“ให้นามบัตรฉันหนึ่งใบ? แกเสแสร้งอะไรอีก? แกรู้ไหมว่ารถคันนี้ของฉันราคาเท่าไหร่? แปดล้านกว่า ไอ้บ้านนอกอย่างแกมีเงินใช้ไหม?” คุณหนีมองร่างหลินอิ่งที่เดินจากไปอย่างดูถูก
“ไอ้บ้านนอกหยุดเดี๋ยวนี้ ชนรถแล้วยังอยากหนี?”
คุณหนีหน้าดำ สายตาโมโห เก็บนามบัตรขึ้นมา จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
นามบัตรของคริส ประธานบริษัทของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
“นี่? นี่คือตัวแทนของบริษัทลาตินกรุ๊ปในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก?” คุณหนีสีหน้าตกใจ
“พวกคุณ ขอโทษด้วย ฉัน ฉันชื่อหนีซิง เป็นดาราของบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจิน หวังว่าท่านจะไม่ถือสา”
หนีซิงรีบวิ่งไปตามหลินอิ่ง เปลี่ยนทัศนคติไปทันที รีบทำหน้าตายิ้มแย้ม อยากขอโทษหลินอิ่งด้วยตัวเอง
ต้องรู้ว่า คืนนี้เธอมาร่วมงานที่จัดขึ้นโดยลาตินกรุ๊ปของเมืองก่าง อยากขยายความสัมพันธ์รู้จักคนเพิ่มขึ้น ทำตัวเป็นสาวประชาสัมพันธ์
ตัวแทนเขตภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของลาตินกรุ๊ป นั่นไม่ใช่ดาราเล็กๆในเมืองก่างอย่างเธอจะมีเรื่องด้วยได้
ปัง
หนีซิงเพิ่งถึงหน้าลิฟต์อยากเบียดเข้าไป เห็นเพียงใบหน้าอันเย็นชาของหลินอิ่ง จากนั้นลิฟต์ก็ขึ้นไป ถูกขวางไว้ข้างนอก
“จบกัน ทำให้คนแบบนี้ขุ่นเคือง” หนีซิงพูดด้วยสีหน้ากังวล “รีบโทรหาประธานหวางด่วน ดูว่าจะเชิญประธานโม่เก๋อติงมาช่วยพูดหน่อยไหม”
…….
อาคารสุ่ยจินชั้นแปดสิบแปด
ภายในห้องจัดเลี้ยงอันกว้างใหญ่นั้น โคมระย้าแบบยุโรปสวยหรู สว่างไสว จัดวางโต๊ะคริสตัลที่ปูไปด้วยผ้าสีแดง บนพื้นก็ปูไปด้วยพรมสีแดง
ภายในงาน ดูหรูหราตระการตา
ผู้คนเข้าๆออกๆ ล้วนดูไม่ธรรมดา ทั้งชายและหญิงที่แต่งกายหรูหรา
งานเลี้ยงประสานสัมพันธ์ในแวดวงธุรกิจ
ประธานโม่เก๋อติงของลาตินกรุ๊ปแห่งเมืองก่างจัดงานเลี้ยงสังคมแวดวงธุรกิจ คนที่มาร่วมงานก็ต้องเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม
คนที่นั่งอยู่ในงาน สามารถกระทบโครงสร้างทั้งหมดของเขตหยู้ติ่งเมืองก่างได้ ทุกสายกิจการในวงการธุรกิจ การเมือง โลกแห่งความมืด ล้วนมีผู้นำสูงสุดมาร่วมงาน
โต๊ะที่โดดเด่นที่สุดในงาน ชายหญิงที่แต่งตัวไม่ธรรมดาแต่ละคนยกแก้วดื่มเหล้า
“ประธานโม่ ผมชนแก้วให้ท่านหนึ่งแก้ว”
“ประธานโม่ มีโอกาสไปนั่งที่สำนักการต่างประเทศ ดื่มชาด้วยกัน”
“มีเวลามีนั่งที่ศุลกากร ประธานโม่”
แต่ละคนที่ฐานะไม่ธรรมดา ต่างก็พากันลุกขึ้นยกแก้ว หน้าตายิ้มแย้ม ยกแก้วดื่มเหล้าให้กับชายต่างชาติผมหยิกสีเหลืองคนหนึ่ง
“เรื่องพวกนี้ไม่มีปัญหา” ชายผมหยิกสีหน้ายิ้มแย้ม นั่งอยู่บนที่นั่งอย่างสง่า ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม
“นั่งกันเถอะ”
ชายผมหยิกพูดอย่างสบายใจ คนที่ลุกขึ้นดื่มเหล้าก็พากันนั่งลง
ชายผมหยิกคนนี้ที่ดูเหมือนเจ้าของงานเลี้ยง ก็คือผู้จัดงานเลี้ยงครั้งนี้ ก็คือประธานลาตินกรุ๊ปแห่งเมืองก่าง โม่เก๋อติง
ลาตินกรุ๊ปเป็นบริษัทข้ามชาติสิบอันดับต้นของโลก เมืองก่างคือเมืองแห่งตลาดหลักทรัพย์สำคัญแห่งหนึ่งของเขตภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลกระทบและอำนาจของลาตินกรุ๊ปแห่งเมืองก่าง ไม่บอกก็รู้
ในแวดวงธุรกิจเมืองก่าง ความสามารถอันแข็งแกร่งของลาตินกรุ๊ปแห่งเมืองก่างสามารถเข้าถึงห้าอันดับต้น
ดังนั้น ทุกคนในงานต่างก็ประจบโม่เก๋อติงอย่างสุดความสามารถ ต่างหวังมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
“ประธานโม่ คุณหนีที่ท่านพูดถึงครั้งก่อน คืนนี้ผมพามาแล้ว ท่านจะพบเธอไหมครับ” เวลานี้ มีบอดี้การ์ดชายชุดสูทร่างอวบคนหนึ่ง หน้าตายิ้มแย้ม
โม่เก๋อติงสายตากะพริบ พูดว่า “หวางเฟิงเที๋ยน พาเธอมาหรือยัง? ดีมาก เรียกเธอมา นั่งข้างฉัน”
ตาของหวางเฟิงเที๋ยนยิ้มจนเป็นเส้นตรง สั่งกับคนข้างหลัง ไม่นาน หนีซิงใส่ชุดกระโปรงดำ หน้าตาเบิกบาน มองโม่เก๋อติงหน้าตายิ้มแย้ม เข้าไปนั่งข้างๆ
“ดีมาก ไม่เลว หวางเฟิงเที๋ยน เรื่องนี้จัดการได้ดีมาก บริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจินของนาย ฉันต้องให้การสนับสนุนเต็มที่” โม่เก๋อติงพยักหน้า จ้องหน้าหนีซิงเลียปากตัวเอง สีหน้าพอใจ
“ขอบคุณประธานโม่สนับสนุน ประธานโม่เลื่อมใส” หวางเฟิงเที๋ยนพูดจายกย่อง
“ใช่แล้ว ประธานโม่ คุณหนีมีเรื่องจะรายงาน” หวางเฟิงเที๋ยนพูดจาสีหน้ายิ้มแย้ม
โม่เก๋อติงยิ้ม โบกมือแล้วพูดว่า “คุณหนี มีเรื่องอะไรพูดกับผมเลย ในเมืองก่าง ไม่มีเรื่องอะไรที่ผมทำไม่ได้”
“คืออย่างนี้ค่ะ ประธานโม่ เมื่อกี้ตอนฉันอยู่ที่ลานจอดรถ มีคนตั้งใจชนรถฉันพัง” หนีซิงท่าทางน่าสงสาร จับมือของโม่เก๋อติงพูดอ้อน
“ออ? จนชนพังแล้ว? ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันซื้อคันที่ดีกว่าให้” โม่เก๋อติงพูดอย่างสง่า แล้วก็ดึงมือของหนีซิงมาจับ
หนีซิงทำตายั่วยวน พูดว่า “อือ ไม่ใช่ปัญหาเรื่องรถพัง ประธานโม่ คนที่ชนรถฉันพัง เป็นคนที่อยู่กับคุณคริสตัวแทนลาตินกรุ๊ปแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พวกเขาน่ากลัวมาก ยังพูดจาข่มขู่ฉัน ฉันกลัวพวกเขาจะหาเรื่องฉัน……”
“ประธานโม่ ช่วยฉันพูดกับคุณคริสหน่อยได้ไหมคะ”
“อะไร? คริส?” โม่เก๋อติงขมวดคิ้ว จากนั้นก็หัวเราะเย็นชา “คุณหนี คุณไม่ต้องกลัวคริส ต่อหน้าผม คริสก็ไม่ได้เป็นตัวอะไร?”
“ยังไปพูดกับเขา? คุณหนี คุณบอกว่าคริสชนรถของคุณ?” โม่เก๋อติงพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ “คุณรอดูละกัน อีกสักครู่ คอยดูว่าผมจะจัดการยังไงกับไอ้คริสนั่น”
“ออ?” หนีซิงสีหน้าตะลึง ท่าทางสงสัย
“ฮาฮา หนีซิง ดูแล้วเธอยังไม่รู้ซินะ?” หวางเฟิงเที๋ยนยิ้มพูด “คริสเป็นแค่ตัวแทนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในนามเท่านั้น ในเมืองก่างเขาไม่ใช่อะไรทั้งนั้น แค่หุ่นเชิดที่ไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งนั้น ที่นี่ฟังประธานโม่เท่านั้น”
“สองวันก่อน ไอ้แก่คริสนั่น ไม่รู้ว่าช่วยไอ้โง่ที่ไหนทำงาน ยังอยากรับซื้อบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์จื่อจินของผม นั่นมันประธานโม่ถูกใจก่อน อยู่กับประธานโม่ ถึงจะถูก”
“ฮาฮา ใช้ได้ หวางเฟิงเที๋ยน คุณเป็นคนฉลาด” โม๋เก๋อติงหัวเราะได้ใจ “ไม่ว่าเบื้องหลังคริสจะเป็นไอ้หน้าโง่ที่ไหน กล้าเป็นคู่แข่งกับฉันที่เมืองก่าง ก็คือรนหาที่ตาย”
ได้ยินแล้ว สายตาหนีซิงเป็นประกาย ประกายแห่งความโกรธ ที่แก้ไอ้บ้านนอกนั้นก็คนจอมปลอม ชนรถตัวเองจนพัง ยังกล้าทำท่าอวดดี?
หนีซินใบหน้ายิ้มแย้ม พูดว่า “ประธานโม่ ท่านต้องช่วยฉันออกหน้านะคะ คนที่ชื่อคริสนั่นเมื่อกี้ทำฉันตกใจหมดเลย โดยเฉพาะเด็กหนุ่มคนประเทศหลุงที่อยู่ข้างกายคริส ท่าทางยโสโอหัง”
“เด็กหนุ่มประเทศหลุง?” โม่เก๋อติงขมวดคิ้ว คิดอะไรได้ “เหอะ คือยอดฝีมือลึกลับที่คริสเชิญมา? บ้าเอ้ย กล้าทำให้ลูกน้องฉันข่าเอ๋อร์ขาหัก คืนนี้รอมันมา ฉันจะทำขามันพิการทั้งสองข้าง”
“ประธานโม่ คนประเทศหลุงที่ฉันพูดถึงอยู่ตรงนั้น ท่านดู คนนั้นใช่คริสไหม พวกเขามาแล้ว” หนีซิงยกมือชี้คนกลุ่มนั้น