เมื่อคำพูดนี้พูดออกมา คิ้วของฟางเหยียนก็ยิ่งขมวดหนักขึ้นกว่าเดิม!
ในตอนงานแต่งของหวังชิงชิงที่ดินแดนตะวันตก เจ้าตระกูลโจวโจวปินคางได้แสดงออกถึงความซื่อสัตย์ของตัวเองมาหลายชั่วอายุคน ทำไมพวกเขาถึงได้เริ่มต่อต้าน และไปมาหาสู่กับองค์กรสัตว์เพลิงละ?
นี่ถือเป็นปัญหาที่สมควรวิเคราะห์อย่างดี
ไม่มีมิตรแท้ตลอดไป มีเพียงผลประโยชน์ตลอดไปเท่านั้น!
ก่อนหน้านี้เพื่อเป็นการสั่งสอนโจวเจิ้งที่รังแกผู้คน แล้วตัดมือเขาข้างหนึ่ง หรือจะเป็นเพราะเหตุนี้จึงเกลียดฟางเหยียน แล้วถูกองค์กรสัตว์เพลิงใช้โอกาสนี้แทรกแซง?
ชิงตี้เป็นคนขององค์กรสัตว์เพลิง จุดนี้ไม่ต้องสงสัยเลย แต่เหตุผลที่เธอทำคืออะไร? ก็จริง ตั้งแต่ที่ฟางเหยียนเริ่มโจมตีกลับ เขาก็เอาแต่จัดการกับมิตรสหายขององค์กรสัตว์เพลิง สำนักฉิวหลงเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น และไม่มีทางเป็นจุดจบ!
ตั้งแต่ที่กลับมาจากสำนักฉิวหลง ฟางเหยียนเหมือนกับว่าไม่ได้ทำอะไร ความจริงแล้วเขากำลังรวบรวมว่าอำนาจไหนที่มีความสัมพันธ์กับองค์กรสัตว์เพลิงบ้าง นี่ยังสืบอะไรไม่ได้ ชิงตี้ก็มาหาถึงที่แล้ว!
นี่ดูจะเหมาะเจาะเกินไปแล้วมั้ง!
เดิมทีชิงตี้ก็เป็นคนขององค์กรสัตว์เพลิงอยู่แล้ว เหตุผลที่เธอทำแบบนี้คืออะไรกันแน่?
หรือว่าเพื่อแค่เอาใจฟางเหยียน?
ข้อแลกเปลี่ยนจะมากเกินไปแล้วมั้ง!
ลดอำนาจขององค์กรสัตว์เพลิง เป็นสิ่งที่ฟางเหยียนอยากเห็นมากที่สุด ส่วนชิงตี้เป็นผู้หญิงที่ฉลาด กลัวเพียงแค่ว่าเธอจะมีความคิดชั่วร้ายอะไรอีก เพราะตัวตนของเธอ ไม่ว่ายังไงฟางเหยียนก็ไม่สามารถวางใจได้
ถ้าหากว่าเธอไม่ใช่ชิงตี้ แต่เป็นหลินถง ฟางเหยียนก็ไม่คิดมากขนาดนี้แล้ว
คิดไปคิดมา ฟางเหยียนพูดอย่างเฉยชาว่า “แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน?”
“ที่รัก จะไม่เกี่ยวกับนายได้ยังไง? ฉันอุตส่าห์ใจดีมาบอกข่าวใหญ่กับนาย นายไม่รู้จักก็ขอบคุณก็ช่าง แล้วยังแสร้งทำเป็นไร้ความรู้สึกแบบนี้ คนเขาเสียใจมากจริงๆนะ”
“ชิงตี้ อย่าลืม เธอเป็นคนขององค์กรสัตว์เพลิง เธอรู้มั้ยว่าเธอทำแบบนี้ เป็นการเปิดเผยองค์กรสัตว์เพลิงไว้ตรงหน้าของฉัน”
“แล้วยังไง?” ชิงตี้พูดอย่างไม่แคร์ “ถ้าไม่ใช่ที่รัก ฉันก็ขี้เกียจจะพูดมากขนาดนี้ ยังไงซะข่าวฉันก็บอกกับนายแล้ว นายก็ถือวะว่าฉันทำเพื่อความรัก จึงไม่กลัวที่จะหักหลังองค์กรสัตว์เพลิงแล้วกัน”
“งั้นหรอ?” ฟางเหยียนฉีกยิ้ม
เห็นรอยยิ้มนี้ของเขา ในใจของชิงตี้เริ่มคับข้องใจ ไม่รอเธอรู้สึกตัว ก็พบว่าช่วงเอวมีมือหนามาโอบไว้แล้ว มือข้างนั้นยังลูบไล้ไปมา ทำเอาร่างกายของเธอสั่น เหมือนกับว่าถูกไฟสถิตไปทั้งตัว ใบหน้าของเธอมีความตื่นกลัวปรากฏขึ้น
“ที่รัก เช้าๆผู้คนผ่านไปมา อย่าใจร้อนอย่างนี้สิ เข้าห้องแล้วค่อยว่ากันสิ”
วินาทีนี้ ชิงตี้ทั้งต้องการและตื่นตกใจ เธอเอาแต่หยอกล้อฟางเหยียนมาตลอด แต่ฟางเหยียนกลับไม่รู้สึกและไม่สนใจ แต่ว่าตอนนี้ ฟางเหยียนจู่โจมก่อน กลับทำให้เธอมีความรู้สึกตื่นตกใจหวาดกลัว
เธอพยายามอยากจะหลุดพ้นฝ่ามือที่ค่อยๆลูบไล้ขึ้นด้านบนของฟางเหยียน แต่กลับพบว่าทำยังไงก็หลุดพ้นจากฝ่ามือนั้นไม่ได้
เธอตื่นกลัวแล้ว!
เธอยากจะมอบตัวเองให้กับฟางเหยียนอย่างมาก แต่กลับพบว่าเมื่อเวลานี้มาถึงจริงๆ เธอกลับกลายเป็นหวาดกลัวขึ้นมา และพยายามขยับร่างกายของตัวเอง แต่เมื่อเธอยิ่งตื่นตกใจ รอยยิ้มของร้ายกาจของฟางเหยียนก็มากยิ่งขึ้น
อยากได้อะไรก็ต้องไม่กลัวที่จะต้องแลกเปลี่ยน เธอตัดสินใจจะมอบตัวเองให้กับฟางเหยียนแล้ว!ตัดอย่างอื่นทิ้งไม่พูดถึง เธอก็ถือว่าให้ความสำคัญกับฟางเหยียนมาก ฟางเหยียนไม่ว่าจะฐานะหรือความกล้าหาญ ต่างก็ทำให้ชิงตี้ยอมรับ สำหรับผู้ชายคนนี้ เธอไม่เสียใจทีมอบตัวเองให้กับเขา
เมื่อตัดสินใจแล้ว ในใจของเธอก็ค่อยๆเปิดใจยอมรับ
“กลัวแล้ว?” ฟางเหยียนยิ้มอ่อน “วันๆเรียกที่รักๆอย่างสนิทสนม พอจะทำเรื่องผัวเมียสักหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรอ?”
“นาย นายอยากได้ ก็ไม่ใช่ตอนนี้นี่นา” ชิงตี้หน้าแดง ใบหน้าแดงก่ำเป็นอย่างมาก เขินอายผิดปกติ แม้แต่การหายใจถี่ขึ้น สิ่งที่ยิ่งทำให้เธอรู้สึกร่างกายอ่อนแรงก็คือ เสียงหายใจหนักแน่นของฟางเหยียนที่ดังขึ้นข้างหู!
ถ้าหากว่าฝ่ามือซุกซนของฟางเหยียนทำให้เธอตัวอ่อน งั้นเสียงหายใจที่หนักแน่นของเขา ก็ทำลายสติที่เหลือของชิงตี้จนหมด ตรงนี้คือที่ต้องห้ามของเธอ!
เห็นเพียงว่าสายตาของเธอเหม่อลอย หายใจถี่ นี่คือขั้นตอนที่จะตกหลุม!
สติค่อยๆหายไป และความร้อนรุ่มในใจก็เหมือนกับเตาไฟที่กำลังแผดเผาเธอ บวกกับบรรยากาศชนบทที่สะพานเล็ก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพิ่มความรู้สึกมากแค่ไหน!
ป่า หมายถึงความน่าตื่นเต้น บวกกับตอนนี้ที่กำลังลุกเป็นไฟ ชิงตี้ตกหลุมแล้ว เธอไม่มีแรงขัดขืน และตัวอ่อนล้มลงในอ้อมอกของฟางเหยียนอย่างกับโคลน หายใจหนักแน่น ร่างกายเองก็สั่นสะท้านเบาๆ
ชิงตี้สายตาเหม่อลอย พูดอย่างเบลอๆว่า “ที่รัก จูบฉัน!”
ฟางเหยียนยกยิ้มเย็นชาขึ้น เข้าใกล้หูของชิงตี้ ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “บอกกับฉัน ว่าองค์กรหลักขององค์กรสัตว์เพลิงอยู่ที่ไหน!”
ทันใดนั้นชิงตี้ที่เดิมทีเหม่อลอยอยู่ก็ตัวกระตุก เหมือนกับว่าถูกไฟช็อตแล้วรีบลุกออกจากอ้อมกอดของฟางเหยียน จ้องมองฟางเหยียนอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อกี้นี้เอง เธอคิดว่าเธอจะได้กลายเป็นผู้หญิงของฟางเหยียนแล้ว จนตอนนี้ถึงรู้ว่า ฟางเหยียนเพียงแค่หยอกล้อเธอเท่านั้น!
นี่เรียกอะไรนะ ใช้วิธีของเขามาจัดการตัวเขา!
เอาแต่ท้าทายฟางเหยียนมาตลอด ไม่คิดเลยว่าตอนนี้จะพลิกผันแล้ว!
“ที่รัก นาย นาย ไม่ได้คิดจะทำอย่างนั้นกับฉันงั้นหรอ?”
“คิดอะไรกัน!”
ชิงตี้จัดผม สายตาจ้องฟางเหยียนอย่างซับซ้อน “ที่รัก นายทำแบบนี้ได้ยังไงกัน!”
ฟางเหยียนหายใจเข้าลึกๆ กดร่างกายที่โมโหลง พูดเสียงนิ่งว่า “บอกกับฉันว่าองค์กรหลักขององค์กรสัตว์เพลิงอยู่ที่ไหน ฉันอาจจะสามารถช่วยเธอจัดการเฒ่าประหลาดของตระกูลโจวดินแดนตะวันตกได้!”
“ที่รัก นายอย่าได้คิดไปเองขนาดนี้ได้มั้ย นี่จะเป็นช่วยฉันจัดการเฒ่าประหลาดของตระกูลโจวดินแดนตะวันตกได้ยังไง นี่ฉันกำลังช่วยนายนะ นายอย่าได้อคติได้มั้ย”
“เธอทำฉันเสียเวลาไปมากแล้ว เข้าใจมั้ย?”
เวลาเพียงชั่วครู่ จากเดิมที่บรรยากาศเต็มไปด้วยเสน่หา ค่อยๆลดลง เหมือนกับว่าเปลี่ยนจากช่วงที่ร้อนที่สุดเป็นช่วงที่หนาวที่สุดอย่างกะทันหัน เหมือนกับว่าถูกคนโยนเข้าหลุมน้ำแข็ง
ทั้งหนาวเย็นและทิ่มแทงเข้ากระดูก!
ชิงตี้ถึงกับม้วนตัว พูดอย่างติดขัดว่า “ที่รัก ไม่สามารถเป็นเพราะเป็นผู้หญิงของนาย แล้วช่วยนายเล็กน้อยงั้นหรอ? ทำเอาซะทุกครั้งที่ฉันเข้าใกล้นาย ต่างก็มีเป้าหมายอื่นอยู่ นายเดาไม่เหนื่อย ฉันยังเหนื่อยแทน ยังไงซะฉันก็บอกข่าวกับนายไปแล้ว ไปไม่ไปก็แล้วแต่นายแล้วกัน”
มักมีคนพูดเสมอว่า เราไม่มีทางเรียกคนที่แกล้งหลับให้ตื่นขึ้นมาได้
เหมือนกับตอนนี้ที่ชิงตี้ไม่ยอมพูด แม้ว่าจะฆ่าเธอทิ้ง ก็คงจะไม่ได้คำตอบมา
ฟางเหยียนคิดๆแล้วถามว่า “เธอจะได้อะไรจากส่วนนี้?”
“ไม่ได้อะไรสักอย่าง” จู่ๆชิงตี้ก็มองไปที่ฟางเหยียน กะพริบตา “แต่ว่าที่รักนายสามารถจัดการขาส่วนหนึ่งขององค์กรสัตว์เพลิงทิ้งได้ โอกาสไม่มากนักนะ ฉันล้วนเสี่ยงจากการที่จะถูกองค์กรสัตว์เพลิงฆ่าปิดปากเพื่อมาบอกนาย เพราะงั้นไปไม่ไปก็ดูนายเองแล้วละ ฉันมีเพียงคำขอเดียว ถ้าหากว่านายจะไป ก็ต้องพาฉันไปด้วย”
“ชิงตี้เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาด แต่ก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่โง่เง่า เธอคิดว่าฉันทำอะไรกับเธอไม่ได้จริงๆงั้นหรอ?”
ชิงตี้กระพริบตา พูดอย่างไม่หวาดกลัวว่า “ที่รัก นายทำใจลงมือกับเค้าได้หรอ? ให้ฉันมีชีวิตอยู่มีประโยชน์มากกว่าให้ฉันตายนะ หรือว่าไม่ใช่?”
ก็จริง ที่ชิงตี้พูดนั้นไม่ผิดเลย
ชิงตี้อยากจะได้ความลับบางอย่างจากที่ฟางเหยียน ส่วนฟางเหยียนก็อยากใช้ชิงตี้มาแลกความรู้ขององค์กรสัตว์เพลิงมากยิ่งขึ้น ถ้าฆ่าชิงตี้ทิ้งก็ทำให้ไม่มีผลดีอะไรกับทั้งสองฝ่าย เดิมทีทั้งสองก็เป็นการแลกผลประโยชน์กัน และเพราะผลประโยชน์จึงถูกจับอยู่ด้วยกัน ถ้ามีคนอื่นมาอีก ก็ต้องทำความรู้จักกันใหม่อีก
“เอาอย่างนี้ละกัน ที่รัก เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจของฉัน เพียงแค่นายจัดการเฒ่าประหลาดของตระกูลโจวดินแดนตะวันตกเสร็จแล้ว ฉันก็จะบอกกับนายว่าที่ฉันทำแบบนี้เพื่ออะไร โอเคมั้ย?”
เห็นได้ชัดว่าชิงตี้กำลังยอมถอยให้!
“เทียนขุย!”
เทียนขุยปรากฏตัว ถามว่า “จอมพลโผ้จวิน ผมอยู่ครับ”
“ออกเดินทางไปดินแดนตะวันตก”
เทียนขุยมองดูชิงตี้ แล้วสุดท้ายก็พยักหน้า