ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – บทที่ 1808 วุ่นวายไปหมด

บทที่ 1808 วุ่นวายไปหมด

โรงพยาบาลกลางนครเซนต์จอห์นก่อตั้งขึ้นในปี 1911 ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่รัฐบาลกำหนดให้ดูแลทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่แคนาดา ดังนั้นด้านการรักษาอาการบาดเจ็บ โรงพยาบาลแห่งนี้มีอำนาจมาก แอนดรูว์กับโดนัลด์และคนอื่นๆ ก็ได้รับการรักษาอยู่ที่นี่

อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นที่ฟาร์มปลาของแอนดรูว์ แต่ข้างๆ เป็นฟาร์มปลาของโดนัลด์ ทั้งสองแห่งสามัคคีกัน หลังจากทางด้านแอนดรูว์เกิดเรื่องโดนัลด์ก็รีบพาคนมาสนับสนุนทันที และก็โชคดีที่เขารีบพาคนมา ไม่อย่างนั้นครั้งนี้แอนดรูว์จะเสียเปรียบมาก

เฮลิคอปเตอร์ถูกยืมไปหมดแล้ว เฮลิคอปเตอร์ดอลฟินลำใหญ่ก็ให้แอนดรูว์ยืมไป ดังนั้นฉินสือโอวจึงทำได้แค่ขับเรือลาดตระเวนไปที่นครเซนต์จอห์นอย่างเร่งรีบ ซึ่งความเร็วก็ช้ากว่าเฮลิคอปเตอร์เยอะมาก

ขณะที่อยู่บนเรือลาดตระเวน เขาก็เข้าใจแนวทางคร่าวๆ ของการปะทะกันครั้งนี้ และยังได้รูปถ่ายจำนวนหนึ่งกับข้อมูลจากการสอบสวนของตำรวจม้ามาโดยตรงอีก ความสามารถนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเขา พันธมิตรการประมงนิวฟันด์แลนด์สามารถให้ความช่วยเหลืออันมหาศาลแก่เขาได้อย่างแน่นอน

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อตอนตี 5 นิวฟันด์แลนด์ในฤดูหนาวเวลานี้ยังไม่รุ่งสาง แอนดรูว์ขับเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนที่ฟาร์มปลาตามปกติ ผลคือเขาเจอเรือขโมยปลาลำหนึ่งปรากฏขึ้นมาในฟาร์มปลาอย่างหยิ่งผยองทันที

เรือขโมยปลาลำนี้ไม่ได้ปรากฏขึ้นที่แนวเขตของฟาร์มปลา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือมันไม่ได้เพิ่งจะมาถึงฟาร์มปลา แอนดรูว์โกรธมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ และมันชัดเจนมากว่าเรือลำนี้ขโมยปลาของเขาไปไม่น้อย และสำหรับปลาที่ใช้อาหารสัตว์แบรนด์ต้าฉินเลี้ยง การขโมยพวกมันไปก็เท่ากับการขโมยเงินดอลลาร์สหรัฐ

ใช่แล้ว ปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารสัตว์แบรนด์ต้าฉินที่ตลาดถูกจัดอยู่ในระดับไฮเอนด์ และสามารถขายให้ทางสหรัฐอเมริกาเพื่อรับเงินดอลลาร์สหรัฐได้!

ภายใต้ความโกรธ แอนดรูว์โทรแจ้งตำรวจและแจ้งโดนัลด์คู่เกย์ที่แสนดีของเขา หลังจากนั้นเขาก็กลับมาที่ฟาร์มปลาและพาลูกน้องขับเรือสปีดโบ๊ทไปโจมตีเรือขโมยปลาลำนั้น เขาคิดจะมาสกัดคนกลุ่มนี้ด้วยตัวเองและเก็บของที่ถูขโมยกลับไป

ถ้าสามารถจับโจรขโมยปลาได้ สำหรับฟาร์มปลาไม่เพียงแค่ไม่มีการสูญเสียตรงกันข้ามมีแต่กำไร ต้องรู้ก่อนว่าการจับปลาต้องเสียค่าน้ำมันกับกำลังคนและทรัพยากร และการจับเรือขโมยปลา เขาก็จะได้รับปลาที่พวกเขาจับมาได้อย่างง่ายดาย และยังจะได้รับค่าปรับชดเชยอีกด้วย

สาเหตุที่โจรขโมยปลาทนลมหนาว ทนความง่วงตอนกลางคืนและรุ่งสางเพื่อแย่งปลานั้น ไม่ใช่เพื่อหาเงินเหรอ? ดังนั้นจึงต้องแย่งปลาที่อยู่ในกำมือของพวกเขาจากในมือของพวกเขา มันไม่ใช่การปล้นเงินดอลลาร์สหรัฐของพวกเขา แต่เป็นการแย่งชิงชีวิตของพวกเขา!

แอนดรูว์ประมาทเกินไป สิ่งที่เขาเอาไปคือเรือสปีดโบ๊ท 2 ลำ แต่อีกฝ่ายเป็นเรือประมงขนาด 2 พันตันแน่นอน

ดังนั้นถึงแม้ว่าเรือสปีดโบ๊ทจะบล็อกเรือขโมยปลาลำนี้ได้ทันเวลา แต่อีกฝ่ายก็ไม่รู้สึกกลัว และจากไปอย่างหยิ่งผยอง

แอนดรูว์ด่าตำรวจทะเลที่ตอบสนองช้าไปด้วยและสั่งเรือสปีดโบ๊ท 2 ลำให้ไปขวางทางออกของเรือขโมยปลาไปด้วย ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะหนี แต่จะเดินเรืออย่างน่าเกรงขามมาบดขยี้เรือสปีดโบ๊ทของพวกเขาแทน!

ต่อหน้าเรือลำใหญ่ขนาด 2 พันตัน เรือสปีดโบ๊ทก็เป็นเหมือนกับรถของเล่นที่เผชิญหน้ากับรถกระบะ เรือสปีดโบ๊ท 2 ลำถูกชนจนพลิกคว่ำ แอนดรูว์และคนอื่นๆ ไม่เพียงตกลงไปในน้ำทะเลที่หนาวเย็น แต่ระหว่างที่ตกน้ำยังถูกกระแทกอีกด้วย

โดนัลด์รีบมา ตอนที่รีบมาเขาก็สามารถช่วยชีวิตแอนดรูว์และพรรคพวกได้พอดี ขอบคุณพระเจ้าที่อวยพรให้พวกเขาทุกคนเป็นชาวประมงเก่า ความสามารถในการว่ายน้ำดีและยังเชี่ยวชาญการช่วยเหลือทางทะเลอีกด้วย จึงไม่มีพนักงานเสียชีวิต ไม่อย่างนั้นแย่แน่ ทะเลที่นิวฟันด์แลนด์ในฤดูหนาวนั้นหนาวมาก!

แน่นอนว่า วิธีการทำงานของเรือขโมยปลาทำให้แอนดรูว์กับโดนัลด์โกรธ ท่ามกลางเสียงตะโกน ‘ฆ่าพวกมัน’ ที่แหบแห้งของแอนดรูว์ โดนัลด์ก็พาเพื่อนไปยิงเรือขโมยปลา

ทว่าพวกโจรขโมยปลาไม่เพียงแค่ไม่หนี แต่ในทางกลับกันพวกเขาอาศัยขนาดตัวที่ใหญ่กว่าโต้กลับจากที่สูง พวกเขาก็เอาปืนมาเหมือนกัน บนเรือไม่มีปืนฉีดน้ำแรงดันสูง อย่างไรก็ตามเมื่อตำรวจทะเลก็มาถึงในที่สุด โดนัลด์และพรรคพวกก็ได้รับบาดเจ็บแล้วเหมือนกัน…

เมื่อเห็นที่นี่ฉินสือโอวก็รู้สึกโกรธ เขาโยนข้อมูลลงไป และตะโกนว่า “แม่งเอ๊ย รังแกคนอื่นมากเกินไปแล้ว โจรขโมยปลาพวกนี้ยังคิดจะฆ่าคนอีกเหรอ? บ้าเอ๊ย ต้องสั่งสอนบทเรียนให้พวกเขาสักหน่อยแล้ว!”

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาก็ตรงไปที่ห้องผู้ป่วย คนที่อยู่ในห้องผู้ป่วยทั้งหมดคือชาวประมง ชาวประมงที่ได้รับบาดเจ็บครั้งนี้มี 10 กว่าคน ทว่าชาวประมงพวกนี้ไม่ได้นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย แต่รวมตัวกันอยู่ที่ประตูห้องผู้ป่วยและตะโกนโหวกเหวกโวยวาย ตรงประตูห้องผู้ป่วยมีตำรวจทะเลกับตำรวจม้ายืนเรียงแถวอยู่ และมีหมอกับพยาบาลเกลี้ยกล่อมพวกเขาอยู่รอบๆ สถานการณ์ตอนนี้เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง

“นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?” ท่านชายฉินไม่เข้าสถานการณ์ในตอนนี้นิดหน่อย

สภาพของพวกชาวประมงไม่ค่อยดีนัก ทุกคนไม่พันผ้าก๊อซบนหัวก็พันผ้าพันแผลรอบแขนและขา แขนขวาของแอนดรูว์ยังคงถูกแขวนอยู่ที่หน้าอก และพันผ้าพันแผลรอบหน้าผาก เหมือนกับคนอินเดีย

ฉินสือโอวเบียดเข้าไปและตะโกนว่า “ชิท นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”

หมอหลายคนไม่รู้จักเขา และคิดว่าเขาก็มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาเหมือนกัน จึงเกลี้ยกล่อมไม่ยอมหยุด “พวกคุณกรุณาออกไปจากที่นี่ก่อนได้ไหม? นี่คือโรงพยาบาล กรุณาเงียบ! พวกเราไม่อยากขับไล่พวกคุณผ่านวิธีที่รุนแรง กรุณาออกไป…”

ฉินสือโอวมีพละกำลังที่ดุร้าย เขาผลักหมอพวกนั้นออกไปอย่างง่ายดาย และผลักชาวประมงที่คึกคักลงไปอยู่ที่พื้นพร้อมกับตะโกนว่า “บอกฉันทีว่า นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เมื่อเห็นฉากนี้ ไม่ว่าหมอหรือตำรวจก็มองเขาอย่างประหลาดใจ พวกชาวประมงแต่ละคนมีร่างกายที่สูงใหญ่กำยำ และพวกเขายังอยู่ในอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอีก ดังนั้นจึงนับว่าพวกเขาเป็นไทแรนโนซอรัสในร่างมนุษย์ก็ว่าได้ ผลคือฉินสือโอวผลักพวกเขาคว่ำอยู่ที่พื้นได้อย่างง่ายดาย พลังในการต่อสู้ที่แสดงออกมาทำให้คนกลุ่มนี้ตกตะลึง

หลังจากตกตะลึงก็รู้สึกหวาดกลัว ตำรวจกับหมอกังวลว่าพวกชาวประมงจะจัดการฉินสือโอวภายใต้ความโกรธ แต่การติดตามผลกลับเกินความคาดหมายของพวกเขา หลังจากพวกชาวประมงที่กำลังโกรธเห็นฉินสือโอวก็สงบลงทันที แอนดรูว์ที่ดุร้ายที่สุดก่อนหน้านี้ก็เข้าไปกอดฉินสือโอว และร้องไห้เสียใจ “ท่านประธาน ช่วยผมด้วย!”

ฉินสือโอวพูดว่า “สรุปว่ามันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกนายไม่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย วิ่งลงมาทำไม?”

“พวกเรามาล้างแค้น ล้างแค้นให้โดนัลด์! โดนัลด์ น้องชายที่แสนดีของผม ตอนนี้เขายังอยู่บนเตียงผ่าตัด เขาถูกเพชฌฆาตสารเลวพวกนี้ทำร้าย เพชฌฆาตพวกนี้ก็อยู่ในห้องผู้ป่วย!” แอนดรูว์ร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหล โดนัลด์เป็นน้องชายที่แสนดีของเขา และยังได้รับบาดเจ็บเพราะเขาอีก ในใจของเขาคงรู้สึกเจ็บปวดมากอย่างแน่นอน

หมอคนหนึ่งอธิบายอย่างระมัดระวัง “คุณโดนัลด์ออกจากห้องผ่าตัดแล้ว เขาถูกส่งไปสังเกตอาการต่อที่ห้องไอซียู…”

“เชี่ย หนักขนาดนั้นเลย?! ห้องไอซียู?!” ฉินสือโอวช็อก เขาอ่านข้อมูลและรู้แค่ว่าพวกชาวประมงได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่รู้ว่าอาการบาดเจ็บเป็นอย่างไร นึกไม่ถึงว่าจะต้องใช้ห้องไอซียู นี่แปลว่าหนักมาก

ห้องไอซียูคือห้องที่ใช้ดูแลผู้ป่วยขั้นวิกฤติ ซึ่งจากชื่อนี้สามารถตัดสินวัตถุประสงค์ได้

หมอคนนั้นอธิบายอย่างระมัดระวัง “แค่ปลอดภัยไว้ก่อนก็เท่านั้น ไม่ได้มีปัญหาอะไร ชีวิตของเขาปลอดภัยดีไม่เป็นไร แค่ห้องไอซียูสามารถฟื้นตัวได้ดีกว่า ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถจัดหาผู้ดูแลกับการรักษาที่ดีกว่าได้อีกด้วย”

แอนดรูว์ร้องไห้โฮออกมาอีกครั้ง มือข้างหนึ่งที่อยู่ในสภาพดีปาดน้ำตากับน้ำมูกอย่างต่อเนื่อง “โดนัลด์ น้องชายที่แสนดีของฉัน ฉันเองที่เป็นคนทำร้ายนาย ฉันขอสาบานต่อพระเจ้า ฉันจะล้างแค้นให้นายอย่างแน่นอน!”

“ล้างแค้นๆ!” พวกชาวประมงตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันก็มองไปทางฉินสือโอว

ฉินสือโอวรู้สึกปวดหัวอยู่ลึกๆ วุ่นวายไปหมด สถานการณ์นี้แก้ไขไม่ได้ง่ายๆ

……………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

Status: Ongoing

เดือนเมษายน  ณ เมืองไหเต่าซึ่งอากาศยังคงความหนาวเย็นของฤดูใบไม้ผลิอยู่

7 โมงครึ่งแล้วแต่ฉินสือโอวกลับไม่รู้สึกง่วงงุนอีกต่อไป เขากระชับเสื้อคลุมเอนตัวนั่งพิงหัวเตียงพลางทอดสายตาเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่าง

เขามาอยู่ในเมืองนี้ได้ 8 ปีแล้ว เริ่มจากมาเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบก็ยังคงก็อาศัยอยู่ในเมืองนี้ต่อมา

มหาวิทยาลัยจงยางไห่หยางที่ฉินสือโอวเรียนจบมาเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเมืองไหเต่า หลังจากที่เขาเรียนจบ เขาก็ได้เข้าทำงานในแผนกทรัพยากรบุคคลที่บริษัทปิโตรเลียมที่ดีที่สุดของเมืองไหเต่าด้วยความเหลือจากเหมาเหว่ยหลงรุ่นพี่ของเขา

ทำงานในตำแหน่งนี้มาได้ 4 ปี จนเมื่อเดือนที่แล้วแผนกทรัพยากรบุคคลก็มีพนักงานดูแลเอกสารสาวสวยเข้ามาใหม่คนหนึ่ง ผู้จัดการมอบหมายให้ฉินสือโอวเป็นพี่เลี้ยงดูแลเธอ แรกๆ ก็ไม่มีอะไร แต่ความสวยของเธอดันไปโดดเด่นสะดุดตาทายาทเศรษฐีคนหนึ่งในบริษัทเข้า

เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ง่ายๆ เข้าอีหรอบเดิม ทายาทเศรษฐีคนนั้นเห็นเธอกับฉินสือโอวสนิทกันก็เลยเกิดความหึงหวง เขาเรียกฉินฉือโอวไปเตือนหลายครั้ง แต่ฉินสือโอวไม่สนใจ จนกระทั่งทั้งสองมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือในท้ายที่สุด

เดิมทีมันเป็นเพียงปัญหาเรื่องผู้หญิง แต่เมื่อทายาทเศรษฐีถูกฉินสือโอวทำร้าย ปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นจึงยิ่งไปกันใหญ่ หมอนั่นติดต่อไปหาเพื่อนของเขาที่อยู่แผนกการเงินเพื่อให้พวกนั้นสร้างหลักฐานใส่ร้ายว่าฉินสือโอวยักยอกเงินก้อนหนึ่งของบริษัทไป

การยักยอกเงินบริษัทถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่โต ฉินสือโอวไม่เพียงต้องชดใช้เงินคืนให้บริษัท แต่เขายังถูกไล่ออกเพราะเหตุนี้อีกด้วย!

จะว่าไปเรื่องที่ถูกไล่ออกจากบริษัทมันก็ไม่ได้แย่อะไร ที่จริงฉินสือโอวก็คิดจะลาออกอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาตอนนี้แทบจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลย เพราะเงินของเขาถูกนำไปชดใช้ให้บริษัทจนหมดแล้ว

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไปอีกก็คือเดือนนี้เขาต้องจ่ายค่าเช่าห้องสำหรับสามเดือนข้างหน้าอีกด้วย ลำพังเงินที่เขาเหลืออยู่ตอนนี้มีพอแค่ค่าอาหารแต่ละมื้อเท่านั้น และไม่ว่ายังไงเงินก็คงไม่พอจ่ายค่าเช่าห้องแน่ๆ

ขณะที่ฉินสือโอวกำลังเครียดเรื่องค่าเช่าห้องก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น!

ฉินสือโอวเดินไปเปิดประตูก่อนใบหน้าดุดันของลุงเจ้าของห้องจะปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาทันที ลุงเจ้าของห้องมาหาเขาตอนนี้ก็มีอยู่แค่เหตุผลเดียวเท่านั้นคือการมาเก็บค่าเช่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงแม้ว่าเมืองไหเต่าจะตั้งอยู่ทางเหนือ แต่เนื่องจากอยู่ติดทะเลจึงทำให้เมืองไหเต่ากลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่ง ดังนั้นนั้นเศรษฐกิจจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นเมืองรองเลยก็ว่าได้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้บ้านมีราคาสูงมา ส่วนค่าเช่าบ้านก็แพงเช่นกัน

ฉินสือโอวเช่าห้องสตูดิโอขนาดเล็ก 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขกเอาไว้ ค่าเช่าต่อเดือนอยู่ที่หนึ่งพันหยวน แถมยังเก็บค่าเช่าล่วงหน้าทีละ 3 เดือนอีก นั่นจึงหมายความว่าเขาต้องจ่ายสามพันหยวนภายในเดือนนี้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือแค่สามร้อยหยวนเขายังไม่มีเลย!

ช่วยไม่ได้ ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ และขอร้องให้ลุงเจ้าของห้องช่วยเห็นใจเขาหน่อย ลุงเจ้าของห้องดูไม่ค่อยพอใจมากนัก และก่อนจากไปเขาก็พูดออกมาเสียงแข็ง “ฉันให้เวลา 2 วัน เย็นวันมะรืนฉันจะมาเก็บเงินอีกที ถ้ายังไม่จ่ายค่าเช่าห้องนายก็ไสหัวออกไปซะ!”

ช่างเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเหลือเกิน แต่ฉินสือโอวไม่มีแรงจะโมโหอีกแล้ว

ฉินสือโอวในวันนี้ถูกบีบบังคับจนอับจนหนทางมองไปทางไหนก็มืดแปดด้านไปหมด

เมื่อส่งเจ้าของห้องเช่ากลับไปแล้ว ฉินสือโอวก็กลับไปนอนลงบนเตียงด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า ในหัวของเขาคิดเรื่องอนาคตไม่ออกและยังสิ้นหวังกับเรื่องราวในปัจจุบัน

อีกไม่นานเขาก็จะสามสิบแล้ว แต่กลับไม่มีงาน ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ และพอนึกถึงหน้าพ่อแม่ใจของเขาก็ยิ่งห่อเหี่ยวเข้าไปใหญ่

ในตอนนั้นเองจู่ๆ ประตูห้องของเขาถูกเคาะอีกครั้ง และเสียงดังบาดหูของเจ้าของห้องเช่าก็ดังขึ้นมา

“เสี่ยวฉิน เปิดประตู เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

พอได้ยินเสียงเจ้าของห้องเช่าความรู้สึกห่อเหี่ยวและสิ้นหวังในใจของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ ตาลุงเจ้าของห้องชักจะมากเกินไปแล้วนะ ไหนบอกว่าให้เวลาเขาสองวัน พอถึงเวลาแล้วจะมาเก็บเงินไง แล้วทำไมถึงกลับมาทวงเร็วขนาดนี้?

ฉินสือโอวข่มกลั้นความโกรธแล้วเปิดประตูออกไป แต่เขากลับพบว่าข้างกายของเจ้าของห้องเช่ามีตำรวจในเครื่องแบบที่สวมหมวกปีกกว้างอีกคนอยู่ด้วย

เมื่อตำรวจเห็นฉินสือโอว เขาก็เอ่ยปากถามขึ้นมา “คุณคือคุณฉินใช่ไหมครับ?”

ฉินสือโอวพยักหน้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้นเชิญไปกับผมด้วยครับ มีคนอยากพบคุณ”

พอได้ยินตำรวจพูดอย่างนั้น ยังไม่ทันที่ฉินสือโอวจะพูดอะไร เจ้าของห้องเช่าก็รีบพูดขึ้นมาทันที “คุณเจ้าหน้าที่ครับ ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเสี่ยวฉินนะครับ ถ้าเขาไปก่อคดีอะไรมา มันไม่เกี่ยวกับห้องของผมนะครับ”

ฉินสือโอวจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาคิดว่าคดีก่อนหน้านี้อาจจะมีปัญหาอะไรขึ้นมาเขาจึงได้แต่เดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มไปยังสถานีตำรวจด้วยสภาพไร้วิญญาณ

พอถึงสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็พาเขาตรงไปยังห้องของผู้อำนวยการทันที

เมื่อเข้าไปในห้องเขาก็กวาดตามองไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นตำรวจพุงพลุ้ยวัยกลางกำลังชงชาให้ชายในชุดสูทสองคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา

สิ่งที่ทำให้ฉินสือโอวจับต้นชนปลายไม่ถูกก็คือหนึ่งในสองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเป็นชายสวมสูทรูปร่างสูงใหญ่ ผมสีบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าและผิวขาวซีดราวกับแวมไพร์ อายุของเขาน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าสิบหกสิบเห็นจะได้ เพราะเคราของเขากลายเป็นสีขาวราวกับหิมะไปแล้ว แต่ร่างกายที่กำยำนั้นช่างดูทรงพลังและน่าเกรงขามเหลือเกิน

เจ้าหน้าที่ตำรวจวัยกลางคนคนนั้นคือผู้อำนวยการสถานีตำรวจอย่างไม่ต้องสงสัย ว่าแล้วเขาก็ยื่นมือมาทางฉินสือโอวแล้วพูดขึ้น “คุณคือคุณฉินสือโอวสินะครับ? สวัสดีครับ ผมหลัวหย่งจื้อผู้อำนวยการสถานีตำรวจท้องที่ถนนซวงเหอเขตหลัวซานครับ”

ช่วงก่อนหน้านี้ฉินสือโอวถูกพวกตำรวจทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ไม่สู้ตาย เมื่อเห็นหลัวหย่งจื้อยื่นมือมาจึงรีบเข้าไปจับ ก้มหัวโค้งแนะนำตัวเองทันที

หลังจากหลัวหย่งจื้อปล่อยมือฉินสือโอวแล้ว ชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้นั่งอยู่ตรงโซฟาก็ลุกขึ้นมาจับมือเขาแล้วพูดขึ้น “สวัสดีครับคุณฉิน ผมหลี่ซิ่นจากศาลประชาชนกลางแห่งเมืองไหเต่าครับ ส่วนท่านนี้คือคุณเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความที่มีชื่อเสียงจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ ประเทศแคนาดาครับ”

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้แนะนำตัวกันแล้ว แวมไพร์เฒ่าที่วางตัวสูงสง่าน่าเกรงขามมาตลอดก็ถามออกมาเป็นภาษาอังกฤษ “สวัสดีครับคุณฉินสือโอว คุณรู้จักฉินหงเต๋อไหมครับ”

ขณะหลี่ซิ่นกำลังจะแปล ฉินสือโอวก็ตอบออกมาด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

“ฉินหงเต๋อหรอครับ? เขาคือปู่รองของผม อืม..ก็คือพี่ชายคนที่สองของปู่ผม”

เออร์บักพยักหน้าแล้วถามอีก “ถ้าอย่างนั้นคุณคงจะมีหัวใจโพไซดอนใช่ไหมครับ มันเป็นจี้สีน้ำเงินเล็กๆ ที่สวยมากๆ อันหนึ่ง ช่วยเอาออกมาให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ?”

ฉินสือโอวขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าฝรั่งคนนี้พูดถึงอะไร แต่กระนั้นเขาก็เลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนสุดออกแล้วดึงสร้อยเส้นสีแดงที่มีจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินออกมา

เออร์บักยื่นมือไปรับหัวใจโพไซดอน แล้วหันไปพูดกับหลัวหย่งจื้อ “ผมขอแก้วกระดาษใบหนึ่งหน่อยได้ไหมครับ?”

หลัวหย่งจื้อยกหูโทรศัพท์ อึดใจต่อมาแก้วคริสทัลราคาแพงก็ถูกยื่นมาให้เขาอย่างรวดเร็ว

เออร์บักเติมน้ำลงไปในแก้วแล้วนำหัวใจโพไซดอนหย่อนลงไปในน้ำ ทันใดนั้นน้ำในแก้วก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเช่นเดียวกับหัวใจโพไซดอน และเมื่อเออร์บักขยับข้อมือ น้ำในแก้วก็กระเพื่อมส่งกลิ่นน้ำทะเลออกมา

ทุกคนในที่นั้นตกตะลึงจนพูดไม่ออก ฉินสือโอวก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจี้เล็กๆ ที่ตัวเองห้อยมาตลอดมีพลังวิเศษแบบนี้

เมื่อเสร็จแล้วเออร์บักก็พูดออกมาอย่างจริงจังว่า “คุณฉินสือโอว สวัสดีครับ ผมเออร์บัก ชาร์คแมน ทนายความมือหนึ่งจากสำนักงานกฎหมายฟาสเกนส์ คุณฉินหงเต๋อมอบหมายให้ผมนำพินัยกรรมมาส่งมอบให้กับคุณ เดี๋ยวผมจะอ่านให้ฟังนะครับ…”

เออร์บักเปิดพินัยกรรมแล้วพูดออกมา

“นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป คุณฉินสือโอว หลานคนโตของคุณฉินหงเต๋อ จะเป็นผู้สืบทอดฟาร์มปลาต้าฉิน ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ นครเซนต์จอห์น ประเทศแคนาดา! ซึ่งมีมูลค่าการตลาดตามการประเมินโดยธนาคารแคนาดาอยู่ที่ประมาณ 42 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือก็คือ 233,100,000 หยวนครับ! “

หัวใจของฉินสือโอวเต้นดัง ‘ตุบ ตุบ ตุบ’ ราวกับจะหลุดออกมา ไม่ง่ายเลยที่เขาจะทำใจให้สงบลงได้ จากนั้นเขาก็ถามออกไปด้วยเสียงสั่นๆ “นี่คุณเออร์บักไม่ได้กำลังล้อผมเล่นใช่ไหมครับ? คุณปู่รองของผมทิ้งทรัพย์สินมูลค่า 230 ล้านหยวนให้ผมอย่างนั้นเหรอ?”

เออร์บักพยักหน้าเพื่อยืนยัน ต่อมาเขาก็แนะนำอะไรอีกนิดหน่อย ประมาณว่าตอนนี้เขาเป็นทนายส่วนตัวของฉินสือโอวแล้ว และต้องการให้ฉินสือโอวเดินทางไปแคนาดาโดยเร็วที่สุดเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการส่งมอบอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ให้เสร็จสิ้น

ฉินสือโอวลงนามในเอกสารยินยอมรับมรดกภายใต้การรับรองของหลัวหย่งจื้อและหลี่ซิ่น จากนั้นเขาก็พาหลี่ซิ่นกับเออร์บักเดินทางไปยังห้องเช่าของตัวเอง

พอไปถึงอพาร์ตเมนต์เขาก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นกองข้าวของที่วางอยู่หน้าห้อง เมื่อมองดูดีๆ เขาก็พบว่าทั้งหมดเป็นของของเขาจำพวกผ้าห่ม ที่นอน หนังสือและคอมพิวเตอร์

เมื่อเจ้าของห้องเช่าเดินออกมาเห็นฉินสือโอว เขาก็ล็อกประตูดัง ‘กริ๊ก’ แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา

“กลับมาแล้วเหรอ? ดีเลย ฉันจะได้พูดให้นายเข้าใจ นายไปทำอะไรไม่ดีมาใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นตำรวจจะมาหานายถึงที่ทำไม”

พอฉินสือโอวทำท่าจะตอบกลับ เขาก็แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดต่อ “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เก็บของของนายแล้วไสหัวออกไปซะ ฉันปล่อยห้องเช่าให้คนไม่ได้เรื่องอย่างนายไม่ได้หรอก”

ทันใดนั้นฉินสือโอวก็ได้สติขึ้นมาทันที

……………………………………….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท