The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ – บทที่ 186 ตัดสินใจ

บทที่ 186 ตัดสินใจ

  ในไม่ช้าเสียงไซเรนของรถตำรวจก็ค่อยๆดังขึ้นและรถตำรวจหลายสิบคันก็แล่นมาที่เนินเขาอย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้เหล่าผู้ชื่นชอบการแข่งรถใต้ดินต่างพากันตกใจพวกเขาจะถูกตำรวจจับไม่ได้! โดยเฉพาะถ้าหากตำรวจบอกพ่อแม่พวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาทำมันจะทำให้พวกเขาเจอกับปัญหาใหญ่ พวกเขาอาจถูกห้ามในเรื่องนี้อย่างถาวรหรือบางทีพ่อแม่พวกเขาอาจส่งตัวไปพวกเขาไปอยู่ต่างประเทศด้วยความโกรธ หรือแม้กระทั่งอาจมีการลงโทษที่รุนแรงกว่านี้
“คุณจี้คือคนไหน”ตำรวจถามเสียงดัง
จี้เฟิงยกมือขึ้น“ผม”
ตำรวจคนที่ถามเดินตรงไปทางจี้เฟิงทันทีและกล่าวทักทาย“นายน้อยจี้ ผมเป็นหัวหน้าทีมชื่อ หวังเฉียง ตามคำสั่งของผู้กำกับ ให้พวกเราปฏิบัติตามคำสั่งของนายน้อยจี้ทุกประการ!”
เนื่องจากเซียวหยูซวนรู้จักตัวตนที่แท้จริงของจี้เฟิงแล้วเธอจึงไม่รู้สึกแปลกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้านี้เท่าไหร่นัก
อย่างไรก็ตามหวู่หลิงเอ๋อรู้สึกตกใจมากเมื่อเห็นแบบนี้จี้เฟิงยังเป็นแค่นักศึกษา แต่ทำไมตำรวจเหล่านี้กลับเชื่อฟังคำสั่งของเขา
ลองคิดดูดีๆสิ่งเหลือเชื่อเหล่านี้ทำไมถึงได้เกิดขึ้นติดๆกันขนาดนี้ ตั้งแต่ทักษะการขับรถที่น่าทึ่งของจี้เฟิงมาจนถึงภาพเหตุการณ์ตรงหน้าที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่จนแม้แต่ตำรวจยังต้องเชื่อฟัง เพียงแค่นี้ก็มากเกินพอที่จะแสดงให้เห็นว่าภูมิหลังของคนคนนี้ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะจินตนาการได้ !
“พาคนทั้งหมดนี้ไปที่สถานีตำรวจและดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายได้เลยพวกเขาทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแข่งรถที่ผิดกฎหมาย ส่วนผู้ชายที่สลบอยู่และผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้น พวกเขาสองคนเป็นแกนนำและผู้จัดการแข่งขันรถใต้ดินที่ผิดกฎหมายโดยตรง การกระทำของพวกเขาเลวร้ายอย่างยิ่ง ผมขอแนะนำให้ปฏิบัติกับพวกเขาอย่างเคร่งครัด!” จี้เฟิงกล่าวเบาๆ
“ครับนายน้อยจี้!”หวังเฉียงตอบรับเสียงดัง จากนั้นเขาก็โบกมือบอกคนอื่นๆ จากนั้นตำรวจก็เข้าควบคุมตัวทุกคนทันที
“นายน้อยจี้มีคำแนะนำอย่างอื่นเพิ่มเติมหรือไม่!”หวังเฉียงถาม
“ไม่มีคุณสามารถกลับไปจัดการเรื่องนี้ต่อได้เลย!” จี้เฟิงโบกมือและหันไปจ้องมองที่หวู่หลิงเอ๋อ “มันไม่สำคัญว่าคุณจะฉลาดหัวหมอแค่ไหน แต่หยูซวนเป็นเพื่อนของคุณ คุณไม่ควรทำกับเธอแบบนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นภายในวันนี้จะเป็นบทเรียนให้คุณต้องจดจำมันไปตลอดชีวิต!”
หวู่หลิงเอ๋อไม่สามารถพูดเถียงอะไรออกไปได้เลยเธอได้แต่ก้มหน้าและความอับอายก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ
บนเนินเขาแห่งถนนปันซานลูกเศรษฐีหลายสิบคนถูกจับกุมตัวไปทั้งหมดและจี้เฟิงกับเซียวหยูซวนก็นั่งรถวอลโว่สีแดงอีกครั้งและขับลงมาจากเนินเขา
“จี้เฟิง..นายไม่ได้เพิ่งบอกกับฉันเหรอว่านายจะไม่ปล่อยให้เสี่ยวหลิงต้องติดคุก” เซียวหยูซวนถามด้วยความเป็นกังวล
จี้เฟิงยิ้ม“ไม่ว่าเธอจะต้องติดคุกหรือไม่ แต่เธอก็ต้องได้รับบทเรียนบ้าง ไม่เช่นนั้นคนอย่างเธอคงจะไม่เข็ดหลาบ และจะทำแบบเดิมซ้ำๆอีกในอนาคต ซึ่งนั่นคงไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการใช่มั้ย”
แม้ว่าจะมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าแต่ดวงตาของจี้เฟิงฉายแววที่เย็นเยียบออกมาโดยไม่ปิดบัง ในความเป็นจริงสิ่งที่จี้เฟิงต้องการจะสื่อก็คือถ้าหวู่หลิงเอ๋อไม่ได้รับบทเรียนอย่างลึกซึ้ง ด้วยนิสัยอย่างเซียวหยูซวนจะต้องถูกคนอย่างหวู่หลิงเอ๋อหลอกใช้อีกอย่างแน่นอนในอนาคต นี่คือสิ่งที่จี้เฟิงให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรก เขาไม่มีทางยอมให้เซียวหยูซวนแฟนของเขาต้องถูกคนอื่นหลอกใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นเพื่อนของเซียวหยูซวนเองก็ตาม
หรือแม้แต่ครั้งเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควรจะให้เกิดขึ้นด้วยซ้ำ
เมื่อมองไปที่การแสดงออกของจี้เฟิงเซียวหยูซวนจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าจี้เฟิงกำลังคิดอะไรอยู่ เซียวหยูซวนได้แต่ถอนหายใจเบาๆและไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้ แต่ในขณะเดียวกันจี้เฟิงก็กำลังขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการที่ต้องเห็นเซียวหยูซวนแฟนของเขาต้องเศร้าใจกับเรื่องของเพื่อนร่วมที่พักของเธอมันก็ทำให้จี้เฟิงต้องทุกข์ใจไปด้วยเช่นกัน
“โอเคหยูซวนคุณเลิกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แล้ว” จี้เฟิงยิ้มหัวเราะเบาๆและกล่าวว่า “หวู่หลิงเอ๋อต้องการให้ผมช่วยไม่ใช่เหรอ ในเมื่อเธอก็ทำให้ผมเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแล้ว ผมก็กำลังจะช่วยเธออยู่นี่ไง”
เซียวหยูซวนมีท่าทีลังเลเล็กน้อยแต่สุดท้ายเธอก็กล่าวขึ้นว่า“จี้เฟิง เหตุผลที่เสี่ยวหลิงทำแบบนี้อาจจะไม่ใช่แค่เพราะความตื่นเต้นหรือเพราะกลัวเสียเขตแดนของเธอไป แต่เธออาจจะมีเหตุผลอื่น…”
จี้เฟิงชะงักเล็กน้อย“มีเหตุผลอะไร”
หลังจากที่เซียวหยูซวนไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งว่าจะเล่าเรื่องส่วนตัวของเสี่ยวหลิงดีหรือไม่แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจที่จะเล่าออกไปเพราะบางทีมันอาจจะช่วยให้จี้เฟิงเห็นใจเสี่ยวหลิงบ้างไม่มากก็น้อย“อันที่จริงเรื่องนี้มันเป็นเพราะตั้งแต่เสี่ยวหลิงยังเด็ก พ่อแม่ของเธอหย่าร้างกัน พวกเขาต่างไปสร้างครอบครัวใหม่และเธอก็ไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบนักสำหรับครอบครัวใหม่ของพ่อแม่เธอ เธอจึงแยกตัวออกมาอยู่คนเดียวและได้รับค่าครองชีพเล็กๆน้อยๆ โดยที่ไม่ได้รับการดูแลอื่นใดอีกเลยจากพ่อแม่แท้ๆของเธอเอง จนเสี่ยวหลิงเติบโตขึ้นเมื่อเห็นว่าพ่อแม่ของเธอยังไม่สนใจใยดีเธอ เธอจึงทำการฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูต่อปีเพิ่มมากขึ้น และต่อจากนั้นเป็นต้นมา ทัศนคติของพ่อและแม่ที่มีต่อเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามพ่อและแม่ของเธอต่างมีลูกกับคู่รักใหม่ของพวกเขา และแน่นอนว่าพวกเขาไม่เป็นมิตรกับเสี่ยวหลิงจนอาจจะเรียกได้ว่าไม่ถูกกันเลยก็ว่าได้” ไอรีนโนเวล
จี้เฟิงรู้สึกขัดแย้งอะไรบางอย่างอยู่ในใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
เซียวหยูซวนกล่าวต่อ“ฉันจำได้ว่าเสี่ยวหลิงเคยบ่นกับฉันว่า ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากให้พ่อแม่ของเธอไม่เหลืออะไรเลย ถ้าเป็นแบบนั้นแม้ว่าชีวิตของเธอจะลำบากขึ้นเล็กน้อย แต่อย่างน้อยเธอก็รู้สึกว่าได้ทำให้พ่อแม่ของเธอต้องรู้สึกเป็นกังวลเหมือนที่เธอเป็นมาโดยตลอด และมันคงจะทำให้เธอรู้สึกดี!”
จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อย“หยูซวนเธอต้องการจะพูดอะไรกันแน่”
เซียวหยูซวนอดไม่ได้ที่จะทำเสียงฟึดฟัดเธอหันไปมองจี้เฟิงอย่างดุๆและอดไม่ได้ที่จะโวยวาย “ที่ฉันสาธยายมาทั้งหมดฉันรู้ว่านายรู้ว่าฉันต้องการอะไร แต่ทำไมนายถึงต้องแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจด้วย!”
จี้เฟิงยังคงยิ้ม“แต่ไม่ว่าหวู่หลิงเอ๋อจะมีเหตุผลอะไรแต่เธอก็ทำมันลงไปแล้ว”
“แต่…”เซียวหยูซวนต้องการจะแก้ต่างให้เสี่ยวหลิง แต่ก็ถูกจี้เฟิงขัดจังหวะ
“หยูซวนผมขอถามคุณหน่อยแล้วกัน ถ้าหวู่หลิงเอ๋อต้องการให้พ่อกับแม่ของเธอกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แล้วเธอต้องฆ่าคนรักปัจจุบันของพ่อแม่เธอ เธอคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงด้วยดีได้ยังงั้นเหรอ คุณคิดว่าตำรวจจะปล่อยเธอไปง่ายๆโดยไม่ต้องรับความผิดทางอาญาหรือเปล่า?”
“เรื่องนี้มันไปเทียบกับการฆาตกรรมได้ยังไง!”เซียวหยูซวนตะโกนอย่างไม่พอใจ
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ!”จี้เฟิงหันไปมองที่เซียวหยูซวนด้วยสีหน้าจริงจัง “หยูซวนคุณไม่คิดว่าเรื่องที่เธอหลอกใช้ประโยชน์จากคุณมันจะไปเทียบกับการฆ่าคนตายได้ใช่มั้ย”
“มันจะเทียบกันได้ยังไงความรุนแรงมันคนละเรื่องกันเลยนะ!” เซียวหยูซวนถามกลับ
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ“ฆ่าเพราะอิจฉายังไงล่ะ! แม้ว่าเธอจะได้ฆ่าคนตายจริงๆ แต่การทำให้พ่อแม่ของเธอต้องแยกจากคนที่พวกเขารักมันก็แทบไม่ต่างจากการฆ่าพวกเขาทั้งเป็น แล้วไหนจะเรื่องที่เธอหลอกใช้คุณเพื่อหาประโยชน์จากผม แม้ว่ามันจะไม่ได้ผิดกฎหมายโดยตรง แต่อันที่จริงมันก็ไม่ต่างจากการทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นอย่างรุนแรงหรอกนะ พฤติกรรมเลวๆแบบนี้คุณคิดว่าควรปล่อยให้เธอลอยนวลโดยไม่ต้องสำนึกผิดอะไรบ้างเลยเหรอ แล้วระหว่างการฆ่าคนตายและการทำให้พวกเขารู้สึกถูกบีบคั้นหัวใจและจมอยู่กับความทุกข์ทรมานอะไรมันคือความแตกต่างของสองอย่างนี้กันล่ะ”
เซียวหยูซวนได้แต่นิ่งเงียบ
“ไม่ต้องห่วงผมจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองเพื่อเห็นแก่คุณผมจะไม่ทำให้เรื่องนี้มันยากเกินไปสำหรับคุณ แต่อย่างไรก็ตามถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้คุณเลิกคบกับหวู่หลิงเอ๋อ เธอสามารถใช้ประโยชน์จากคุณได้ครั้งหนึ่งแล้ว เธอก็สามารถหลอกใช้คุณเป็นครั้งที่สองครั้งที่สามได้ไม่ยาก แต่เพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เห็นถึงสันดานที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้” จี้เฟิงส่ายหัวช้าๆ “ผมคิดว่าเธอน่าจะมีปัญหาทางจิตมาตั้งแต่วัยเด็ก”
“ปัญหาทางจิต!”เซียวหยูซวนตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“คุณคิดว่าเป็นไปได้หรือเปล่าล่ะ”จี้เฟิงที่เวลานี้กำลังขับรถกลับไปยังมหาวิทยาลัยหันไปมองหน้าที่สวยงามแต่เต็มไปด้วยความเป็นกังวลของเซียวหยูซวนเป็นพักๆ “งั้นถ้าสมมติว่าพ่อแม่ของคุณปฏิบัติต่อคุณไม่ดี คุณคิดที่จะโทษว่าเป็นความผิดของพวกเขาหรือแม้กระทั่งหลอกใช้ประโยชน์จากเพื่อนเพื่อทำให้อาชีพการงานของพ่อแม่ตัวเองต้องพังพินาศหรือเปล่าล่ะ?”
เซียวหยูซวนนิ่งคิดสักพักและส่ายหัวอย่างช้าๆ
“เห็นมั้ยล่ะแค่นี้ก็ชัดเจนแล้ว!”
จี้เฟิงหัวเราะ“สำหรับคนบางคน คนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาก็คือพ่อกับแม่ของเขานี่แหละ เพราะพ่อแม่เป็นผู้ให้ชีวิตแก่เรา อย่ามัวแต่ดูเรื่องน้ำเน่าในทีวีมากจนเกินไป พวกลูกนอกสมรสหรือเด็กที่เติบโตมามีชีวิตที่ยากลำบากมาคอยตะโกนว่า “ถ้าเลี้ยงให้ดีไม่ได้ จะให้กำเนิดฉันมาทำไม!” มันเป็นแค่เรื่องไร้สาระที่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักเขียนบทละครที่งี่เง่า!”
“อย่าพูดคำหยาบสิ!”เซียวหยูซวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แต่เธอก็พยักหน้าตามคำพูดของจี้เฟิงอย่างช่วยไม่ได้ เพราะเธอเองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่จี้เฟิงพูด
“พ่อแม่เป็นผู้ให้ชีวิตเราและตราบใดที่พวกเขาปล่อยให้เราอยู่รอดมันก็ถือว่าเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้วไม่ใช่ว่าเราจะฟ้องร้องกับพ่อแม่ตัวเองเพียงเพราะเขาให้เงินเราน้อยเกินไป! ฮ่าฮ่า~!” จี้เฟิงยิ้มอย่างประชดประชัน “คนเราไม่ว่าใครต่างก็ทำผิดกันได้ แม้แต่คนที่เป็นพ่อเป็นแม่คนก็ตาม ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบโดยไม่มีข้อผิดพลาดอะไรเลยอย่างไรก็ตามหากเราทำผิดสิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ตัวว่าเราทำผิดและมีอะไรที่จะแก้ไขหรือปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้บ้าง!” ไอรีนโนเวล
ถึงแม้เซียวหยูซวนจะคิดว่าไม่ใช่เรื่องผิดหากคนเราจะต่อสู้เพื่อผลประโยชน์และความต้องการของตัวเองแต่เธอก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ เพราะการกระทำโดยไม่สนถูกหรือผิดมันเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้สูญเสียความเป็นมนุษย์ได้ง่ายๆ และถ้าถึงจุดนั้นมันจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก ไม่ว่าผลประโยชน์ที่ได้มานั้นจะดีมากแค่ไหน
“เมื่อเราลองคิดแบบนี้เราก็จะรู้ได้ว่าหวู่หลิงเอ๋อมีปัญหาทางจิตจริงๆ เธอเติบโตมาด้วยหัวใจที่บิดเบี้ยว มันสามารถมองเห็นได้ถึงความแตกต่างของเธอกับคนทั่วไป” จี้เฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แต่ผมไม่เคยเลือกปฏิบัติกับคนประเภทนี้เพราะทั้งหมดนี้เกิดจากเหตุผลบางประการและในกรณีของหวู่หลิงเอ๋อพ่อแม่ของเธอก็เป็นหนึ่งในเหตุผลเหล่านั้นเช่นกัน เพียงแค่ว่าการผูกมิตรกับคนประเภทนี้เป็นเรื่องยากกว่าการผูกมิตรกับคนทั่วไป สิ่งที่เราเห็นในวันนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด การหลอกใช้แม้กระทั่งเพื่อนของตัวเองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน!”
จี้เฟิงพูดด้วยใบหน้าที่แสดงออกถึงความรังเกียจ“ถ้าคุณไม่บอกว่าหวู่หลิงเอ๋อมีปัญหากับพ่อแม่ของเธอผมคงคิดว่าเธอเป็นแค่ลูกคนรวยที่เอาแต่ใจเท่านั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนที่มีปัญหาทางจิตที่เห็นแก่ตัวมาก แล้วคุณยังจะปกป้องคนแบบนี้อยู่อีกเหรอ”
เมื่อฟังคำพูดประชดประชันที่จี้ใจดำของจี้เฟิงเซียวหยูซวนก็รู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าขึ้นมาทันที เป็นเพราะเธอรู้สึกสงสารและเห็นใจเสี่ยวหลิง จนลืมตระหนักถึงเหตุและผล ตอนนี้มันค่อนข้างเป็นเรื่องที่น่าตกใจ เมื่อเซียวหยูซวนตระหนักได้ว่า เสี่ยวหลิงเพื่อนของเธอนั้นยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้พ่อแม่ของเธอต้องเป็นทุกข์ ถ้าเป็นพ่อแม่ที่โหดร้ายทารุณเธอก็คงพอจะเข้าใจได้ แต่ในกรณีเสี่ยวหลิงเป็นเพียงแค่เรื่องที่พ่อแม่ของเธอไม่ค่อยสนใจเธอก็เท่านั้น ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรหากเด็กคนนี้กล้าทำขนาดนี้กับพ่อแม่ของตัวเองนั่นก็ไม่น่าใช่สิ่งที่คนปกติจะทำอย่างแน่นอน
“ฉันคงได้แต่ทำใจและปล่อยเธอไปสินะ”หลังจากที่นิ่งเงียบเป็นเวลานาน เซียวหยูซวนก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“ถูกต้องแล้ว!”จี้เฟิงยิ้ม “เป้าหมายของเธอคือการใช้คุณเป็นสะพานในการให้ผมทำลายบริษัทของพ่อกับแม่เธอ ผมคงจะปล่อยให้เป็นอย่างที่เธอต้องการไม่ได้… หยูซวนผมจะยอมให้หวู่หลิงเอ๋อกลับมาได้ก็ต่อเมื่อคุณไปติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยเพื่อย้ายออกมาจากอะพาร์ตเมนต์”
“นายจะให้ฉันย้ายออกเหรอ”เซียวหยูซวนตกใจ
“แน่นอน!”จี้เฟิงพยักหน้าอย่างกับว่าเป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้ว “ผมไม่ควรต้องกังวลเหรอที่ต้องปล่อยให้คุณอยู่กับคนที่จิตไม่ปกติที่ไม่สามารถคาดเดาการกระทำอะไรได้เลย”
“….อืม”เซียวหยูซวนนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้า
จี้เฟิงหัวเราะเบาๆ“หรือว่า…เราควรไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกันดี”
“ไอ้เด็กบ้า!”ใบหน้าของเซียวหยูซวนแดงก่ำด้วยความเขินอาย “ปีศาจน้อยอย่างนายมีแต่เรื่องลามกอยู่ในหัวตลอดทั้งวัน ฉันจะไม่ไปเช่าบ้านอยู่กับนายหรอกนะ!”
จี้เฟิงหัวเราะทันที“หยูซวนผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยนะ ผมแค่เป็นห่วงว่าถ้าคุณยังอยู่กับหวู่หลิงเอ๋อ คุณอาจจะโดนเธอทำอะไรอีก ถ้าอยู่ดีๆเธอเปลี่ยนมาใช้ความรุนแรงขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ”
“เชื่อก็บ้าแล้ว!”เซียวหยูซวนมองเขาด้วยหางตา
เมื่อมองไปที่ท่าทางการแสดงออกของเซียวหยูซวนที่ทั้งน่ารักน่าหมันเขี้ยวในเวลานี้จี้เฟิงก็อยู่ไม่สุกทันที ถ้าหากตอนนี้เขาไม่ได้ขับรถอยู่เกรงว่าเขาคงจะพุ่งเข้าไปกอดเซียวหยูซวนไว้ในอ้อมแขนและจูบเธออย่างดุเดือดไปแล้ว
ราวกับว่าเซียวหยูซวนมองเห็นถึงความคิดที่ร้ายกาจของจี้เฟิงเธออดไม่ได้ที่จะรีบหันหน้าที่มีเสน่ห์ของเธอหนีทันทีและไม่กล้าที่จะหันไปมองที่จี้เฟิงอีก ไม่เช่นนั้นเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ชายคนนี้จะทำอะไรเธออีก เธอยังจำได้อย่างชัดเจนว่าเขาทำอะไรในตอนที่อยู่ในร้านกาแฟ จี้เฟิงได้เข้ามาจูบเธอโดยไม่สนด้วยซ้ำว่าตอนนั้นเขาและเธออยู่ในที่สาธารณะ
“จี้เฟิงนายคิดจะทำอะไร”ในที่สุดเซียวหยูซวนก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นหลังจากที่บรรยากาศภายในรถเงียบไปอยู่พักหนึ่ง
“ก็แค่รอดูว่าตำรวจจะจัดการอย่างไรกับพ่อแม่ของหวู่หลิงเอ๋อส่วนเรื่องหวู่หลิงเอ๋อ… ลืมไปเถอะ การไปใส่ใจกับพวกที่จิตไม่ปกติมันเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์!” จี้เฟิงส่ายหัวเล็กน้อย “ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำคือให้คุณย้ายออกจากอะพาร์ตเมนต์ให้ไวที่สุดและอย่าติดต่อหวู่หลิงเอ๋ออีกเด็ดขาด ปล่อยให้เรื่องมันผ่านไปแบบนี้แหละ…”
เมื่อพูดจบจี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อเจอเรื่องแบบนี้มันก็ทำให้เขาคิดไม่ตกเช่นกัน เว้นแต่ว่าพ่อแม่ของหวู่หลิงเอ๋อจะเป็นคนชั่วร้ายถ้าไม่เช่นนั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปตำหนิพ่อแม่ของเธอได้เลย แต่เห็นได้ชัดว่าหวู่หลิงเอ๋อไม่ได้คิดเช่นนั้น
การจัดการกับคนแบบนี้มันไร้ประโยชน์จริงๆ
เซียวหยูซวนเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่สุดท้ายเธอก็ถอนหายใจและเลือกที่จะนิ่งเงียบ
เป็นเพราะเธอรู้ดีว่าคำพูดของจี้เฟิงนั้นถูกต้องเดิมทีเซียวหยูซวนนั้นเป็นคนที่กตัญญูต่อพ่อแม่ แม้เธอจะรู้ว่าเสี่ยวหลิงมีเหตุผลบางอย่างเพื่อใช้จี้เฟิงในการจัดการพ่อกับแม่ของเธอ แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็เป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับ  “มีเพื่อนที่นิสัยดีและมีทัศนคติคล้ายๆกันดีกว่า”จี้เฟิงยิ้ม “การมีเพื่อนน้อยแต่มีคุณภาพยังไงก็ดีกว่ามานั่งเสียดายเพื่อนที่จิตผิดปกติแบบนั้น มีแต่จะทำร้ายตัวเราเองเปล่าๆ”
เซียวหยูซวนพยักหน้าอย่างเงียบๆ
“เอาล่ะเลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่า” หลังจากพูดจบจี้เฟิงก็เร่งความเร็วของรถขึ้นจากนั้นเครื่องยนต์ก็ส่งเสียงตอบรับและรถก็วิ่งหายลับออกจากถนนปันซาน
……..
“ซวนซวน…”
“ทะลึ่งล่ะเด็กน้อยเรียกฉันว่าหยูซวนก็พอ!”
“โอเคๆ..หยูซวน วันนี้คุณต้องอยู่อะพาร์ตเมนต์คนเดียวผมกลัวคุณจะเป็นอันตราย ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณแล้วกันนะ”
“อย่าแม้แต่จะคิด!ฉันไม่ได้เป็นคนอ่อนแอขนาดนั้น ฉันไม่ต้องการให้คนอื่นมานอนบ้านเดียวกับฉัน!”   “ใครเป็นคนอื่นผมเป็นแฟนคุณต่างหาก!”
“เป็นแค่แฟนลับๆ…ก่อนเท่านั้น”
“แฟนก็คือแฟนสรุปว่าคุณตกลงเป็นแฟนผมแล้วนะ!”
“อ๊ะ!เจ้าเด็กร้ายกาจจอมขี้โกง!”
“ฮ่าๆผู้ชายไม่ร้ายผู้หญิงไม่รัก~”

The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ

The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ

Status: Ongoing

       ตลอดชีวิตที่ถูกมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม จนถึงจุดต่ำสุดของชีวิต จี้เฟิงได้รับพลังมาจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าปัจจุบันมาก มันช่วยเพิ่มความสามารถในทุกๆด้านราวกับเวทมนตร์ ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเขาก็ไม่ธรรมดาอีกต่อไป! ด้วยระบบอัจฉริยะที่จี้เฟิงได้ฝึกฝนจนบรรลุทักษะพิเศษ ชีวิตของจี้เฟิงกลายเป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท