บทที่ 53 ทักษะเสริม
จี้เฟิงมองไปที่สมองหมายเลข 1 อย่างประหม่าและตื่นเต้น และในที่สุดก็เข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 ของการฝึก ซึ่งจี้เฟิงรอคอยมานาน เมื่อเข้าสู่การฝึกฝนในชั้นตอนที่ 2 นี้ สมองหมายเลข 1 ได้บอกว่า เขาสามารถฝึกยิมนาสติกท่าสุดท้ายไปพร้อมๆกับการเรียนรู้ทักษะอื่นๆได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจจี้เฟิงเป็นอย่างมาก
ท้ายที่สุดตั้งแต่ที่เขาเริ่มฝึกจนมาถึงปัจจุบัน จี้เฟิงรู้สึกว่า นอกเหนือจากร่างกายของเขาจะค่อยๆแข็งแกร่งขึ้น ก็มีความสามารถในการจดจำและการมองทะลุได้แล้ว เขาก็ไม่มีทักษะอื่นใดที่เขาจะรู้สึกภาคภูมิใจได้ แต่ความสามารถเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นที่เขาจะต้องมีเพื่อที่จะช่วยให้เขาได้รับการฝึกฝนจากระบบการฝึกสุดยอดสายลับได้ดีขึ้น ในตอนนี้เขาจึงตื่นเต้นมากที่จะได้เรียนรู้ทักษะอื่นๆ
ถ้าคนอื่นๆรู้ว่าเขามีความคิดแบบนี้ในขณะที่เขาครอบครองความสามารถที่เกือบจะเหนือมนุษย์ปกติไปแล้วนี้ เขาคงจะถูกตราหน้าอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นร่างกายที่แข็งแรงหรือความสามารถที่จดจำได้อย่างไม่มีวันลืม ก็เป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่กล้าแม้แต่จะนึกถึง นับประสาอะไรกับความสามารถด้านมุมของของเขาที่สามารถมองทะลุในสิ่งที่ต้องการได้ ต่อให้ใช้หัวแม่เท้าคิด ก็รู้ได้เลยว่าความสามารถเหล่านี้จะเอื้ออำนวยประโยชน์ได้มหาศาลขนาดไหนในอนาคต!
แต่จี้เฟิงยังคงไม่พอใจ เพราะนอกเหนือจากเรื่องสมรรถภาพทางกายที่แข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว เขาก็ไม่สามารถที่จะใช้ความสามารถด้านอื่นๆ ได้อย่างเปิดเผย ทั้งความสามารถในด้านการจำไม่ลืมหรือความสามารถของการมองเห็นในการมองทะลุ ไม่เช่นนั้นเขาคงถูกจับตัวไปเป็นหนูทดลองในการทำวิจัยเข้าสักวันหนึ่ง
เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ในอนาคตที่เขาจะต้องถูกจับมัดติดกับเก้าอี้เพื่อทดสอบร่างกายของเขาที่เต็มไปด้วยสายไฟระโยงระยางและถูกเจาะเลือดเป็นครั้งคราว… เมื่อนึกถึงภาพเหล่านั้น จี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น มันไม่ใช่เหตุการณ์ที่เขาต้องการให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน!
ดังนั้นจี้เฟิงจึงมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ทักษะอื่นๆ เขามักจะได้ยินคนโบราณชอบพูดว่า “รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม”
“ตอนนี้ผมสามารถเรียนรู้ทักษะอะไรได้บ้าง” จี้เฟิงถามอย่างคาดหวัง
สมองหมายเลข 1 ที่ตอนนี้เป็นกลุ่มแสง ได้สั่นขึ้นลงสองสามครั้ง และทันใดนั้น ต้นอ่อนที่เป็นลักษะเดียวกันกับต้นอ่อนของต้นไม้ต้นเล็กๆ แต่ต่างกันตรงที่ว่า ต้นอ่อนนี้เต็มไปด้วยแสงสว่าง ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าจี้เฟิง หลังจากนั้นต้นอ่อนเล็กๆ ได้เติบโตขึ้นด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ภายในเวลาไม่กี่นาทีมันก็เติบโตเป็นต้นไม้ขนาดเล็กที่สูงกว่าจี้เฟิงประมาณครึ่งเมตร
จี้เฟิงรู้สึกตื่นตาตื่นใจ แต่สิ่งที่ทำให้จี้เฟิงรู้สึกประหลาดใจมากก็คือ ทุกกิ่งก้านบนต้นไม้ต้นเล็กนี้ จะส่องแสงสว่างทั้งหมดรวมถึงลำต้นของต้นไม้ต้นเล็กนี้ ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับ ต้นไม้สีเขียวตามข้างทางของถนนที่มีไฟนีออนแขวนประดับอยู่ในทุกๆ กิ่งก้านของต้นไม้และส่องแสงสว่างอย่างสวยงามในเวลากลางคืน
และอีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจของจี้เฟิงเป็นอย่างมากนั่นก็คือ แสงระยิบระยับบนต้นไม้ที่เมื่อมองดีๆ แล้วจะเห็นว่า แสงระยิบระยับเหล่านั้นเปล่งออกมาจากตัวหนังสือในแต่ละข้อความที่ถูกสลักอยู่ตามลำต้นและกิ่งก้านทั้งหมดของต้นไม้ต้นนี้
<ระบบฝึกฝนทักษะพื้นฐานสุดยอดสายลับระดับสูงของอาณาจักแกมมา>
ตัวหนังสือบรรทัดนี้คือสาเหตุที่ทำให้ส่วนของลำต้นส่องแสงระยิบระยับออกมามากที่สุด เป็นตัวหนังสือที่ถูกสลักไว้ที่ลำต้นของต้นไม้
เมื่อมองไล่ขึ้นมา กิ่งแรกที่ได้เห็นคือกิ่งไม้ทางด้านซ้ายซึ่งสลักข้อความที่อ่านได้ว่า ..
<ทักษะเสริมพื้นฐานด้านภาษา>
“ภาษา ?” จี้เฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วยิ้มทันที “คุณสมองหมายเลข 1 ผมเลือกเรียนอันนี้ได้ไหม ผมคิดว่าถ้าผมได้เรียนภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง อย่างน้อยๆก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการสอบในภายหลัง!”
ครั้งสุดท้ายที่จี้เฟิงสามารถแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษในชั้นเรียนได้นั้น เขาทำได้โดยการใช้ความสามารถของสมองอัจฉริยะ มันยังไม่ใช่ความรู้ความเข้าใจอย่างท่องแท้ของเขาเอง ในเมื่อตอนนี้เขามองเห็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้มันอย่างแท้จริง เขาจึงไม่อยากที่จะพลาดโอกาสนี้ไป
แต่ผิดคาด เมื่อสมองหมายเลข 1 ทำท่าเหมือนส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “ขออภัยด้วยมาสเตอร์ สมองคิดว่าคุณไม่ควรเรียนรู้เกี่ยวกับภาษานี้ในตอนนี้ เพราะภาษาที่มีอยู่ในฐานข้อมูลของระบบในตอนนี้นั้น เป็นภาษาของชาวกาแลกซี่แกมมา ซึ่งมีความแตกต่างจากภาษาของดาวโลกเป็นอย่างมาก!”
จี้เฟิงรู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันที เขาคาดหวังที่จะได้เรียนภาษาอังกฤษอย่างจริงจังหรืออย่างน้อยๆ ก็ เป็นภาษาอื่นๆ ที่มีอยู่บนโลกนี้ แต่มันดันกลับเป็นภาษาของมนุษย์ต่างดาว…
เขาพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ และเงยหน้าขึ้นมองไปยังกิ่งก้านของต้นไม้อีกครั้ง เขามองถัดไปยังกิ่งที่สอง มีข้อความสลักไว้ว่า ..
<ทักษะเสริมพื้นฐานด้านมารยาท>
จี้เฟิงจ้องมองอยู่ที่กิ่งไม้ที่สองนี้อยู่สักพัก โดยที่เขาไม่ต้องถามสมองหมายเลข 1 เขาก็รู้ได้โดยทันทีว่า การเรียนรู้ทักษะเสริมพื้นฐานด้านมารยาทนี้ต้องเป็นมารยาทของกาแลคซี่แกมมาอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งมันคงไม่เหมาะที่จะเรียนรู้และนำมาใช้งานบนโลกอย่างแน่นอน หากเขามีเวลาว่าง เขาอาจจะต้องมาเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ในสักวันหนึ่ง แต่ในตอนนี้เขาต้องเรียนรู้ทักษะที่สำคัญอื่นๆก่อน!
จี้เฟิงมองที่กิ่งถัดไปในทันที ในที่สุดเขาก็พบกับทักษะอื่นๆ ที่ทำให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้น
<ทักษะเสริมพื้นฐานเกมไขปริศนา>
“เกมเหรอ? มันน่าสนุกใช่ไหม?” จี้เฟิงถามสมองหมายเลข 1 อย่างอยากรู้อยากเห็น มีทักษะช่วยเล่นเกมด้วยแฮะ สงสัยเกมของมนุษย์ต่างดาวคงจะสนุกน่าดู สายตาของเขายังคงมองไล่ไปที่กิ่งไม้กิ่งนี้ แต่สิ่งที่เขาเห็นมันทำให้เขาถึงกับพูดไม่ออก
ในกิ่งไม้อันนี้ ยังมีกิ่งอื่นๆ ที่ขยายออกเป็นหลายกิ่งก้านสาขา ซึ่งแต่ละกิ่งย่อยนั้นก็มีการสลักข้อความของทักษะต่างๆ ที่อ่านแล้วสร้างความงุนงงให้แก่จี้เฟิงเป็นอย่างมาก
เมื่อเขาลองมองดูดีๆ จะพบว่ามีรายการเล็กๆ ไม่น้อยกว่าสิบรายการในเกมปริศนาอย่างเดียว
<การเผชิญหน้าชิงธง>
<การเผชิญหน้ากับโอเทลโล่>
<การเผชิญหน้าวางกลยุทธ์ทางการทหาร>
…………………..
ข้อความที่สลักอยู่ในหัวข้อย่อยเหล่านี้ ต่างเป็นประเภทการเผชิญหน้าทั้งหมด รายชื่อเกมแปลกๆ เหล่านี้ จี้เฟิงไม่เคยรู้จักหรือแม้แต่จะเคยได้ยินมันมาก่อน ทำให้ในตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับว่าหัวของเขาโตขึ้นไปชั่วขณะ
“เอ่อ.. ผมว่าคุณสมองแนะนำผมดีกว่า ผมไม่รู้จะเลือกอันไหนเลย!” จี้เฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ดูบิดเบี้ยว
ยังมีความแตกต่างอีกมากระหว่างดาวโลกกับดาวอื่นๆ นอกจากนี้ จี้เฟิงไม่มีความรู้เกี่ยวกับดาวอื่นๆ เลย เขาจึงไม่สามารถที่จะเดาความหมายของข้อความที่เห็นตรงหน้านี้ได้เลย
สมองหมายเลข 1 ตอบอย่างตรงไปตรงมา “ได้ครับมาสเตอร์! สมองขอแนะนำสิ่งแรกที่มาสเตอร์ควรเรียนรู้จากเกมปริศนาเหล่านี้ควรเป็น การเผชิญหน้ากับโอเทลโล่ นี่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาทางสติปัญญาของมาสเตอร์!”
“อ่าหะ.. เมื่อคุณสมองว่าอย่างนั้น ก็เริ่มได้เลย!” จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่เคยได้ยินชื่อของเกมเหล่านี้เลย แต่จี้เฟิงมั่นใจว่าสมองหมายเลข 1 จะไม่เลือกสิ่งที่ไม่ดีให้กับเขาอย่างแน่นอน
“ได้ครับมาสเตอร์!” สมองหมายเลข 1 ตอบอย่าวรวดเร็ว วินาทีต่อมาจี้เฟิงเห็นว่า ต้นไม้ต้นเล็ก ตรงหน้าเขาได้หายไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นภาพตรงหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป กลายเป็นห้องที่ว่างเปล่า มีโต๊ะและกระดานที่เป็นตารางขนาดใหญ่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆกระดานมีตัวหมากสีขาวและสีดำ
“นี่มัน…?” จี้เฟิงมองไปที่กระดานด้วยความตกตะลึง
“มาสเตอร์! นี่คือทักษะพื้นฐานไขเกมปริศนา การเผชิญหน้ากับโอเทลโล่ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้สูงอายุในกาแลคซีแกมมา และมันมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาสติปัญญา!” สมองหมายเลข 1 ตอบ
“วอทเดอะ..ฟ!!”
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะสบถออกมาเขาพูดด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว “โอเทลโล่บ้าบออะไรกัน ตัวหมากขาวกับดำแบบนี้.. นี่มันหมากล้อมชัดๆ!!”
ปรากฏว่าชื่อเรียกที่เขาไม่คุ้นหูอย่างการเผชิญหน้ากับโอเทลโล่อะไรนั่น ความจริงมันก็คือเกมกระดานหมากล้อมของมนุษย์ปกติธรรมดานี่แหละ
แต่ถึงเขาจะบ่น แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงมีความสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาอยู่ดี แม้ว่ามันจะไม่สามารถใช้หาเลี้ยงชีพได้ก็ตาม (นายไม่เคยดู THE QUEEN’S GAMBIT ล่ะสิจี้เฟิง! #ผู้แปล) แต่แน่นอนว่าเกมหมากล้อมหรือโอเทลโล่ที่สมองหมายเลข 1 เรียกนี้ ก็สามารถใช้เป็นการฝึกสมองได้เช่นกัน นอกจากนี้หมากล้อมยังนำไปเล่นเพื่อความบันเทิงได้อีกด้วย มันจึงไม่ใช่เรื่องแย่นักหากจะต้องเรียนเกี่ยวกับมัน!
“มาสเตอร์ การฝึกกำลังจะเริ่มต้นขึ้น!” รอยยิ้มที่ดูแปลกๆของจี้เฟิงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการในการฝึกของสมองหมายเลข 1 แต่อย่างใด
ทันทีที่เสียงของสมองหมายเลข 1 สิ้นสุด ก็ปรากฏเป็นร่างเสมือนของชายชราผมสีเทานั่งอยู่ที่ด้านหนึ่งของโต๊ะ เขาไม่ได้แสดงท่าทางหรือสีหน้าใดๆออกมา
ในขณะที่จี้เฟิงกำลังมองร่างเสมือนอยู่นั้นเขาก็ตกใจเมื่อ ได้ยินสมองหมายเลข 1 เริ่มอธิบายว่า “มาสเตอร์ ร่างเสมือนตรงหน้านี้คือ มิสเตอร์โอลิเวอร์ เขาเป็นปรมาจารย์ด้านโอเทลโล่ของกาแลกซี่แกมมา ระบบได้บันทึกความสามารถและเทคนิคต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ของมิสเตอร์โอลิเวอร์ไว้ทั้งหมด และการแสดงความสามารถจะเปลี่ยนตามผู้เล่นฝั่งตรงข้ามโดยอัตโมมัติ โดยยังคงเป็นสไตล์การเล่นของต้นแบบอย่างมิสเตอร์โอลิเวอร์”
จี้เฟิงพยักหน้าและเดินไปนั่งลงยังฝั่งตรงข้ามกับร่างเสมือนของมิสเตอร์โอลิเวอร์
“เริ่มการฝึก!” สมองหมายเลข 1 กล่าว
…….จบบทที่ 53~