Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1311 : สิบแปดอรหันต์เส้าหลิน

บทที่ 1311 : สิบแปดอรหันต์เส้าหลิน

  หลิงหยุนไม่ลงมือแต่เมื่อลงมือย่อมหมายถึงชีวิต!

   ห๊ะ! 

  เสียงร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจดังขึ้นทั่วทั้งหุบเขาหลงเฟิงและส่วนใหญ่เป็นเสียงร้องของชาวยุทธหญิง

  เพราะชาวยุทธหญิงส่วนใหญ่นั้นแม้จะเคยผ่านการประลองมาบ้าง แต่ก็แทบไม่เคยลงมือสังหารผู้ใดจริงๆเสียที หลายคนยังไม่เคยแม้แต่เห็นการเข่นฆ่าสังหารกับตาตัวเองด้วยซ้ำไป อย่างเช่นศิษย์ของอารามจิ้งซินเป็นต้น

  มันเป็นภาพที่โหดร้ายและรุนแรงเกินไปที่ได้เห็นจางจวิ้นเจิงถูกสังหารตายภายในชั่วพริบตาเช่นนั้นอีกทั้งกะโหลกศรีษะยังถูกทุบแตกราวกับลูกแตงโม หลังจากที่สังหารจางจวิ้นเจิงแล้ว ร่างที่ถูกทุบกะโหลกศรีษะเละจนกลายเป็นร่างไร้หัวนั้น ก็ดิ้นขลุกขลักอยู่ในมือของหลิงหยุนอยู่ใครู่หนึ่งก่อนจะแน่นิ่งไปในที่สุด

  ตุ้บ!

  หลิงหยุนจับร่างของจางจวิ้นเจิงโยนลงไปกับพื้นพร้อมกับพูดเหยียดหยัน  หึ! น่าขันสิ้นดี ข้ายังไม่ทันได้เห็นฤทธิ์เดชของสำนักเขาหลงหู่เลยแม้แต่น้อย! 

  หลิงหยุนไม่มีทีท่าลังเลใจเลยแม้แต่น้อยในการที่จะสังหารจางจวิ้นเจิงเพราะเย่ซิงเฉินได้เล่าให้เขาฟังก่อนแล้วว่า หนึ่งในศิษย์สำนักเขาหลงหู่นั้นเป็นผู้ยุยงให้เกิดการบุกตระกูลหลิงอย่างไม่เป็นธรรมในครั้งนั้น

  และเห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่จางจวิ้นเจิงก็ดูมีความสุขอย่างมากเมื่อได้เห็นว่าเหล่าชาวยุทธมีท่าทีฮึกเหิมต้องการที่จะบุกถล่มตระกูลหลิงอีกครั้งหลังจากที่ฟังเขายุยง!

  เมื่อสิบแปดปีก่อนที่เหล่าชาวยุทธบุกไปถล่มตระกูลหลิงนั้นหนึ่งในผู้ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในครั้งนั้นก็คือสำนักเขาหลงหู่ และในงานชุมนุมชาวยุทธครั้งนี้ก็ยังนำโดยสำนักเขาหลงหู่อีกครั้ง ในสายตาของหลิงหยุน คนของสำนักเขาหลงหู่จึงต้องตายเพียงสถานเดียวเท่านั้น!

  และด้วยเหตุนี้หลิงหยุนจึงเลือกที่จะจัดการกับสำนักเขาหลงหู่เป็นรายแรก!

   พวกเจ้าบอกว่าข้าโหดเหี้ยมแล้วก็เป็นมารายไม่ใช่รึ ข้าพิสูจน์ให้พวกเจ้าเห็นกับตาแล้วยังไงเล่า พวกเจ้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์! 

  ระหว่างที่พูดนั้นหลิงหยุนก็ได้หันมองไปทางหลี่เจี้ยนกังและเสียตงคุนที่ยังคงยืนนิ่งไม่พูดไม่จาพร้อมกล่าวกับพวกเขาทั้งสองว่า

   พวกเจ้าสองคนยังยืนนิ่งอยู่ทำไมกันเล่าข้าอยู่ที่นี่แล้ว ยังไม่ลงมืออีกรึ? 

