Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1360 : รีดไถเย่เทียนสุ่ย

บทที่ 1360 : รีดไถเย่เทียนสุ่ย

  คุณสมบัติหลักของแก้วจ้าวสมุทรนั้นก็คือการเปิดทางน้ำแต่ก็ยังมีคุณสมบัติอื่นๆอีกหลายอย่างเช่น..

  คุณสมบัติแรกคือ..หลังจากที่แก้วจ้าวสมุทรทำหน้าที่เปิดทางน้ำจนเป็นพื้นที่โล่งแล้ว ไม่ใช่เพียงมวลน้ำเท่านั้นที่แยกออกไป แต่พื้นที่โล่งนั้นก็จะมีอากาศเข้ามาทดแทน ทำให้ผู้ที่อยู่ในนั้นสามารถหายใจได้

  ไม่เช่นนั้นแล้วภายในน้ำลึกที่มีแรงดันสูง ต่อให้ไม่มีผืนน้ำล้อมรอบ ก็คงต้องขาดอากาศหายใจตายเช่นกัน เช่นนี้แล้วยังจะเรียกว่าของวิเศษได้อย่างไรกันเล่า

  คุณสมบัติข้อที่สองผู้ที่ถือแก้วจ้าวสมุทรนั้น จะสามารถขยายพื้นที่ปลอดน้ำได้ตามขั้นพลังของตนเอง และสามารถว่ายไปมาในพื้นที่โล่งนั้นได้อย่างอิสระ ราวกับกำลังบินไปมาบนอากาศเช่นเดียวกับนก..

  คุณสมบัติข้อสุดท้ายด้วยอานุภาพของแก้วจ้าวสมุทรนี้ ไม่ว่าจะเป็นปลาหรือสัตว์น้ำอื่นๆ ย่อมไม่กล้าเข้ามาในพื้นที่ปลอดน้ำนี้โดยเด็ดขาด เพราะหากมันเข้ามายังพื้นที่ปลอดน้ำ ย่อมต้องตายไม่ต่างจากการขึ้นไปบนบกนั่นเอง

  นี่เป็นเพียงคุณสมบัติที่เด่นชัดเท่านั้นยังมีคุณสมบัติเล็กๆน้อยๆอีกมากมายอย่างเช่น ผู้ที่ถือแก้วจ้าวสมุทรจะสามารถทำการเปลี่ยนทิศทางการไหลของน้ำได้ เปลี่ยนศักยภาพของน้ำในบริเวณนั้น แต่มีข้อแม้ว่าผู้ที่ถือแก้วจ้าวสมุทรจะต้องเป็นผู้ที่บ่มเพาะพลังเท่านั้น คนธรรมดาสามัญไม่อาจทำเช่นนี้ได้

   ว้าว..เยี่ยมมากจริงๆ! 

  หลิงหยุนกำแก้วจ้าวสมุทรไว้ในมือพร้อมกับร้องอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจจากนี้ไปไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำ ทะเลสาบ หรือแม้แต่วังน้ำวนภายในมหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่ เขาก็ไม่หวาดหวั่นที่จะลงไป!

  ในขณะที่หลิงหยุนกำลังดีอกดีใจและมีความสุขอย่างมากแต่มังกรแดนใต้ที่อยู่ข้างๆกลับกำลังจ้องมองหลิงหยุนกวาดสมบัติภายในวังมังกรไปหมดด้วยแววตาเศร้าสร้อย เพราะหลิงหยุนไม่เหลือสิ่งใดไว้ให้มันเลยแม้แต่รังมังกร!

   นี่เจ้าตัวใหญ่..เจ้าอย่าทำหน้าเศร้าสร้อยเช่นนั้น เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เจ้าควรอยู่แล้ว เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด 

  หลิงหยุนเอ่ยออกมาเพราะสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของมังกรแดนใต้ได้ดีเขาเดินเข้าไปใกล้ตัวมันพร้อมกับกระโดดขึ้นไปยืนบนศรีษะของมันอีกครั้ง

   เพราะเหตุใดหรือเจ้านาย มังกรแดนใต้เอ่ยถามด้วยความสงสัย

   ก็เพราะคนตระกูลหลงน่ะสิ!ในเมื่อคนพวกนั้นรู้แล้วว่าใต้บ่อมังกรแห่งนี้มีมังกรอาศัยอยู่ ข้าเชื่อว่าหลังจากวันนี้ไป คนตระกูลหลงจะต้องพากันมาสำรวจหาถ้ำมังกรเป็นแน่ และหากพวกมันพบเจอเจ้าอยู่ที่นี่ ย่อมต้องหาทางจับเจ้ากลับไปด้วยอย่างแน่นอน! 

   เพื่อความปลอดภัยของเจ้ากับสีนิลพวกเจ้าทั้งสองจึงไม่ควรซ่อนตัวอยู่ที่ทะเลสาบผอหยางอีก ข้าจะหาที่ซ่อนตัวใหม่ให้กับพวกเจ้าทั้งสองแทน! 

  มังกรแดนใต้เข้าใจความปรารถนาดีของหลิงหยุนทันทีและศรีษะใหญ่โตของมันก็ผงกขึ้นผงกลงในขณะที่เอ่ยออกมาว่า

   ข้าเข้าใจแล้วเจ้านาย.. 

   ดีมาก!ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็ไปกันได้แล้ว 

  จากนั้นหลิงหยุนกับมังกรแดนใต้ก็ว่ายออกจากวังมังกรแล้วว่ายกลับไปยังบ่อมังกรทันที!

  และเพียงไม่นานมังกรหนึ่งตัวกับคนอีกหนึ่งคนก็ว่ายออกมาจากบ่อมังกร มาที่ก้นทะเลสาบผอหยาง แต่ครั้งนี้ทั้งคู่ขึ้นมาอย่างสงบไร้คลื่น

  ก่อนจากกันหลิงหยุนได้สั่งมังกรแดนใต้ว่า  เจ้าไปหาสีนิลให้พบ จากนั้นจงพากันหาวิธีข้ามเขตสามเหลี่ยมปีศาจนั่นไปให้ได้แล้วไปรอคอยข้าอยู่ที่จุดตัดระหว่างทะเลสาบผอหยางและแม่น้ำแยงซีเกียง.. 

   ขอรับเจ้านาย..ข้ามีหนทางที่จะข้ามผืนน้ำมรณะนั้นไปได้แน่! 

  หลิงหยุนยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจและได้แต่คิดว่า ถึงอย่างไรพวกมันก็เป็นมังกร ยากนักที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญกับปีศาจใต้น้ำได้ เขายกมือขึ้นลูบไล้ลำตัวของมังกรแดนใต้ด้วยความอ่อนโยน พร้อมกับสั่งว่า

   เจ้าไปได้แล้ว.. 

  หลังจากนั้นหลิงหยนุก็ได้ว่ายน้ำกลับขึ้นฝั่งไป..

  …..

  เวลานั้นท้องฟ้าเริ่มสว่างไสวแล้ว เย่เทียนสุ่ยเองก็เกรงว่าชาวบ้านทั่วไปจะมาพบเห็นตนเหาะอยู่ จึงรีบเก็บกระบี่เหิน และไปซ่อนตัวอยู่ระหว่างหอมังกรคู่ที่อยู่ภายในเขาหยกมังกรแทน

  นอกเหนือจากเย่เทียนสุ่ยแล้วก็ยังมีเย่ซิงเฉินอีกหนึ่งคน หลังจากที่นางออกไปจัดการตามคำสั่งของหลิงหยุนแล้ว นางก็ได้ย้อนกลับมาที่นี่ด้วยความเป็นห่วงเขา

  ระหว่างที่หลิงหยุนว่ายลงไปในน้ำนั้นภายใต้รัศมีจิตหยั่งรู้ของเขา ก็ได้พบเห็นทั้งสองคนที่ซ่อนตัวอยู่ในบริเวณนี้ และเมื่อขึ้นจากน้ำมา จึงรีบกระโดดเข้าไปยังที่ซ่อนของทั้งสองคนทันที

   น้องสะใภ้..ข้าบอกเจ้าแล้วยังไงเล่าว่าไม่ต้องเป็นห่วงหลิงหยุน มังกรนั่นก็ยอมจำนนต่อเขาแล้ว เขาลงไปบ่อมังกรเพื่อหาสมบัติ ย่อมไม่มีอันตรายใดๆแน่ แต่ถ้าเขาขึ้นมาจากบ่อมังกรเมื่อใด เจ้าต้องช่วยข้าเค้นเอาคำตอบจากเขาให้ได้ว่า เขาพบสมบัติล้ำค่าอันใดบ้าง ไม่เช่นนั้น.. เท่ากับข้ายืนรอคอยเสียเวลาเปล่า.. 

  เย่เทียนสุ่ยพล่ามพูดกับเย่ซิงเฉินจนนางเริ่มรู้สึกหงุดหงิดและแทบอยากจะใช้กระบี่คู่มารสะบั้นเทวะตัดหัวของเขาให้รู้แล้วรู้รอด แต่ในระหว่างนั้นหลิงหยุนก็ปรากฏตัวขึ้นมาพอดี..

   นี่..ข้าบอกเจ้าก็ได้! ด้านล่างไม่มีสมบัติอะไรเลย ข้าพบเพียงแค่มังกรตัวใหญ่หลายตัวอยู่ใต้บ่อมังกร เจ้าอยากได้สักตัวหรือไม่เล่า 

  แน่นอนว่าหลิงหยุนไม่มีทางยอมบอกกับเย่เทียนสุ่ยแน่ว่าตนได้สมบัติล้ำค่าสิ่งใดกลับมาบ้าง

   มัง..มังกรรึ! 

  เย่เทียนสุ่ยได้แต่ตกตะลึงเขาเกาศรีษะพร้อมกับตอบหลิงหยุนไปว่า  ข้าจับมังกรไม่เก่ง! 

   เจ้าขี้ขลาดเช่นนี้คงต้องไปฝึกจับปี่เซียะให้ได้เสียก่อน! 

  หลังจากที่ได้เย้าแหย่เย่เทียนสุ่ยแล้วเขาก็หันไปยิ้มให้กับเย่ซิงเฉินพร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

   ซิงเฉิน..เจ้ากลับมาที่นี่อีกทำไมกัน 

   ข้าก็ต้องการมาดูแต่ดันพบกับ..  เย่ซิงเฉินตอบหลิงหยุนพร้อมกับชำเลืองมองไปทางเย่เทียนสุ่ย

   เอาล่ะพวกเรากลับกันได้แล้ว! 

  หลิงหยุนเอ่ยขึ้นพร้อมกับดึงมือของเย่ซิงเฉินเพื่อที่จะเดินจากไป..

   นี่..นี่.. 

  เย่เทียนสุ่ยร้องตะโกนเสียงดังขึ้นมาทันที พวกเจ้าจะกลับไปง่ายๆแบบนี้เลยรึ 

  หลิงหยุนร้องหันไปมองพร้อมตอบกลับไปว่า งานชุมนุมชาวยุทธก็สิ้นสุดแล้ว คนตระกูลหลงข้าก็เอาชนะได้แล้ว ข้ายังจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกทำไมกันเล่า ข้ายังไม่นึกอยากยืนชมวิวทิวทัศน์ในเวลานี้.. 

   แล้วมังกรสีแดงตัวใหญ่นั่นเล่า เย่เทียนสุ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้

  แต่หลิงหยุนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ข้าไม่รู้ ข้าเองก็ไม่พบมันเช่นกัน! 

   นี่..แล้วเจ้าลงไปในบ่อมังกร ไม่พบสมบัติล้ำค่าใดๆเลยจริงๆงั้นรึ    เย่เทียนสุ่ยยังคงสงสัยและไม่เชื่อคำพูดของหลิงหยุนในขณะที่ถามดวงตาของเขาก็จับจ้องอยู่ที่แหวนจักรวาลในนิ้วมือของเขา

   ข้าก็บอกเจ้าไปแล้วยังไงเล่าว่าไม่พบข้าพบแต่มังกรหลายตัวอยู่ด้านล่าง หากเจ้าไม่เชื่อ ก็เชิญเจ้าลงไปสำรวจดูด้วยตัวเอง! 

  แต่เย่เทียนสุ่ยกลับส่ายหน้าไปมาในขณะเดียวกันก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน  หลิงหยุน เจ้าน่าจะให้อะกับข้าเป็นการตอบแทนบ้าง ไม่ใช่จากไปง่ายๆเช่นนี้! 

  ในที่สุดเย่เทียนสุ่ยก็ได้แต่อ้อนวอนหลิงหยุน เพราะหากกลับไปมือเปล่าเช่นนี้ เขาคงต้องถูกเย่เทียนตูล้อเลียนแย่แน่!

  หลิงหยุนได้แต่นึกขันในที่สุดก็ถามขึ้นว่า  เจ้าต้องการสิ่งใด 

   ข้าอยากได้แหวนพื้นที่! 

   ไม่มี! 

   ถ้าเช่นนั้นก็โอสถเยาว์วัยกับโอสถโฉมสะคราญก็ได้!     ไม่มีอีกเช่นกัน! 

  เย่เทียนสุ่ยทำตาปะหลับปะเหลือกพร้อมกับโต้เถียงไปว่า หลิงหยุน ก่อนหน้านี้เจ้าเพิ่งบอกข้าว่ามีนี่นา! ข้ารับปากเจ้าจะไม่กินเอง แต่จะเก็บไว้ให้พี่สาวของเจ้า! 

  หลิงหยุนได้ฟังถึงกับทำหน้าบึ้งตึงพร้อมตอบกลับไปทันที เจ้าคิดว่าพี่หลิงซิ่วของข้าขาดแคลนโอสถพวกนี้รึ 

  เย่เทียนสุ่ยทำหน้าเศร้าหลิงหยุนได้แต่คิดในใจว่า หากไม่ให้สิ่งใดกับคนผู้นี้สักอย่าง เขาคงไม่สามารถสลัดเย่เทียนสุ่ยออกไปได้แน่ และเย่เทียนสุ่ยคงต้องตามเขาเป็นเห็บติดตัวไม่ยอมปล่อย..

  หลิงหยุนคิดได้เช่นนั้นจึงได้แต่เอ่ยถามเย่เทียนสุ่ยออกไปว่า เวลานี้เจ้ามีแต้มคะแนนของหน่วยนภาถึงหนึ่งล้านหรือไม่เล่า หรือเป็นเงินก็ได้.. หากเจ้าโอนให้ข้า ข้ารับปากจะสร้างแหวนพื้นที่ให้เจ้าหนึ่งวง และจะทำให้มีพื้นที่ใหญ่กว่าแหวนของเย่เทียนตูด้วย.. 

  เย่เทียนสุ่ยร้องตะโกนถามขึ้นด้วยความโมโห หลิงหยุน นี่เจ้าจะขูดรีดข้าหรือยังไงกัน 

  หลิงหยุนพยักหน้าไม่ปฏิเสธเขายกมือขึ้นตบไหล่เย่เทียนสุ่ยพร้อมกับพูดขึ้นว่า  นี่พ่อมังกรอ้วนหน้าหยก เจ้าอย่าลืมว่าแหวนพื้นที่ที่ข้ามีมูลค่าสูงถึงสามล้านแต้ม ข้าให้เจ้าจ่ายแค่หนึ่งล้านนับว่าไม่ต่างจากให้ฟรีแล้ว..  

  ความจริงแล้วเมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นว่าเย่เทียนสุ่ยดีกับเขามากพอ ไม่ช้าหรือเร็วเขาก็ต้องมอบแหวนพื้นที่ให้กับเย่เทียนสุ่ยอยู่แล้ว เพียงแต่เมื่อมีโอกาสรีดไถเย่เทียนสุ่ยเล็กๆน้อยๆ เขาก็ไม่ต้องการพลาดโอกาสเช่นกัน อีกอย่างตระกูลเย่ก็ร่ำรวยและมีเงินทองมากมาย..

  เย่เทียนสุ่ยแทบอยากจะร้องไห้และได้แต่คิดว่าเหตุใดเย่เทียนตูได้แหวนพื้นที่โดยไม่ต้องสูญเสียอะไรเลย แต่เหตุใดตนเองจึงต้องใช้แต้มของหน่วยนภาถึงหนึ่งล้านแต้มแลกด้วย..

   เจ้าจะตกลงหรือไม่หากไม่ตกลง ข้าก็จะไปแล้ว.. 

   ตกลง! 

  เมื่อเห็นว่าหลิงหยุนจะไปจริงๆเย่เทียนสุ่ยก็กัดฟันตอบกลับไปทันที พร้อมกับจ้องมองหลิงหยุนด้วยสายตาขุ่นเคือง และถามขึ้นว่า  แล้วเจ้าจะมอบแหวนให้ข้าเมื่อใด 

  หลิงหยุนทำท่าครุ่นคิดและตอบกลับไปว่า ราวสามอาทิตย์.. ตกลงหรือไม่ 

   ตกลง! 

  แม้จะรู้ว่ากำลังถูกรีดไถแต่เพื่อแหวนพื้นที่ เย่เทียนสุ่ยได้แต่ยินยอม..

   ถ้าเช่นนั้นก็รีบโอนแต้มของเจ้าให้ข้าเร็วเข้า! 

  จากนั้นหลิงหยุนก็ยื่นมือไปตบบ่าของเย่เทียนสุ่ยอีกครั้งพร้อมกับปลอบประโลม  เอาน่า.. เจ้าเองก็ร่ำรวยมีเงินตั้งหลายพันล้าน เจ้าจ่ายข้าแค่นี้ แต่กลับได้แหวนที่มีพื้นที่กว้างใหญ่กว่าของเย่เทียนตูถึงสองเท่า.. หรือเจ้าว่ามันไม่คุ้มค่ารึ    หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเย่เทียนสุ่ยจึงตัดสินใจโอนเป็นเงินให้กับหลิงหยุนแทน..

  และจำนวนเงินที่โอนไปนั้นก็คือสามพันล้านซึ่งเท่ากับครึ่งหนึ่งของเงินเก็บที่เขาหามาได้เลยทีเดียว

  เมื่อได้รับเงินแล้วหลิงหยุนก็หันไปพูดกับเย่เทียนสุ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม  ได้ทำธุรกิจกับเจ้านับว่าคุ้มค่าไม่น้อย.. 

  จากนั้นหลิงหยุนก็ปล่อยโล่ลมปราณออกมาครอบคลุมร่างของตนและร่างของเย่ซิงเฉินไว้ แล้วจับมือของนางกระโดดลงไปในทะเลสาบ และหายไปใต้น้ำทันที

   นี่หลิงหยุน!ตอนนี้ข้าอาจจะยังสู้เจ้าไม่ได้ แต่เมื่อใดที่ข้าได้แต่งงานกับพี่สาวของเจ้า ข้าจะเตะก้นเจ้าสักเจ็ดแปดทีให้หายแค้น! 

  หลังจากที่หลิงหยุนพ้นไปจากรัศมีจิตหยั่งรู้ของตนแล้วเย่เทียนสุ่ยก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโห ก่อนจะกระโดดหายไปจากบริเวณนั้นเช่นกัน

 

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท