ค่ำคืนนี้ที่จินโจวถูกกำหนดให้เป็นค่ำคืนที่ไม่ธรรมดา!
บางครอบครัวกำลังมีความสุข บางครอบครัวกำลังอยู่ในความทุกข์!
โรงแรมเทียนเยว่กำลังร้อนรนราวกับมดที่อยู่ในหม้อน้ำร้อน พวกเขาใช้กำลังคนทั้งหมดเพื่อค้นหาเย่ชิงหยู่ แต่ตระกูลจางกลับนั่งรอรับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ รอที่จะเอาตงข่ายกรุ๊ปกลับมาเป็นของตระกูลจางเหมือนเดิมด้วยมือของพวกเขาเอง การเปลี่ยนแปลงบุคลากรไม่ได้ทำให้เกิดความวุ่นวายมากมายเท่าไหร่ ถึงอย่างไรตงข่ายกรุ๊ปยังคงเป็นอุตสาหกรรมของตระกูลจาง
เมื่อใกล้รุ่งสางหลัวเทียนเยว่กลับมาที่บ้านตระกูลจางอีกครั้ง คราวนี้เหมือนมะเขือยาวที่ถูกทุบให้แบนยังไงยังงั้น เขาก้มหัวลงเหมือนสุนัขที่ไว้ทุกข์ จางฉี่เหาไม่ได้ไปพบหลัวเทียนเยว่ แต่คำรามใส่เขา ในที่สุดหลัวเทียนเยว่ก็ออกไปจากบ้านตระกูลจางอย่างสิ้นหวัง ในเวลานี้เขารู้ว่าเขาจบสิ้นทุกอย่างแล้ว ธุรกิจครอบครัวที่เขาสะสมมาก็จบลงแล้ว
เขาหมดสิ้นความหวังนึกถึงแต่ความตาย เมื่อนึกถึงชายคนนั้น ความตายยังง่ายสำหรับเขามากกว่า
ไม่มีใครคิดว่าในชั่วข้ามคืนหลัวเทียนเยว่ซึ่งเดิมอยู่อย่างสูงส่ง จะเดินไปตามถนนอย่างไร้จุดหมายด้วยความหมดสิ้นความหวัง ไม่มีใครสงสารเขา และไม่มีใครรู้จักเขา บางคนก็เห็นใจเขาอยู่บ้าง ในเมืองเล็กๆ อย่างจินโจวมีคนมากมายที่นึกถึงสวรรค์และนรก
—
ณ โรงพยาบาลร้าง
หลิวเฟิงพูดไปยิ้มไป “พี่เฟิง เป็นไปตามคาดหมายทุกอย่างจริงๆ ตอนนี้ตระกูลจางได้เข้ายึดตงข่ายกรุ๊ปแล้ว และ หลัวเทียนเยว่แห่งโรงแรมเทียนเยว่ตอนนี้สิ้นหวังเหมือนสุนัขตกอับ กลยุทธ์นี้ของพี่ทำให้ข้าน้อยชื่นชมจริงๆ”
“แม้ว่านายจะเป็นคนประจบสอพลอ ชอบเลียแข้งเลียขา แต่ฉันก็ยังชอบฟังสิ่งที่นายพูด!”
“อิอิ……” หลิวเฟิงยิ้ม “พี่เฟิงชอบก็ดีแล้ว”
“ว่าแต่ ตอนนี้คนเลวนั่นเป็นยังไงบ้าง?”
“พี่เฟิง นังคนนั้นถูกขังไว้ทั้งคืน เกรงว่าตอนนี้อาจจะอกสั่นขวัญหายไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเลขาของเธอก็กลัวจนเป็นลมไปหลายครั้งแล้ว พี่เฟิง ฉันยังมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เข้าใจก็คือนังคนนั้นและเลขาของเธอก็หน้าตาดี ทำไมพี่ถึงไม่ปล่อยให้พวกสหายของเราได้มีความสุขบ้างล่ะ ในเมื่อพวกเธอก็จะตายอยู่แล้ว”
จางไห่เฟิงยิ้ม “ใครบอกว่าจะไม่ปล่อยให้พวกนายได้มีความสุขกับมัน ตอนนี้เรามีสหายกี่คนแล้ว?”
หลิวเฟิงมีความยินดีอย่างยิ่ง ความหิวกระหายของเขาเปิดเผยออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน และเขาก็รีบตอบไปว่า “พี่เฟิง เรามีนินจาระดับสูงสามสิบคน บวกกับนินจาระดับต้าชี่หกสิบคน!”
“ร้อยคน?” จางไห่เฟิงหัวเราะเยาะ “ดูเหมือนว่าพวกเขาจะดูแลฉันดีนะ แต่นี่มันก็เยอะเกินไปแล้วล่ะ แค่จัดการกับฟางเหยียนจำเป็นต้องใช้นินจาเป็นร้อยเหรอ? แต่มันก็ไม่สำคัญหรอก พวกเขาเต็มใจที่จะให้ ดังนั้นเราก็แค่รับไว้ บอกสหายของเราว่าฆ่าฟางเหยียนให้ได้ก่อน หลังจากนั้นจะมีความสุขกับผู้หญิงสองคนยังไงก็ได้!”
สีหน้าแห่งความหิวกระหายของหลิวเฟิงเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และเขาแทบรอไม่ไหวที่จะเข้าไปมีความสุขกับมัน
เขาเป็นนินจา แต่เขาก็เป็นผู้ชายด้วย ผู้หญิงอย่างเย่ชิงหยู่นับว่าเป็นของดี ถ้าได้ลิ้มลองสักครั้งคงเหมือนขึ้นสวรรค์ เขารู้สึกว่าเป็นทางเลือกที่ฉลาดจริงๆ ที่มาติดตามจางไห่เฟิง!
“พี่เฟิง ข้าน้อยขอขอบคุณพี่ก่อนแล้วกัน ฉันเชื่อว่าสหายของจะลงแรงลงกายมากขึ้น ผู้หญิงสองคนนั้นนับว่าเป็นของดีที่สุด ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อจินตนาการถึงเรื่องนี้ ไม่ได้ล่ะ ฉันขอตัวไปปลดปล่อยก่อนนะ”
จางไห่เฟิงเรียกหลิวเฟิงไว้ แล้วพูดอย่างเย็นชา “อย่าเพิ่งรีบร้อน ไปทำให้ผู้หญิงเลวได้รู้ความรู้สึกหวาดกลัวของฉันในตอนนั้น แล้วฉันจะค่อยๆ ปรากฏตัวออกมาเพื่อให้เธอรู้สึกว่าความสิ้นหวังที่แท้จริงเป็นยังไง !”
หลิวเฟิงเลิกคิ้ว ยกนิ้วโป้ง แล้วพูดอย่างตื่นเต้น“พี่เฟิง ฉันน่าจะมาติดตามพี่ให้เร็วกว่านี้”
เย่ชิงหยู่และหยางเซินเซินเหนื่อยล้าจากความทรมานทั้งคืน ไม่ว่าจะเป็นความตื่นกลัวทางร่างกายหรือการกดขี่ทางจิตใจ มันเป็นเรื่องหนักหนามากสำหรับผู้หญิงทั้งคู่ต่างก็อยู่ในวัยเบ่งบาน แถมพวกเธอเนื้อตัวยังสกปรกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ดังนั้นพวกเธอจึงปรารถนาที่จะออกไปจากที่นี่และรู้สึกโหยหาแสงอาทิตย์มากขึ้น
แต่ตอนนี้เพียงใบหญ้าพัดปลิวเล็กน้อยก็ทำให้ผู้หญิงสองคนตื่นตระหนก
ไม่สิ ทั้งสองกอดกันทันทีและมองออกไปข้างนอกอย่างเกรงกลัว
ถูกความกลัวครอบงำในตลอดเวลาคืนหนึ่ง เป็นเรื่องยากที่จะเห็นแสงสว่างในตอนนี้ แต่ทั้งสองคนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอต่อไป!
มีอะไรอีกนอกจากความตาย?
ไม่ใช่สิ ก่อนตายต้องโดนข่มขืนก่อน!
เมื่อเทียบกับการโดนข่มขืน พวกเธออยากตายมากกว่า!
หลิวเฟิงเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย ตรวจสอบดูผู้หญิงสองคน หยางเซินเซินกลัวจนร้องไห้ เย่ชิงหยู่กอดเธอแน่น ปลอบโยนเธอด้วยน้ำเสียงที่เบาที่สุดแต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อมารร้ายเข้าใกล้คำปลอบโยนทั้งหมดก็ดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์!
แต่เย่ชิงหยู่ก็ไม่ยอมแพ้ แล้วกระซิบว่า “เซินเซิน สำหรับศัตรูถ้าเรากลัว เราก็จะแพ้จริงๆ ความตายไม่ได้น่ากลัว แต่ที่น่ากลัวคือเราไม่ได้อยากตายแต่ต้องตาย เมื่อถึงเวลานั้นเราต้องปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองก่อนตาย”
หยางเซินเซินค่อยๆ ได้สติและความกลัวก็เบาลงไปบ้าง ร่างกายที่สั่นเทาก็ค่อยๆ ลดลง แต่ความหวาดผวาที่หางตายังมีอยู่มาก แทบไม่กล้าที่จะมองหลิวเฟิงเลย ดังนั้นเธอจึงต้องเข้าไปแนบชิดกับตัวของเย่ชิงหยู่
“ประธานเย่ ฉันเข้าใจแล้ว”
“พูดซุบซิบอะไรกัน?” หลิวเฟิงยิ้มอย่างชั่วร้ายและดวงตาของเขามองดูผู้หญิงสองคนที่กอดกัน ดวงตาของเขาดูเร่าร้อน ถ้าไม่ใช่เพราะจางไห่เฟิงเขาอาจจะลิ้มลองผู้หญิงสองคนนี้แล้ว แต่จางไห่เฟิงรับปากเขาไว้แล้ว ดังนั้นเขาต้องอดทน ไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องได้ลิ้มลองอยู่แล้ว!
อดทนแล้วจะเป็นยังไง?
“ประธานเย่ เมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง?”
เย่ชิงหยู่แทบจะไม่มองหน้าหลิวเฟิงเลย เธอรู้อยู่แล้วว่าผู้ชายคนนี้ต้องมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มในขณะนี้
“ไม่พูดเหรอ?” หลิวเฟิงเดินมาใกล้ๆ ยื่นมือไปสัมผัสหยางเซินเซินทำเอาเธอตกใจจนแทบจะเสียสติ เธอตัวสั่นจนเข้าไปกอดเย่ชิงหยู่โดยไม่รู้ตัว หลิวเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา “หน้าตาดีแบบนี้ไม่ใช่มีไว้ให้ผู้ชายลูบคลำหรอกเหรอ? ยังต้องแกล้งทำเป็นใสๆ อยู่อีกเหรอ?”
เย่ชิงหยู่พูดอย่างเย็นชา “หลิวเฟิง พูดมาเถอะ สรุปแกต้องการอะไร?”
“ประธานเย่ ผมอยากได้ร่างกายของคุณยังไงล่ะ!”
เย่ชิงหยู่ก้มหน้าลงและไม่พูดอะไร เป็นตามที่เธอคาดไว้ ก่อนอื่นทำให้เธอทั้งสองคนถูกครอบงำด้วยความกลัวตลอดทั้งคืน จากนั้นรอจนกว่าทั้งสองจะหมดแรงและล่วงละเมิดพวกเธอ ทำให้พวกเธอรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น
“เฮ้ สีหน้าแบบนี้แสดงว่าประธานเย่ยินยอมแล้วใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะฮ่าฮ่า……”
เมื่อพูดจบ มือของหลิวเฟิงก็ข้ามตัวหยางเซินเซินไปสัมผัสตัวของเย่ชิงหยู่โดยตรง แต่ก่อนที่มือของเขาจะสัมผัสโดนตัวของเย่ชิงหยู่เขาก็โดนตบเข้าที่ใบหน้า!
เพียะ!
หลิวเฟิงตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดด้วยความฮึกเหิมว่า “หญิงชั่วชอบทำตัวเสแสร้ง ตอนนี้เธอเป็นของเล่นของฉันแล้ว ยังมาทำตัวเสแสร้งอีก คิดว่าฉันไม่กล้าทำอะไรกับเธอเหรอ? นังผู้หญิงสารเลว!”
เย่ชิงหยู่ไม่สนใจเสียงคำรามของหลิวเฟิง แล้วพูดอย่างเย็นชา “เรียกจางไห่เฟิงออกมาเถอะ!”
สีหน้าของหลิวเฟิงโกรธจัด และเขาก็คำรามอย่างดุเดือด “เธอคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สูงส่งหรือยังไง? เธอไม่คู่ควรที่จะมาสั่งฉัน”
“ฉันไม่รู้หรอกว่ามันควรหรือไม่ควรหรือเปล่า แต่สิ่งที่ฉันรู้คือจางไห่เฟิงต้องการให้ฉันสัมผัสถึงความแค้นของเขาไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ฉันรู้สึกแล้ว หลังจากนี้ยังไงต่อเหรอ?”
“อะไรหลังจากนี้? มันจะมีอะไรหลังจากนี้ได้ยังไง?”
“ดูท่าทางปัญญาอ่อนของแกแล้ว จางไห่เฟิงก็คงเป็นแบบเดียวกันกับแกนั่นแหละ!”
ด่าเขาได้ แต่ด่าจางไห่เฟิงเขาไม่ยอม!
“เธอกล้าที่จะไม่เคารพพี่เฟิง เชื่อไหมว่าฉันฆ่าเธอตอนนี้ก็ได้!”
“ในเมื่อเขาชอบทำตัวเป็นคนขี้ขลาดและชอบแอบอยู่ข้างหลังคนอื่นก็ปล่อยเขาไป ยังไงเขาก็เป็นคนที่หน้าซื่อใจคด อยู่กับความมืดมน และเขาจะเป็นเช่นนี้ไปตลอดชีวิต!”
หยางเซินเซินสะกิดเย่ชิงหยู่เบาๆ และเธอก็พบว่าเย่ชิงหยู่จงใจทำให้หลิวเฟิงโกรธ แต่การที่ทำให้หลิวเฟิงโกรธ มันจะเป็นผลดีต่อพวกเธอหรือเปล่า?
ก่อนที่หยางเซินเซินจะพูดเตือนสติเธอ น้ำเสียงเย็นชาก็ดังเข้ามา
“สมกับเป็นเย่ชิงหยู่ ไม่ได้เจอกันมาหลายเดือนแล้ว ยังดูเกรี้ยวกราดเหมือนเดิมนะ!”
ที่ตามมาคือชายนั่งรถเข็นใส่ชุดจีนถูกคนเข็นเข้ามา