  หลังจากที่ได้ยินคำท้าทายของหลิงหยุนทั้งสองคนต่างก็กระโดดกลับเข้าไปรวมกลุ่มกับศิษย์สำนักของตนเองทันที

  เวลานี้ทั้งคู่ต่างก็รู้สึกหวาดผวาไม่น้อย!

  หลังจากหายตกตะลึงทั้งคู่ต่างก็พากันกระโดดถอยหนีให้ห่างไกลจากหลิงหยุน และไม่กล้าเข้าใกล้ผู้ที่แก้ปัญหาด้วยหมัดเพียงหมัดเดียวเช่นหลิงหยุนอีก!

  แม้กระทั่งหลี่เจี้ยนกังแห่งสำนักคุนหลุนที่อยู่ในระดับหกขั้นพลังเหนือธรรมชาติและเสียตงคุนแห่งสำนักดาบสวรรค์ซึ่งอยู่ในระดับสี่ขั้นพลังเหนือธรรมชาติ ก็ยังรู้สึกว่าต่อให้พวกเขาทั้งสองคนร่วมมือกัน ก็ยังมิอาจสู้หลิงหยุนได้ และคงต้องตายภายใต้น้ำมือของอีกฝ่ายเป็นแน่!

  เพราะแม้แต่ยอดฝีมือระดับห้าขั้นพลังเหนือธรรมชาติอย่างจางจวิ้นเจิงแห่งสำนักเขาหลงหู่ยังถูกหลิงหยุนสังหารตายได้อย่างง่ายดาย เช่นนี้แล้วหลิงหยุนต้องแข็งแกร่งมากเพียงใดกัน

  หลังจากที่ได้เห็นจางจวิ้นเจิงถูกหลิงหยุนสังหารตายไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ทุกคนในที่นั้นต่างก็พากันตกอกตกใจไม่น้อย หลายคนไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น และหลายคนก็ถึงกับก้าวถอยหลังออกไปทันที เพราะเกรงว่าหลิงหยุนจะมองตนเป็นเป้าหมายต่อไป!

  หนึ่งหมัดของหลิงหยุนสามารถทำให้เหล่าชาวยุทธตื่นตระหนกตกใจได้มากถึงเพียงนี้!

  นับว่ากลยุทธ์ในการทำสงครามของหลิงหยุนนั้นชาญฉลาดยิ่งนัก!

  หลิงหยุนเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ได้เป็นอย่างดีว่าหากมนุษย์เราได้พบเห็นการตายต่อหน้าต่อตา และตนเองต้องตกอยู่ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนั้น คนเราจะมีสติมากขึ้นและจะรักตัวกลัวตายมากขึ้นด้วยเช่นกัน!

  ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงได้ล่าถอยออกไปทันทีและเวลานี้พื้นที่รอบตัวหลิงหยุนก็กลายเป็นที่ว่างซึ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงได้แต่นึกหยัน..

   อะไรกัน!เมื่อครู่พวกเจ้ายังฮึกเหิมต้องการจะสังหารข้าให้ได้ไม่ใช่รึ? เห็นข้าฆ่าคนเพียงแค่คนเดียว พวกเจ้าก็เปลี่ยนใจไม่อยากสังหารข้าแล้วรึ? หรือว่าพวกเจ้าหวาดกลัว? 

  หลิงหยุนกวาดตามองไปรอบๆแล้วจึงประกาศกร้าว  ข้าจะบอกความจริงให้พวกเจ้ารู้ หุบเขาหลงเฟิงนี้ได้ถูกคนของข้าล้อมไว้หมดแล้ว หากผู้ใดกล้าหนีออกไปจากที่นี่ มันผู้นั้นจะถูกสังหารตายเป็นคนแรก! 

  จากนั้นหลิงหยุนก็ยกมือขึ้นชี้ไปทางคนของสำนักเขาหลงหู่ที่เหลือหลวงจีนจากวัดเส้าหลิน สำนักกระบี่คุนหลุน แล้วก็อีกมากมาย..

   ข้า..หลิงหยุนมาที่นี่ในคืนนี้ ก็เพื่อจะมาแก้แค้นให้กับพ่อแม่! พวกเจ้าใครก็ตามที่เคยบุกไปถล่มตระกูลหลิงเมื่อสิบแปดปีก่อน อย่าได้หวังที่จะมีชีวิตรอดออกไปจากหุบเขาแห่งนี้ได้เลย! 

   เอาล่ะ..ใครที่ต้องการจะสังหารข้ากับเย่ซิงเฉิน ก็ก้าวเท้าออกมาได้เลย! 

  หลังจากที่หลิงหยุนประกาศออกไปเช่นนั้นทุกคนในหุบเขาหลงเฟิงต่างก็รู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที และได้แต่หันมองไปทางเหล่ายอดฝีมือของวัดเส้าหลินและสำนักเขาหลงหู่ว่าจะมีปฏิกิริยาเช่นใด

  ทุกคนในที่นี้ต่างก็รู้ว่าทั้งหลวงจีนจากวัดเส้าหลินและนักบวชจากสำนักเขาหลงหู่นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือระดับหกขั้นพลังเหนือธรรมชาติแล้วทั้งสิ้น และนับว่าเป็นผู้ที่ฝีมือสูงส่งที่สุดแล้ว!

   อามิตตาพุทธ.. 

  หลวงจีนวัดเส้าหลินเล็งเห็นว่าชาวยุทธหลายคนเริ่มมีอาการหวาดกลัวครั้งนี้จึงต้องยืนหยัดออกหน้า ไม่เช่นนั้นงานชุมนุมชาวยุทธเพื่อสังหารหลิงหยุนกับเย่ซิงเฉินในคืนนี้ กลับต้องกลายเป็นโศกนาฏกรรมของชาวยุทธฝ่ายธรรมะแทนเป็นแน่!

   ศิษย์วัดเส้าหลินออกมาได้! 

  พรึบ..พรึบ.. พรึบ..

  สิ้นคำสั่งของหลวงจีนอาวุโสของวัดเส้าหลินหลวงจีนอีกสิบกว่ารูปก็กระโดดออกมาจากด้านหลังของเขาทันที และเวลานี้ก็มีหลวงจีนจากวัดเส้าหลินยืนอยู่ด้านหน้าทั้งสิบแปดรูป แต่ละรูปล้วนสวมจีวรสีส้มเปิดไหล่หนึ่งข้าง ด้านล่างเป็นกางเกงยาวเลยเข่า

  และนี่คือสิบแปดอรหันต์แห่งวัดเส้าหลินหรือที่ชาวยุทธต่างเรียกขานกันว่าค่ายกลมนุษย์ทองคำนั่นเอง ทั้งหมดล้วนแล้วแต่อยู่เหนือขั้นพลังธรรมชาติระดับสี่ขึ้นไปทั้งสิ้น..

   สิบแปดอรหันต์ฟังคำสั่งของข้าพวกเจ้าใช้ค่ายกลสิบแปดอรหันต์จัดการสังหารมารร้ายนี้ซะ! 

   น้อมรับคำสั่ง! 

  สิบแปดอรหันต์แห่งวัดเส้าหลินต่างก็ร้องตะโกนออกมาพร้อมกันจากนั้นหลวงจีนทั้งสิบแปดรูปจึงกระโดดออกไปยืนอยู่กลางลานประลองพร้อมกัน!

  จากนั้นหลวงจีนทั้งสิบแปดรูปจึงได้แยกย้ายกันสร้างเป็นค่ายกลสิบแปดอรหันต์ล้อมรอบหลิงหยุนกับเย่ซิงเฉินไว้ส่วนหลวงจีนอาวุโสก็ได้กระโดดเข้าไปในลานประลองเผชิญหน้ากับหลิงหยุนเช่นกัน   อามิตาพุทธ..ธรรมและอธรรมไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ วันนี้วัดเส้าหลินจะช่วยกำจัดมารยุทธภพ อย่าได้ตำหนิว่าข้าข่มเหงรังแรเจ้าเลยนะ!’

  หลิงหยุนจ้องมองค่ายกลสิบแปดอรหันต์ของวัดเส้าหลินด้วยแววตาเย้ยหยันก่อนจะเอ่ยออกไปว่า

   หลวงจีนเฒ่าอย่าด่วนกล่าววาจาโอ้อวดเช่นนั้น! ท่านปู่เล่าให้ข้าฟังว่าเจ้าคือหนึ่งในสี่ยอดฝีมือที่เข้าไปล้อมและกลุ้มรุมทำร้ายท่านแม่ของข้าคนเดียว จนนางไม่สามารถไปช่วยเหลือคนอื่นๆในตระกูลหลิงได้ใช่หรือไม่ 

   เจ้ากล่าวเช่นนั้นก็ไม่ถูกนัก!นางคือคนของพรรคมาร ผู้ใดพบเห็นย่อมมีสิทธิ์สังหารได้ทั้งนั้น! 

  หลวงจีนอาวุโสถึงกับหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธพร้อมกับโต้เถียงกลับไปทันที!

  หลิงหยุนได้แต่พยักหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า ดี! ถ้าเช่นนั้นครั้งนี้เหตุใดเจ้าไม่เรียกยอดฝีมือที่เหลืออีกสามเข้ามาจัดการกับข้าพร้อมๆกันเหมือนที่จัดการกับแม่ข้าเล่า หรือเกรงจะถูกกล่าวหาว่ารุมรังแกข้า! 

  จากพลังปราณที่พวยพุ่งออกมาจากร่างนั้นทำให้หลิงหยุนรู้ว่าหลวงจีนผู้นี้น่าจะมีพลังปราณสูงส่งที่สุด และภายในหุบเขาหลงเฟิงเวลานี้ผู้ที่มีพลังปราณในระดับนี้ก็น่าจะมีอยู่เพียงสิบกว่าคนเท่านั้น หากเขาสามารถสังหารยอดฝีมือเหล่านี้ได้ ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของไป๋เซียนเอ๋อและคนอื่นๆได้

   อามิตาพุทธ..ประสกทั้งสอง เพียงแค่วัดเส้าหลินของข้าก็สามารถเอาชนะพวกเจ้าสองคนได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ผู้อื่นช่วย 

  หลวงจีนอาวุโสผู้นี้ร้องตะโกนสั่งทันที ศิษย์วัดเส้าหลินจงฟังข้า จัดการสังหารมารน้อยทั้งสองเพื่อผดุงความสงบสุขให้เกิดแก่ยุทธภพ พวกเจ้ารีบกลืนโอสถและปิดยันต์เพชรไว้ที่ตัว แล้วจัดการสังหารมารร้ายทั้งสองนี่ซะ! 

  หลวงจีนทั้งสิบแปดรูปของวัดเส้าหลินต่างก็กลืนโอสถและจัดการปิดยันต์ไว้ที่ร่างกายของตนเองทันที!

  เพียงแค่พริบตาเดียวพลังปราณในร่างของหลวงจีนทั้งสิบแปดรูปก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม และเวลานี้ทั้งหมดก็เข้าสู่ระดับห้าขั้นพลังเหนือธรรมชาติ อีกทั้งยังมียันต์เพชรเสมือนเกราะแข็งแกร่งคอยปกป้องร่างกายไว้ด้วย เวลานี้ร่างกายที่เป็นสีทองแดงได้เปล่งประกายสว่างเจิดจ้าคล้ายกับสีทองคำบริสุทธิ์ขึ้นทันที

   ซิงเฉินเจ้ารับมือกับสิบแปดอรหันต์เส้าหลินนี้ไปก่อน รอให้ข้าสังหารหลวงจีนเฒ่านี้เสียก่อน แล้วจะมาช่วยเจ้าจัดการกับหลวงจีนสิบแปดรูปนี้ต่อ! 

  หลิงหยุนหยิบสร้อยประคำพร้อมกับเรียกน้ำเต้าที่บรรจุน้ำลายมังกร และสมบัติพุทธองค์ชิ้นอื่นๆออกมาจากแหวนของตัวเอง และนำไปส่งให้จินเหยียวถือไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้สมบัติพุทธองค์เหล่านี้ลอยออกมาขัดขวางไม่ให้เขาสังหารหลวงจีนวัดเส้าหลินได้อีก

  และที่หลิงหยุนยังไม่ให้ไป๋เซียนเอ๋อมาในตอนนี้ก็เพราะเมื่อครั้งที่อยู่ใต้หลุมยักษ์นั้น สมบัติพุทธองค์เหล่านี้ล้วนมีผลต่อนาง และหากนางเกิดหวาดกลัวต่อหน้าเหล่าสาวกพุทธองค์นี้ จะเกิดสิ่งใดขึ้นบ้างเล่า

   เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าเจ้าจัดการกับหลวงจีนเฒ่านั่นได้ตามสบาย..  เย่ซิงเฉินร้องบอกหลิงหยุนด้วยสีหน้าท่าทางสบายๆ ไม่มีหนักอกหนักใจเลยแม้แต่น้อย

   ลงมือได้! 

  สิ้นเสียงร้องตะโกนหลิงหยุนก็ได้ทำการเผาเสินหวนกว่าหนึ่งร้อยหยด กระบี่โลหิตแดนใต้ในมือมีพลังหยางบริสุทธิ์พวยพุ่งออกมา และมีพลังสายฟ้าสีทองและสีเงินปรากฏอยู่นับไม่ถ้วน!

  นี่คือกระบี่เพลิงสายฟ้า!

  ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อครั้งที่ประมือกับตระกูลซันและตระกูลเฉินในการประลองครั้งก่อน หลิงหยุนก็สามารถสื่อสารสารกับดวงจิตในกระบี่โลหิตแดนใต้นี้ได้แล้ว และเวลานี้เขาก็ได้ยินเสียงร้องคำรามของมังกรแดนใต้ที่อยู่ภายใน คล้ายกำลังจะบอกกับหลิงหยุนว่ามันพร้อมที่จะดื่มเลือดแล้ว!

   ตาย! 

  หลิงหยุนกระโดดพุ่งเข้าหาหลวงจีนอาวุโสพร้อมกับร่ายรำเพลงกระบี่นวสังหารเข้าใส่ทันที!

   เกราะเพชรไร้พ่าย! 

  หลวงจีนอาวุโสเห็นเพลงกระบี่ที่น่ากลัวของหลิงหยุนจึงไม่กล้าประมาทเขารวบรวมพลังปราณและปรากฏเป็นแสงสีทองสว่างไสวครอบคลุมไปทั่วทั้งร่าง!

  และนี่คือเกราะเพชรไร้พ่ายที่แข็งแกร่งของวัดเส้าหลิน!

   ลงมือได้! 

  สิ้นคำสั่งของหลวงจีนอาวุโสสิบแปดอรหันต์วัดเส้าหลินก็จู่โจมเข้าใส่เย่ซิงเฉินเทันทีเช่นกัน!

  ตูม!

  กระบี่่สีดำในมือของหลิงหยุนฟันเข้าใส่แสงสีทองที่ครอบคลุมร่างของหลวงจีนอาวุโสจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นทั่วทั้งบริเวณ พลังชั่วร้ายแห่งมารปะทะเข้ากับพลังแห่งพุทธะจนเกิดเป็นเสียงดังคล้ายระเบิด เศษหินและเศษดินรอบตัวต่างก็ปลิวว่อนไปทั่วทั้งบริเวณจนคนอื่นๆต่างก็ต้องหันหน้าหลบ

  หลังจากที่ปะทะกับหลิงหยุนเช่นนั้นร่างของหลวงจีนอาวุโสก็ถึงกับถอยร่นออกไปถึงสามก้าว..

   อามิตาพุทธ.. 

  ทางด้านหลิงหยุนเองก็ถึงกับชาไปทั่วทั้งร่างเช่นกันหลังจากที่ปะทะเข้ากับเกราะไร้พ่ายของหลวงจีนผู้นั้น..

   เกราะไร้พ่ายของหลวงจีนเฒ่าไม่เลวเลยทีเดียว

 

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท