่ช่วยเหลืออะไรเธออีกแล้ว เธอก็มีเงินมากพอจะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้ รอหาโอกาสได้ เธอก็มีโอกาสกลับไปข้างตัวโหมวยู่ได้แน่นอน ถึงตอนนั้น ชางหลิงก็ตายแล้ว จะมีใครเป็นคู่ต่อสู้กับเธอได้อีกล่ะ?

เธอคิดเรื่องตายไว้เหมือนกัน ขอแค่กำจัดชางหลิงได้ก่อน ถึงแม้จะต้องตายเธอก็ไม่กลัว แต่ตอนนี้ชางหลิงตายแล้ว เธอก็กลับอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

ขอแค่มีชีวิตอยู่ เธอถึงมีความหวัง

แต่ทว่า พอได้ยินแบบนี้แล้ว เจสันกลับอดไม่ได้หัวเราะออกมา

“ถ้าชางหลิงตายแล้วจริงๆ อาจจะยังพูดได้” เพราะยังไง ไม่มีหลักฐานมัดตัว ใครก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนปิดฝาซีเมนต์นั่น ปิดทางหนีรอดเดียวของพวกเขา

“แต่ว่า……หล่อนยังไม่ตายน่ะสิ”

ดังนั้น ความลับนี้ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป

โม่โม่รู้สึกเหมือนตัวเองเห็นภาพหลอน “นายว่ายังไงนะ?”

“พวกเขายังไม่ตาย โหมวยู่ช่วยพวกเขาไว้ได้ ทั้งสองคนไม่มีอันตรายถึงชีวิต” เรื่องนี้เจสันได้ยินคนเฝ้าประตูพวกนั้นพูดกัน ตอนนั้นเขาก็รู้สึกตะลึงเหมือนฟ้าผ่าลงกลางหัวเหมือนกัน

แต่พอคิดดูแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าโม่โม่จะฆ่าชางหลิงได้หรอก ด้วยฝีมือของชางหลิงแล้ว จะรอดชีวิตจากโม่โม่ได้ ก็ใช่ว่าจะไม่ได้

“หล่อนยังไม่ตาย……” โม่โม่อึ้ง “เป็นไปได้ยังไงกัน? ทั้งที่ฉันเห็นเองกับตา……ทั้งที่ฉันเห็นเองกับตาว่าหล่อนตายแล้ว……”

ทั้งที่มาถึงขั้นนี้แล้ว ถึงแม้จะเป็นเทพจากสวรรค์ชั้นฟ้าก็ไม่มีทางช่วยหล่อนได้แล้ว แต่ทำไมหล่อนถึงยังรอดได้ล่ะ?

ชีวิตของคนคนหนึ่งทำไมถึงถึกได้ขนาดนี้กัน?

ชางหลิงยังไม่ตาย งั้นเธอจะทำยังไงดีล่ะ?

โหมวยู่ไม่ปล่อยเธอไว้แน่? ด้วยนิสัยของเขาแล้ว คงไม่มีตั้งศาลเตี้ยขึ้นมาเองหรอกนะ

โม่โม่คิดอยู่นั้น ในตอนนี้เอง ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านนอก

ด้านนอกสว่างแล้ว แสงไฟสาดส่องเข้ามากะทันหัน ทำให้ห้องสว่างไปทั่ว

ฉู่ฉือมือพาดหลังยืนอยู่หน้าประตู เขายืนมองดูชายหญิงสองคนนี้ที่นั่งอยู่บนพื้น

บาดแผลที่ขาของโม่โม่ถูกรักษาแล้ว ป๋ายจื๋อไม่ได้ฆ่าเธอ กระสุนไม่ได้ยิงไปที่เส้นเลือดใหญ่ เธอแค่เสียเลือดมากเกินไปเท่านั้น ทำเอาเสื้อที่เป็นสีแดงอยู่แล้วกลายเป็นสีดำม่วง

ฉู่ฉือมองดูโม่โม่ ในระยะเวลาสั้นๆ คุณหนูแห่งตระกูลโม่ที่เคยอยู่บนจุดสูงสุดกลับกลายมาเป็นสภาพทรุดโทรมอนาถแบบนี้ คิดแล้วก็น่าสลดใจนัก

“ฉู่ฉือ……” โม่โม่เห็นเขาแล้วก็เหมือนเห็นตัวช่วย ฉู่ฉืออยู่ข้างโหมวยู่มาแต่เด็ก โม่โม่ก็รู้จักนิสัยของเขาดี ถึงแม้ภายนอกเขาจะดูเย็นชา แต่ก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำอะไร

“ฉู่ฉือ ช่วยฉันหน่อยสิ นายปล่อยฉันไปเถอะนะ?” โม่โม่คลานเข้าไปหาเขา ดึงขากางเกงของเขาไว้ “ฝากบอกโหมวยู่หน่อยสิ ฉันผิดไปแล้ว……เขาก็รู้ว่าฉันป่วยอาการทางจิต ฉันแค่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ถึงได้ทำเรื่องแบบนั้นกับชางหลิง นายไปบอกเขาทีนะ ให้เขายกโทษฉันหน่อยได้ไหม……”

ฉู่ฉือหรี่ตาลง ไม่อยากจะเชื่อว่าโม่โม่จะคุกเข่าขอร้องเขา เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “คุณโม่ คุณก็รู้ดี คุณชายรองเป็นคนยืนหยัดในความคิดของตัวเอง นอกจากคุณชางแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดเขาได้”

นอกจากคุณชางงั้นเรอะ……

มือที่ดึงขากางเกงของฉู่ฉือไว้ก็ลดลงมาทันที

“งั้นนายบอกฉันมาสิ โหมวยู่อยากจะทำอะไร?” โม่โม่ยังไม่พอใจ เธอเงยหน้ามองฉู่ฉือ “ชางหลิงยังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เหรอ? ฉันไม่ได้ฆ่าหล่อนสักหน่อย คงไม่ถึงกับเอาชีวิตของฉันหรอกนะ”

ฉู่ฉือเลิกคิ้วขึ้นมา เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว ชักขากางเกงออกมาจากมือของโม่โม่ “ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ คุณชายรองบอกว่า เอาตัวพวกคุณกลับประเทศก่อน”

เพราะยังไง ประเทศนี้ไม่มีโทษประหาร

โหมวยู่คิดแผนการมาแล้ว กลับประเทศแล้ว สิ่งที่รอเธออยู่ก็คือคำครหาของเหยื่อผู้ถูกกระทำ เหยื่อทุกคนต่างก็เกลียดเธอเข้ากระดูกดำ เกรงว่า ยังไม่รอพิจารณาคดีที่ศาล เธอก็คงต้องยอมรับโทษแต่โดยดี

“งั้นฉันล่ะ?” เจสันรีบถาม “ฉันไม่ใช่คนจีน ฉันขอให้สถานทูตเข้ามาจัดการเอง พวกนายไม่มีสิทธิ์มาจัดการฉัน”

เขารู้ดีว่า โม่โม่กลับประเทศแล้วอาจจะมีทางรอดได้ แต่เขากลับไม่มี

เขาจะต้องรับรองความปลอดภัยของตัวเองตลอดที่อยู่ที่นี่และคิดหาทางกลับประเทศ ความผิดเขาไม่ถึงตาย ถึงแม้ตรวจสอบแล้วก็ไม่เป็นอะไร

ฉู่ฉือยิ้มบางๆ “คุณชายรองสั่งมาว่า พาคุณกลับประเทศจีนด้วย ส่วนสิทธิ์ในการจัดการนั้น รอดำเนินคดีอย่างเป็นทางการก่อนค่อยว่ากัน”

สีหน้าเจสันเปลี่ยนไปทันที

โม่โม่บอกว่าโหมวยู่จะไม่ตั้งศาลเตี้ยเอง แต่ว่า ครั้งก่อนเขาเคยถูกโหมวยู่เตือนมาแล้ว ถ้าเพราะชางหลิง เขาคิดว่า โหมวยู่อาจจะทำเองก็ได้……

ช่วงเวลานี้ยาวนานมาก ใครก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าโหมวยู่จะทำอะไรกับพวกเขา

เจสันเหลือบไปมองโม่โม่ ในที่สุดก็เห็นว่าเรื่องนี้รุนแรงแค่ไหน

เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่เข้าไปยุ่งกับโม่โม่ผู้หญิงคนนี้ ถ้ารู้ว่าเธอเป็นคนบ้าขนาดนี้ เขาก็ไม่ควรช่วยเธอเลย ถ้าชางหลิงตายแล้วก็ยังดี หล่อนยังไม่ตาย ความรับผิดชอบทุกอย่าง เขาก็ต้องแบกรับกับเธอไปด้วย

ฉู่ฉือยังคงยืนหน้าประตู เจสันครุ่นคิดอยู่นานมาก ในที่สุดก็ตัดสินใจได้

ในตอนที่ฉู่ฉือสนใจโม่โม่อยู่ เจสันก็ลุกขึ้นมาช้าๆ โครงร่างเขากำยำ ฉู่ฉือที่เป็นคนเอเชียไม่น่าจะเป็นคู่มือเขาได้

ในตอนนี้เอง เจสันก็จ้องไปที่ช่องโหว่ของประตู พุ่งไปทางฉู่ฉืออย่างสุดกำลัง

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

Status: Ongoing

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท