The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ – บทที่ 154 ซื้อรถ

บทที่ 154 ซื้อรถ

หลังจากได้รับการสั่งสอนโดยจี้เฟิงจี้ช่าวหยินก็ดูเหมือนจะสงบเสงี่ยมขึ้นมากแม้ว่าสีหน้าของเขาจะดูบูดบึ้งอยู่บ้างก็ตามที แต่เขาก็ไม่กล้าพูดจาอวดดีอะไรอีก จี้เฟิงกวาดสายตาไปรอบๆจนเมื่อสายตาของเขามาถึงจี้ช่าวหยิน จี้ช่าวหยินก็รีบหลบตาจี้เฟิงอย่างรวดเร็วเห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกกลัวจี้เฟิงอยู่ในใจ
ไม่ได้มีแค่จี้ช่าวหยินที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเลยตลอดทางแต่คนอื่นๆก็ไม่ได้พูดอะไรเลยเช่นกัน จี้ช่าวตงและจี้ช่าวเหลยกำลังรู้สึกโกรธและไม่พอใจพฤติกรรมที่เหลวแหลกของน้องชายของพวกเขาเป็นอย่างมากซึ่งนั่นก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่พวกเขายังไม่คิดที่จะพูดคุยกับจี้ช่าวหยินในเวลานี้ ส่วนจี้เฟิงยังคงรู้สึกสงบและผ่อนคลาย เขาแค่เพียงนั่งอย่างสบายๆบนเบาะหนังของ BMW X6 และหลับตาลง
เมื่อพวกเขากลับมาถึงบ้านของจี้เจิ้นกั๋วอาคนที่สองของจี้เฟิงจี้เฟิงก็ทิ้งจี้ช่าวหยินไว้กับจี้ช่าวตงและจี้เจิ้นกั๋ว ส่วนเขากับจี้ช่าวเหลยออกมาทันทีโดยโดยไม่ได้อยู่ที่บ้านต่อ จี้เฟิงเชื่อว่าด้วยสติปัญญาของอาคนที่สองของเขาจะต้องจัดการเรื่องนี้ได้ดีอย่างแน่นอนและเป็นไปไม่ได้ที่อาของเขาจะอยู่เฉยๆและคอยดูลูกชายของเขาเติบโตมาเป็นคนไม่ดี
“เสี่ยวเฟิงนายวางแผนจะซื้อรถประเภทไหน รถเก๋ง หรือ *SUV” จี้ช่าวเหลยถามด้วยรอยยิ้ม “อันที่จริงแล้วนายไม่จำเป็นต้องซื้อรถก็ได้นะ บังเอิญที่บริษัทมีรถอยู่ โดยปกติก็ไม่มีใครใช้อยู่แล้วด้วย ถ้านายต้องการก็เอาไปได้เลย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็คิดลงบัญชีของบริษัทไป ส่วนเรื่องใบขับขี่ฉันโทรไปจัดการให้แล้ว คิดว่าคืนนี้น่าจะมีคนนำมาส่งให้เลย”
จี้เฟิงส่ายหัวและยิ้ม“พี่รอง พี่คิดจะใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวอยู่นะ ผมว่าแบบนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“คุณผู้ชายครับนี่ผมกำลังหารถให้คุณอยู่นะครับเนี่ย คุณยังพูดกับผมแบบนี้ได้ โอเค! คิดซะว่าทำคุณบูชาโทษก็แล้วกัน!” จี้ช่าวเหลยพูดอย่างประชดประชันด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นนายก็ซื้อรถเองเลยก็แล้วกัน! นายต้องการจะซื้อรถแบบไหนล่ะ”
จี้เฟิงนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดว่า“พี่รองพอจะแนะนำรถรุ่นไหนได้บ้าง เอาที่ประสิทธิภาพดีหน่อย แต่ราคาไม่ต้องสูงมาก และถ้าเป็นไปได้รูปลักษณ์ภายนอกไม่ต้องโดดเด่นสะดุดตา ขอแบบธรรมดาๆก็พอ ข้อกำหนดที่ผมต้องการมีเพียงแค่นี้ไม่มีอะไรนอกเหนือไปกว่านี้แล้วล่ะ”
เขาซื้อรถเพียงเพื่อใช้งานตราบใดที่ประสิทธิภาพของรถดีพอและเหมาะสมกับราคา ส่วนอื่นๆก็ไม่สำคัญ
ทั้งๆที่เป็นข้อกำหนดง่ายๆแต่ก็ทำให้จี้ช่าวเหลยขมวดคิ้ว เพราะโดยปกติแล้วเวลาเขาซื้อรถเขาจะเลือกรถที่ดีที่สุดและแพงที่สุด หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งเขาก็ยังคงคิดไม่ออกจริงๆว่าจะมีรถรุ่นไหนที่เหมาะสมกับความต้องการของจี้เฟิง
“นึกไม่ออกแฮะเอาไว้เราไปถึงที่ร้านแล้วค่อยปรึกษากันอีกรอบ!” จี้ช่าวเหลยส่ายหัว “แต่ถ้าเอาแบบไม่คิดอะไรมาก ฉันว่า Audi ก็โอเคนะ ประสิทธิภาพก็ดีแถมรูปลักษณ์ก็ไม่เด่นสะดุดตาจนเกินไป นายคิดว่าไง”
“จี้เฟิงพยักหน้าอย่างไม่ค่อยจะใส่ใจเท่าไหร่แล้วพูดว่า“แล้วแต่พี่รองเลย”
“ไอ้เจ้าบ้าเอ้ย!”จี้ช่าวเหลยอดไม่ได้ที่จะบ่นอยู่ในใจ “ใครเป็นคนซื้อรถกันแน่วะเนี่ย”
จี้ช่าวเหลยคุ้นเคยกับเจียงโจวเป็นอย่างดีในเวลาไม่นานเขาก็ขับรถพาจี้เฟิงไปยังร้าน Audi 4s
ขณะที่ทั้งสองคนเดินเข้าไปภายในร้านจี้ช่าวเหลยก็พูดแนะนำให้จี้เฟิงฟังว่า “ร้านนี้เป็นร้านของเพื่อนฉันเอง ที่พามานี่เราจะได้รถอย่างที่นายต้องการด้วยราคาที่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าราคามันจะไม่ต่างจากที่อื่นมากมายนัก แต่อย่างน้อยเราก็มั่นใจได้ว่าเราจะซื้อรถได้ในราคาที่ถูกต้องและเหมาะสม และปัญหาที่สำคัญอีกอย่างก็คือเราสามารถไว้ใจให้เขาจัดการเรื่องเอกสารและป้ายทะเบียนรถได้อย่างสบายใจ”
จี้เฟิงเข้าใจในสิ่งที่จี้ช่าวเหลยพูดเป็นอย่างดีดูเหมือนว่าเจ้าของร้านนี้ไม่น่าจะใช่เจ้าของโชว์รูมรถธรรมดาๆ เขาจะต้องเป็นคนที่มีพาวเวอร์พอสมควร ไม่เช่นนั้นจี้ช่าวเหลยคงไม่ถึงขนาดออกปากพูดขนาดนี้
และจี้เฟิงก็รู้อีกด้วยว่าราคาที่จี้ช่าวเหลยพูดถึงว่ามันจะไม่แตกต่างกันมากเกินไปนั้นก็เป็นเรื่องจริงกำไรจากการขายรถมีไม่มาก เพราะรถยนต์มีต้นทุนที่สูงมากอยู่แล้ว ราคาที่บวกเพิ่มจากต้นทุนจึงได้แค่ระดับที่เหมาะสม แต่กำไรที่แท้จริงของการขายรถคือการบำรุงรักษาและซ่อมแซมรถหลังจากที่ขายไปแล้ว นั่นแหละคือแหล่งทำกำไรที่แท้จริง
ทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปในโชว์รูมรถพวกเขาก็เห็นกลุ่มพนักงานขายสาวสวยกำลังยืนคุยกันอยู่ตรงแผนกต้อนรับด้านหน้า เมื่อพวกเธอเห็นจี้ช่าวเหลยและจี้เฟิงเดินเข้ามา พวกเธอทำเพียงแค่เหลือบมองพวกเขาด้วยหางตาและพูดคุยกันต่อโดยไม่คิดที่จะมาต้อนรับ
จี้ช่าวเหลยขมวดคิ้วและกำลังจะอ้าปากพูดแต่เขาเห็นจี้เฟิงส่ายหัวและยิ้ม “ช่างมันเถอะ มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์”
“ฮึ่ม!”สีหน้าของจี้ช่าวเหลยดูบึ้งตึงมากเขาส่งเสียงฮึ่มฮั่มอยู่ในลำคออย่างไม่ค่อยพอใจ “เสี่ยวเฟิง ฉันว่านายต้องใส่เสื้อผ้าดีๆหน่อยแล้วล่ะ จะได้ไม่โดนคนอื่นดูถูก อย่างคนพวกนี้เป็นพนักงานบริการแท้ๆ แต่กลับดูถูกลูกค้า!”
ไม่น่าแปลกใจที่พนักงานขายสาวสวยเหล่านั้นจะทำตัวหยิ่งผยองเพราะเสื้อผ้าที่จี้เฟิงสวมใส่นั้นดูธรรมดามากจริงๆ เขาใส่แค่เสื้อยืดเรียบๆกางเกงยีนส์ลำลองและรองเท้าหนังถูกๆ ด้วยเครื่องแต่งกายเช่นนี้แม้จะเป็นร้านค้าทั่วไปก็แทบจะไม่มีใครมอง ดังนั้นในสายตาของพวกเธอคนที่แต่งกายเช่นนี้จะมีปัญญาซื้อรถได้อย่างไร
จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า“อย่าไปคิดอะไรมากเลยพี่รอง พวกเธอก็เป็นคนทำมาหากิน พอเห็นคนที่คิดว่าไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อรถได้ พวกเธอก็คงไม่อยากจะเสียเวลา ถ้าเป็นผมผมก็อาจจะทำแบบเดียวกัน ฮ่าฮ่า..”
“นายนี่ใจกว้างจริงๆ!”จี้ช่าวเหลยส่ายหัวและพูดว่า “งั้นเราก็เข้าไปข้างในกันเถอะ ฉันอยากจะรู้นักว่าผู้หญิงพวกนี้จะทำตัวหยิ่งผยองได้ซักแค่ไหน!”
จี้เฟิงได้แต่ส่ายหัวและยิ้มแห้งๆก่อนที่จะเดินตามจี้ช่าวเหลยเข้าไปด้านใน
“มีคางคกขึ้นวอมาอีกสอง!”ที่แผนกต้อนรับพนักงานขายผู้หญิงคนหนึ่งกระซิบกับเพื่อนข้างๆ เนื่องจากจี้เฟิงสวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาพนักงานขายเหล่านี้จึงไม่คิดที่จะมองอย่างละเอียดรอบคอบจึงทำให้ไม่ทันสังเกตว่าจี้ช่าวเหลยที่อยู่ข้างๆจี้เฟิงนั้นสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม
แต่ก็ไม่แปลกถ้าพนักงานสาวเหล่านี้มองอย่างละเอียดแล้วก็ยังไม่รู้จักเสื้อผ้าแบรนด์เนมของจี้ช่าวเหลยเพราะมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเธอจะได้เห็นบ่อยๆ
“นั่นน่ะสิแล้วดูผู้ชายที่ดูนิ่งๆติ๋มๆคนนั้น ทำไมคนแบบนี้ถึงไม่รู้จักเจียมตัวกันบ้างเลย จะมาซื้อรถAudiจริงๆน่ะเหรอ ตลก!” พนักงานขายพูดจาดูถูกและหัวเราะเยาะ
ในบรรดาพนักงานขายเหล่านี้มีเด็กสาวคนหนึ่งอายุประมาณ20 ปีที่ไม่ได้มีท่าทีหรือพูดจาดูถูกจี้เฟิง แต่เธอพูดขึ้นว่า “บางทีพวกเขาอาจจะมาที่นี่เพื่อมาดูเอาไว้ก่อนและพวกเขาอาจจะกลับมาซื้อในภายหลังก็ได้”
“เหอะ!”
พนักงานขายที่อยู่ข้างๆเธอพูดอย่างเหยียดหยาม“เสี่ยวหลิวเธอเพิ่งจะเรียนจบ ยังรู้จักคนไม่มากพอ มันจะมีคนประเภทไม่เจียมตัวและคิดว่าพอตัวเองมีเงินนิดๆหน่อยๆก็คิดว่าพอที่จะซื้อรถได้!”
“ใช่คนแบบนี้มีเยอะจริงๆ!” พนักงานขายอีกคนกล่าวอย่างเห็นด้วย “นี่ ฉันจะเล่าเรื่องตลกอะไรให้ฟัง มีลุงแก่ๆคนหนึ่งเข้าไปในเมืองและเจอโชว์รูมรถที่เขียนป้ายไว้ว่า ‘ใหม่รถซานตาน่า2000’ พอลุงเห็นแบบนั้นก็ดีใจรีบเข้าไปในร้านแล้วควักเงินออกมาสองพันเพื่อที่จะซื้อรถ พนักงานขายคนนั้นถึงกับพูดไม่ออกเลยได้แต่บอกไปว่า “คุณลุงควรไปซื้อรถอีกด้านหนึ่งนะคะ เป็นรถเบนซ์600.. คิกคิก~!”
หลังจากที่เธอเล่าจบพนักงานขายหลายคนก็หัวเราะเสียงดังและมองไปที่จี้เฟิงกับจี้ช่าวเหลยในเวลาเดียวกัน
พนักงานขายเหล่านี้ไม่ได้คิดที่จะลดเสียงการพูดคุยของพวกเธอเลยดังนั้นด้วยเสียงที่ดังของพวกเธอจึงทำให้จี้เฟิงและจี้ช่าวเหลยได้ยินอย่างชัดเจน ใบหน้าของจี้ช่าวเหลยในเวลานี้บูดเบี้ยวอย่างน่ากลัวและดวงตาของเขาก็ดูเหมือนกับจะมีไฟพุ่งออกมาได้ทุกเมื่อ เขาไม่เคยเจอการดูถูกแบบนี้มาก่อน.ไอรีนโนเวล.
“พวกผู้หญิงชั้นต่ำไม่เจียมตัว!”จี้ช่าวเหลยตะคอกอย่างเย็นชาและกำลังจะก้าวไปข้างหน้า แต่ถูกจี้เฟิงรั้งไว้ “พี่รอง จะทำอะไรก็นึกถึงตัวเองด้วย พี่เป็นถึงประธานแห่งเจียนอันกรุ๊ป ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจบ้างนะ หายใจเข้าลึกๆ ใจเย็นไว้!”
“เสี่ยวหลิวไปต้อนรับพวกเขา!” พนักงานขายที่อายุมากที่สุดในกลุ่มรู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่ผู้ชายสองคนนี้จะซื้อรถ แน่นอนว่าเรื่องเสียเวลาเช่นนี้ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของน้องใหม่ได้เรียนรู้กับความบันเทิง!
พนักงานขายคนอื่นๆที่เหลือต่างหัวเราะเยาะพูดจาถากถางเธอทีละคนเสี่ยวหลิวรู้สึกทนไม่ได้แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร และเมื่อเป็นคำสั่งของพนักงานรุ่นพี่ที่อายุมากกว่าเธอจึงต้องทำตาม
เสี่ยวหลิวเดินเข้าไปหาจี้เฟิงและจี้ช่าวเหลยด้วยรอยยิ้มเขินๆและถามว่า“คุณลูกค้าทั้งสอง มีอะไรให้ฉันช่วยหรือเปล่าคะ”
เมื่อมองไปที่ผู้หญิงที่ออกมาต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้มเขินอายอารมณ์ของจี้ช่าวเหลยก็ดีขึ้นเล็กน้อยและเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “คุณไม่ได้เป็นแบบที่พวกเขาพูดฉันมั่นใจ คุณดีกว่าผู้หญิงพวกนั้นที่ดีแต่ดูถูกคนอื่น!”
ใบหน้าของเสี่ยวหลิวดูลำบากใจเล็กน้อยจากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “คุณลูกค้าทั้งสองได้โปรดอย่าโกรธไปเลย ช่วงนี้อากาศร้อนเกินไป อารมณ์ของพวกเธอเลยไม่ค่อยดีนัก”
จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อยผู้หญิงคนนี้ไม่เลวเลย อย่างน้อยเธอก็มีมารยาทพื้นฐานซึ่งเป็นสิ่งที่คนสมัยนี้แทบไม่ใส่ใจกันแล้ว
“คุณพนักงานขายฉันอยากได้รุ่นที่หรูหราที่สุด เอา A6 มาให้น้องชายฉัน!” จี้ช่าวเหลยยิ้มและหันหน้าไปพูดกับจี้เฟิง “ภายนอกของ A6 นั้นดูเรียบหรูไม่โดดเด่นจนเกินไป ระบบภายในก็เข้าใจง่าย แถมประสิทธิภาพเครื่องยนต์ก็ดี น่าจะตรงกับความต้องการของนายเกือบทุกข้อ นายคิดว่าไง”
จี้เฟิงยิ้มและพยักหน้า“ก็ตามนั้น!”
เสียวหลิวอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้างพวกเขาสองคนแทบจะไม่ได้มองไปที่รถเลยแต่พวกเขากลับตัดสินใจหลังจากเพิ่งพูดคุยกันเพียงไม่กี่ประโยคมันเป็นเรื่องที่เธอคิดไม่ถึงจริงๆ
พนักงานขายคนอื่นๆที่กำลังรอดูเรื่องตลกต่างก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินบทสนนาระหว่างทั้งสองคน
“เป็นไปได้ยังไง!”ประโยคนี้ต่างผุดขึ้นมาอยู่ในใจของพวกเธอทุกคน
ผู้ชายสองคนเดินเข้าโชว์รูมรถด้วยสารรูปแบบนี้แล้วจะมาซื้อรถง่ายๆอย่างนี้เลยเนี่ยนะ!
หลังจากที่นิ่งอึ้งกันไปครู่หนึ่งหัวสมองของพนักงานขายเหล่านั้นก็เริ่มกลับมาทำงานอย่างรวดเร็วพวกเธอเริ่มคำนวณตัวเลขว่าจะได้ค่าคอมมิชชั่นเท่าไหร่จากการขายรถยนต์ Audi A6 สุดหรูคันนี้
พนักงานขายทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เสี่ยวหลิวด้วยความอิจฉาโดยเฉพาะพนักงานขายที่เป็นคนสั่งให้เสี่ยวหลิวออกไปต้อนรับจี้เฟิงและจี้ช่าวเหลย ยิ่งรู้สึกอิจฉามากกว่าใคร ถ้าเพียงแค่เป็นเธอที่ได้ยอดขายนี้…
หลังจากนั้นไม่นานพนักงานขายทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะแอบคิด คางคกขึ้นวอสองคนนี้คงจะพูดพล่อยๆเพราะกลัวเสียหน้าสินะ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน! คนที่ไม่มีปัญญาแม้แต่จะซื้อเสื้อผ้าดีๆใส่ จะมาซื้อรถAudiสุดหรูราคาตั้งหลายแสนได้อย่างไร?!
เสี่ยวหลิวในเวลานี้ไม่ได้คิดอะไรมากมายเธอแค่ยิ้มและทำตามหน้านี้ของพนักงานบริการ “ลูกค้าทั้งสอง ตอนนี้ทางเรามีรถ A6 สุดหรูอย่างที่ลูกค้าต้องการอยู่พอดีเลยค่ะ ลูกค้าทั้งสองจะรับรถไปในวันนี้เลยหรือ…”
จี้ช่าวเหลยมองไปที่จี้เฟิงและกระซิบว่า“เสี่ยวเฟิง นายมีเงินพอหรือเปล่า แต่ถ้ายังไง พี่ชายคนนี้มอบรถคันนี้ให้เป็นของขวัญกับนายได้นะ พี่น้องพบหน้ากันทั้งที ฉันยังไม่ได้ให้อะไรนายเลย!”
จี้เฟิงส่ายหัวและยิ้มเล็กน้อย“ไม่เป็นไร ผมมีเงินเพียงพอ!”
จี้ช่าวเหลยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเท่าที่เขารู้มา จี้เฟิงและแม่ของเขาเคยอาศัยอยู่ในเขตเล็กๆมาก่อน พวกเขามีอาชีพหลักคือการขายผักเพียงอย่างเดียวและเขาจะใช้เงินหลายแสนโดยไม่คิดได้อย่างไร หรือเขาได้เงินมาจากคุณลุง?
เหมือนจี้เฟิงจะอ่านความคิดของจี้ช่าวเหลยได้เขาจึงยิ้มและกล่าวว่า “การพนันแร่หินหยกเมื่อเช้านี้ทำกำไรให้ผมได้นิดหน่อย ดังนั้นเรื่องการซื้อรถจึงไม่ใช่ปัญหา”
จี้ชาวเหลยเข้าใจได้ทันทีแม้เขาจะไม่เคยเล่นมาก่อนแต่เขาก็เคยได้ยินเรื่องการพนันแร่หินหยกมาบ้าง อย่างไรก็ตามเนื่องจากจี้เฟิงยืนยันหนักแน่นว่าเขามีเงินเพียงพอที่จะซื้อรถ จี้ช่าวเหลยจึงไม่ได้พูดอะไรอีก แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองจะดี แต่บางครั้งเรื่องเล็กน้อยก็เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย
“คุณพนักงานขายผมจะรับรถตอนนี้เลยและชำระโดยการโอนเข้าธนาคารโดยตรง!” จี้เฟิงยิ้ม
ในเวลานี้ทุกคนต่างประหลาดใจในความเป็นจริงถ้าเป็นคนรวยมาซื้อรถแม้ว่าเขาจะซื้อรถซักสิบคันในครั้งเดียวก็ไม่น่าแปลกใจ อย่างไรก็ตามสองคนนี้เป็นแค่คางคกขึ้นวอในสายตาของเหล่าพนักงานขาย ทำไมพวกเขาถึงซื้อรถโดยไม่ลังเล มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไป!

The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ

The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ

Status: Ongoing

       ตลอดชีวิตที่ถูกมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม จนถึงจุดต่ำสุดของชีวิต จี้เฟิงได้รับพลังมาจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าปัจจุบันมาก มันช่วยเพิ่มความสามารถในทุกๆด้านราวกับเวทมนตร์ ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเขาก็ไม่ธรรมดาอีกต่อไป! ด้วยระบบอัจฉริยะที่จี้เฟิงได้ฝึกฝนจนบรรลุทักษะพิเศษ ชีวิตของจี้เฟิงกลายเป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท