My Vampire System ตอนที่ 104 สกิลผสมผสาน
เข้าสู่ช่วงเย็นของวัน ซึ่งอีกไม่นานก็จะมืดสนิทแล้ว พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้น นักเรียนทุกคนจะได้รับอิสระอีกครั้งและทําสิ่งพวกเขาอยากทํา เพื่อชดเชยที่ไม่ได้ออกไปในเมืองหลวงมาหลายวัน
ด้วยเหตุนี้ ควินน์จึงตัดสินใจกลับไปที่ห้องของตัวเองอีกครั้งและคงต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมดเอาไว้ก่อน ขณะที่เขาเดินมาถึงโถงทางเดินในหอพัก เขาก็เห็นปีเตอร์นั่งหลับสนิทโดยพิงกําแพงห้องของพวกเขาอยู่ แต่เมื่อควินน์เดินผ่านเพื่อจะเข้าไปข้างใน เขาดันเหลือบไปเห็นปีเตอร์ที่ดูมีสภาพฟกช้ําและถูกทําร้ายเข้าพอดี
ไม่ใช่แค่นั้น แต่ดูเหมือนว่า กระจุกผมบนหนังศีรษะของปีเตอร์จะหายไปเป็นหย่อมๆ ด้วย
“เขายังถูกรังแกอยู่ใช่ไหม? ฉันสงสัยจริงๆว่าใครกันที่สั่งให้เขาทําแบบนี้ บางที เรย์ร่าอาจจะรู้อะไรมากกว่าฉันก็ได้” ควินน์คิดในใจก่อนก้าวเท้าเข้ามาในห้อง
เขายังไม่สามารถให้อภัยปีเตอร์ได้ และความจริง เขาไม่เคยคิดจะให้อภัยเลยด้วยซ้ํา แต่ถึงกระนั้น เขาก็อยากหยุดเหตุการณ์แบบนี้ ไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งการที่จะทําแบบนั้นได้เขาต้องหาให้พบว่าใครคือหัวหน้าและบงการเรื่องทั้งหมด 1
เมื่อควินน์เข้ามาให้ห้อง วอร์เดินก็นอนอยู่บนเตียงของเขาด้วยท่าทีสบายๆ
“ไง” ควินน์พูด “นายไปไหนมา? ก่อนหน้านี้ฉันกลับมาแล้ว แต่ก็ไม่มีใครอยู่”
“โอ้ นั่น..” วอร์เดินตอบ “ที่จริงแล้ว มีบางอย่างกวนใจฉันเกี่ยวกับเรื่องของปีเตอร์ เห็นได้ชัดว่ามีคนสั่งให้เขาทําแน่ๆ ใช่ไหม? และพวกนั้นก็จัดฉากให้มีคนมารับโทษแทนเขา แต่ในวันนี้ พอฉันพยายามสืบดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนๆนั้น กลับไม่มีใครรู้อะไรเลย ทุกคนเอาแต่พูดว่านายพลตุ๊กจัดการลงโทษชั้นปีที่สองคนนั้นแล้ว”
“ทําไมนายไม่ถามพวกนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งที่ไปไหนมาไหนด้วยกันกับปีเตอร์ล่ะ เจ้าพวกนั้นอาจจะรู้อะไรสักอย่างก็ได้”
“นั่นก็ใช่ ฉันวางแผนที่จะทําแบบนั้นในวันหยุด แต่เราต้องระวังหน่อย ถ้าลางสังหรณ์ของฉันถูกล่ะก็ นี่คงจะเกี่ยวข้องกับคนที่มีระดับ อย่างน้อยก็จ่าทหาร”
“อยากให้ฉันไปกับนายด้วยหรือเปล่า?” ควินน์ถาม
“ไม่เป็นไร ฉันคิดว่ามันจะดีที่สุด ถ้าเราแยกกันสืบเรื่องนี้ อีกอย่าง ถ้าฉันถูกจับได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกนั้นจะเล่นงานฉัน ขณะที่กับนายมันต่างกัน เอาเป็นว่า จนกว่าเราจะจัดการนาฬิกาของนายได้”
“ฉันรู้แล้ว!” ควินน์เอ่ยขึ้น พลางดีดนิ้วเสียงดังลั่น “ ทําไมนายไม่ไปถามพวกเรย์ร่าล่ะ ดูเหมือนว่าตอนที่เราไม่อยู่ ผู้หญิงสองคนนั้นจะไปเจอกับเพื่อนของปีเตอร์นะ”
ตอนนี้ใบหน้าของวอร์เด็น ไม่ได้รู้สึกยินดีปรีดาสักเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่ใช่ใบหน้าที่มีความกระอักกระอ่วนใจไปซะทีเดียว อย่างกับว่าเขาพยายามยิ้ม แต่ร่างกายของเขามันกลับสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง
“ควินน์ นายก็รู้จักฉันดี และฉันเข้ากับเธอไม่ได้?”
“ก็นะ นายก็รู้นี่ ว่าต้องเข้ากับเธอให้ได้ เพราะเราจะไปสํารวจนอกประตูมิติกันสัปดาห์หน้าแล้ว ใช้โอกาสนี้แก้ไขมิตรภาพของนายเร็วเข้า ฉันเสียเพื่อนไปแล้วคนหนึ่ง อย่าให้ฉันเลือกระหว่า งเธอกับนายเลยนะ วอร์เด็น”
วอร์เด็นจึงคว้าหมอนที่อยู่ข้างๆเขวี่ยงไปที่หน้าของควินน์
“ก็ได้ ฉันจะพยายามละกัน”
แล้วทั้งสองคนก็นอนลงที่เตียงของตัวเอง เพื่อนอนหลับพักผ่อน
“แกคงไม่คิดว่าจะลองเป็นเพื่อนกับยัยนั่นจริงๆใช่ไหม?” ราเทนถามขึ้นมา “แค่ฆ่าเธอทิ้งซะเขาก็ไม่ต้องเลือกใครอีก พวกเรานี่แหละคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา โอเค จบ ตกลงตามนี้
“ไปไกลๆเลย ฉันจะนอน”
เมื่อวอร์เดินคิดจะสืบเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น นั่นหมายความว่าควินน์จะเป็นอิสระและมุ่งหน้าไปที่ศูนย์เกม VR ในวันพรุ่งนี้ได้ แต่ก่อนที่เขาจะหลับไหล เขาตัดสินใจดูวิดีโอฝึกสอนที่เขาปลดล็อคแล้ว ในตอนที่เลื่อนขั้นถึงเลเวล 10
เป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มผมบลอนด์ปรากฏตัวขึ้นมา และดูเหมือนว่าเขากําลังอยู่ในโดโจ(โรงฝึกศิลปะป้องกันตัว)ประเภทหนึ่ง
[ “ขอแสดงความยินดีที่เลื่อนขั้นถึงเลเวล 10 แล้ว เอาล่ะ วิดีโอนี้ ไม่ใช่การเรียนรู้สกิลใหม่หรอกนะ แต่เราจะสร้างมันขึ้นมาเป็นของตัวเอง ตอนนี้ นายควรปลดล็อคสกิลโลหิตสาดกระเซ็นและสกิลอัดกระแทกเอาไว้ ถึงแม้โลหิตสาดกระเซ็นจะโจมตีได้หลายเป้าหมายแต่เพื่อสร้างความเสียหายต่อศัตรูให้ได้มากที่สุด นายต้องจัดการเจ้าพวกนั้นให้อยู่หมัด มันจะเป็นอะไรที่เจ๋งกว่ามากถ้านายผสานทั้งสองสกิลเข้าด้วยกัน ” ]
ชายผมบลอนด์ตั้งท่าสําหรับต่อสู้อีกครั้ง เขาแสดงขั้นตอนการโจมตีด้วยสกิลอัดกระแทกตามปกติ แต่ในจังหวะสุดท้าย ขณะที่สกิลอัดกระแทกกําลังพุ่งออกไป เขาทําการโจมตีต่อเนื่องด้วยสกิลโลหิตสาดกระเซ็น แทนที่มันจะสาดกระจายเป็นวงกว้างอย่างที่เคยเป็น มันกลับถูกบีบอัดให้เล็กลงและเส้นพลังงานสีแดงก็หนาขึ้น กระทั่งเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวภายในคลิปวิดีโอ
[ “กู๊ป” ] ชายผมบลอนด์อุทานออกมา [ “ดูเหมือนว่าฉันต้องซ่อมโรงฝึกซะแล้ว ท่านจะเรียกว่า “สกิลอัดกระเซ็น” ก็ได้ แต่ระวังให้ดีล่ะ เพราะการโจมตีนี้ไม่ใช่แค่ทําให้ค่าพลังงานของนายหมดเท่านั้น แต่ยังทําให้เลือดของนายหมดตัวด้วย อีกอย่าง สกิลอัดกระเซ็นยังใช้เวลาเตรียมพร้อมนานพอสมควร ดังนั้น มันอาจจะไม่เหมาะสมในทุกๆสถานการณ์เลยก็ว่าได้ แต่ประเด็นของมันก็คือ ถ้านายเปิดใช้งานสกิลโลหิตสาดกระเซ็นพร้อมกับทําการชกคู่ต่อสู้ หมัดของนายมันจะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่า ” ]
หลังจากดูและวิเคราะห์วิดีโอฝึกสอนอย่างถี่ถ้วนแล้ว ในที่สุดควินน์ก็หลับตาลง แล้วนอนหลับสนิท
วันต่อมา ในตอนที่พวกเขาลืมตาตื่น ควินน์ก็ได้รับการต้อนรับด้วยข้อความจากระบบของเขา
[ หลีกเลี่ยงแสงอาทิตย์เป็นเวลา 8 ชั่วโมงแล้ว ]
[10/100 Exp]
ควินน์ดีใจมาก เพราะหลังจากที่เขาวิวัฒนาการ ดูเหมือนว่าแต้ม Exp ทั้งหมดจะถูกรีเซ็ตใหม่เขาไม่ชอบความคิดที่ว่ามันยากแค่ไหนสําหรับการอัพเลเวลขึ้นไป หาก Exp ของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตลอดเวลา ในความเป็นจริง เรื่องยากๆแบบนี้แทบเป็นไปไม่ได้เลยในอนาคตข้างหน้า
เมื่อทั้งสองคนตื่นกันแล้ว พวกเขาต่างก็เตรียมตัวให้พร้อม จังหวะนั้นเอง ควินน์สังเกตเห็นบางอย่างขณะที่วอร์เด็นเปลี่ยนชุด
“เฮ้ วอร์เด็น นายไม่ได้ใช้อาวุธสัตว์อสูรหรืออะไรสักอย่างเลยเหรอ?” ควินน์ถาม
ตอนที่ออกไปในเมือง หากเกิดกรณีที่มีการทําร้ายร่างกาย คนอื่นๆมักจะพกอาวุธติดตัวไป ด้วย ควินน์เองก็เก็บอาวุธเอาไว้ชั่วคราวในมิติแห่งเงา
“จริงๆแล้ว ส่วนมากฉันชอบใช้พลังของธาตุต่างๆมากกว่า ซึ่งต้องเป็นประเภทที่ต่อกรกับอาวุธได้ดีด้วย แต่นายกพูดถูกนะ ฉันน่าจะเลือกไว้สักชิ้น เผื่อว่าฉันจะได้ทักษะดีๆที่มีประโยชน์มาใช้ด้วยกัน”
“งั้น ถ้านายจะลองดู มีอะไรที่นายถนัดที่สุดหรืออะไรที่นายต้องการไหม?”
“อืม…. ฉันคิดมาตลอดว่าพวกกริชหรือมีดสั้นก็เจ๋งดี แต่อาจจะต้องใช้เวลาสักพักกว่าฉันจะสร้างอาวุธสัตว์อสูรเป็นของตัวเองได้ ครอบครัวฉันไม่ชอบส่งเงินให้ เพราะพวกเขาคิดว่าฉันควรจะ หารายได้ทุกอย่างด้วยตัวของฉันเอง” วอร์เด็นพูดพลางหัวเราะ
ควินน์วางแผนจะสร้างอาวุธใหม่ให้กับวอร์เดินและเรย์ร่า พวกเขาทั้งสองคนช่วยเขามามากมาย และเขาอยากตอบแทนทั้งสองคน เรย์ร่าช่วยให้เขารู้อะไรมากขึ้นเกี่ยวกับแวมไพร์ ส่วนวอร์เดิน ก็ยอมเสี่ยงชีวิตตามเข้าไปช่วยเขาในโลกหลัง
นอกจากนี้ ควินน์ยังกังวลว่าแวมไพร์ตนอื่นๆหรือตัวอะไรสักอย่างจะเข้ามาทําร้ายพวกเขา ถ้าเป็นแบบนั้นจริง พวกมันอาจจะไล่ล่าคนรอบข้างของควินน์ เพราะงั้น มันก็ไม่เสียหายตรงไหนเพื่อ จะทําให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น
เมื่อทั้งสองคนออกมาจากห้องพักของตัวเอง ทั้งคู่สังเกตเห็นว่าปีเตอร์ยังคงนั่งพิงกําแพงอยู่ที่เดิม
“นายเขาไปในห้องและนอนก็ได้ในตอนที่เราไม่อยู่ เพื่อความแน่ใจ เมื่อเรากลับมา นายจะต้องออกไป” วอร์เด็นพูดกับปีเตอร์
ทั้งสองคนเดินออกมาเรื่อยๆ จนในที่สุดทั้งคู่ก็แยกทางกัน ควินน์มุ่งหน้าไปที่ห้องเกม VR ส่วนวอร์เด็น ค่อยๆเดินออกไปนอกบริเวณอาคาร
“แกนี่ใจดีชะมัด” ราเห็นพูดขึ้น
“เราไม่สามารถทําตัวแย่ไปกว่าไอ้พวกที่เราพยายามจะกําจัดมันหรอก”
“พูดถึงการกําจัดพอดีเลย นี่แหละคือโอกาสของแกแล้ว”
เอรินและเรย์ร่ายืนอยู่นอกประตู สองสาวไม่ได้อยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียนของทางกองทัพอีกแล้ว พวกเธอแต่งกายด้วยชุดลําลองสําหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ เรย์ร่าสวมเดรสสีแดงน่ารักๆในขณะที่เอรินแต่งกายด้วยเดรสที่ดูสง่างามกว่าเล็กน้อย มีดอกไม้สีขาวประดับอยู่ชายกระโปรงและด้านบนศีรษะของเธอ ก็คือหมวกขนาดใหญ่ที่สวมใส่ในฤดูร้อนเพื่อกันแดด
ทันที่ที่เรย์ร่าเห็นวอร์เด็น เธอหันหน้าหนีทันควัน แทบทุกครั้งที่ปฏิสัมพันธ์กับเขาในตอนที่ควินน์ไม่อยู่นั้นไม่ดีสักเท่าไหร่ แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่นะ ตานั่นไม่ได้กําลังเดินเข้ามาหาเราใช่ไหม?” เธอคิดในใจ
“เอาน่าวอร์เด็น นายทําแบบนี้ก็เพื่อควินน์ นายทําได้” วอร์เด็นคิด
ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนอยู่ในระยะที่ใกล้กันมาก
“คือฉัน… ฉัน”
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่วอร์เด็นพูดจาติดอ่าง แต่ไม่ใช่เพราะเขากลัว แต่เป็นเพราะราเทนกําลังตะโกนทุกสิ่งทุกอย่างรบกวนสมาธิอยู่ภายในหัวของเขา
“ฉันต้องการความช่วยเหลือจากเธอ!” เขาโพล่งออกมา
สีหน้าบนใบหน้าของเรย์ร่า คือสิ่งที่เธอไม่เคยทําที่ไหนมาก่อนเลย