My Vampire System – ตอนที่ 78

ตอนที่ 78

ในคืนนั้น วอร์เด็นพยายามข่มตานอนเฉกเช่นทุกคืน

เขาจำไม่ได้เลยว่าครั้งสุดท้ายที่ได้นอนหลับฝันดีคือเมื่อไหร่

บางคืนเขาก็นอนหลับฝันเป็นปกติเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ก็มีอยู่บ่อยครั้งที่จิตใต้สำนึกของเขาถูกส่งไปยังห้องแห่งความมืด โดยช่วงเวลานั้น จะไม่มีใครประจำเก้าอี้และไม่มีใครควบคุมอะไร

ซึ่งพักนี้มันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภายในห้องแห่งความมืด พวกเขาทั้งสามคนมักจะคุยกันในขณะที่ร่างกายกำลังพักผ่อน แต่วอร์เด็นค่อนข้างกังวลเมื่ออยู่ภายในห้องนี้

ยามที่เก้าอี้ว่างเปล่า ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม พวกเขาทั้งสามคนจะสามารถนั่งเก้าอี้ตัวนั้นและควบคุมร่างกายได้ สำหรับตอนนี้ วอร์เด็นมีหน้าที่เป็นผู้เฝ้าดูแล แต่นั่นเป็นเพียงเพราะเจ้าตัวเล็กอนุญาตให้เขาทำหน้าที่นี้เท่านั้น

ทันใดนั้น เขารู้สึกว่ามีแรงกระตุกที่แขนเล็กน้อย

“เฮ้ ไอ้หนู ตื่นได้แล้ว ดูเหมือนว่านายจะฝันร้ายนะ” เอียนพูด

เมื่อวอร์เด็นลืมตาขึ้น เขามองไปรอบๆและสังเกตเห็นว่าเขายังอยู่ในที่กำบังที่มืดสนิท

“โอ้ ขอโทษครับ ผมหวังว่าจะไม่สงเสียงดังจนเกินไป” วอร์เด็นตอบ

“ก็นะ บนดาวดวงนี้มันน่ากลัวเกินไป เด็กอย่างนายไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่ตัวด้วยคนเดียวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะงั้นอย่ากังวลไปเลย” เอียนกล่าว “คงไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าเราจะสลับกันดูลาดเลาสักหน่อย”

เอียนจึงสลับที่นั่งกับวอร์เด็น ในขณะที่เอียนนอนลงพื้นที่แข็งและน่าอึดอัด วอร์เด็นก็มองออกไปทางช่องว่างของชั้นหนังสือเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ต่อ

แทบจะทันทีทันใด ด้านหลังของวอร์เด็นก็ได้ยินเสียงกรนดังของเอียนขึ้นมา เพราะเขาหลับไปอย่างรวดเร็ว

‘เฮ้ วอร์เด็น ถ้าแกไม่จัดการเขาตอนนี้แล้วแกจะเจอประตูมิติได้ยังไง?’ ราเทนถาม ‘คริสตัลระดับสูงของนักผจญภัยมันมีประโยชน์กับพวกเรามาก เพราะไม่มีใครรู้แน่ๆว่าเราเป็นคงลงมือ แกก็เห็นๆอยู่ว่ามันสะบักสะบอมขนาดไหน และตอนนี้เราก็มีพลังแล้ว มันง่ายมากเลยที่จะกำจัดหมอนี่ให้มันจบๆไป’

‘ในขณะที่ฉันยังอยู่ตรงนี้ จะไม่มีใครต้องเจ็บตัวทั้งนั้น’ วอร์เด็นตอบกลับด้วยความฉุนเฉียว

‘ตามใจ แต่ถ้าวันหนึ่งแกมีปัญหา ฉันก็จะไม่ออกมาช่วยแกอีก และถ้าเจ้าตัวเล็กเห็นว่าแกทำหน้าที่ของแกได้แย่ล่ะก็ ฉันจะเข้ามารับหน้าที่นั้นแทน แล้วฉันจะไม่ปล่อยให้แกตัดสินใจอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว’

มันยากมากที่จะบอกได้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนเมื่อไม่มีอะไรทำเลย วอร์เด็นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาหลับไปนานเท่าไหร่เพราะท้องฟ้านั้นมืดมิดอยู่ตลอด เขาไม่มีทางรู้จริงๆ

หลังจากที่เฝ้าสังเกตการณ์ก็เหมือนว่ามันผ่านไปแล้วหนึ่งวัน จนในที่สุดเอียนก็ตื่นขึ้น ในขณะที่เขาดันตร่างขึ้นจากพื้น เขายังคงสะดุ้งด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับจับสีข้างของตัวเองไว้อย่างเฉียบพลัน

“ฉันบอกเลยนะ ว่าฉันรอที่จะกลับบ้านแทบไม่ไหวเลยล่ะ” เอียนกล่าว

วอร์เด็นหันไปมองเอียน และเห็นว่าเขาดูทุลักทุเลที่จะลุกขึ้นยืน เด็กหนุ่มจึงยื่นมือไปอีกครั้งเพื่อดึงชายวัยกลางคนขึ้นมา

แต่เมื่อเอียนลุกขึ้นจากพื้น ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดทันที ในรูหนึ่งที่เขาสร้างเอาไว้ สิ่งที่ได้เห็นคือดวงตาขนาดใหญ่ดวงหนึ่งที่กำลังจ้องมองเข้ามา

เอียนลดมือลงไปที่เอวของเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะคว้ากริชขนาดเล็กปาใส่ดวงตาของสัตว์อสูรดวงนั้น โดยใช้พละกำลังและค่าสถานะพิเศษจากอุปกรณ์ที่เขาสวมใส่ทั้งหมด กริชได้พุ่งตรงเข้าไปจัดการกับดวงตาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว และเมื่อเขาทำท่าทางดึงมือกลับ กริชก็วกกลับมาอยู่ในมือของเขา

“รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า!” เอียนตะโกนขณะที่เขาเตะชั้นหนังสือชั้นหนึ่งจนล้มลง เมื่อทั้งสองคนปีนออกจากชั้นหนังสือที่ระเนระนาด พวกเขาก็ได้เห็นว่าตัวเองถูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว

รอบๆห้องสมุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพดานหรือพนังห้อง มีตัวประหลาดที่มีลักษณะคล้ายหอยทากอยู่หลายตัวในทุกหนทุกแห่ง พวกหอยทากมีดวงตาขนาดใหญ่เพียงดวงเดียวบนหัวและมีหนวดที่ยึกยือมากมายอยู่ใต้ท้องของพวกมัน

“ฉันคิดว่านายคอยระวังให้เสียอีก?” เอียนพูด

“ผมระวังอยู่ แต่ช่องมันเล็กนิดเดียว ผมก็ไม่เห็นพวกมันสิ”

วอร์เด็นลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้น ก็เป็นเรื่องยากมากที่เขาจะมองเห็นสัตว์อสูรเหล่านี้ เพราะพวกมันสามารถไต่ไปบนกำแพงและเกาะหนึบอยู่ตามเพดานได้หมด

พวกเขาทั้งสองคนถูกล้อมเอาไว้อย่างสมบูรณ์ ไม่เพียงแค่รอบๆตัว แต่ยังมีพวกมันอยู่ข้างบนด้วย เจ้าสิ่งมีชีวิตคล้ายหอยทากจำนวนหนึ่งพากันทิ้งตัวลงมาจากบนเพดาน แล้วในจังหวะนั้น พวกมันก็ปล่อยหนวดทั้งหมดพุ่งออกมาอย่างพร้อมเพรียง

มีการโจมตีมากมายในคราวเดียว เอียนจึงประกบมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน ส่งผลให้สิ่งของต่างๆภายในห้องสมุดเริ่มสั่นสะเทือนขึ้น สิ่งของเหล่านั้นขยับเขยื้อนอย่างช้าๆและกำลังเข้ามาหาเขาราวกับถูกดึงดูด ด้วยพลังบางอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้

จากนั้นเศษโลหะจากทั่วทุกสารทิศก็พุ่งเข้ามาหาทั้งคู่ด้วยความเร็วที่น่าตกใจ “อยู่ใกล้ๆฉันไว้ไอ้หนู!” เอียนออกคำสั่งและวอร์เด็นก็ทำตามที่เขาบอก

ชิ้นส่วนโลหะทั่วทั้งห้องสมุด รวมไปถึงอีกสองสามชิ้นสุดท้าย ได้พุ่งตรงมาที่พวกเขาทั้งสองคน จนกลายเป็นเกราะที่มีลักษณะเป็นทรงกลมรอบล้อมพวกเขาเอาไว้

พวกสัตว์อสูรจากบนเพดานทิ้งตัวลงมาโดนเกราะบอลโลหะ แต่ไม่มีความเสียหายใดๆเกิดขึ้น เนื่องจากพวกมันลื่นไถลออกไป แต่หนวดของเหล่าหอยทากที่อยู่ด้านนอกเริ่มทำการโจมตี และกระแทกเกราะบอลโลหะจนเกิดเสียปะทะกึกก้องอยู่ภายใน ซึ่งพวกมันยังกระหน่ำโจมตีมาไม่หยุด แรงฟาดเหล่านั้นราวกับใครบางคนกำลังเหวี่ยงไม้เพื่อทุบทำลาย แล้วมันก็ขึ้นอยู่กับเวลาว่าเกราะนี้จะแตกเมื่อไหร่

“ตีกลับ!”

ในจังหวะนั้น เกราะบอลโลหะก็ระเบิดออกด้วยแรงมหาศาล ด้วยวิธีการที่นำโลหะมากมายมารวมกัน ในตอนนี้มันจึงถูกผลักสวนกลับไปทั้งหมด เศษเหล็กชิ้นเล็กชิ้นน้อยถูกดีดตัวอย่างรุนแรง จนส่งผลให้ร่างกายของสัตว์อสูรเหล่านั้นได้รับบาดเจ็บจากการถูกเจาะทะลุเข้าไปหลายจุด ซึ่งพวกมันทั้งหมดก็ตายในทันทีเพราะพุ่งผ่านสมองและหัวใจ

“ดีนะ ที่ดาวดวงนี้มันเต็มไปด้วยเศษเหล็ก” เอียนกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา “เร็วเข้า อย่าให้คริสตัลพวกนี้สูญเปล่า”

ทั้งสองคนจึงเดินไปยังซากหอยทากที่ตายเกลื่อนและเริ่มขุดคุ้ยคริสตัลทั้งหมดออกมา ในตอนนั้น ที่หอยทากมากมายล้อมพวกเขาเอาไว้ วอร์เด็นพยายามทำการเปิดใช้งานทักษะธาตุดินที่เขาได้รับมาจากปีเตอร์เพื่อโจมตีสัตว์อสูรตัวหนึ่ง แต่เขาโชคไม่ดีเลย เพราะมันใช้การไม่ได้อีก

นั่นคงหมายความว่า เขาอยู่ดาวเคราะห์ดวงนี้มาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังมีทักษะพิเศษของเอียนที่มีประโยชน์อยู่ การสัมผัสชายวัยกลางคนในห้องสมุดได้รีเซ็ตกรอบเวลาไป ดังนั้น แม้ว่าเอียนจะไม่สามารถต่อสู้ได้ หรือว่ามีเหตุผลที่ทำให้ต้องแยกจากกัน วอร์เด็นก็ยังใช้ทักษะพิเศษนี้ได้อีกหนึ่งวันเต็มๆ

หลังจากที่รวบรวมคริสตัลมาทั้งหมดแล้ว เอียนก็มอบมันให้กับวอร์เด็นครึ่งหนึ่ง

“เอ้า รับนี่ไป”

“ผมรับไว้ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย”

“ดูสิ มันเป็นเพียงคริสตัลระดับทั่วๆไปเท่านั้นเอง ฉันมีเยอะแล้วในที่พักของฉัน

“…ครับ” วอร์เด็นตอบ

แม้ว่าวอร์เด็นจะตอบตกลง แต่เขาก็ไม่มีพื้นที่ๆจะใส่คริสตัลได้ทั้งหมด เขาไม่ได้นำกระเป๋าและถุงใส่สิ่งของติดมาด้วย

ที่ผ่านมานั้น มันคือการมาเยือนอย่างไม่คาดคิด สำหรับในตอนนี้ เอียนได้บอกกับเขาว่าจะเก็บมันเอาไว้ให้จนกว่าจะได้กลับโลก

ในที่สุด มันก็ถึงเวลาที่พวกเขาต้องออกจากห้องสมุดและตามหาประตูมิติอีกครั้ง ทั้งสองคนจึงตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะไม่ดึงดูดความสนใจจากสัตว์อสูรประเภทไหนอีก ซึ่งระหว่างทางเดิน นับว่าพวกเขานั้นโชคดีที่พวกเขาไม่เจอกับอันตรายใดๆ

และสุดท้าย ทั้งสองคนก็เห็นอะไรบางอย่าง

“นายเห็นนั่นไหม? ถ้าหากฉันจะติดตั้งเครื่องวาร์ปไว้ที่ไหนสักที่ ฉันจะเอามันไว้ที่นั่น” เอียนชี้ไปที่อาคารที่มีลักษณะเป็นโดมขนาดใหญ่

“มันคืออะไร?” วอร์เด็นถาม “ดูเหมือนศูนย์ฝึกซ้อมเลย”

“น่าจะใช่นะ และดูเหมือนว่าจะถูกสร้างขึ้นมาอย่างดีเลย เพราะสัตว์อสูรแถวๆนั้นทำไม่ได้แม้แต่รอยขีดข่วน อีกทั้งยังใหญ่พอที่จะมีฐานลับอยู่ใต้ดิน”

ทั้งสองคนจึงรีบรุดไปข้างหน้า โดยที่จุดหมายต่อไปคือศูนย์ฝึกซ้อม

My Vampire System

My Vampire System

Status: Ongoing

เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ ดัลกิที่ชั่วร้าย และเมื่อพวกเขานั้นต้องการความช่วยเหลือที่มากขึ้น มนุษย์กลุ่มหนึ่งจึงต้องออกโรง

พวกเขาเหล่านั้นซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมาเป็นเวลาหลายร้อยปี และพวกเขาก็เป็นผู้มีความสามารถพิเศษ

บางคนเลือกที่จะแบ่งปันความรู้ของพวกเขากับมนุษย์คนอื่นๆในโลก ด้วยความหวังว่าจะชนะสงครามครั้งนี้ ในขณะที่บางคน ยังคงเก็บซ่อนความสามารถไว้เพื่อตัวของเขาเอง

ควินน์สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปในสงคราม ทั้งบ้านและครอบครัวของเขา สิ่งเดียวที่เขาเหลือคือหนังสือเก่าๆเล่มหนึ่งที่เขาไม่สามารถจะเปิดมันได้

แต่เมื่อหนังสือเปิดออก ในที่สุดควินน์ก็ได้รับระบบซึ่งคอยมอบภารกิจต่างๆ ให้เขาทำ และสุดท้ายทั้งชีวิตของเขาก็ได้เปลี่ยนไป

ยิ่งเขาทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไหร่ เขาก็มีพลังมากขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งระบบได้มอบภารกิจหนึ่งให้แก่เขา และเขาไม่แน่ใจว่าเขาจะทำมันได้สำเร็จ

“ถึงเวลากินอาหารแล้ว!”

“คุณต้องดื่มเลือดมนุษย์ภายใน 24 ชั่วโมง”

“HP ของคุณจะลดลงเรื่อย ๆ จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น”

Show less 

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท