หลังจากที่คาบเรียนของวันนี้จบลง วอร์เด็นก็เสนอตัวเพื่อช่วยปีเตอร์ฝึกซ้อมอีกครั้ง โดยเฉพาะตั้งแต่วันพรุ่งนี้ทั้งสองคนจะต้องอยู่ในคาบเรียนการต่อสู้ด้วยกัน ซึ่งก็คือคาบเรียนทักษะพื้นฐาน
“เฮ้ นายอยากจะมากับเราไหม” ปีเตอร์ถาม
“ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากรบกวนพวกนาย แล้วฉันก็คงช่วยอะไรไม่ได้มากด้วย” ควินน์ตอบ
ปีเตอร์รู้สึกดีใจ ดูเหมือนว่าทั้งกลุ่มจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ไม่มีความตึงเครียดระหว่างคนทั้งสามและปีเตอร์ก็คาดหวังว่ามันจะเป็นเช่นนี้ไปตลอด
ทันใดนั้นที่ควินน์เดินออกไป วอร์เด็นและปีเตอร์ก็ถูกทิ้งไว้ภายในห้อง จากนั้นวอร์เด็นก็เอ่ยถามคำถามกับปีเตอร์
“เฮ้ นายเคยเห็นควินน์ไปเที่ยวเล่นกับผู้หญิงช่วงหลังๆนี้ไหม?” วอร์เด็นถาม
“มาคิดๆดูแล้ว ฉันก็เห็นเขากับผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากห้องสมุด เธอเป็นคนๆเดียวกันกับที่ใช้ธนูทำการทดสอบในวันนั้น”
หลังจากที่ปีเตอร์ตอบคำถาม เสี้ยววินาทีนั้น ปีเตอร์ก็รู้สึกว่าเขาเห็นสีหน้าของวอร์เด็นเปลี่ยนไป แต่เมื่อปีเตอร์กระพริบตาแล้วมองอีกครั้ง วอร์เด็นก็ยังดูเหมือนปกติดี
“บางทีเขาอาจจะมีเเฟนสาวน่ารักๆไปแล้วก็ได้นะ” วอร์เด็นพูดแล้วหัวเราะ
****
แน่นอน ควินน์ตัดสินใจที่จะทิ้งสองคนนั้น เพราะเขาวางแผนที่จะมาเจอกับเรย์ร่าไว้ก่อนแล้ว พวกเขาทั้งคู่นัดพบกันที่หน้าประตูโรงเรียน แต่ก่อนที่ทั้งสองคนจะได้เจอกัน ควินน์ก็ตัดสินใจหยุดที่ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์
แม้ว่าบทเรียนส่วนใหญ่ในโรงเรียนเตรียมทหาร จะเกี่ยวของกับการต่อสู้และวิธีใช้เทคโนโลยี แต่วิทยาศาสตร์ก็ยังคงเป็นวิชาสำคัญ เพราะนักวิทยาศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ค้นพบวิธีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ทั้งหมดในโลกมาจนถึงทุกวันนี้
ดังนั้นนักเรียนทุกๆคนจำเป็นต้องเรียนวิชาวิทยศาสตร์ตลอดระยะเวลาการเรียนของที่นี่ ด้วยความหวังว่าพวกเขาจะใช้ความรู้นี้ต่อเนื่องในอนาคต
ห้องเรียนนั้นว่างเปล่าในวันนี้และอุปกรณ์สำคัญก็ถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของ
แต่ควินน์ไม่ได้มองหาอะไรที่มันซับซ้อนเกินไป ทั้งหมดที่เขาต้องการคือหลอดทดลองและจุกเล็กๆ หลังจากที่ค้นหาไปทั่วห้อง สักพักเขาก็พบว่าหลอดทดลองพวกนั้นถูกเก็บไว้ที่ไหน เขาจึงหยิบเอาหลอดทดลองมาทั้งหมด 5 หลอด
แม้ว่ามันจะมีจำนวนเยอะ แต่ถ้าเขาเอาหลอดทดลองไปมากเกินก็จะน่าสงสัย และตัวควินน์เองก็ไม่สามารถพกมันได้มากกว่าห้าหลอด โดยที่ไม่ต้องกังวลว่ามันจะแตกหรือเปล่า
ควินน์ยัดหลอดทดลองทั้ง 5 หลอด ลงในกระเป๋าสะพายข้างที่เขาถือมาและห่อมันไว้ในเสื้อเชิ้ตซึ่งหยิบออกมาจากห้องของเขา
ปัจจุบันควินน์มีค่า Exp ทั้งหมด 60/200 จนกว่าเลเวลของเขาจะอัพ 50 Exp นั้นได้รับมาจากภารกิจครั้งล่าสุดและเขาก็ได้รับอีก 10 Exp มาจากภารกิจประจำวัน
จนถึงตอนนี้ ในแต่ละครั้งที่เลเวลอัพ เขาจะได้รับ 1 แต้มคุณสมบัติและ 5 แต้มสำหรับ HP แม้ว่าควินน์จะแข็งแกร่งขึ้นกับเรื่องนี้ มันก็ไม่ใช่วิธีที่เร็วที่สุดสำหรับเขาในการพัฒนาความแข็งแกร่ง
ควินน์ตะหนักว่าระบบ ได้มอบโอกาสให้เขาได้รับแต้มคุณสมบัติเป็นครั้งที่สอง ตราบใดที่เขาดื่มเลือดของเหยื่อเข้าไป แต่เมื่อเขาดื่มเลือดของเรย์ร่าเขาก็ยังได้รับแต้มสถานะอยู่ นี่จึงเป็นสิ่งที่ควินน์ต้องการจะทดสอบในวันนี้
นี่เป็นเวลา 6 โมงเย็นและพระอาทิตย์เพิ่งจะตกดิน หมายความว่าควินน์ไม่ได้รับผลกระทบของแสงอาทิตย์ในตอนนี้ ตามแผนที่วางไว้ เรย์ร่ายืนอยู่ตรงนั้นและรอเขาอยู่ที่ประตูพร้อมกับธนูที่อยู่ด้านหลังของเธอ
นักเรียนคนอื่นๆที่ใช้อาวุธมักจะพกติดตัวแทบตลอดเวลา มีความเป็นไปได้ที่จะถูกโจมตีหรือเป็นสัตว์ร้ายที่มักหลบหนีออกมาจากประตูมิติ
หลังจากที่ทั้งสองคนได้พบกัน พวกเขาก็ตัดสินใจเดินไปที่สวนสาธารณะใกล้ๆซึ่งอยู่ระหว่างร้านสะดวกซื้อและโรงเรียน จากนั้นทั้งคู่ก็เสี่ยงออกจากถนนเข้าไปในป่าที่อยู่ด้านหลังพวกเขา โดยที่ไม่มีใครกล้าจะเข้ามาในส่วนนี้และยากมากที่จะถูกใครพบเห็น
“แล้ว เราจะทำมันเลยไหม?” เรย์ร่าพูดด้วยความตื่นเต้น
ควินน์ก็ยังคงคิดว่ามันแปลก แทนที่จะกลัวกับสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เรย์ร่ากลับต่างออกไป
“ก็ได้ หลับตาสิ” ควินน์พูด
เรย์ร่าหลับตาด้วยความพร้อม เธอยังคงจำความรู้สึกที่น่าพึงพอใจนั้นได้จากคราวก่อน และเธอรอแทบไม่ไหวที่จะรู้สึกเช่นนั้นอีกครั้ง แม้ว่าเธอจะประหม่าเล็กน้อยเมื่อนึกถึงริมฝีปากของควินน์บนคอของเธอ
ทันใดนั้น เธอกลับรู้สึกถึงหนามเล็กๆทิ่มเข้ามาที่แขน
เรย์ร่าลืมตาขึ้นมาแล้วสังเกตเห็นว่ามีเข็มฉีดยาปักอยู่
“อะไร? เธอคงไม่ได้คิดว่าฉันจะกัดเธอใช่ไหม?”
แก้มของเรย์ร่าแดงขั้นมาทันที ถ้าไม่ใช่ว่าเข็มนั้นทิ่มเธออยู่ เธอคงจะลองเตะควินน์ออกไปไกลๆ
เมื่อเข็มฉีดยาเต็มแล้ว ควินน์ก็พ่นใส่ในหลอดทดลองหนึ่งหลอดที่เขาพกมา
“ไม่เป็นไรนะ ถ้าฉันต้องการอีกหลอดให้เต็ม” ควินน์ถาม
เรย์ร่าไม่ได้พูดอะไรและยื่นแขนของเธอออกมา เธอยังคงรู้สึกอายเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
เมื่อควินน์เติมใส่หลอดทดลองทั้งสองจนเต็ม เขาก็เก็บหลอดทดลองที่ใส่เลือดหนึ่งหลอดไว้ในกระเป๋า ขณะที่ถืออีกหนึ่งหลอดไว้
“ตรวจสอบ”
[ เลือดของเรย์ร่า มอลโลว ]
[ กรุ๊ปเลือด A+ ]
ควินน์จึงมองไปที่เรย์ร่าเพื่อใช้สกิลตรวจสอบของเขาอีกครั้ง
[ Name (ชื่อ) : เรย์ร่า มอลโลว ]
[ Race (เผ่าพันธุ์) : มนุษย์ ]
[ Ability (ทักษะและความสามารถ) : (Telekinesis)การใช้พลังจิตควบคุมวัตถุระยะไกล ]
[ HP (พลังชีวิต) : 12/12 ]
[ Blood Type (กรุ๊ปเลือด) : A+ ]
มันเป็นอย่างที่ควินน์คิด เมื่อใช้สกิลตรวจสอบกับเลือด มันจะปรากฏให้เขาเห็นเพียงกรุ๊ปเลือดและใครเป็นเจ้าของ เหมือนกับตอนที่อยู่หอประชุม แต่ถ้าคนๆนั้นอยู่เบื้องหน้า มันจะเปิดเผยทักษะทั้งหมดของเขา HP รวมไปถึงกรุ๊ปเลือดเช่นกัน
บางส่วนของรอยเลือดที่อยู่ในหอประชุมนั่นเป็นเครื่องหมายคำถามในใจของควินน์ ซึ่งควินน์อาจจะเคยเผชิญหน้ากับคนๆนั้นมาก่อน หรือเขาใช้สกิลตรวจสอบคนๆนั้นไปก่อนแล้ว
ควินน์มองไปที่หลอดทดลองแล้วกลืนน้ำลาย เขาจึงดึงจุกด้านบนออกแล้วเริ่มดมกลิ่นของเลือด
“นายจะไม่ดื่มมันตอนนี้เลยใช่ไหม?” เรย์ร่าถาม
“ทำไมล่ะ ฉันก็อยากรู้ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงยังไง”
“ไม่รู้สิ ฉันรู้สึกว่ามันน่าอายล่ะมั้ง ฉันอธิบายไม่ถูก”
ควินน์ไม่สนใจเรย์ร่าและมองดูเลือดอีกครั้ง กลิ่นของมันค่อนข้างหอมหวานซึ่งแตกต่างจากที่เขาจำได้เมื่อคราวก่อน ทันใดนั้น ควินน์ก็ยกหลอดแล้วดื่มเลือดไปอึกเดียวราวกับเขาติดเหล้า
ขณะที่เลือดไหลลงคอ เขารู้สึกถึงความอบอุ่นซาบซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย เลือดก็หวานอย่างน่าประหลาดใจมากกว่าเป็นโลหะ ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงเผ่าพันธุ์ได้เปลี่ยนการรับรู้กลิ่นและรสชาติของเขาไปแล้ว
[ HP ของคุณเต็มแล้ว]
[ เลือดไม่ส่งผลใดๆ ]
[ เลือดของบุคคลนี้ถูกใช้ไปแล้ว ]
[ ไม่ได้รับแต้มสถานะ ]
ควินน์รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นข้อมูลที่เขาได้รับ เลือดครั้งที่แล้วดูเหมือนจะช่วยฟื้นฟูร่างกายของเขา ตัดสินได้จากข้อความ ถ้าหากควินน์ได้รับบาดเจ็บเลือดของเรย์ร่าจะทำให้เขาฟื้น HP ได้
แต่ข้อความที่สอง คือสิ่งที่เขาสนใจเป็นอย่างมาก ระบบกล่าวว่าเขาจะไม่ได้รับค่าสถานะใดๆเพราะเขาดื่มเลือดนี้มาก่อน นั่นหมายความว่าตราบใดที่เป็นเลือดของใครสักคนที่เขาไม่เคยดื่มมาก่อน เขาจะสามารถได้รับค่าสถานะพิเศษเพิ่มเติมได้
ควินน์ยิ้มให้กับความคิดนี้ แน่นอนว่านี่เป็นเพียงทฤษฎีของเขา แต่ควินน์ก็ต้องการที่จะทดสอบมันในทันที
“ฉันเดาว่าทุกอย่างที่นายทดสอบมันใช้การได้ ดูจากรอยยิ้มที่น่าขนลุกและทุกๆอย่าง” เรย์ร่าพูด
“ถ้ามีเลือดใครอีกสักคน ฉันก็จะทดสอบมันได้”
ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงคนอื่นๆอีกสองคนเดินเข้ามาในป่าจากสนามกีฬา ควินน์และเรย์ร่ารีบก้มลงและซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ทันที
จากนั้นพวกเขาก็เห็นนักเรียนสองคนกำลังเดินเข้ามาในป่า
“ให้เครดิตของแกมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้น ฉันจะขุดหลุมฝังศพแกที่นี่และจะไม่มีใครเจอศพของแกอีกเลย” เสียงของเด็กผู้ชายดังขึ้น
ควินน์จำเสียงได้ทันที นั่นคือไรย์ลี่ ดูเหมือนว่าเขายังไม่ได้เรียนรู้บทเรียนของเขาและยังคงใช้วิธีสกปรกเช่นเดิม
จากนั้นควินน์ก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าของเขาและหยิบหน้ากากที่เขาซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ ครั้งล่าสุด เขาปล่อยไรย์ลี่ไปโดยไม่ได้รับเลือดมาจากเขา และตอนนี้เขารู้สึกราวกับมันเป็นการศูนย์เปล่า ทว่าคราวนี้เขาจะไม่ปล่อยให้ไรย์ลี่ไปอีก