ฟางเหยียนปล่อยแขนของจางฉี่เหา แล้วพูดว่า: “ฉันว่าคุณเข้าใจผิดแล้ว จางเจียวเจียวเป็นแม่ยายของฉัน เรื่องเธอก็เป็นเรื่องฉัน ถ้าหากคุณยังไร้เหตุผลขนาดนี้ รบเร้าโวยวาย คุณก็ไม่มีสิทธิ์เป็นผู้นำของตระกูลจางนี้”
คำพูดนี้เหมือนราวกับฟ้าร้อง! ระเบิดจนคนทั้งตระกูลจางลุกนั่งไม่ติดใจไม่สงบ!
ใบหน้าชราของจางฉี่เหาพังทลายทันที กลายเป็นรุนแรงหนักหนา นี่คือเขามีชีวิตมาตลอดชาตินี้ ใครก็ไม่กล้าพูดแบบนี้กับเขา คิดไม่ถึงวันนี้จะถูกชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าพูดแบบนี้
นี่เป็นเพียงหลานเขยของเขา กลับกล้าพูดคำพูดเนรคุณแบบนี้กับตัวเอง
ศักดิ์ศรีของจางฉี่เหา ถูกเหยียบย่ำอย่างสมบูรณ์แล้ว
เขากัดฟัน แล้วถามว่า:“แก! แกต้องการเป็นผู้นำของตระกูลจางของฉันเหรอ?”
ฟางเหยียนก็ไม่ได้ต้องการผู้นำของตระกูลจาง เขาเป็นคุณชายของตระกูลฟางในเจียงตู ถ้าหากพวกเขารู้แล้ว ทั้งตระกูลจางก็ต้องคารวะคาดหวัง ก้มลงกราบ ยิ่งไปกว่านั้น แค่ตระกูลจางที่เล็กๆ เขาจะให้ความสำคัญได้อย่างไร
บนใบหน้าของฟางเหยียนแสดงรอยยิ้มที่ดูถูก ต่อจากนั้นพูดว่า: “คุณท่าน ฉันคิดว่าพวกเราควรจะเคลียร์เรื่องที่จะจัดการให้ชัดเจนเถอะ? พวกเรามาก็เพื่อจัดการเรื่องที่จางซื่อตงลูกชายของคุณกล่าวหาภรรยาของฉัน! ไม่ใช่ว่าจะมาดูคุณแสดงอำนาจบารมีอย่างไม่มีความรู้ คุณจะแสดงอำนาจบารมี ไม่มีใครห้ามคุณ คุณก็กลับบ้านไปแสดง”
“แก!” จางฉี่เหาโกรธจนกัดฟัน เขาคาดไม่ถึงว่าฟางเหยียนกลับพูดอย่างเยือกเย็นได้ทะลุปรุโปร่งจนถึงแก่นแท้ขนาดนี้
แต่ตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมามองแววตาที่ทั่วหล้าต้องสยบคู่นั้นของฟางเหยียน เขาก็กลายเป็นว่าทำอะไรไม่ถูก ทำได้เพียงพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วพูดว่า: “ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็มาคุยเรื่องนี้กัน”
เดิมทีต้องการจะแสดงอำนาจบารมี กู้คืนบารมีของตระกูล ใครจะรู้กลับโดนฟางเหยียนบีบให้ตาย ยังพูดจาทิ่มแทงออกมาต่อหน้าเขา นี่เป็นหนึ่งครั้งในจำนวนไม่มากที่เขาก้มหัว และยังก้มหัวต่อหน้าคนรุ่นหลังมากมายขนาดนี้
จางซื่อข่ายและจางซื่อตงคนรุ่นหลังของเขารู้จักนิสัยใจคอของเขาดี ถึงแม้ว่าเขาจะทำผิดจริงๆ ก็ไม่มีทางยอมรับ และไม่มีทางก้มหัวให้ใคร คาดไม่ถึงว่าคุณท่านที่น่าเกรงขามมาแต่ไหนแต่ไร กลับก้มหัวแล้ว
เย่ชิงหยู่เดินไปที่ข้างกายของฟางเหยียน ยกมือขึ้นมาจับแขนของฟางเหยียนไว้ พูดว่า: “ฟางเหยียน มากเกินไปหรือเปล่า?” เธอเข้าใจนิสัยใจคอของคุณตา ก้มหัวอย่างกะทันหันไม่ใช่วิถีของเขา
ฟางเหยียนยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “ไม่เป็นไร พวกเราไม่ได้ผิด ใครก็รังแกไม่ได้ ถ้าไม่ผิด ก็โดนกล่าวหาว่าผิด มีเพียงแต่จะทำให้คนเรียกร้องมากขึ้น เธอวางใจได้ ทุกอย่างมอบให้กับฉัน”
แม้ว่าในใจของเย่ชิงหยู่จะรักตา แต่สิ่งที่ฟางเหยียนพูดมาก็ถูก ครึ่งปีมานี้ ตกเป็นเป้าหมายมาโดยตลอด ถูกตำหนิมาโดยตลอด เธอไม่ได้พูดอะไร ตอนแรกคิดว่าอดทนยอมอ่อนข้อให้จะทำให้คนเหล่านี้ค่อยๆหุบปาก ใครจะรู้ว่าว่าพวกเขากลับยิ่งแย่ลงไปอีก
ตอนนี้ดีแล้ว จางไห่เฟิงถูกชนจนขาหัก ยังโดนกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร นี่จะให้เธอชี้แจงข้อเท็จจริงได้อย่างไร!
“ไห่เฟิง เล่าเหตุการณ์ออกมา” จางฉี่เหามองไปที่จางไห่เฟิงที่นิ่งงันเป็นไก่นอนอยู่บนเตียงแล้วพูด
เมื่อจางไห่เฟิงได้ยินคำพูดของปู่ ก็ดึงสติกลับมาก่อน ต่อจากนั้นอืมคำหนึ่ง พยักหน้าพูดว่า: “ก็คือเธอ! เธอเป็นคนส่งคนขับมารถมาชนฉัน ขาทั้งสองของฉันกลายเป็นแบบนี้ ก็เป็นเธอที่นำมาให้ฉัน”
“เดี๋ยวก่อน!” ฟางเหยียนยกมือขึ้นมาทำท่าทางห้ามไว้
ทั้งครอบครัวมองไปที่ฟางเหยียนอีกครั้ง แล้วถามว่า: “นายทำอะไร?”
เขาไม่ได้พูด เพียงแค่เรียกไปที่นอกประตู: “จางเทา เข้ามาเถอะ!”
ต่อจากนั้น ชายในเครื่องแบบและผู้หญิงหน้าอกใหญ่เดินเข้ามา ผู้ชายคือจางเทา หัวหน้าของทีมบังคับใช้กฎหมาย ผู้หญิงคือถังยู่ ลูกสาวของถังชิงซาน ครั้งก่อนเคยมาหาฟางเหยียนที่บ้าน
จางเทา คนของตระกูลจางก็รู้จัก จางฉี่เหารู้จักคุ้นเคยกับเขาบ้าง เนื่องจากเมื่อก่อนนี้คุณท่านก็เป็นคนในองค์กรมาก่อน
“ลุงจาง!” หลังจากที่จางเทาเขามา ก็ทักทายจางฉี่เหา ถังยู่ก็พยักหน้าให้เขา แล้วก็พยักให้ฟางเหยียน ในมือของเธอถือสมุดบันทึกไว้ มองแวบเดียวก็รู้ว่าจะจดบันทึก
หลังจากที่ทักทายจางฉี่เหาเสร็จ ดวงตาทั้งสองของจางเทาก็มองไปที่ฟางเหยียน กล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า: “ขอบคุณฟางเหยียนที่ช่วยพวกเราจับตัวฆาตกรเงามืด ยังไม่ทันได้ขอบคุณคุณฟางต่อหน้า กลัวว่าจะรบกวนคุณ ใช้โอกาสในวันนี้ ขออนุญาตขอบคุณคุณ ผมกลัวว่าจากนี้ไปจะไม่มีโอกาส”
หลังจากที่พูดจบ เขาก็ยืนตัวตรง ยกมือขึ้นวันทยหัตถ์แสดงความเคารพให้ฟางเหยียน ถังยู่ก็เงยหน้าขึ้นยืดอกแล้ววันทยหัตถ์แสดงความเคารพให้ฟางเหยียน ฟางเหยียนยกมือขึ้นมา ตอบกลับอย่างง่ายๆ
เย่ชิงหยู่ยื่นอยู่ข้างๆ มองดูฟางเหยียนที่เรียบง่าย ก็วิตกกังวลแทนเขา ครั้งก่อนเผชิญหน้ากับพลโทหลายคน เขาก็ทำความเคารพอย่างง่ายๆ ก็เป็นทหารแล้ว เธอสงสัยจริงๆว่าฟางเหยียนเคยฝึกทำความเคารพมาดีๆบ้างหรือเปล่า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าตระกูลจาง ทำให้คนของตระกูลจางวิตกกังวลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดูจากท่าทางนี้ ฟางเหยียนกับจางเทารู้จักคุ้นเคยกันดี ยังเคยช่วยพวกเขาคลี่คลายคดี จางฉี่เหารู้จักกับจางเทา แต่ก็ไม่ค่อยสนิทกัน
เขามองไปที่การกระทำของจางเทาอย่างตกตะลึง แล้วมองไปที่ฟางเหยียนอีกครั้ง และถามว่า: “แกกำลังจะทำอะไร?”
ฟางเหยียนยิ้มแล้วพูดว่า: “เมื่อกี้นี้พวกคุณแน่ใจว่าพวกเราเป็นคนทำให้จางไห่เฟิงกลายเป็นแบบนี้ ฉันหวังว่าพวกคุณเอาหลักฐานที่เป็นประโยชน์ออกมาได้ พวกเราคุยเรื่องนี้กันต่อหน้าหัวหน้าจาง ก็จะดีกว่าไม่ใช่เหรอ? ถ้าหากพวกเราทำเรื่องนี้จริงๆ พวกเรายินดีที่จะถูกหัวหน้าจางลงโทษ ถ้าหากไม่ได้ทำ ถ้าอย่างนั้นก็ให้จางไห่เฟิงโดนข้อหาโทษฐานที่กล่าวหาพวกเราด้วย”
จางซื่อตงตกใจมาก ตอนแรกคิดว่าเมื่อกี้นี้เพียงแค่พูดคุยเท่านั้น ใครจะรู้ว่าฟางเหยียนกลับเรียกคนมาจริงๆด้วย
แต่ว่าพวกเขาไม่ได้หวาดกลัว เพราะจางไห่เฟิงแน่ใจว่าเย่ชิงหยู่เป็นคนทำจริงๆ
ดังนั้น จางซื่อตงพูดว่า: “ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็พูดกันต่อหน้าหัวหน้าจาง ตอนแรกต้องการให้โอกาสพวกแกได้กลับตัวกลับใจ คาดไม่ถึงพวกแกกลับหาเหาใส่หัว ในเมื่อพวกแกต้องการจะเข้าคุก ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น”
“ไร้สาระ!” จางฉี่เหาตะคอก ต่อจากนั้นเดินไปตรงหน้าจางเทาแล้วพูดว่า: “หัวหน้าจาง นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของพวกเรา! คุณว่าเรื่องนี้สามารถที่จะ…”
จางเทามองไปทางฟางเหยียนโดยไม่รู้ตัว กำลังขอความคิดเห็นยินยอมจากฟางเหยียน
แต่ไม่ต้องรอให้ฟางเหยียนพูด จางซื่อตงก็พูดอย่างรีบร้อนว่า: “พ่อ พ่อกำลังทำอะไร? ถึงขนาดนี้แล้ว พ่อยังปกป้องเย่ชิงหยู่ เมื่อกี้นี้เธอก็พูดอย่างชัดเจนแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลจางของพวกเรา พวกเขาไม่ดี ทำไมพวกเรายังต้องดีกับพวกเขาด้วย หัวหน้าจางมาได้พอดี พาตัวพวกเขาไปเข้าคุกได้พอดี ผมไม่เชื่อว่าหัวหน้าจางจะเข้าข้างใคร”
โดนฟางเหยียนปฏิบัติต่อแบบนี้ แน่นอนว่าจางฉี่เหาไม่พอใจมาก เขาไม่ได้ปกป้องเย่ชิงหยู่ ความจริงเขาก็จงเกลียดจงชังเย่ชิงหยู่ ตงข่ายกรุ๊ปเป็นของเขา ถึงแม้ว่าเย่ชิงหยู่จะเป็นหลานสาวแท้ๆของเขา แต่ว่าเขาทนไม่ได้ที่ตงข่ายกรุ๊ปนามสกุลเย่ แต่เขาก็รู้ด้วยว่าทุกอย่างต้องว่ากันด้วยหลักฐาน จางไห่เฟิงไม่มีหลักฐานอะไรที่เป็นประโยชน์!
“หัวหน้าจาง คุณได้ยินแล้วใช่มั้ย?” ฟางเหยียนถามอย่างเฉยเมย