ตอนที่ 304 ตอนนี้ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว (1)
เซิ่งอี่เจ๋อเงียบ
อันซย่าซย่า “…”
ทั้งคู่หันไปทางประตู พวกเขาเห็นฉือหยวนเฟิงหันหลังให้และเอามือปิดตาของตัวเอง “ฉันไม่เห็นอะไรเลย…ฉันไม่เห็นพี่อี่เจ๋อจูบอันซย่าซย่า…ฉันไม่เห็น…”
“…”
ก็ได้ เขาเห็นทุกอย่างเลย แต่บอกไปแบบนั้นก็ดีพอๆ กับยอมรับนั่นแหละ!
แม้แต่เซิ่งอี่เจ๋อผู้ใจเย็นยังอดไม่ได้ที่จะกระแอมกระไอเล็กน้อย เขารีบมองอันซย่าซย่าและเห็นว่าใบหน้าของเธอแดงยิ่งกว่าตอนที่พวกเขาจูบกันเสียอีก เขาพลันดึงผ้าห่มมาคลุมหัวของเธอไว้เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องเผชิญความจริง
“นายมาหาซย่าซย่าเหรอ” เซิ่งอี่เจ๋อถามฉือหยวนเฟิงและมองชายจอมเบ๊อะคนนั้นอย่างจำนน
ฉือหยวนเฟิงลอบมองผ่านช่องว่างระหว่างนิ้ว เมื่อเห็นว่าฉากเรทสิบแปดจบลงแล้ว เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เปล่า ฉันมาหานาย” ฉือหยวนเฟิงยื่นโทรศัพท์ของเขาให้ “เบอร์นี้โทรเข้ามาหานายไม่หยุดเลยและฉันคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องด่วน”
เซิ่งอี่เจ๋อจ้องหน้าจอโทรศัพท์และเห็นว่าเป็นเบอร์ที่เขาไม่รู้จัก หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขารับสาย
เสียงหวานของหญิงสาวดังมาจากปลายสาย “อี่เจ๋อ…นายรับสักที”
“มีอะไร” เซิ่งอี่เจ๋อถามอย่างเย็นชา
“ก็…ฉันได้ข่าวว่านายยุติสัญญากับเว่ยยางแล้ว วางแผนยังไงต่อ”
“แค่นี้เหรอ ฉันวางสายละนะ” เซิ่งอี่เจ๋อไม่พอใจ
“เดี๋ยว!” หญิงสาวห้ามเขาไว้และหัวเราะอย่างสนุกสนาน “ฉันจะส่งข้อความไปหานายเรื่องอันซย่าซย่า…”
เขาวางสายทันทีหลังจากนั้นและเซิ่งอี่เจ๋อก็ได้รับข้อความ
เขากดเพื่อเปิดอ่านอย่างไม่ใส่ใจ อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเขาพลันเคร่งขรึม
“พี่มีอะไรหรือเปล่า” ฉือหยวนเฟิงสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เขาขยับเข้าไปใกล้ขึ้นเพื่อที่จะดูโทรศัพท์
เซิ่งอี่เจ๋อรีบเก็บทันควัน “ไม่มีอะไร”
เขาออกจากห้องไปพลางล้วงมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋ากางเกง ทิ้งให้ฉือหยวนเฟิงทำสีหน้าแปลกใจ
เขาชำเลืองมองหน้าจอโทรศัพท์และพบว่ามันเป็นข้อความที่แนบรูปภาพมาด้วย รูปภาพนั้นเป็นภาพของเศษกระดาษที่มีประโยคหนึ่งประโยคเขียนอยู่ ใจความว่า “ใครกันแน่เป็นมือที่สาม”
“อะไรวะ! พี่อี่เจ๋อขี้งก ฉันไม่ได้จะทำอะไรเขาสักหน่อย…” ฉือหยวนเฟิงบ่นพึมพำ เขาไม่รู้เลยว่าพายุใหญ่กำลังจะโหมกระหน่ำ
–
หลังปีใหม่ เดือนแห่งการทบทวนบทเรียนมาถึงโรงเรียนฉีซย่า
อันซย่าซย่าไม่เคยเห็นโรงเรียนเป็นแบบนี้มาก่อน ทั้งห้องเรียน โถงทางเดิน โรงอาหาร…ทุกๆ ที่ที่เธอหันไป เธอจะพบกับผู้คนที่กำลังทบทวนบทเรียน เธอได้ยินกระทั่งเสียงเหล่าสาวๆ ฝึกสะกดคำขณะกำลังล้างมือตอนที่เธอไปเข้าห้องน้ำ
แม้แต่คู่รักที่นัดเจอกันอย่างลับๆ ภายในสวนของโรงเรียนยังท่องจำการบ้านพลางทำตัวหวานแหววไปด้วย
เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ เธอจึงพลอยขยันหมั่นเพียรไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักสำหรับเธอ เธอเดินไปไหนมาไหนพร้อมหนังสือแบบฝึกหัดและแก้โจทย์ไปด้วยเมื่อเธอมีเวลา
ช่วงหลายวันมานี้ เซิ่งอี่เจ๋อและอีกสองคนไม่ได้มาโรงเรียนบ่อยนัก อย่างไรก็ตาม เพราะเป็นเดือนแห่งการทบทวนบทเรียนอันแสนยุ่ง เหล่าแฟนคลับไอดอลจึงไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าไหร่
หนึ่งสัปดาห์ก่อนการสอบ พวกเขายังคงช็อกกับข่าวที่ออกมา
[วงสตาร์รี่ไนต์จัดตั้งสตูดิโอของตัวเอง คอยติดตามกิจกรรมในอนาคตของไอดอลระดับประเทศ!]
อันซย่าซย่าไม่เคยนึกเลยว่าพวกเขาจะจัดตั้งสตูดิโอของตัวเอง!
หากมีสตูดิโอ พวกเขาก็ไม่ต้องเซ็นสัญญากับบริษัทแล้ว การอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทนั้นมีข้อดี แต่มันก็มีข้อเสียอีกหลายข้อเช่นกัน
อันซย่าซย่าชื่นชมในความกล้าหาญของพวกเขา
เธอไปหาซูเสี่ยวมั่วเพื่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ซูเสี่ยวมั่วมองราวกับว่าใจของเธอล่องลอยไปที่ไหนสักแห่ง อันซย่าซย่าแค่ผลักเธอเบาๆ ด้วยนิ้วโป้ง เธอก็ตกเก้าอี้ซะได้!
ตอนที่ 305 ตอนนี้ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว (2)
“มั่วมั่ว!” อันซย่าซย่าร้องออกมาด้วยความตกใจและรีบช่วยเธอขึ้นมา
ซูเสี่ยวมั่วมองไปรอบๆ ด้วยความสับสน ก่อนที่จะกลับมานั่งบนเก้าอี้ด้วยความช่วยเหลือของอันซย่าซย่า
หนานกงจิ่งหัวเราะลั่น “ซูเสี่ยวมั่ว ยัยโง่! โคตรบื้อเลย! ตกเก้าอี้ทั้งๆ ที่นั่งอยู่ได้ยังไง…ฮ่าๆๆๆ!”
ซูเสี่ยวมั่วไม่ได้กระโจนเข้าไปหุบปากเขาอย่างเคย เสียงแหบห้าวของหนานกงจิ่งก้องกังวานในอากาศ มันไม่น่าฟังราวกับเสียงเป็ดร้องก๊าบๆ
“พอได้แล้ว! ไม่เห็นเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น!” คังเจี้ยน เพื่อนที่ดีของซูเสี่ยวมั่ว ก้าวออกมาและทุบหนานกงจิ่งที่หน้าผาก
อันซย่าซย่าโบกมือของเธอหน้าซูเสี่ยวมั่ว “มั่วมั่ว คุยกับฉันหน่อย เป็นอะไร”
ซูเสี่ยวมั่วฝืนยิ้มแวบหนึ่ง “ไม่มีอะไร…เมื่อคืนฉันนอนไม่ค่อยหลับ ฉันต้องนอนทดแทนน่ะ”
หลังจากนั้น เธอไม่ได้สนใจสีหน้าเป็นห่วงของอันซย่าซย่าและฟุบลงกับโต๊ะของเธอ
ดวงตาเธอร้อนผ่าวและเธอแอบร้องไห้อย่างเงียบๆ ก่อนที่เธอจะรู้ตัว น้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มและทำให้แขนเสื้อของเธอเปียกชุ่ม
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งอยู่แถวหลังและอ่อนโยนดั่งสายลมในฤดูใบไม้ผลิวางหนังสือในมือลง ในจังหวะที่เธอก้มหัวของเธอลง
เหอจยาอวี๋มองซูเสี่ยวมั่วอย่างเงียบๆ เธอไม่ได้ส่งเสียงอะไร แต่เขารับรู้ได้ถึงความโศกเศร้าเสียใจที่ออกมาจากเธอ
เธอเสียใจขนาดนี้เพราะสิ่งที่เขาพูดเหรอ
–
ให้พวกเราพาย้อนกลับไปวันงานกาล่าตอนปีใหม่
หลังจากที่เซิ่งอี่เจ๋อต่อยหรงเช่ออย่างรุนแรง เป็นเวลาหลังจากห้าทุ่มพอดิบพอดีที่ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เหอจยาอวี๋กำลังจะเข้านอนตอนที่เขาได้รับข้อความจากซูเสี่ยวมั่ว
[ฉันอยู่ข้างนอก…เอิ่ม ฉันเจอนายตอนนี้ได้ไหม] หญิงสาวดูตื่นตระหนกและกระวนกระวายใจ
เขาเดินลงบันไดมาและพบซูเสี่ยวมั่วยิ้มอย่างสดใสให้เขา เธอใส่ผ้าพันคอสีครีม นัยน์ตาของเธอสว่างไสวยิ่งกว่าดวงดาวบนท้องฟ้า
“พวกนายทั้งสามคนเป็นอะไรหรือเปล่า มันบ้ามากเลย ฉันเพิ่งไปหาซย่าซย่ามา เจ้เคอทำให้เธอลำบากมากและเธอเกือบจะร้องไห้…”
“ฉันไม่เป็นไร” เหอจยาอวี๋ยิ้มให้เธอ “มีอะไรให้ฉันช่วยไหม”
ซูเสี่ยวมั่วไขว้มือของเธอไว้ด้านหลังเป็นเวลานานกว่าที่เธอจะรวบรวมความกล้าและยื่นถุงให้กับเขา “สุขสันต์วันปีใหม่นะเหอจยาอวี๋”
ภายในถุงเป็นผ้าพันคอจากคราวที่แล้ว
เหอจยาอวี๋ประหลาดใจอย่างสังเกตได้ เขารู้ทันทีว่าทำไมช่วงนี้ซูเสี่ยวมั่วถึงคอยหลบหน้าเขา
ของขวัญนี้ให้เขาสินะ
เขายิ้มและรับมาอย่างอ่อนโยนเหมือนเคย “ขอบคุณนะ”
เลือดฝาดแก้มของซูเสี่ยวมั่ว “ไม่เป็นไร…ฉันตั้งใจทำให้น่ะ ฉันขอให้นายมีปีใหม่ที่มีความสุขแล้วก็ขอให้อายุยืนและเจริญก้าวหน้านะ…อ๋า ฉันพูดอะไรเนี่ย ยังไงก็เถอะ ฉันหวังว่านายจะมีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไปในแต่ละวันนะ!”
ซูเสี่ยวมั่วพูดรวดเดียวโดยไม่หยุดพัก เธอหายใจหอบพลางมองใบหน้าที่สงบนิ่งของชายหนุ่มตรงหน้าเธอ
เขายิ้มตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม…มันเป็นรอยยิ้มที่ช่างห่างเหินและเย็นชา
ใช่ มันเย็นชาเหลือเกิน
เป็นอารมณ์ที่เหอจยาอวี๋ไม่ควรจะมี
เขาควรจะเป็นสายลมในเดือนเมษายนที่ทั้งอบอุ่นและสบายพอจะหลอมละลายคนคนหนึ่งได้เลยสิ…
วินาทีต่อมา ความคลางแคลงใจของเธอก็ได้รับคำตอบ…
“ขอบคุณสำหรับของขวัญวันปีใหม่และคำอวยพรของเธอนะซูเสี่ยวมั่ว เธอเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ” เขายังคงยิ้มโดยไม่รู้ตัวเลยว่าคำพูดของเขาเจ็บปวดแค่ไหน “ฉันขออวยพรให้เธอมีปีที่ยอดเยี่ยมเช่นกันนะ เพื่อนรัก”
ซูเสี่ยวมั่วอึ้ง
เพื่อน? เพื่อนรัก?
เขาคิดกับเธอแค่เพื่อนมาตลอดเลยเหรอ!
“เหอจยาอวี๋…นาย…”
“ตอนนี้ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว” รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าอันอ่อนโยนของชายหนุ่ม แต่นั่นราวกับมีดที่กรีดเฉือนหัวใจของเธอ