Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1157 : สังหารนินจาขั้นเงา!

บทที่ 1157 : สังหารนินจาขั้นเงา!
  จนกระทั่งถึงเวลานี้..แม้ว่าหลิงหยุนจะเผยวิชาตัวเบา และเพลงกระบี่ที่ล้ำเลิศให้ทุกคนได้เห็นแล้ว แต่ก็ยังไม่เผยพลังความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตนออกมาเสียที!
เฉินจิ้งเฉวียนได้ฟังบทสนทนาของยอดฝีมือทั้งสี่จากหน่วยนภาจึงได้แต่ร้องเตือนขึ้นว่า “จอมยุทธทั้งสี่.. พวกท่านอย่าได้ประมาทเด็กผู้นี้! เจ้าเด็กชั่วช้านี่สามารถบ่มพุทธ เต๋า และมารไว้ในตัวได้ มันย่อมสามารถใช้พลังเหนือธรรมชาติได้อย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นมันคงจะไม่สามารถสร้างวัตถุพื้นที่ และยันต์ต่างๆได้เป็นแน่..”
หลังจากที่ได้ฟังคำเตือนของเฉินจิ้งเฉวียนแล้วทุกคนต่างก็ได้แต่นิ่งเงียบ เพราะคำพูดของเฉินจิ้งเฉวียนนั้นมีเหตุมีผลไม่น้อย!
แต่ถึงกระนั้นตี่ยั่วถังก็พูดขึ้นอย่างไม่ยี่หระ“เด็กนั่นมีพลังเหนือธรรมชาติแล้วยังไง นินจาทั้งห้าเองก็มีเช่นกัน!”   “แต่ต่อให้เด็กนั่นสามารถเอาชนะในยกที่สามได้ก็ต้องสูญเสียพลังไปมากมาย ถึงตอนนั้นพวกเราทั้งห้าจะไม่สามารถจัดการกับมันเพียงคนเดียวได้เชียวรึ”
เมื่อได้ฟังคำพูดของตี๋ยั่วถัง..เฉินจิ้งเฉวียนก็ถึงกับเบาใจขึ้นมาก และยกมือขึ้นประสานกันพร้อมกับโค้งคำนับให้ตี๋ยั่วถัง และพูดขึ้นว่า
“ขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือข้าในครั้งนี้..ตราบใดที่สามารถสังหารเด็กนี่ได้ในคืนนี้ และสามารถนำพาตระกูลเฉินพ้นหายนะใหญ่หลวงได้ ตระกูลเฉินจะไม่ลืมบุญคุณของทุกท่านเลยทีเดียว และจะต้องตอบแทนอย่างเต็มที่!”
นักพรตเลี่ยฮั๋วจื่อยู่ว และตี๋ยั่วถัง ต่างก็หัวเราะออกมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “เรื่องเล็กน้อยน่า.. พวกเราทำตามแผนที่วางไว้ก็พอ!”
……
ในเมื่อตัดสินใจที่จะเสนอการประลองด้วยชีวิตเช่นนี้แน่นอนว่าเฉินจิ้งเฉวียนย่อมต้องไม่ยินยอมที่จะยอมรับเงื่อนไขชนะสามในห้าเกมอย่างง่ายๆเป็นแน่ หากตนต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เฉินจิ้งเฉวียนจึงได้วางแผนรองรับไว้แล้ว..
ต่อให้หลิงหยุนเป็นฝ่ายชนะสามในห้าห้ายกเฉินจิ้งเฉวียนก็ไม่มีทางปล่อยให้หลิงหยุนมีชีวิตรอดกลับไปได้แน่ เพราะหลิงหยุนนั้นเสมือนเนื้อก้อนโตที่พวกเขาจะต้องแบ่งปันกัน!
มีเพียงหลวงจีนแห่งวัดเส้าหลินที่ยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไร..
……
ปัง!
ในระหว่างนั้นก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นทั่วทั้งบริเวณอีกครั้งและภาพที่เห็นคือร่างของหลิงหยุนกับร่างของโทคุงาวะ ฮิโรชิต่างก็ค่อยๆ ร่อนลงสู่พื้นดินในเวลาพร้อมๆกัน!
ปัญหาใหญ่ของหลิงหยุนในเวลานี้คือโทคุงาวะฮิโรชิ ซึ่งมีขั้นกำลังภายในที่สูงมากและพลังปราณกับวิชาตัวเบาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหลิงหยุนเเลย..
ส่วนนินจาขั้นเงาทั้งสี่คนนั้นแม้พลังปราณจะด้อยกว่าหลิงหยุน แต่วิชาตัวเบา และวิชานิจุทสึนั้นล้ำเลิศสมกับเป็นนินจาขั้นเงา ทำให้หลิงหยุนจัดการได้ไม่ง่ายนัก อีกทั้งนินจาทั้งห้ายังสามารถต่อสู้ผสานกันได้อย่างลงตัว และสามารถสร้างความลำบากให้กับหลิงหยุนได้ไม่น้อย!
ทุกครั้งที่หลิงหยุนตั้งใจจะจู่โจมนินจาขั้นเงาคนใดคนหนึ่งโทคุงาวะ ฮิโรชิก็จะต้องกระโดดเข้าไปช่วยปกป้อง ทำให้จนถึงตอนนี้หลิงหยุนยังไม่สามารถลงมือสังหารนินจาได้เลยสักคน!
หลังจากที่ฟาดฟันกระบี่ใส่เหล่านินจาไปมากกว่าหกร้อยดาบหลิงหยุนก็ได้รับรู้ว่านินจาขั้นเงานั้นมีความแข็งแกร่งมากเพียงใด เช่นนี้แล้วหากเป็นนินจาขั้นเงาเทวะเล่า จะแข็งแกร่ง และเก่งกาจกว่านี้มากเพียงใด?
หลิงหยุนได้แต่แอบครุ่นคิดอยู่ในใจเงียบๆหลังจากที่ได้ทดสอบฝีมือของนินจาขั้นเงาทั้งห้าคนแล้ว..
…..
หลังจากที่โคุงาวะฮิโรชิกระโดดถอยห่างออกไป ก็ได้ไปรวมกลุ่มกับนินจาขั้นเงาทั้งสี่คน แต่ยังคงไม่จู่โจมหลิงหยุนกลับในทันที!
นั่นเพราะจากการได้ประมือกับหลิงหยุนมานั้นทำให้นินจาทั้งห้าของตระกูลโทคุงาวะถึงกับแอบตกใจอยู่ไม่น้อย!
นินจาทั้งห้าต่างก็รู้ดีแก่ใจว่า..หากพวกตนไม่ช่วยกันเช่นนี้ ก็คงยากที่จะต้านทานหลิงหยุนเพียงคนเดียวได้!
“จะปล่อยเด็กคนนี้ไว้ไม่ได้ไม่เช่นนั้น.. ต่อไปมันจะต้องกลายเป็นศัตรูที่ร้ายกาจ และเป็นภัยใหญ่หลวงของพวกเราชาวญี่ปุ่นเป็นแน่!”
โทคุงาวะฮิโรชิได้ข้อสรุป และหลังจากร้องสั่งนินจาขั้นเงาทั้งสี่แล้ว ดวงตาเล็กหรี่ของเขาก็จับจ้องอยู่ที่ร่างของหลิงหยุนไม่กระพริบ และแทบไม่ต้องอธิบายอะไรไปมากกว่านั้น เพราะความแข็งแกร่งของหลิงหยุนได้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของนินจาทั้งสี่คนแล้ว!
“หลิงหยุน..เจ้าช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวมากทีเดียว! ข้าไม่แปลกใจเลยที่โทคุงวาวะ ทาเคซูกะ โทคุงาวะ ทาเคตากุ และโทคุงาวะ มุโตะต้องมาตายด้วยน้ำมือของเจ้า!”
“รวมเจ้าด้วยอีกคนที่จะต้องตายด้วยน้ำมือของข้าในคืนนี้!”
หลิงหยุนไม่รีรอ..ทันทีที่พูดจบเขาก็ยกกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือขึ้น และเตรียมพุ่งเข้าใส่ร่างของโทคุงาวะ ฮิโรชิในทันที!
โทคุงาวะฮิโรชิเห็นเช่นนั้น จึงได้พุ่งดาบยาวในมือเข้าใส่หลิงหยุน และเหล่านินจาขั้นเงาทั้งสี่ก็ไม่รอช้า พวกมันต่างก็พุ่งดาบซามูไรในมือเข้าใส่หลิงหยุนเช่นกัน!
เวลานี้ดาบซามูไรทั้งห้าของเหล่านินจาได้พุ่งออกไปกลางอากาศ และหยุดนิ่งอยู่เช่นนั้น ไม่เคลื่อนไหว แต่ก็ไม่ร่วงหล่นลงพื้นเช่นกัน..   และนี่คือการใช้พลังเหนือธรรมชาติในการควบคุมดาบของเหล่านินจา!
“ฆ่ามัน!”
สิ้นเสียงสั่งการของโทคุงาวะฮิโรชิ.. ดาบยาวทั้งห้าภายใต้การควบคุมด้วยพลังปราณของเหล่านินจา ก็พุ่งตรงเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนพร้อมกันทันที!
เวลานี้เหล่านินจาขั้นเงาทั้งห้ากำลังใช้พลังเหนือธรรมชาติเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มเข้าสู่สนามประลอง!
“เยี่ยมมาก!”
หลิงหยุนจ้องมองดาบยาวทั้งห้าที่ลอยอยู่กลางอากาศและกำลังพุ่งตรงเข้าใส่ตนเอง แม้จะสัมผัสได้ถึงความน่ากลัว แต่หลิงหยุนก็ยังคงยืนนิ่งอยู่เช่นเดิม และรอจนกระทั่งดาบยาวทั้งห้าพุ่งเข้ามาใกล้จวนเจียนจะถึงตัวแล้ว หลิงหยุนจึงยกแขนข้างขวาขึ้นพร้อมกับใช้ความคิดสั่งให้แหวนจักรวาลในนิ้วเปิดออก และดาบยาวทั้งห้าก็พุ่งเข้าไปด้านในทันที!   “เก็บดาบทั้งห้าเข้าไป!”
และดาบยาวทั้งห้าก็ถูกหลิงหยุนเก็บเข้าไปไว้ในแหวนจักรวาลของตนเองได้อย่างง่ายดาย!
“ดาบซามูไรทั้งห้าเล่มนี้ข้าขอ!”หลิงหยุนพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม..
“ห๊ะ!”
นินจาขั้นเงาทั้งสี่รวมทั้งโทคุงาวะ ฮิโรชิที่เห็นเช่นนั้น ก็ได้แต่นิ่งไปด้วยความตกตะลึง..
ไม่เพียงแค่เหล่านินจาเท่านั้นที่ตกอกตกใจแม้กระทั่งยอดฝีมือจากหน่วยนภารวมทั้งเฉินจิ้งเฉวียนเองก็ตกใจไม่น้อยเช่นกัน!
พวกเขากำลังจ้องมองว่าหลิงหยุนจะรับมือกับดาบซามูไรที่ควบคุมด้วยพลังจิตของเหล่านินจาทั้งห้าได้อย่างไรแต่แล้วจู่ๆ ดาบซามูไรทั้งห้ากลับหายวับไปกับตาเช่นนั้น!
หลิงหยุนเห็นสีหน้าตกตะลึงของทุกคนในที่นั้นจึงได้แต่ยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน..   “คิดจะใช้พลังเหนือธรรมชาติเล่นงานข้างั้นรึพลังพวกนี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก..”
“เจ้าเด็กชั่วช้า!”
โทคุงาวะฮิโรชิร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโห หลังจากที่เห็นอาวุธของตนเองถูกหลิงหยุนยึดไปเช่นนั้น
……
ในเมื่อหลิงหยุนเข้าสู่ระดับกลางขั้นซานฉางชี่แล้วการต่อสู้ด้วยวรยุทธจึงเป็นเพียงแค่น้ำจิ้ม และการต่อสู้ที่แท้จริงก็คือการต่อสู้ด้วยพลังเหนือธรรมชาตินี้เอง!
เพราะหากจะสามารถเอาชนะอีกฝ่ายด้วยวรยุทธได้ก็ต้องจัดการให้อยู่หมัดตั้งแต่แรก ดังเช่นการประลองกับหลวงจีนหลี่หมิงฉู่ และยอดฝีมือตระกูลไป๋หลี่ ต้องเอาชนะได้ตั้งแต่แรก และต้องไม่ปล่อยให้พวกเขาได้มีโอกาสแสดงพลังเหนือธรรมชาติออกมา..
แต่โทคุงาวะฮิโรชิกับนินจาขั้นเงาทั้งสี่เพิ่งจะเริ่มใช้พลังเหนือธรรมชาติในการต่อสู้แต่กลับต้องถูกหลิงหยุนยึดเอาดาบซามูไรไปได้ง่ายๆเช่นนั้น มีหรือที่โทคุงาวะ ฮิโรชิจะไม่โกรธเกรียวอย่างมากมายเช่นนั้น!
แต่ถึงกระนั้น..แววตาของโทคุงาวะ ฮิโรชิที่จ้องมองแหวนจักรวาลในมือขวาของหลิงหยุน ก็เปิดเผยความโลภในใจออกมาอย่างชัดเจน ในใจของโทคุงาวะ ฮิโรชินั้นคิดเพียงแค่ว่า.. หากเขาสามารถสังหารหลิงหยุนได้ อย่าว่าแต่แหวนในนิ้วมือของหลิงหยุนเลย แม้กระทั่งสิ่งของที่อยู่ในแหวนวงนั้นก็ต้องตกเป็นของตนเองอย่างแน่นอน!
ไม่เพียงแค่โทคุงวะฮิโรชิเท่านั้นที่อยากได้แหวนในมือของหลิงหยุน แม้แต่เฉินจิ้งเฉวียน และยอดฝีมือคนอื่นๆในที่นั้นก็เกิดความโลภอยากได้มาครอบครองเช่นกัน!
วัตถุพื้นที่ของจริงเช่นนี้..อย่าว่าแต่จะได้จับต้องเลย แม้แต่เห็น พวกเขาก็เพิ่งเคยเห็นกับตาเป็นครั้งแรก มีหรือที่จะไม่อยากได้มาครอบครอง!
“อามิตตาพุทธ..”   หลวงจีนแห่งวัดเส้าหลินได้เห็นแววตาละโมบของทุกคนยังถึงกับร้องออกมาด้วยความรู้สึกสังเวชใจ..
หลังจากที่โทคุงาวะฮิโรชิสงบสติอารมณ์ลงได้แล้ว ก็ร้องบอกนินจาขั้นเงาทั้งสี่เป็นภาษาญี่ปุ่น “พวกเจ้าร่วมกับข้าใช้วิชานินจาห้าธาตุจัดการกับมัน!”
“ไฮ่!”
เหล่านินจาทั้งสี่พยักหน้าและร้องผสานเสียงเป็นภาษาญี่ปุ่นพร้อมกัน จากนั้นก็แยกย้ายกันไปยืนอยู่ไม่ห่างจากร่างของโทคุงาวะ ฮิโรชิมากนัก
ตูม!
สิ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว..พลังปราณจากนินจาขั้นเงาคนหนึ่งก็พุ่งออกจากร่าง และรวมตัวกันกลายเป็นดาบซามูไรเล่มยาวปักอยู่ที่พื้นตรงหน้า!
ดาบซามูไรที่เกิดจากพลังปราณนั้นปักอยู่ตรงหน้าโทคุงาวะฮิโรชิ มีความยาวกว่าสองเมตร และกว้างถึงหนึ่งเมตรเลยทีเดียว!
จากนั้นนินจาขั้นเงาที่มีชื่อว่าโทคุงาวะทาเคฮิเดะก็ได้ถ่ายเทพลังปราณของตนลงไปที่ดาบซามูไรตรงหน้าทันที
“ไฮ่!”
สิ้นเสียงร้องตะโกนเป็นภาษาญี่ปุ่นของโทคุงาวะทาเคฮิเดะ พลังปราณในร่างที่พวยพุ่งออกมานั้น ก็ได้กลายเป็นเปลวไฟสีแดงปกคลุมดาบซามูไรเล่มยักษ์ไว้อีกหนึ่งชั้น!
“น่าสนใจดีนี่!”
หลิงหยุนพึมพำออกมาเพราะแม้กระทั่งเขายืนอยู่ห่างจากดาบซามูไรเพลิงไกลถึงสามสี่เมตร ยังสามารถสัมผัสได้ถึงความร้อนระอุจากเปลวไฟนั้นได้ และนี่ล่ะคือพลังเหนือธรรมชาติ!
หลิงหยุนจึงได้รู้ว่า..โทคุงาวะ ทาเคฮิเดะนั้น เป็นนินจาธาตุไฟ พลังปราณในร่างกาย จึงเป็นปราณธาตุไฟด้วย!
ตูม!   ครั้งนี้โทคุงาวะทาเคกิได้ปลดปล่อยพลังปราณสีเขียวเข้มออกมา และมันคือพลังปราณธาตุไม้ ทันทีที่ได้รับพลังปราณธาตุไม้เข้าไป เปลวไฟบนตัวดาบซามูไรเพลิงก็ยิ่งโชติช่วงร้อนแรงมากยิ่่งขึ้น!
“นี่มันอะไรกัน!ช่างน่าอัศจรรย์มากเลยทีเดียว!”
จิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนจับนิ่งอยู่ที่ดาบซามูไรเพลิงเล่มนั้นเขารู้ได้ทันทีว่า.. หลังจากที่ดาบซามูไรเล่มยักษ์นี้ก่อตัวขึ้นพร้อมเมื่อใด โทคุงาวะ ฮิโรชิก็จะเป็นผู้ควบคุมดาบซามูไรเล่มนี้เล่นงานตนเอง!
“พอได้แล้ว!”
“ทาเคชิกับทาเคฮิโกะ.. พวกเจ้าสองคนคอยคุ้มครองพวกเราทั้งสามคนด้วย!”
โทคุงาวะฮิโรชิเห็นว่าดาบซามูไรที่เกิดจากพลังปราณนั้นแข็งแกร่งพอแล้ว จึงได้เตรียมพร้อมที่จะใช้พลังจิตควบคุมดาบซามูไรเพลิงเล่มนี้เล่นงานหลิงหยุน แต่ก็เกรงว่าหลิงหยุนจะโจมตีพวกตน จึงได้สั่งซามูไรขั้นเงาทั้งสองคนให้คอยปกป้องคุ้มครอง!
“ไปได้!”
หลังจากนั้นโทคุงวะฮิโรชิก็เริ่มใช้พลังจิตของตนควบคุมดาบซามูไรยักษ์ พุ่งเข้าใส่ร่างของหลิงหยุน หมายที่จะสังหารให้ตายในทันที!
ดาบซามูไรเพลิงเล่มยักษ์พุ่งขึ้นจากพื้นดินและตรงดิ่งฝ่าความมืดพุ่งเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว!
กระบี่โลหิตแดนใต้ปรากฏขึ้นในมือของหลิงหยุนอีกครั้งแต่หลังจากที่ครุ่นคิดแล้ว หลิงหยุนคาดว่ากระบี่โลหิตแดนใต้ไม่น่าจะต้านทานดาบซามูไรเพลิงเล่มยักษ์นั้นได้ จึงได้แต่ใช้วิชาเงาลวงตาหลบหนีการจู่โจมของดาบซามไรเพลิงแทน!
นั่นเพราะดาบซามูไรเล่มยักษ์นี้เกิดจากพลังปราณของนินจาขั้นเงาทั้งสามคนรวมกันยากนักที่กระบี่โลหิตแดนใต้ของตนจะสามารถต้านทานได้!   “นี่..เจ้าถึงกับต้องวิ่งหนีเช่นนี้เชียวรึ”
โทคุงาวะฮิโรชิเห็นว่าเวลานี้ตนเองเป็นฝ่ายเหนือกว่า และเห็นหลิงหยุนต้องวิ่งหลบหนีเช่นนั้น จึงได้แต่ร้องถามด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน และบังคับดาบซามูไรเพลิงไล่ล่าหลิงหยุนไปไม่หยุด!
ความเร็วและความคล่องแคล่วของดาบซามูไรเพลิงนั้น ย่อมจะรวดเร็วกว่าหลิงหยุนอย่างแน่นอน!
และนี่คือประโยชน์ของพลังเหนือธรรมชาติทำให้ดาบซามูไรเพลิงเล่มนี้ไม่เพียงเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว แต่ยังคล่องแคล่ว สามารถเลี้ยว หัก หรือพุ่งเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็วตามความคิดของผู้บังคับ! จึงยากที่การเคลื่อนไหวด้วยร่างกายมนุษย์จะสามารถเทียบเคียงได้!
ไม่เพียงพลังปราณของซามูไรทั้งสามจะแข็งแกร่งมากแล้วแต่พลังจิตของโทคุงาวะ ฮิโรชิเอง ก็ยังแข็งแกร่งมากอีกด้วย จึงสามารถบังคับควบคุมดาบซามูไรเล่มใหญ่นี้ได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้เหล่ายอดฝีมือที่เฝ้ามองดูอยู่ถึงกับตกใจไม่น้อย!
มิน่า..จีนกับญี่ปุ่นจึงได้เป็นศัตรูคู่แค้นกันมาแต่โบร่ำโบราณ!
เหล่ายอดฝีมือจากหน่วยนภานั้นมีหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินจีนแต่ในเวลานี้โทคุงาวะ ฮิโรชิกำลังลงมือกับหลิงหยุนอย่างอหังการในผืนแผ่นดินของตนเองเช่นนี้ ความจริงแล้วยอดฝีมือจากหน่วยนภาต่างก็รู้สึกไม่สบายใจนัก!
เพียงแค่เวลาเจ็ดสิบปี..ชาวญี่ปุ่นมียอดฝีมือที่เก่งกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ
นี่คือความคิดของเหล่ายอดฝีมือจากหน่วยนภา!
ซันเจิ้นหวู่เห็นหลิงหยุนวิ่งหนีดาบซามูไรเพลิงเช่นนั้นก็ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก ปากก็พร่ำแต่คำว่า
“ฆ่ามัน!ฆ่ามัน!”
หลิงหยุนใช้วิชาเงาลวงตาหลบหลีกการโจมตีของดาบซามูไรเพลิงได้แล้วก็รีบเดินพลังหยินและหยางในร่างกาย และบังคับควบคุมให้พุ่งออกมาด้านนอก จนกลายเป็นโซ่หยิน–หยางในที่สุด!
ในระดับกลางขั้นซานฉางชี่นี้..หลิงหยุนใช้พลังปราณเพียงแค่หนึ่งส่วนก็สามารถสร้างโซ่หยิน–หยางสองเส้นที่มีความยาวถึงห้าสิบเมตร และมีขนาดใหญ่เท่าแขนคนได้แล้ว
และในที่สุดหลิงหยุนก็ได้แสดงพลังเหนือธรรมชาติของตนเองออกมาให้ทุกคนได้ประจักษ์!
โซ่หยิน–หยางทั้งสองเส้นของหลิงหยุนเคลื่อนไหวไปมาราวกับมังกรที่กำลังคลุ้มคลั่งและพุ่งเข้ารัดดาบซามูไรเพลิงอย่างไม่หวาดกลัว!
“ห๊ะ!”
“นี่มันอะไรกัน!”
เหล่ายอดฝีมือจากหน่วยนภาต่างก็พากันตกอกตกใจจนถึงกับร้องอุทานออกมาแทบจะพร้อมกัน!
ทุกคนต่างก็รู้ว่าหลิงหยุนจะต้องสามารถใช้พลังเหนือธรรมชาติได้แต่คิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะสามารถทำได้ถึงเพียงนี้!
นั่นเพราะโซ่ทั้งสองเส้นนั้นสามารถเคลื่อนไหวได้ยื่นหยุ่นราวกับมังกรสองตัวที่มีชีวิตคนผู้นั้นต้องแข็งแกร่งมากเพียงใด จึงจะสามารถควบคุมพลังปราณให้พวยพุ่งออกนอกร่างกาย และบังคับควบคุมได้เช่นนี้!
หลังจากที่โซ่หยิน–หยางของหลิงหยุนรัดดาบซามูไรเพลิงไว้ได้แล้วหลิงหยุนก็คายกระบี่เหินเงาธนูออกมา..
กระบี่เหินเงาธนูพุ่งออกมาอยู่ด้านนอกก็ขยายตัวออกเป็นกระบี่สีเขียวใสคล้ายมรกตยาวสองฟุต..
“สังหารมัน!”
และในที่สุดหลิงหยุนก็แสดงความสามารถที่แท้จริงของตนเองออกมาให้ทุุกคนได้เห็น!
ภายใต้การสั่งการกระบี่เหินเงาธนูด้วยพลังจิตของหลิงหยุนกระบี่เหินเงาธนูก็พุ่งเข้าใส่ร่างของโทคุงาวะ ทาเคฮิเดะทันที!
และในระดับกลางขั้นซานเฉิงชี่นั้น..หลิงหยุนสามารถควบคุมกระบี่เหินเงาธนูให้เคลื่อนที่ได้รวดเร็วกว่าดาบซามูไรเพลิงถึงสามเท่า!
อีกทั้งในเวลานี้ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจอยู่ที่โซ่หยิน–หยางของหลิงหยุนจะมีใครคิดว่าหลิงหยุนจะบังคับควบคุมกระบี่เหินให้พุ่งเข้าทำร้ายอีกฝ่ายได้
และกระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนก็พุ่งเข้าใส่ลำคอของโทคุงาวทาเคฮิเดะ จนเลือดพุ่งกระฉูดออกจากลำคอ และร่างของเขาก็ร่วงลงไปกองกับพื้นสิ้นใจตายในทันที!
จากนั้นหลิงหยุนก็ใช้พลังจิตสั่งให้กระบี่เหินเงาธนูหันเหไปทางโทคุงาวะทาเคกิ เนื่องจากนินจาทั้งสองเป็นผู้ปลดปล่อยพลังปราณสร้างดาบซามูไรเพลิง ทำให้ไม่สามารถปกป้องตนเองได้ จึงง่ายต่อการสังหาร!
“ระวังตัวด้วย!”
โทคุงาวะฮิโรชิเห็นทาเคฮิเดะร่วงลงไปกองกับพื้นเช่นนั้น จึงรีบร้องตะโกนให้นินจาที่เหลือระมัดระวังตัว แต่ก็สายไปเสียแล้ว!
เพราะครั้งนี้กระบี่เหินเงาธนูของหลิงหยุนได้พุ่งเข้าตัดคอของโทคุงาวะทาเคกิจนศรีษะหลุดจากร่าง และร่วงลงไปกองกับพื้นทันที แล้วเลือดสีแดงก็พุ่งกระฉูดออกจากร่างของโทคุงาวะ ทาเคกิทันที!
และเวลานี้เลือดของโทคุงาวะทาเคกิก็พุ่งกระจายอยู่เต็มท้องฟ้า!
ภายในเวลาเพียงแค่พริบตาเดียวหลิงหยุนก็สามารถสังหารนินจาขั้นเงาตายไปถึงสองคน!
Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท