ขณะที่ควินน์จ้องมองชายหนุ่มผมบลอนด์อย่างขะมักเขม่น เขาสังเกตว่าหลายสิ่งที่เขาอ่านในนิยายแฟนตาซี ได้ชี้ให้เห็นถึงบุคลิกลักษณะที่ตรงกันกับชายผู้น่าจะเป็นแวมไพร์คนนี้ ผิวของเขาขาวซีดจนน่าตกใจ แต่กลับดูงดงามได้ด้วยดวงตาคู่สีแดงคู่นั้น ทว่าไม่ใช่แค่เรื่องลักษณะภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ชายหนุ่มในวิดีโอยังกล่าวด้วยว่า ควินน์นั้นเป็นพวกเดียวกันกับเขา
หากควินน์ทำความเข้าใจความหมายภายใต้คำพูดของชายผู้เป็นแวมไพร์กล่าว แม้ว่าเขาจะพูดจาแปลกๆไปบ้าง เพราะความจริงเขานั้นไม่รู้ว่าเวลามันผ่านนานไปแค่ไหน มันคงหมายความว่าวีดีโอนี้คงถูกสร้างขึ้นมานานมากแล้ว ซึ่งชายหนุ่มในคลิปวีดีโอนี้อาจจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?
แต่ตอนนี้ ควินน์ต้องเลี่ยงข้อสงสัยในหัวทุกข้อของเขาออกไป เนื่องจากไม่มีอะไรที่จะยืนยันได้
คลิปวิดีโอยังคงดำเนินต่อไปและชายผมบลอนด์ก็เริ่มพูดอีกครั้ง
[ “ถึงใครก็ตาม วีดีโอที่ปรากฏขึ้นนี้ เพื่อให้ฉันสาธิตถึงเซ็ตสกิลการต่อสู้ด้วยมือเปล่าต่างๆ ในเลเวลของเธอที่สามารถปฏิบัติตามได้ ทักษะและความสามารถของเราจะใช้งานได้ดีที่สุดสำหรับอาวุธที่คลุมไปทั่วทั้งมือ” ]
จากนั้น ชายหนุ่มก็เริ่มแสดงท่าทางการต่อสู้
[ “ฉันจะแนะนำสกิลการเคลื่อนที่ขั้นพื้นฐานให้สองเซ็ต ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเธอว่าจะเรียนรู้มันและปรับใช้มันในการต่อสู้ยังไง ถ้าเธอลืม เธอสามารถจะเปิดระบบของเธอดูได้ตลอดเวลา เพื่อศึกษาวิดีโอนี้อีกครั้ง” ]
[ “ท่าแรก คือการเคลื่อนที่ในรูปแบบตั้งรับ ฉันเรียกมันว่า ‘ก้าวพริบตา’ การทำท่านี้ เธอจะต้องมีค่าสถานะความเร็วอย่างน้อย 15 แต้ม” ]
ชายคนนี้จึงดำเนินการขั้นตอนในท่าก้าวพริบตา เขาหมอบลงและเคลื่อนที่ตัวเองไปยังมุมหนึ่งของห้องทันที ในเวลาเดียวกัน ภาพติดตาของเขาก็ปรากฏขึ้น ณ จุดเดิมที่เคยยืนอยู่
[ “สกิลที่ใช้อยู่ตอนนี้ ทำให้เสียพลังงานไปเยอะมาก ดังนั้นถ้าหากเธอมีแต้มความเร็วพอจะใช้มัน เธอจะต้องระวังอย่าให้ตัวเองเหนื่อยจนเกินไป ฉันจะใช้มันก็ต่อเมื่อหลบหลีกการโจมตีหรือพุ่งเข้าไปปะทะ โปรดจำไว้ว่า แม้การเคลื่อนที่นี้ยากที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและรวดเร็วแค่ไหน แต่เธอก็เคลื่อนที่ได้ไกลสุดในระยะเพียง 5 เมตรเท่านั้น” ]
เมื่อมองไปที่การเคลื่อนที่นั้น ควินน์รับรู้ได้ทันทีว่าท่านี้มันมีประโยชน์มากขนาดไหน ในการต่อสู้กับลูปครั้งล่าสุด เขาอาจจะหลีกเลี่ยงการปะทะเหล่านั้นได้ในวินาทีสุดท้าย แต่สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือควินน์ไม่มีค่าความเร็วมากพอจะฝึกฝนมัน
[ “สกิลต่อไปที่ฉันจะแสดงให้ดูคือ ท่าอัดกระแทก ” ]
อีกครั้งที่ชายคนนี้ปรับท่าทางการต่อสู้ เขายกเท้าขวาขึ้นมาแล้วกระทืบลงไปบนพื้น ขณะที่เขาดึงมือซ้ายกลับแล้วผลักมือขวาออกไปเต็มกำลัง ทั้งหมดคือการเคลื่อนไหวอย่างลื่นไหลภายในครั้งเดียว เพียงแค่ดูวีดีโอ ควินน์ก็สามารถเห็นได้ ว่าอากาศนั้นสั่นไหวอยู่เล็กน้อย
[ “เจ๋งใช่ไหมล่ะ?” ] ชายหนุ่มเอ่ยด้วยรอยยิ้ม [ “สำหรับสกิลนี้เธอจะต้องมีค่าความแข็งแกร่งอย่างน้อย 15 แต้มเช่นกัน นี่คือทั้งหมดสำหรับวันนี้ เมื่อเธอพร้อม หลักสูตรการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเซ็ตถัดไปจะปลดล็อคให้กับเธอทันที ถ้าเธอต้องการให้วิดีโอช้าลงและมีรายละเอียดมากขึ้น เวอรชันเหล่านั้นจะบันทึกอยู่ในระบบของเธอ ขอให้โชคดีสหายของฉัน และฉันหวังว่าเธอมีโชคมากที่สุด” ]
หลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบ วีดีโอก็จบลงในทันที เมื่อควินน์เปิดระบบของตัวเองดู ตอนนี้มีแท็บพิเศษที่ระบุถึงหลักสูตรการสอน และในนั้นมีวิดีโออยู่สองสกิลที่เพิ่งปรากฏให้เห็นไป เมื่อเขาดูวิดีโออีกครั้ง มันก็เป็นอย่างที่ชายคนนั้นได้กล่าวไว้
วีดีโอของชายหนุ่มเวอร์ชันใช้สกิลช้าลงถูกบันทึกเอาไว้เมื่อไม่นานมานี้ มีคำอธิบายอย่างละเอียดถึงวิธีการใช้งานสกิลต่างๆ รวมไปถึงสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำ
ควินน์อดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร ถ้อยคำที่เขาพูดบ่งบอกว่าเขารู้เกี่ยวกับระบบอย่างกระจ่าง นั่นหมายความว่าเขาเป็นผู้สร้างตำราที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้เขาใช่หรือเปล่า?
มันเป็นเรื่องยากสำหรับควินน์ที่จะจดจำการพบเจอใครสักคนเหมือนกับชายในวีดีโอ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใบหน้าของพ่อแม่ตัวเองเป็นยังไง
ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร เขาพอใจที่ระบบเริ่มช่วยเหลือเขามากขึ้น เขารู้สึกว่าระบบของเขาในตอนแรก ทำให้เขามีช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซึ่งมอบภารกิจดื่มเลือดและข้อเสียอื่นๆอีกมาก เช่น ทำให้ค่าสถานะของเขาลดลงครึ่งหนึ่งขณะที่อยู่กลางแสงแดด
แต่ตอนนี้ ควินน์เริ่มรู้สึกมีความสุขขึ้นจริงๆ ที่เขามีระบบมากกว่าที่เคย
ควินน์เปิดดูวีดีโอท่าอัดกระแทกทันที ตราบใดที่เขาสวมถุงมืออสูร ในทางหลักการเขามีความแข็งแกร่งมากกว่า 15 ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่านั่นนับถุงมืออสูรด้วยหรือเปล่า แต่ไม่มีอะไรเสียหายถ้าเขาจะลองดู
ทว่าในขณะที่ควินน์กำลังดูวีดีโออยู่ อาจารย์ลีโอก็เดินเข้ามาใกล้เขา
“ควินน์ ฉันเกรงว่าฉันจะมีข่าวร้าย” ลีโอกล่าว ทันใดนั้นควินน์ก็สังเกตเห็นว่ามีทหารสองคนยืนอยู่ด้านหลัง
“ฉันเกรงว่าเธอจะต้องตามชายเหล่านี้ไป พวกเขามีคำถามอยู่สองสามข้อที่ต้องการจะถามเธอ ไม่ต้องกังวล ฉันก็จะไปด้วย”
ทหารยามคนหนึ่งจับควินน์เอาไว้ ขณะที่อีกคนจับลีโอ
“เฮ้ เกิดอะไรขึ้นตรงนั้น?” นักเรียนหลายคนพูดเมื่อสังเกตเห็นถึงความวุ่นวาย
“เขากำลังจะถูกพาไปที่ไหนสักแห่ง”
“นักเรียนทุกคน เราจะกลับอีกในอีกสักพัก” ลีโอกล่าว “โปรดศึกษาต่อไป และถ้าฉันพบว่าใครคนใดคนหนึ่งไม่กระตือรือร้นหรือทำผิดกฏ เธอคงจะรู้ดีถึงผลที่จะตามมา”
ครู่ต่อมา ทั้งสองคนถูกเทเลพอร์ตเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ไม่มีหน้าต่างและมีไฟอยู่ไม่กี่ดวง ภายในห้องมีโต๊ะตั้งอยู่ ที่โต๊ะมีหญิงสาวสวมผ้าคลุมปิดหน้านั่งกำลังนั่งคอย พร้อมกับเก้าอี้ว่างฝั่งตรงข้ามของเธอ ที่ยืนอยู่ด้านหลังของหญิงสาวคนนั้นคือชายที่มียศเป็นนายพลบนเสื้อของเขา
“กรุณานั่งลง” ท่านนายพลกล่าว
ควินน์ทำตามที่เขาบอกแล้วนั่งในเก้าอี้ที่ว่าง แต่ด้วยบรรยากาศในห้อง เขาอดไม่ได้เลยที่จะรู้สึกประหม่า
“ไม่ต้องห่วง ตราบใดที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล”