The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ – บทที่ 239 ถ้ำหมายเลข 5

บทที่ 239 ถ้ำหมายเลข 5

 ในคืนที่เงียบสงบจู่ๆก็มีเสียงของการระเบิดครั้งใหญ่ดังขึ้นทำลายค่ำคืนที่เงียบสงบของชุมชนหวังเยว่
ใครมันกล้าก่อเรื่องใหญ่โตขนาดนี้
ผู้คนที่ถูกปลุกจากเสียงระเบิดก็ตื่นขึ้นจากความฝันและอดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึงเมื่อเห็นวิลล่าหลังหนึ่งที่กำลังถูกเผาไหม้ไปด้วยเปลวไฟจากในระยะไกลในชุมชนหวังเยว่แห่งนี้แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเพลิงไหม้หรือการก่ออาชญากรรมมากมายเพียงใด แต่ทุกคนก็ปฏิบัติตามกฎที่รู้กันดีนั่นก็คืออย่าพยายามส่งเสียงดังและอย่ายุ่งเรื่องของชาวบ้าน!
ในชุมชนแห่งนี้มีเพียงไม่กี่คนที่ทำมาหากินอย่างสุจริตและใสสะอาดและแน่นอนว่าผู้คนส่วนใหญ่ล้วนไม่มีใครอยากเกี่ยวข้องกับตำรวจ
ดังนั้นแม้ว่าชุมชนหวังเยว่จะวุ่นวายมากแค่ไหนจะมีเสียงกรีดร้องหรือการต่อสู้เกิดขึ้นอย่างไร แต่ในความเป็นจริงแล้วในชุมชนหวังเยว่แห่งนี้ก็เกิดการเคลื่อนไหวที่ใหญ่โตน้อยมากเพราะไม่มีใครในที่นี้อยากเรียกร้องความสนใจจากพวกตำรวจ
แต่วันนี้ไม่ว่าใครต่างก็ต้องตื่นตกใจวิลล่าทั้งหลังได้ระเบิดกลายเป็นทะเลเพลิงทันทีและระเบิดทั้งสี่ลูกก็ระเบิดในเวลาเดียวกันจึงทำให้เกิดความรุนแรงและเสียงที่น่าสะพรึงกลัวและน่าตกใจมากจริงๆในคืนที่เงียบงันนี้
ช่วงเวลาหนึ่งทุกคนต่างพากันโกรธและอดไม่ได้ที่จะก่นด่าสาปแช่ง“ใครมันกล้าทำอะไรบ้าๆแบบนี้วะ!”
แม่งต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!
คนที่กล้าทำเรื่องแบบนี้โดยไม่สนใจผลกระทบที่จะตามมาแบบนี้ถ้าไม่ใช่คนบ้าจะให้เรียกว่าอะไร
แต่หลังจากนั้นไม่นานคนเหล่านี้ที่ตื่นจากการหลับใหลของเสียงระเบิดก็มีปฏิกิริยาตอบสนองยังมีบางสิ่งบางอย่างที่ในบ้านของพวกเขาต้องเก็บซ่อนให้มิดชิดโดยเร็ว เพราะพวกเขาเชื่อว่าภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจะต้องมีตำรวจแห่กันมาที่นี่ แล้วในกรณีที่จะต้องมีการค้นในวิลล่าหรือคฤหาสน์ของพวกเขา มันจะทำให้พวกเขาต้องพาลซวยไปด้วยอย่างแน่นอน มันช่างไม่ยุติธรรม!
ช่วงเวลาหนึ่งในชุมชนหวังเยว่เกิดความวุ่นวายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนพวกเขาต่างเดินไปรอบๆบ้านของตัวเอง โดยเฉพาะผู้คนที่อยู่ใกล้กับวิลล่าหลังที่ระเบิดมันยังคงเกิดความเสียหายจากทะเลเพลิงอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญบางอย่างที่อยู่ในบ้านของพวกเขา แล้วฉันจะเอามันไปซ่อนที่ไหนได้ในเวลานี้
จี้เฟิงไม่ได้รู้เลยว่าชุมชนหวังเยว่ในเวลานี้ได้เกิดความสับสนอลหม่านจากเรื่องที่เขาสร้างขึ้นเพราะตั้งแต่ที่เขาได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้องเขาก็ได้ออกมาจากชุมชนหวังเยว่มาได้สองสามกิโลเมตรแล้ว และในตอนนี้เขากำลังรีบไปยังสถานที่ที่หยุนเฟยหยางได้บอกเอาไว้ถึงที่ซ่อนของหลักฐานสำคัญ
เกาะงาช้างแม้ชื่อมันจะถูกเรียกว่าเกาะแต่จริงแล้วมันเป็นเพียงดินแดนเล็กๆที่ถูกล้อมรอบด้วยทะเลโดยที่มันไม่จมหายไป นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พื้นที่นี้ใช้ชื่อว่าเกาะและมันก็เป็นลูกเล่นที่พอจะดึงดูดนักท่องเที่ยวมาได้บ้าง
อันที่จริงเกาะงาช้างนั้นมีขนาดเล็กมากโดยมีรัศมีเพียง2 กิโลเมตรเท่านั้น ที่แห่งนี้ได้ถูกสร้างไว้เพื่อความบันเทิงและยังถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในเจียงโจวอีกด้วย
ตอนที่จี้เฟิงขับรถมาถึงชายหาดก็เป็นเวลาตีสองกว่าแล้วนอกจากไฟจากสองข้างทางของถนนที่อยู่ด้านนอกส่วนที่เหลือของเกาะส่วนใหญ่จะมืด จะมีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่พอจะมีแสงไฟอยู่บ้าง อย่างห้องปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
จี้เฟิงจอดรถไว้ที่ชายหาดเขาถอดเสื้อผ้าทั้งหมดบนร่างกายออกอย่างรวดเร็วเหลือเพียงกางเกงชั้นในที่รัดรูป เขาหยิบถุงพลาสติกสองสามใบออกจากรถและกระโดดลงทะเล
ทันใดนั้นจี้เฟิงก็ถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเลที่เย็นจัดความหนาวเย็นที่ร่างกายอันเกือบจะเปลือยเปล่าของเขาสัมผัสได้มันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น ตอนนี้เป็นเดือนพฤศจิกายน อากาศในตอนกลางคืนจึงเย็นลงเรื่อยๆ แม้ว่าอุณหภูมิในทะเลจะไม่ถึงกับติดลบแต่ก็ไม่ใช่อะไรที่คนทั่วไปจะสามารถทนได้
แต่ปัญหาแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับจี้เฟิงเขาเปิดใช้งานพลังงานไฟฟ้าชีวภาพในร่างกายของเขาทันทีและว่ายตรงไปยังพื้นที่ที่ชื่อว่าเกาะงาช้าง
การว่ายน้ำก็เป็นหนึ่งในวิชาขั้นพื้นฐานของการฝึกฝนการเป็นสายลับพิเศษบางครั้งจี้เฟิงก็แอบบ่นกับตัวเองไม่ได้ว่า แบบนี้มันไม่เรียกว่าสายลับแล้วมันควรจะเรียกว่าปรมาจารย์รอบด้าน! ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้เรื่องอะไร จี้เฟิงก็แทบจะมีประสบการณ์ผ่านมันมาทั้งหมดแล้ว!
ความเร็วในการว่ายน้ำของจี้เฟิงนั้นไม่ธรรมดาเลยทั้งหมดนี้เกิดจากการฝึกฝนอย่างหนัก เมื่อนึกถึงเรื่องนี้จี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะกัดฟันด้วยความโกรธ เขาอยากจะรู้นักว่าใครเป็นผู้ที่คิดค้นระบบฝึกอบรมสายลับระดับสูง โดยเฉพาะโปรแกรมสำหรับฝึกทักษะการว่ายน้ำของสายลับ พวกเขาสร้างภาพจำลองโดยให้สภาพแวดล้อมในน้ำมีฉลามกลุ่มหนึ่งไล่ตามเขา!
แม้ว่าคุณจะไม่ได้ตายจริงๆหากคุณถูกฉลามกัดแต่เนื่องจากการกระตุ้นของพลังงานไฟฟ้าชีวภาพความเจ็บปวดเมื่อโดนกัดมันเหมือนกับการถูกฉลามจริงๆกัด อันที่จริงความเจ็บปวดจากการถูกฉลามกัดมันเป็นเรื่องรอง เพราะสิ่งที่สำคัญคือความกลัว เพราะการว่ายน้ำโดยที่มีกลุ่มฉลามไล่ล่าอยู่ข้างหลังมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้อะดรีนาลีนของผู้ฝึกเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
ทักษะการว่ายน้ำที่ได้มาจากการฝึกด้วยสภาพแวดล้อมเช่นนี้ถ้ายังไม่เก่งและเชี่ยวชาญก็ไม่รู้จะพูดว่ายังไง
เดิมทีการเข้าสู่เกาะงาช้างคือการนั่งเรือเล็กเข้าไปอย่างไรก็ตามเนื่องจากเรือเล็กเหล่านั้นจะต้องกลับไปที่แผ่นดินใหญ่ทุกคืนหลังจากเลิกงาน จี้เฟิงจึงสามารถเดินทางไปที่เกาะด้วยการว่ายน้ำไปเท่านั้น
หลังจากที่ว่ายน้ำมาเป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงจี้เฟิงก็สามารถสัมผัสกับขอบเกาะงาช้างได้ โชคดีที่ได้รับการกระตุ้นจากพลังงานไฟฟ้าชีวภาพจึงทำให้จี้เฟิงไม่ได้รู้สึกหนาวมากนัก
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะสงสัยอยู่เล็กน้อยเขาได้โทรหาพี่รองของเขาและขอให้เขาส่งคนมายืนยันว่าคำพูดของหยุนเฟยหยางเป็นความจริงหรือไม่ แน่นอนว่าคนของพี่รองจะต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามเขาไม่เห็นเรือบนฝั่งนี้ แล้วคนของพี่รองมาที่นี่ได้อย่างไร
จี้เฟิงสะบัดหัวนี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ เขาจะต้องเอาของที่ต้องการมาไว้ในมือให้ได้เสียก่อน
จี้เฟิงแอบขึ้นจากด้านข้างของเกาะงาช้างอย่างเงียบๆ เขาเหยียบพื้นด้วยเท้าเปล่าและรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิที่พื้นยังอุ่นๆอยู่
เขาหันศีรษะและมองไปรอบๆเขาขมวดคิ้วและพึมพำกับตัวเองอยู่ในใจ “ถ้ำหมายเลข 5 อยู่ที่ไหน!”
แม้ว่าเกาะแห่งนี้จะไม่ใหญ่แต่ตอนนี้เวลาก็ได้ล่วงเลยมาจนเป็นเวลาตีสามแล้ว เขาไม่อาจรู้ได้ว่าเจ้าหน้าที่บนเกาะจะมาทำงานเมื่อไหร่ ดังนั้นเขาจะต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จ
เห็นได้ชัดว่าถ้าค่อยๆหาไปทีละแห่งน่าจะไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ในตอนนี้อย่างแน่นอนแล้วฉันจะหาถ้ำหมายเลข 5 ได้ยังไง
ในขณะนั้นเองจี้เฟิงได้ยินฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นและจี้เฟิงก็ตื่นตัวทันทีเขารีบเข้าไปซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ริมทางอย่างเงียบๆจี้เฟิงปีนขึ้นไปบนต้นไม้และมองลงมาเพื่อหาเจ้าของเสียงฝีเท้านั้นอย่างระแวดระวัง
เงาดำค่อยๆเดินเข้ามาจากอีกฟากหนึ่งของถนนไฟฉายในมือของเขาไม่ได้สว่างมากนัก
“มีเพียงคนเดียวเท่านั้น”จี้เฟิงเห็นได้อย่างชัดเจนในทันทีว่าเสียงฝีเท้าเมื่อครู่ที่เขาได้ยินนั้นคือผู้ชาย แม้จะเป็นค่ำคืนที่มืดมิดมันก็ไม่อาจส่งผลกระทบกับจี้เฟิงได้มากนัก เขาสามารถมองเห็นการปรากฏตัวของชายคนนี้ได้อย่างง่ายดาย
นี่คือชายหนุ่มวัยประมาณยี่สิบเขาสวมเครื่องแบบรปภ. เขามองไปรอบๆเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง
“ชายคนนี้น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนเกาะซึ่งน่าจะออกมาเดินลาดตระเวน” จี้เฟิงคิดวิเคราะห์อยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้เขาแต่อย่างใด
ในที่สุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เดินมาถึงที่ที่หนึ่งซึ่งไม่ไกลจากต้นไม้ใหญ่ที่จี้เฟิงหลบซ่อนตัวอยู่และเหมือนว่าเขาจะเดินกลับไปอีกทาง
“จังหวะนี้แหละ!”
จี้เฟิงตัดสินใจอย่างรวดเร็วเขาพุ่งลงจากต้นไม้และวิ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยราวกับเสื้อชีต้าห์ที่หิวกระหายกระโจนเข้าหาเหยื่อ ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะรู้ตัว จี้เฟิงก็คว้าคอของเขาไว้ได้ และใช้แขนอีกข้างโอบเอวเอาไว้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตัวสั่นและเดินโซซัดโซเซและทรุดลงกับพื้น
“ถ้าไม่อยากตายก็หุบปากอย่าคิดที่จะร้องขอความช่วยเหลือ!”เสียงของจี้เฟิงแหบต่ำ ในจุดนี้เขาตั้งใจที่จะดัดแปลงเสียงของเขาเล็กน้อย “ถ้ำอยู่ทางไหน” Aileen-novel
จี้เฟิงคลายมือของเขาออกเล็กน้อยเพื่อให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้สูดอากาศหายใจ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไอสองสามครั้งพร้อมกับสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่เขาจะทันได้หายใจอย่างเต็มปอดเขาก็รู้สึกได้ว่ามือของจี้เฟิงเริ่มหนักขึ้นอีกครั้ง เขารีบพูดว่า “นายน้อยสาม!”
จี้เฟิงขมวดคิ้วแต่ยังคงถามด้วยน้ำเสียงที่แหบต่ำ“พูดว่าอะไรนะ”
“ใช่นายน้อยสามหรือเปล่าครับ!”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถามอย่างรวดเร็ว
จี้เฟิงประหลาดใจและถามอย่างเย็นชา“คุณเป็นใคร”
“เจ้านายของผมบอกให้ผมมารอนายน้อยสามที่นี่”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตอบทันที “นายน้อยสามแห่งตระกูลจี้!”
“ฉันเอง!”จี้เฟิงดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
“คุณมาถึงที่นี่เพื่อมาหาอะไร”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถามขึ้น
จี้เฟิงขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ผู้ชายคนนี้จะถามเขาอย่างนี้จริงๆนะเหรอ เขาตะคอกอย่างเย็นชา “ถ้ำ!”
“มีอะไรอยู่ในถ้ำ”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถามอีกครั้ง
จี้เฟิงไม่อยากจะยืดเยื้อ“ตู้เซฟ!”
“ฟู่~!”เจ้าหน้าที่รักษาความภัยถอนหายใจออกมายาวๆอย่างโล่งอกและพูดว่า “เป็นนายน้อยสามจริงๆ โปรดตามผมมา ที่ผมต้องถามเป็นเพราะนายน้อยได้สั่งให้ผมถามผู้ที่มาเยือนก่อนว่าต้องการมาหาอะไรในถ้ำหมายเลข 5 เพื่อเป็นการยืนยันให้แน่ใจ”
“นั่นเขาล่ะ!”จี้เฟิงเข้าใจในทันที ไม่น่าแปลกใจเลยที่แม้จะเป็นกลางดึกแต่พี่รองของเขาก็ยังสามารถให้คนตรวจสอบสิ่งของและสถานที่ของถ้ำหมายเลข 5 บนเกาะงาช้างแห่งนี้ได้ สรุปว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้เป็นคนของจี้ช่าวเหลยพี่ชายคนที่สองของจี้เฟิงนั่นเอง
ยิ่งไปกว่านั้นจี้ช่าวเหลยยังเดาถูกอีกว่าจี้เฟิงจะต้องมาที่นี่ในคืนนี้จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดักรอเขาที่นี่
“พาฉันไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!”จี้เฟิงพูด
“ครับ!โปรดตามผมมา!”
ด้วยการนำทางและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจี้เฟิงจึงไม่ต้องวิ่งหาไปรอบๆเกาะอีกต่อไปและในเวลาเพียงไม่นานพวกเขาก็มาถึงถ้ำหมายเลข 5 ที่หยุนเฟยหยางบอกเอาไว้
เมื่อเห็นลักษณะของถ้ำแห่งนี้จี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมานี่นะเหรอที่เรียกว่าถ้ำ
ถ้ำที่ว่านี้มันเหมือนกันบ้านผีสิงที่มีอยู่จริงมันเหมือนเอาไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะผจญภัย สมแล้วที่เป็นเกาะแห่งการท่องเที่ยว!
การออกแบบภายในเป็นเหมือนกับเขาวงกตที่นี่มีอุปกรณ์ประกอบฉากที่เป็นสัตว์ประหลาดน่ากลัวอยู่ทุกชนิด
ถ้ำหมายเลข5 ที่หยุนเฟยหยางกล่าวถึงเป็นถ้ำผจญภัยและยังมีพื้นหลังเป็นฉากในหนังเรื่อง Resident Evil ซึ่งภายในนี้เต็มไปด้วยอุปกรณ์ประกอบฉากซอมบี้ที่ติดเชื้อไวรัส
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกระซิบ“นายน้อยสามโปรดระวังอย่างแตะต้องข้าวของทุกอย่างที่อยู่ในนี้ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดเสียงดังและส่งผลกระทบต่อตู้เซฟที่อยู่ปลายถ้ำ”
“ตู้เซฟอยู่ในที่แบบนี้เนี่ยนะมันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอที่จะหาเจอ” จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย ผู้คนมากมายที่มาท่องเที่ยวที่นี่ มันจะไม่มีใครพบตู้เซฟที่หยุนเฟยหยางซ่อนไว้เลยงั้นหรือ?
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยิ้มและพูดว่า“นายน้อยสามตามผมมาเดี๋ยวนายน้อยสามก็รู้”
จี้เฟิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเก็บข้อสงสัยเอาไว้ในใจและเดิมตามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไป
เมื่อทั้งสองเดิมมาจนถึงจุดสิ้นสุดจี้เฟิงก็เข้าใจในทันที
ปรากฏว่านี่คือถ้ำสำหรับผจญภัยอย่างแท้จริงซึ่งสวมบทบาทเดียวกันกับพล็อตหนังเรื่องResident Evil และสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือที่หลบซ่อนตัวของครอบครัวครอบครัวหนึ่ง ที่ปลายถ้ำถูกจัดให้เป็นห้องนอน แน่นอนว่ามันเต็มไปด้วยซอมบี้ที่น่ากลัว
ในห้องนอนมีสิ่งต่างๆเช่นตู้เสื้อผ้าโต๊ะเครื่องแป้ง ทีวี และตู้เซฟ ทุกสิ่งในนี้ดูเหมือนจริงมาก
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหัวเราะเบาๆ“นี่แหละครับนายน้อยสาม ตู้เซฟที่คุณกำลังมองหาคืออันนี้ เดิมทีมันถูกสร้างขึ้นจากไม้ที่ทำให้เหมือนจริง จนกระทั่งนายน้อยได้โทรมาสั่งให้ผมตรวจสอบจากนั้นผมจึงได้รู้ว่ามันได้ถูกแทนที่ด้วยของจริง แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!”
“มันก็ยากมากทีเดียวที่จะแยกของจริงกับของปลอม!”จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะชื่นชมความคิดแปลกๆของหยุนเฟยหยางที่ซ่อนตู้เซฟไว้ที่นี่ ถ้าเขาไม่บอกก็คงไม่มีใครคิดออกหรอกว่ามันจะถูกซ่อนอยู่ที่นี่
“หยุนเฟยหยางผู้นี้ก็มีหัวคิดที่หลักแหลมไม่เบาน่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วไม่เขาก็ต้องเป็นฉันที่จะสามารถมีชีวิตรอดมาได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!” จี้เฟิงรู้สึกเสียดายอยู่ในใจเล็กน้อย หยุนเฟยหยางเป็นบุคคลที่น่าจะยิ่งใหญ่ได้ถ้าไม่เลือกที่จะเดินทางสายนี้
เลิกคิดเรื่องไร้สาระดีกว่า!จี้เฟิงหยิบการ์ดลับที่ได้รับมาจากหยุนเฟยหยางและสอดมันเข้าไปในช่องเสียบการ์ดที่อยู่ติดกับล็อกนิรภัย
…ไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
“มันต้องใช้รหัสผ่านอีกชั้นงั้นเหรอ!”จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะสงสัย สุดท้ายแล้วหยุนเฟยหยางมันก็ไม่ได้เป็นคนรักษาคำพูด?!
“พบกับปัญหาใหญ่ซะแล้ว”จี้เฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ดูเหมือนว่าเขายังใจอ่อนเกินไป เขาอยากจะหักขาของหยุนปิงอีกซักข้างเมื่อรู้ว่าหยุนเฟยหยางไม่ได้สารภาพความจริงทั้งหมดออกมา!

The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ

The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ

Status: Ongoing

       ตลอดชีวิตที่ถูกมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม จนถึงจุดต่ำสุดของชีวิต จี้เฟิงได้รับพลังมาจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าปัจจุบันมาก มันช่วยเพิ่มความสามารถในทุกๆด้านราวกับเวทมนตร์ ตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเขาก็ไม่ธรรมดาอีกต่อไป! ด้วยระบบอัจฉริยะที่จี้เฟิงได้ฝึกฝนจนบรรลุทักษะพิเศษ ชีวิตของจี้เฟิงกลายเป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท